ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / สลับรักพ่อเลี้ยงร้าย
สลับรักพ่อเลี้ยงร้าย

สลับรักพ่อเลี้ยงร้าย

5.0
55 บท
85.1K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

พิมริสาต้องตอบแทนครอบครัวของคุณหญิงดวงฤดีที่อุปการะเธอมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็กๆโดยการแต่งงานกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงเถื่อนโดยที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนอันที่จริงคนที่จะต้องแต่งงานกับพ่อเลี้ยงตามที่สัญญากู้หนี้ระบุเอาไว้ก็คือคุณหนูพลอยลูกสาวของคุณหญิงดวงฤดีแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมเพราะรังเกียจแค่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเลี้ยงเธอก็คิดว่าเป็นพวกที่อยู่แต่ในป่าในไร่แถมเธอก็ยังได้ข่าวมาว่าเขาพิการอีกด้วย เธอจึงให้คุณหญิงดวงฤดีแม่ของเธอมาบังคับให้พิมริสาไปแต่งงานแทนเธอนั่นเองซึ่งเรื่องนี้คุณหญิงดวงฤดีก็เห็นดีเห็นงามด้วยเช่นกันเพราะเธอเองก็ไม่ได้เต็มใจรับพิมริสามาเลี้ยงตั้งแต่แรกเป็นเพราะสามีเธอต่างหากที่สงสารพิมริสาเลยรับเธอมาเลี้ยง

บทที่ 1 ตอนที่1

18.00 น.

“หม่ำๆ...”

เด็กหญิงวัยหกเดือนกว่าๆที่ตัวขาวจ้ำม่ำนั่งอยู่ในเก้าอี้นั่งทานข้าวของเด็กเมื่อเห็นคนเป็นแม่ถือถ้วยข้าวบดมานั่งอยู่ตรงหน้าก็ใช้ขาที่เป็นปล้องๆของตัวเองดีดดิ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้คนเป็นแม่ได้รู้ว่าหนูหิวแล้วนะคะ

“อ้ำๆ...”

น้องเพลงของคุณแม่ทานเก่งจังเลยนะคะดูสิคอลูกสาวแม่จะไม่มีแล้วนะคะขืนถ้ายังทานเยอะอยู่แบบนี้ลูกสาวแม่ต้องกลายเป็นลูกหมูตัวน้อยแน่นอนเลย

“แอร๊....แอร๊ะ!!!”

“ใจเย็นๆสิคะคนเก่ง”

เมื่อผู้เป็นแม่ป้อนข้าวไม่ทันใจเด็กหญิงที่นั่งอยู่เก้าอี้นั่งก็ส่งเสียงดังเพราะความที่แม่ป้อนไม่ทันใจนั่นเองทำให้คนเป็นแม่ต้องปรามบอกกับหนูน้อยว่าให้ใจเย็นๆก็เล่นป้อนข้าวแล้วกลืนหายอย่างเดียวเป็นใครจะป้อนให้ทันใจได้ล่ะ

“แอ้ะ...”

แปะๆๆๆๆ

เด็กหญิงเพียงฟ้าตอนนี้อารมณ์ดีอย่างมากเพราะได้ทานข้าวอิ่มแล้วแถมผู้เป็นแม่ก็พามาอาบน้ำก่อนที่จะพาไปนอนซึ่งการอาบน้ำเป็นอะไรที่เด็กหญิงชอบมาก

“เปียกแม่หมดแล้วค่ะ...แกล้งแม่ใช่มั้ยคะ”

“แอร๊...”

เมื่อพิมริสาป้อนข้าวลูกสาวของเธอเรียบร้อยแล้วเธอจึงพาลูกสาวของเธออาบน้ำเพื่อที่จะได้ป้อนนมแล้วให้ลูกสาวของเธอนอนเพราะมันก็ใกล้เวลานอนของเด็กหญิงแล้วแต่ดูท่าลูกสาวของเธอจะติดลมในการอาบน้ำเสียแล้วจะเป็นแบบนี้ทุกวันไปเธอก็ไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอจะชอบเล่นน้ำขนาดนี้

19.30 น.

หลังจากที่หญิงสาวอาบน้ำให้ลูกสาวของเธอเสร็จแล้วเธอจึงพาเด็กหญิงมานอนดูดนมจากเต้าของเธอตอนนี้ก็เป็นเวลาได้สักพักแล้วลูกสาวที่กำลังนอนดูดนมจากอกของเธออยู่ก็หลับตาพริ้มไปแล้วด้วยแต่ปากก็ยังคงมีดูดนมอยู่และทั้งสองมือของหนูน้อยก็ยังคอยโอบเต้างามที่เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดไว้อย่างหวงแหน

พิมริสาย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่เป็นเวลาปีกว่าแล้วเธอมาเช่าบ้านแถวๆนอกตัวเมืองของจังหวัดตากเพื่ออยู่กับธรรมชาติตอนที่เธอมาอยู่ที่นี่เธอไม่คิดว่าเธอเองจะกำลังมีเจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องด้วยซ้ำเหตุการณ์ที่มันทำให้เธอต้องย้ายที่อยู่หนีมาอยู่ที่นี่คนเดียวก็เพราะเธอนึกน้อยใจในโชคชะตาและเธอก็ไม่อยากเห็นหน้าคนที่คอยเอาแต่จะทำร้ายและเอาเปรียบเธออีก

ตอนนี้ที่หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่กับลูกของเธอที่นี่เพียงแค่สองคนนับว่าเป็นเรื่องที่เธอมีความสุขมากแล้วเพราะตลอดเวลาที่เธอโตมาเธอเองก็ไม่เคยรู้สึกเป็นอิสระแบบนี้มาก่อนเพราะตั้งแต่ที่เธอเกิดมาบ้านของเธอก็เอาตัวของเธอไปขายให้เป็นลูกบุญธรรมคนอื่นถึงคนที่รับอุปการะเธอจะเป็นคนรวยมีชาติตระกูลก็เถอะแต่ตั้งแต่เธอเด็กๆเธอไม่เคยรับรู้เลยว่าคำว่ากินอิ่มนอนหลับมันเป็นยังไงเพราะคนที่บ้านนั้นเลี้ยงเธอไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้านมีแค่พ่อบุญธรรมของเธอคนเดียวเท่านั้นที่ดีกับเธอแต่เขาก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ดูแลเธอสักเท่าไรแถมเธอยังถูกบังคับให้แต่งงานกับคนป่าเถื่อนอีกต่างหากเรื่องนี้เธอนั้นอยากจะลืมๆมันไปเสียจนสิ้น

เรื่องราวในอดีต

2ปีที่แล้ว

“คุณแม่คะพลอยไม่แต่งนะคะ...ก็ให้นังพิมมันไปแต่งแทนสิคะคุณแม่”

“เอ่อ...ไม่นะคะคุณแม่...พิมไม่แต่งกับคนที่ไม่รู้จักนะคะ”

ตอนนี้ทั้งคุณหญิงดวงฤดีคุณหนูพลอยและพิมริสาต่างก็กำลังนั่งสีหน้าเคร่งเครียดกันอยู่เพราะคุณหญิงดวงฤดีได้รับจดหมายจากอินธรเจ้าหนี้ที่เธอไปกู้ยืมมาเพื่อพยุงให้บริษัทอยู่รอดหลังจากที่สามีของเธอจากไปแล้วว่าต้องรีบหาเงินมาใช้หนี้ให้เร็วที่สุดหรือไม่อย่างนั้นทางเจ้าหนี้ก็มีข้อเสนอมาให้ว่าถ้าหากไม่ใช้หนี้ในเวลาสองเดือนจะต้องส่งลูกสาวมาแต่งงานกับลูกชายของเขาที่อยู่ต่างจังหวัดแต่คุณหนูพลอยลูกสาวแท้ๆคนเดียวของบ้านยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ยอมแถมยังสั่งให้พิมริสาไปแต่งงานแทนอีก

พิมริสาเองคิดว่าเธอคงไม่มีความสุขแน่ถ้าหากไปแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักแถมยังไม่เคยเห็นหน้าอีกต่างหากเธอไม่ได้รังเกียจที่รู้ว่าชายหนุ่มพิการหรืออยู่ในป่าในดงแต่เธอไม่อยากแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักจริงๆ

“แกต้องแต่งฉันไม่ปล่อยให้ลูกสาวฉันต้องไปตกระกำลำบากอยู่ในป่าในดงหรอกนะ”

คุณหญิงดวงฤดีเห็นว่าทางออกของลูกสาวเธอเป็นความคิดที่ดีโดยการส่งลูกเลี้ยงไปแต่งงานแทนเพราะเธอเองก็คงทนดูลูกสาวของเธอที่กำลังจะมีอนาคตที่ดีต้องไปแต่งงานกับพ่อเลี้ยงพิการอยู่แต่ในไร่ในป่าอะไรนั่นไม่ได้หรอก

“ไหนๆฉันก็เลี้ยงเธอจนโตมาป่านนี้แล้วถือซะว่าตอบแทนบุญคุณของฉันก็แล้วกันนะพรุ่งนี้เตรียมตัวเก็บกระเป๋าแล้วเดินทางไปที่ไร่พงษ์พิทักษ์ได้”

คุณหญิงดวงฤดีเห็นทีจึงต้องวางท่าเป็นการทวงบุญคุณกับหญิงสาวทั้งที่เธอก็ไม่ได้อยากจะเลี้ยงหญิงสาวมากนักหรอกและเธอก็เห็นว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้เฉดหัวหญิงสาวออกจากบ้านไปด้วยไหนๆสามีของเธอก็เสียไปแล้วเธอก็คงไม่ต้องให้หญิงสาวอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไปก็ได้

“ค่ะ..คุณแม่”

ในเมื่อแม่บุญธรรมของเธอยกเรื่องบุญคุณมาพูดกับเธอพิมริสาจึงต้องยอมทั้งน้ำตาเธอรู้ว่าเธอคงเลี่ยงอะไรไม่ได้เธอไม่รู้ว่าต่อจากนี้เธอจะเจออะไรบ้างเลย

เช้าวันต่อมา

07.00 น.

“ฉันไม่ไปส่งนะเธอไปเองได้ใช่มั้ย”

“ค่ะคุณแม่...”

พิมริสาเก็บกระเป๋าเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนเธอเองเก็บไปกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองไปเมื่อมาถึงตอนเช้าที่เธอกำลังจะเดินทางไปแล้วแม่บุญธรรมของเธอที่เธอรักและเคารพเหมือนแม่คนหนึ่งกลับไม่ได้สนใจอะไรเธอสักนิดหญิงสาวจำต้องก้มหน้าเดินทางไปจากที่นี่ด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวตั้งแต่เกิดมาเธอเองยังไม่ได้สัมผัสถึงความรักจากแม่บุญธรรมของเธอเลยสักครั้งแต่ก็แปลกที่เธอรักท่านจนสุดหัวใจ

วันนี้เธอต้องจากบ้านหลังนี้ไปแล้วเธอไม่รู้ว่าไปที่ไร่พงษ์พิทักษ์นั่นเธอจะเจอกับอะไรบ้างตอนนี้หัวใจของหญิงสาวเหมือนมันเคว้งคว้างไปหมดเหมือนเรื่อเล็กที่ลอยอยู่กลางทะเลอย่างไม่มีจุดหมายและไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันไปถึงฝั่ง

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY