รุ่งเช้ามาเยือน ทั้งสองร่างก้าวขาออกจากถ้ำ พวกเขาพยายามเดินลัดเลาะออกมาจากป่าด้วยเสียงของท้องที่ร้องไปตามทาง เหวินหยางซื่อปวดเมื่อยไปทั่วตัวหากแต่ยังดีที่ขงเฉว่นั้นคอยให้เขาขี่หลังอยู่พักหนึ่ง
ทั้งสองหนุ่มน้อยก้าวออกมายังไม่พ้นป่าทว่าพบว่าพื้นดินนั้นถูกถางออกเป็นทาง
ขงเฉว่ลอบดีใจเมื่อคิดได้ว่านี่ย่อมเป็นเส้นทางสัญจรของรถม้า
ชั่วอึดใจราวกับสวรรค์ยังมีเมตตา เสียงฝีเท้าของม้าลากเกวียนวิ่งเข้ามาใกล้
เขาทำใจกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดที่ว่าวิ่งไปขวางรถม้าเอาไว้ โดยมีเสียงตำหนิดังมาจากเด็กน้อยที่ยังมีเสียงไม่แตกหนุ่ม
รถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วชะงักพลันขาม้าทั้งสองยกสูงขึ้นเกือบจะถีบยอดหน้าของแพทย์ฝึกหัดสภาพมอมแมมและอิดโรยผู้นี้เต็มที
ผู้ที่บังคับรถม้ามาทำสีหน้าถมึงทึงใส่เขา เสียงทุ้มของผู้ทรงอำนาจดังออกมาจากด้านในแต่หาได้แหวกม่านออกมาดู
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีแพทย์ฝึกหัดมาขวางม้ารถม้าของเราขอรับท่านพ่อ จะให้ข้าจัดการอย่างไรดี”
เสียงแหบพร่าจากร่างสูงที่จับคุมบังเหียนนั้นกล่าวออกมา เจ้าของใบหน้าคล้ำด้วยแดดทว่ายังคงความสง่าและดุดันเอาไว้ทำให้ขงเฉว่อดคิดไม่ได้ว่าบุรุษตรงหน้าผู้นี้หาใช่คนธรรมดา
เสียงของผู้เป็นบิดาเอ่ย “ตรวจดูตราบัวเสียก่อนว่าใช่แพทย์จริงรึไม่”
ขงเฉว่รีบถลกแขนเสื้อพลางแบออกอย่างทันควัน หันไปมองเหวินหยางซื่อแล้วพยักหน้าให้เด็กน้อยผู้นั้นรีบแสดงสัญลักษณ์ความเป็นแพทย์ต่อหน้าคนผู้นี้