นิยายแนวทะเลทรายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เชิญชวนให้อ่าน เพราะเป็นนิยายที่มีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน นักเขียนได้พาผู้อ่านไปสัมผัสกับชีวิตนางเอกที่ต้องเผชิญภัยจากผู้ปองร้ายโดยมีพระสวามีคอยปกป้องด้วยความรักห่วงใยต่างจากนิยายแนวทะเลทรายอื่นๆที่ให้ความสุขใจกับผู้อ่านอีกรูปแบบหนึ่ง *****...มกุฎราชกุมารีพระธิดาสุลต่านองค์ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรต้องเข้าพิธีอภิเษกโดยไม่รู้ตัวและเดินทางสู่พระราชวังของพระสวามีเพื่อลี้ภัยจากผู้ปองร้าย แต่กลับต้องมาเจอศึกรักจากความริษยาของเหล่านางห้ามในพระราชวังและแผนร้ายของพระญาติฝ่ายพระสวามีกับผู้ปองร้ายหมายชิงบัลลังก์ร่วมมือกันวางแผนปลิดชีวิต...ชีวิตรักของพระ-นางคู่นี้จะเป็นอย่างไรไปติดตามด้วยกัน ...**** **********************
หญิงสาวสวยนอนสงบนิ่งปราศจากลมหายใจ แม้ร่างกายเปรอะเปื้อนด้วยเลือดสีแดงฉานกระจายอยู่เต็มเสื้อที่สวมใส่ภายใต้ผ้าคลุมสีขาวก็ไม่อาจบดบังความงดงามล้ำเลิศของนาง ใบหน้างามหลับตาพริ้มเหมือนกำลังอยู่ในนิทรารมย์ ไม่รับรู้ถึงหยาดน้ำตาของบุรุษผู้สูงศักดิ์ที่รินหลั่งอไม่ขาดสาย เสียงรำพึงพร่ำขอโทษของเขาแหบพร่าสั่นเครืออย่างอาดูรสุดอาลัยขาดหายเป็นช่วงจนแทบจะจับใจความไม่ได้
“โอ...คราดิยาห์...พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษ...ที่ไม่อาจปกป้องเจ้าได้ ...พี่ขอโทษ...”
สองมือของเขาประคองใบหน้างามอย่างทะนุถนอม จับจ้องด้วยดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตาของบุรุษที่กำลังสูญเสียของรักที่สุดรักสุดหวง บัดนี้ใบหน้าแสนสวยที่เคยอบอุ่นมีเลือดฝาดระเรื่อกลับซีดเซียวเย็นชืดไร้ชีวิตชีวา เพราะเจ้าของสิ้นลมหายใจไปก่อนหน้าที่เขาจะมาพบนานกว่าสามชั่วโมง ถ้าเขามาเร็วกว่านี้นางก็คงยังมีลมหายใจ และใบหน้างดงามนี้จะต้องมีรอยยิ้มแสนสวยที่เขาประทับใจอยู่ไม่เคยรู้ลืม
“ ...คราดิยาห์...พี่รักเจ้า...พี่รักเจ้า...พี่ขอโทษ...”
กิริยาซบหน้าร่ำไห้ลงบนฝ่ามืออย่างโศกเศร้าอาดูรของบุรุษผู้สูงศักดิ์ทำให้องครักษ์คนสนิทถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ เขาทนรอให้พระองค์แสดงความเสียพระทัยกับการสิ้นพระชนม์ของพระชายาสุดแสนรักมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว จึงเดินเข้าไปคุกเข่าคำนับต่ำและกราบทูลเสียงแผ่วเบา
“ขอประทานอภัยพระเจ้าข้า เกล้ากระหม่อมคิดว่า พระองค์คงต้องมีรับสั่งเกี่ยวกับพระศพ และ...พระธิดา...”
คำกราบทูลขององครักษ์ผู้จงรักภักดี ช่วยเรียกสติของบุรุษผู้สูงศักดิ์ให้คืนกลับมา เขาลดมือลงจากใบหน้า กะพริบตาถี่สี่ห้าครั้งเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ที่ประทับอยู่นานเรียกหาพระธิดา
“ลูก...ลูกของฉันอยู่ไหน”
“พระธิดาอยู่นี่แล้วเพคะ”
หญิงสาวร่างท้วมสวมชุดสูทกางเกงเครื่องแบบพยาบาลอุ้มทารกที่หลับอยู่แนบอกนั่งเยื้องอยู่เบื้องหลัง กราบทูลก่อนจะรีบนำเข้าไปส่งให้ถึงพระหัตถ์
“โอ...ลูกพ่อ...พ่อขอโทษ...พ่อขอโทษ...ที่ทำให้เจ้าต้องกำพร้าแม่...ลูกรัก...”
พอสัมผัสผ้าอบอุ่นที่ห่อหุ้มร่างเล็กจ้อยของพระธิดา น้ำตาของบุรุษก็หยดหยาดลงมาอีกครั้ง ทรงใช้นิ้วพระหัตถ์ไล้แผ่วเบาบนแก้มยุ้ยที่เจ้าของแก้มกำลังนอนหลับตาพริ้ม แต่เหมือนทารกน้อยจะรับรู้คำพูดของเขาจึงเปล่งเสียงอ้อแอ้และลืมตาขึ้นมองสบพระเนตรพระบิดา ทำให้มุมปากของพระองค์ยกขึ้นด้วยความปลาบปลื้มพระทัยที่เห็นสีพระเนตรของพระธิดาเป็นสีเดียวกับพระองค์
“ลูกมีดวงตาสีเดียวกับฉัน" ทรงหันไปรับสั่งกับนางพยาบาลและองครักษ์ด้วยใบหน้าที่พอจะเปล่งประกายความสดใสออกมาบ้าง
“เพคะ ทรงมีรักยิ้มที่มุมพระโอษฐ์เหมือนพระมารดาและสีพระเนตรเหมือนพระบิดา”
มารีอาผู้ทำคลอดทารกกราบทูลด้วยน้ำตานองหน้า เหตุการณ์ที่ผ่านมากว่าสามชั่วโมงยังฝังติดอยู่ในใจ พระชายาเริ่มเจ็บพระครรภ์มาตั้งแต่หัวค่ำ จนมาคลอดเอาตอนรุ่งสางเห็นแสงอรุณรำไร พอได้เห็นหน้าพระธิดาก็กอดจูบร่ำไห้แล้วสั่งให้นำพระธิดาออกจากโรงแรมหาที่ซ่อนตัวใหม่ให้ปลอดภัย ตนกับองครักษ์คนหนึ่งจึงจำใจรีบพาทารกออกไป ละเป็นเวลาเฉียดฉิวกับฆาตกรที่ลอบบุกเข้ามาปลงพระชนม์ และตามติดพวกตนมาฆ่าองครักษ์ที่ตามคุ้มครองตายต่อหน้าต่อหน้า แต่โชคคดีที่คนของพระราชาธิบดีตามมาช่วยตนกับพระธิดาไว้ทัน
“พระมารดาทรงประทานพระนามไม่เป็นทางการว่า เดหลี เพคะ" หล่อนกราบทูลเสียงสั่นเครือ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา
“ ...เดหลี...ใช่สิ...นางชอบดอกไม้ชนิดนี้ เป็นสีขาวที่ปลูกคู่อยู่กับดอกกุหลาบสีขาวไว้เกือบจะทั่วบ้าน...”
คำรับสั่งว่า บ้าน หมายถึงพระตำหนักไวท์โรส ( With Rose-กุหลาบขาว ) ที่ทรงสร้างไว้เป็นที่พำนักของพระชายาที่แสนรัก หลังจากพานางเข้ามาอยู่ในประเทศของตน และรับนางเข้าเป็นพระชายาลำดับสองอย่างเป็นทางการ
พอพระชายามีพระครรภ์ก็เกิดเหตุการณ์เกือบจะทำให้นางเสียชีวิตหลายครั้งหลายครา จึงทรงขอร้องให้นางเดินทางออกนอกประเทศ โดยหาที่พำนักอันปลอดภัยไว้ให้ แต่นางก็ไม่ยินยอมตาม เพราะไม่ปรารถนาที่จะอยู่ห่างไกลพระสวามี
เวลาล่วงเลยมาจวนใกล้จะคลอด เมื่อเห็นว่าผู้ปองร้ายไม่ยอมรามือ นางจึงยอมตามคำร้องขอของพระสวามี ด้วยการปลอมตัวเล็ดลอดออกมาพำนักอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ เพื่อจะรอพระสวามีเดินทางไปส่งให้ถึงที่หมาย แต่ก็ไม่อาจพ้นเงื้อมมือของผู้ปองร้ายที่ส่งคนตามมาฆ่านางเสียก่อน
“ฉันจะนำศพของนางกลับไปที่ตำหนักไวท์โรส นางจะอยู่อย่างมีความสุขในสวนดอกไม้ที่นางรักตรงด้านหลังตำหนัก”
“ส่วนศพองครักษ์ที่พลีชีพทั้งสองคนเราจะตอบแทนให้สมค่า เจ้าช่วยจัดการให้สมเกียรติต่อพวกเขาด้วย”
“พระเจ้าข้า แล้ว พระธิดา”
เขามองไปยังร่างทารกที่นอนหลับใหลอย่างไม่รู้ชะตากรรม ด้วยความรู้สึกตีบตันอย่างเวทนา แม้พระชายาจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญต่างชาติ แต่กิริยามารยาทอันสมเป็นกุลสตรีและการอ่อนน้อมถ่อมตนก็ทำให้เป็นที่ชื่นชมของเหล่าองครักษ์ใกล้ชิด ทุกคนจึงยอมพลีชีวิตด้วยความจงรักภักดี
“ฉันติดต่อผู้เลี้ยงดูเอาไว้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงคงจะมาถึงเจ้าเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ”
บุรุษผู้สูงศักดิ์กอดหอมด้วยความรักอาลัยก่อนจะส่งร่างทารกให้แก่มารีอาพยาบาลประจำองค์พระชายา นับถือต่อความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ของนาง ทรงดำเนินไปยังร่างที่นอนสงบนิ่ง ประทับนั่งลงจับมือบอบบางที่เย็นชืดขึ้นมาแนบใบหน้า
“ ...คราดิยาห์...ไม่ต้องเป็นห่วงลูกนะ...พี่จะดูแลลูกของเราให้ดีที่สุด จะส่งไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุดต่อชีวิตของแก พี่จะไม่ยอม...ให้ใครมาทำร้ายลูกของเราเป็นอันขาด... แม้จะต้องแลกกับชีวิตของพี่ก็ตาม...”
คำรับสั่งกระซิบใกล้ใบหน้าพระชายาขาดหายเป็นช่วงด้วยความรู้สึกถึงอาการตีบตันให้ลำคอเพราะทรงพยายามหักห้ามใจเก็บกลั้นความเสียใจ ก่อนจะกล่าวคำสัญญาหนักแน่น
“พี่สัญญาคราดิยาห์ สัญญาว่าจะดูแลลูกของเราอย่างดี จะไม่ให้ต้องมีอันตราย...พี่สัญญา...”
ทรงก้มลงจุมพิตบนหน้าผากพระชายาสุดที่รัก ก่อนจะสั่งให้เหล่าองครักษ์นำพระศพออกไป แล้วหันมากล่าวกับมารีอานางพยาบาลผู้ถูกว่าจ้างมาดูแลพระชายาตั้งแต่เริ่มตั้งพระครรภ์ และนางก็จงรักภักดียอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายติดตามมาอยู่รับใช้คราดิยาห์จนลมหายใจสุดท้าย
“มารีอา ถ้าฉันจะขอให้เจ้าเดินทางไปกับธิดาของฉัน เจ้าจะไปหรือไม่”
“ฝ่าพระบาท มารีอาเป็นข้ารับใช้ของพระองค์กับพระชายา หม่อมฉันยินดีจะตามไปรับใช้พระธิดาเพคะ”
“แต่เจ้าอาจจะไม่ปลอดภัย หรือไม่ได้กลับมาประเทศนี้อีกเลย”
“มิเป็นไร พระธิดาอยู่ที่ไหน หม่อมฉันก็จะอยู่ที่นั่นเพคะ”
“ถ้าอย่างนั้น เราก็ขอฝากลูกของเราด้วย เจ้าช่วยดูแลให้ดี เราจะส่งพวกเจ้าไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด”
“รับด้วยเกล้าเพคะ หม่อมฉันยอมสละชีพเพื่อความปลอดภัยของพระธิดาเพคะ”
“ ขอบใจ ...ขอบใจมากมารีอา...ส่งเด็กมาเถอะ ขอเรากอดลูกอีกสักหน่อย”
บุรุษผู้สูงศักดิ์รับร่างพระธิดามากอดแนบอก แม้จะทรงอดกลั้นความโศกเศร้าเสียใจอย่างไร ก็ไม่อาจเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ พลางก้มลงจุมพิตพวงแก้มป่องยุ้ยด้วยพลานามัยสมบูรณ์ของพระธิดาอย่างแสนรัก ทารกน้อยสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นมองจับจ้อง โดยไม่มีเสียงร้องไห้ ยิ่งทำให้ทรงปลาบปลื้มใจ
“ลูกรักของพ่อ...ดวงใจของพ่อ...จอมขวัญของพ่อ...พ่อขอให้พระเจ้าจงคุ้มครองเจ้าให้ปลอดภัย และเจริญวัยเติบโตอยู่เป็นดวงใจเป็นจอมขวัญของพ่อตลอดไปนะลูกนะ”
การปลอมตัวเป็นญาติผู้พี่ ทำให้เธอต้องตกกระไดพลอยโจน รับงานกับเงื่อนไขพิเศษที่ไม่รู้มาก่อน ความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเร่งด่วน เธอจึงไม่ปฏิเสธและขอเพิ่ม จากความสาวบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ความเผอเรอทำให้เธอตั้งครรภ์ ที่มารู้ภายหลังการถูกจ้างออกจากงาน โดยหญิงสาวที่แต่งงานเป็นภรรยาเขา เธอตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แต่เขากลับตามมาจะพาเธอกลับไป เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนมีภรรยาแล้ว จึงขู่จะฟ้องร้องโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นอิสระ จากพันธะการแต่งงานครั้งนั้นแล้ว
เธอเดินทางกลับจากเยี่ยมน้องชายกระทันหันจากการถูกเรียกตัวมาเข้าร่วมสัมมนาที่วิชาการพิเศษจากต่างประเทศมาให้ความรู้ แต่เข้านอนยังไม่ทันหลับดีก็มีวัตถุหนักอืึ้งล้มทับลงกลางตัว และจากที่นอนปิดไฟมืดเธอต้องตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่ามีผู้บุกรุกและคว้าปืนขึ้นมาป้องกันตัว แต่กลายกลับว่า...บุรุษผู้นั้นเป็นแขกพิเศษของโรงแรม...และจากวันนี้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง **************************************** เขาคือผู้บุกรุก ที่เธอคิดว่าเป็นโจรย่ามใจเข้ามาปล้นสวาท เธอคือสาวงาม ที่เขาคิดว่าเป็นของแถมเข้ามานอนรออยู่ในห้อง เขาคือจอมโอหัง ที่บังอาจกอดจูบเธอโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ เธอคือสาวสวย ที่สามารถปลุกความรู้สึกด้านชาของหัวใจให้เต้นระทึก เขาวางแผน พาเธอมายังบ้านเมืองเพื่อพิสูจน์รักแท้ในหัวใจ เธอถูกลักพาตัว เพื่อฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย มาลุ้นกันว่า...เจ้าชายคริสตินกับมินทราภา จะผ่านพ้นภัยร้ายน่าระทึกใจได้ครองรักกันหรือไม่... **************************
เขาจำยอมจดทะเบียนกับเด็กกะโปโลตามใจบิดาที่กำลังจะสิ้นลม และทิ้งร้างจากเธอไปนานนับปี แต่เมื่อกลับมาเจอเธออีกครั้ง เขาถึงรู้ว่า...เธอสวยและน่าพิศวาสนักหนา...แต่ที่คิดว่าจะได้เธอมาครอบครองเธอตามสิทธิ์สามีถูกต้องตามกฎหมายกลับมีเรื่องเข้าใจผิดคิดว่าเธอทำให้มารดาเขาตายก่อนเวลาอันควร ฯลฯ นิยายรักแนวโรมานซ์(18+)อีกเรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำให้เพื่อนมาอ่านด้วยกัน
เขาไม่สนใจว่าที่คู่หมั้นที่หนีตามหนุ่มต่างชาติไปก่อนวันหมั้นหมายเพียงวันเดียว แต่พอมาเจอสาวสวยเชื้อสายไทยที่มีหน้าตาละม้ายเหมือนว่าที่คู่หมั้น เขาพึงพอใจในตัวเธอและสืบประวัติจนรู้ว่า...เธอเป็นน้องสาวคู่แฝดของว่าที่คู่หมั้น...และลักพาตัวมาไว้ในพระตำหนักสวนกุหลาบของพระมารดาที่ไม่เคยมีหญิงสาวคนใดได้เยี่ยมกรายเข้ามาและครอบครองเธอด้วยความรักพิศวาส แต่เกิดปัญหาเมื่อบิดามารดาของเธอมาตามบุตรสาวและพี่สาวคู่แฝดมาอดีตว่าที่คู่หมั้นปรากฏตัวก่อนวันอภิเษกสมรส
นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************
นิยายเรื่องนี้เป็นงานเขียนล่าสุดของศิรารัยที่สร้างเรื่องราวความรักจากปัจจุบันสู่อดีตและกลับมาจบสมบูรณ์ในยุคปัจจุบันที่อยากให้ผู้อ่านได้เปลี่ยนบรรยากาศที่เคยอ่านนิยายไทย-ไทย ไทย-อาหรับ ไทย-จีน มาเป็นนิยายไทย-อินเดียดูบ้าง โดยสร้างคู่พระนางให้นางเอกเดินทางไปประเทศอินเดียและได้ไปพบพระเอกในอดีตเพื่อช่วยเหลือให้ได้ขึ้นครองราชย์ แต่ความรักของคนในโลกอดีตกับคนในโลกปัจจุบันจะสมหวังได้ก็เกินความเป็นจริงจึงต้องทำให้นางเอกมาสมหวังในความรักกับพระเอกในโลกปัจจุบันที่สืบเชื้อสายมาจากเขาผู้นั้น และนักเขียนเชื่อว่า...ถ้าเพื่อนนักอ่านเปิดใจอ่านนิยายเรื่องนี้ จะได้รับทั้งความสนุกสนานและความซาบซึ้งใจในความรักของคนในโลกอดีตและคนในโลกปัจจุบัน... ************************************* เพียงสบตาในอุราก็หวั่นไหว เลือดเนื้อกายร้อนรุมดังสุมไข้ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งขัดเขินสะเทิ้นอายใยไพ ใจหนอใจทำไมสั่นไหวเช่นนี้เอย *************************************** ความรัก... ไม่ใช่นํ้าหมึกจากปลายปากกา ที่ผ่านวันเวลา ไม่นานก็เจือจาง ความรัก... ไม่ใช่นํ้าหอมที่กลิ่นจางหายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ความรัก... ไม่ใช่เสื้อผ้าอาภรณ์หรือข้าวของเครื่องใช้ ที่เก่า แล้วก็เปลี่ยนใหม่ ความรัก... ไม่ใช่อาหารที่กินหลายมื้อก็เบื่อหน่าย ฯลฯ ************************************** ''เธอเป็นใครถึงจะมาสอนสั่งว่าฉันกินอะไรได้หรือกินอะไรไม่ได้ เป็นแม่ครัวก็ควรทำหน้าที่แม่ครัวของเธอ ไม่ต้องมาวิจารณ์คนกิน ไป ไปทำอาหารที่ฉันต้องการมา ต่อไปไม่ต้องเอาผักหญ้าพวกนี้มาให้ฉันกินอีก” อาหารจานหนึ่งถูกโยนแตกเพล้งตรงหน้าผู้ที่ถูกเรียกว่า...แม่ครัว...สลัดผักธัญพืชและนํ้าสลัดที่วัสสิกาต้องใช้เวลาคำนวณแคลอรี่ว่าต้องมีผักธัญพืชมากน้อยเท่าไรและสรรหาผักสดๆใหม่ๆมาทำอย่างประณีตหกกระจายเกลื่อนอยู่ตรงหน้าเหมือนเศษขยะ ที่วัสสิกาแทบจะร้องกรี๊ดออกมาด้วยความโมโห เพราะเจ้าชายจอมยโสไม่ได้ทำลายแค่อาหารจานสองจานแต่ได้ทำลายความตั้งใจดีของเธอจนหมดสิ้น “ตาหมีอ้วน" วัสสิการ้องว่าในใจ ความโกรธวิ่งจี๊ดขึ้นสมองวัสสิกาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต เธอไม่เคยโกรธใครมากมายอย่างนี้ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าโกรธทำไม่นักหนา แต่ตอบโต้ออกมาได้เพียงกรีดเสียงอยู่ในความนึกคิด..ตาหมีอ้วน ฉันอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้กิน ยังจะมาว่ามาทำแบบนี้อีก...เพราะสิ่งที่เจ้าชายอาทิตยสุเรนทรากระทำ...โยนจานอาหารใส่หน้า...เป็นการทำร้ายจิตใจแบบที่ไม่เคยมีใครทำกับเธอมาก่อน วัสสิกาหมดความอดทนต่อผู้สูงศักดิ์ จึงโต้กลับทันควัน ฯลฯ ********************************
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา