“ฉินหย่าหลิน อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสา” มู่เฉินที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
“นี่เธอไม่ได้ยินที่นายฉันพูดเหรอ?” เสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ หูเธอ ก่อนที่เขาจะจับข้างของเธอเชยขึ้น ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องเห็นหน้าของเธอได้ถนัดตาขึ้น เธอเองก็มองเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงกลางโซฟาได้อย่างถนัดตาเช่นกัน
‘เขาเองเหรอ? สามีของฉันคือเขาเหรอ?’
“นายครับ คิดไม่ถึงเลยนะครับว่าเจ้าสาวของนายจะสวยขนาดนี้ ถึงว่าทำไมผู้ชายหลายคนถึงติดใจเธอ!”
คุณหนูตระกูลฉินสวยสมคำรำ่ลือจริง ๆ องค์ประกอบบนหน้าของเธอดูลงตัวจนแทบจะไม่มีที่ติ คิวบาง ๆ ที่ได้รูปรับกับดวงตากลมโตราวกับไข่มุกสีดำ แต่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หุ่นบางร่างน้อยแบบนี้นี่เองที่ดึงดูดผู้ชายให้เข้าหาเธอไม่ซ้ำหน้า แค่เธอขยิบตาให้เล็กน้อย ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เป็นอันต้องสยบตรงหน้าเธอ
“กลัวเหรอ?” มู่เฉินลุกขึ้นจากโซฟา มายืนตรงหน้าเธอ
‘กลัว? ใช่ฉันกลัว!’
“พูด! อย่าบอกนะว่าเป็นใบ้!” เขาตะคอกใส่เธออย่างโมโห
“ฉัน......ฉัน......” เธอพูดตะกุกตะกัก แต่สุดท้ายเธอก็พูดไม่ออก เพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร โดยเฉพาะเมื่อเธอต้องอยู่ต่อหน้าผู้ชายอย่างเหลิ่งมู่เฉิน
“ฉันได้ยินมาว่าเธอผ่านผู้ชายมานับไม่ถ้วน แล้วทำไมวันนี้ถึงกลัวซะล่ะ?” เหลิ่งมู่เฉินเกลียดผู้หญิงที่แกล้งทำตัวใสซื่อ แต่ที่จริงแล้วหน้าซื่อใจคด โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ ถ้าหากเขาไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคุณหนูตระกูลฉินมาก่อน เขาคงถูกเธอหลอกเสียแล้ว
“นายครับ ผมว่าผู้หญิงอย่างนี้คงต้องโดนสั่งสอนเสียก่อนถึงจะเชื่อง ไม่อย่างนั้นเธอคงสวมเขาให้นายแน่ ๆ ครับ” ชายคนหนึ่งพูดออกมา พลางมองเธออย่างเหยียดหยาม
“ไม่! ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น!” ในที่สุดฉินหย่าหยิงก็พูดออกมา
“เป็นอย่างนั้นได้ก็ดี! ไม่อย่างนั้น ทุกคนในตระกูลฉินได้ตายกันหมดแน่”! เหลิ่งมู่เฉินขู่ออกมาเสียงดัง
“เอาล่ะ แยกย้ายกันได้แล้ว” “อย่ารบกวนเวลาสนุกของเจ้านายเลยวะ” ถึงแม้การแต่งงานนี้จะไม่มีพิธีรีตองอะไร เธอแค่ลงนามลงในกระดาษใบหนึ่งเท่านั้น แต่มันหมายความว่าเธอได้ขายชีวิตของเธอไปแล้ว
เมื่อเห็นสายตาของมู่เฉินมองมาเป็นนัย ๆ ทุกคนในห้องก็ทะยอยเดินออกจากห้องไป ตอนนี้เธอและเขาถูกทิ้งไว้ตามลำพัง แต่ภายในห้องยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้า และควันบุรี่
“ลุกขึ้น!” มู่เฉินเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วยกขาขึ้นนั่งไขว้
หย่าหยิงเจ็บไปทั้งตัวจากการถูกโยนลงพื้นเมื่อสักครู่นี้ ประกอบกับชุดแต่งงานที่หนักอึ้ง และหางกระโปร่งที่ยาวเฟื้อย เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นช้า ๆ อย่างทรมาน สองมือกำชายกระโปร่งยกขึ้น เผยให้เห็นรองเท้าส้นสูงสีขาว
“มานั่งนี่!” มู่เฉินมองไปยังเธอและสงสัยว่า ผู้หญิงที่รักสนุกอย่างเธอ ทำไมตอนนี้ถึงได้อ่อนปวกเปียกอย่างนี้ ?
ทันทีที่เธอนั่งลงบนโซฟา เขาก็ยื่นบุหรี่ใส่ปากให้เธอ “ฉันสูบไม่เป็นค่ะ” เธอพูดขึ้นเบา ๆ
“สูบไม่เป็น?” เท่าที่เขาเคยได้ยินมา คุณหนูตะกูลฉินไม่ใช่แบบนี้หนิ?
แล้วมู่เฉินก็ยื่นแก้วเหล้าให้เธอ “ดื่มซะ!”
“ฉันไม่ดื่มเหล้าค่ะ” เธอปฏิเสธออกมา หย่างหยิงเกรงว่าถ้าเธอดื่มเหล้าแก้วนี้ไป เธอจะต้องหมดสติไปแน่
“ดื่มไม่เป็นงั้นเหรอ?” มู่เฉินไม่ยอมเธออีกต่อไป มู่เฉินบีบแก้มเธอ แล้วเอาเหล้ากรอกเข้าไปในปากของเธอ
“แค่ก ๆ ” เนื่องจากเธอไม่เคยดื่มของมึนเมาพวกนี้มาก่อน จึงทำให้เธอสำลักออกมา
“หย่าหลิน นี่เธอจะมาไม้ไหนฮะ?” มู่เฉินหัวเราะออกมาดัง ๆ แต่การหัวเราะของเขานั้นทำให้หย่าหยิงรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“ตั้งแต่วันนี้ไป เธอจะมาเป็นคุณนายเหลิ่ง เผื่อเธอจะไม่รู้ ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ว่าใครก็จะเป็นได้ง่าย ๆ ” เหลิ่งมู่เฉินต้องการให้เธอรู้สถานะของเธอ
‘ฉันไม่เคยอยากได้ตำแหน่งบ้า ๆ นี่เลย’ เธอได้แต่พูดอยู่ในใจ
คุณนายเหลิ่ง? นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ เธอแค่อยากจะเรียนต่อ และรอคนรักของเธอยี่เฟิงกลับมา แต่ตอนนี้ความฝันของเธอมันกำลังจะสลายไป
“เป็นอะไร?” “ไม่เต็มใจงั้นเหรอ?” มู่เฉินสังเกตเห็นความไม่เต็มใจในแววตาของเธอ “ก็นั่นสินะ คุณหนูตระกูลฉินผู้สูงส่ง อยากจะได้ผู้ชายแบบไหนก็คงไม่ยากจริงไหม?”
หย่าหยิงเม้มปากแน่นไม่ใช่เพราะเธอไม่อยากตอบ แต่ตอนนี้อาการกรดไหลย้อนกำลังเล่นงานเธอ เธอเหลือบไปเห็นแก้วน้ำใส ๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ
เธอรีบหยิบมันขึ้นมา แล้วดื่มเข้าไปจนหมด แต่เธอยังไม่ทันจะกลืนเธอก็ต้องอ้วกออกมา ของเหลวในแก้วนั้นไม่ใช่น้ำเปล่าอย่างที่เธอคิด
“อ๋อ เธอชอบดื่มเหล้าขาวก็ไม่บอก” มู่เฉินมองดูอาการของเธอ ซึ่งเหมือนกับคนที่ดื่มเหล้าไม่เป็นจริง ๆ ดูยังไงก็ไม่เหมือนเสแสร้ง ถ้าหากเธอเสแสร้งจริง ๆ เธอก็เสแสร้งได้เก่งมาก
“ไม่ ไม่ใช่ค่ะ....” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ เธอก็อาเจียนออกมาจนหมด เนื่องจากวันนี้ทั้งวันไม่มีอาหารตกถึงท้องของเธอเลย นอกจากของเหลวที่เธออาเจียนออกมาเท่านั้น
มู่เฉินคว้าตัวเธอขึ้นมา แล้วจับเธอเหวี่ยงลงไปบนเตียง
หน้าผากของเธอฟาดเข้ากับขอบเตียง แล้วมันก็บวมเป่งขึ้นมา เธอรู้สึกเวียนหัวมาก คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันด้วยความเจ็บ
มู่เฉินมองเธออย่างเย็นชา ไม่มีความรู้สึกสงสารใด ๆ ปรากฏขึ้นในแววตาของเขาเลยสักนิด
และเรื่องราวของพวกเขา กำลังจะเริ่มต้นขึ้น!