(พิกานxกานต์ระพี) เมื่อว่าที่อาเขยคิดไม่ซื่อกับหลานสาวของคู่หมั้น เรื่องต้องห้ามจึงเกิดขึ้น
(พิกานxกานต์ระพี) เมื่อว่าที่อาเขยคิดไม่ซื่อกับหลานสาวของคู่หมั้น เรื่องต้องห้ามจึงเกิดขึ้น
ทันทีที่รถตู้จอดเทียบข้างรั้วหน้าบ้าน ประตูด้านข้างก็ถูกเลื่อนออก เปิดทางให้เด็กสาวสองคนในชุดนักเรียนมัธยมปลายได้ก้าวลงจากรถ ก่อนที่คนขับจะพารถคันนั้นแล่นห่างออกไป เพื่อส่งนักเรียนคนอื่นๆ ต่อไป
เด็กสาววัยสิบแปดสองคนที่ความสูงไล่เลี่ยกัน ผูกผมเป็นหางม้าและผูกโบสีเดียวกัน ก้าวตามกันเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่คนแถวนี้ไม่ได้เรียกว่าบ้าน แต่เรียกว่าคฤหาสน์ เพราะนอกจากตัวบ้านจะโอ่อ่าหรูหราแล้ว อาณาบริเวณยังกว้างขวาง สมฐานะเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ หากจะมีอะไรที่ดูขัดแย้งไปบ้าง ก็ตรงที่หลานสาวไม่มีคนขับรถส่วนตัวคอยรับส่งเฉกเช่นคุณหนูทั่วไป ทว่ากลับต้องนั่งรถตู้รับส่งตามคำสั่งของผู้ปกครอง
แพรววดีไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการไปโรงเรียนด้วยรถตู้ รู้ดีว่าอาของตนต้องการฝึกความอดทน ให้รู้จักความลำบาก และรู้จักที่จะใช้การสัญจรแบบสาธารณะร่วมกับผู้อื่น
วันนี้หลานสาวเจ้าของบ้านไม่ได้กลับมาคนเดียว แต่มีเพื่อนที่สนิทและกำลังจะเป็นดองกันอย่างกานต์ระพีติดสอยห้อยตามมาด้วย
“เป็นอะไรไปกานต์ เข้าบ้านกันเถอะ” แพรววดีหันไปมองเพื่อนสาวที่มีอาการคล้ายลังเลเล็กน้อย หนำซ้ำพวงแก้มยังแดงระเรื่อ ซึ่งนั่นคงจะเกิดจากความเขินอายของเจ้าตัว
“เราเขินอะแพรว เราว่าเรากลับดีกว่า” กานต์ระพีบอกแบบป๊อดๆ มือกำช่อกุหลาบสีแดงแน่นขึ้นกว่าเดิม หัวใจเต้นแรงตึกตัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะมาเปิดเผยความในใจที่มีต่อผู้ชายคนหนึ่ง หรือภาษาวัยรุ่นเรียกว่าสารภาพรักนั่นเอง
“ได้ไงมาถึงขนาดนี้แล้ว เถอะน่าเชื่อเรา ไม่มีอะไรน่าอายสักนิด อย่าลืมนะวาเลนไทน์มีแค่ปีละครั้ง หรือว่ากานต์จะยกไปปีหน้าล่ะ ถ้าพี่พิชชอบคนอื่นก่อนจะทำยังไง” แพรววดีทั้งเชียร์ทั้งยุอย่างออกนอกหน้า เพราะอยากให้เพื่อนสาวกับพี่ชายตัวเองตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน และเพราะแรงยุนั้นก็ทำให้กานต์ระพีถอนตัวไม่ได้
“ถ้าพี่พิชไม่รับดอกไม้เราล่ะ เราจะเอาหน้าไปไว้ไหน”
“ต้องรับสิ อย่างน้อยพี่พิชก็ต้องเกรงใจอาพิกับอาก้อยบ้างล่ะ อย่าลืมสิว่าถ้าอาพิกับอาก้อยแต่งงานกันเมื่อไหร่ เราสองบ้านก็เป็นญาติกันแล้วนะ พี่พิชไม่กล้าหักหน้ากานต์หรอก”
“แบบนั้นก็จะไม่ต่างกับมัดมือพี่พิชชกเหรอ แล้วถ้าพี่พิชมีแฟนแล้วล่ะ”
“เราเอาหัวเป็นประกันเลยนะว่าพี่พิชยังไม่มีแฟน โอเค อาจจะมีผู้หญิงที่ควงๆ กันอยู่บ้าง แต่ที่ตกลงคบกันเป็นแฟนจริงๆ ยังไม่มี เราถึงเชียร์กานต์ไง เราไม่อยากได้พี่สะใภ้แบบที่ตัวเองไม่ได้เลือก นั่นไงเสียงรถแล่นเข้ามาพอดี คงเป็นพี่พิชแหละ เพราะช่วงนี้อาพิกลับดึก กานต์จัดการให้เรียบร้อยนะ เราจะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารอฟังข่าวดี” ว่าแล้วแพรววดีก็ก้าวขึ้นชั้นสอง เพื่อเปิดโอกาสให้เพื่อนสาวได้สารภาพความในใจกับพี่ชายตัวเองตามลำพัง
หัวใจของสาวสิบแปดหยกๆ อย่างกานต์ระพีเต้นแรงตึกตัก ยิ่งเมื่อมีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา หน้าเธอก็ยิ่งร้อนซ่านเพราะเขินอายสุดขีด
“นี่เธอมาทำอะไรที่นี่”
เสียงเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนที่กานต์ระพีรอคอย แต่เป็นเสียงของคนที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านหลังนี้ ความสูงของเขาคะเนได้ว่าน่าจะกว่าหกฟุต สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับมาถึงข้อศอก ช่วงล่างเป็นกางเกงสแล็กสีดำเนื้อดี เข้ากับรองเท้าหนังมันปลาบ ผมที่หวีเรียบไปด้านหลังแม้จะยุ่งเหยิงไปบ้าง แต่ใบหน้านั้นก็ยังดูโดดเด่นชวนเกรงขาม
“คุณพิธาน!” กานต์ระพีเรียกชื่อว่าที่อาเขยตัวเอง สีหน้าและน้ำเสียงดุๆ ของเขาทำให้เธอลืมความเขินอายไปชั่วขณะ ทำให้เธอต้องรีบเอาดอกไม้ซ่อนไว้ด้านหลังอย่างเด็กที่กำลังมีเรื่องปกปิดผู้ใหญ่
“เธอยังไม่ได้ยกมือไหว้ฉัน” เขาทวงถามมารยาทที่กานต์ระพีไม่ได้ลืม เพียงแต่มือเธอไม่ว่างที่จะยกขึ้นไหว้เขาได้
“สวัสดีค่ะ” กานต์ระพีเพียงแค่เอ่ยปากและโค้งศีรษะลงเป็นการทักทายแทน
“มาติวหนังสือหรือว่ามาทำรายงานล่ะ”
“เปล่าค่ะ หนูมาหาพี่พิช”
“เป็นผู้หญิงยิงเรือควรรักนวลสงวนท่าทีบ้าง หรือดูไม่ออกว่าผู้ชายเขาไม่สน”
ทันทีที่ได้ยินว่าเธอมาหาใคร ว่าที่อาเขยก็ตำหนิตรงๆ ด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงและไม่ถนอมน้ำใจเลยสักนิด ทำเอากานต์ระพีอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี เพราะที่ผ่านมาพิชญะไม่ได้แสดงท่าทีว่าสนใจเธอเลยจริงๆ
“หนูอาจจะยังเด็ก พี่พิชเลยยังไม่มอง แต่ถ้าหนูเรียนมหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ พี่พิชอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
“เธอก็เลยรีบมาเสนอตัว เผื่อว่าตาพิชจะชายตาแลว่างั้นเถอะ” พิธานสาดคำพูดแรงๆ ใส่ต่อทันที เขาทำเหมือนว่าเธอมีความผิดมหันต์ ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องและสิทธิ์ส่วนตัวของเธอมิใช่หรือ
“มันสิทธิ์ของหนูไม่ใช่เหรอคะ”
“สนใจแต่สิทธิ์ โดยไม่สนใจศักดิ์ศรีตัวเองเลยอย่างนั้นเหรอ”
“หนูไม่ได้ทำอะไรเสียหายนี่คะ ทำไมคุณตำหนิหนู เหมือนหนูทำเรื่องผิดร้ายแรงนักหนา ทั้งที่ความจริงแล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะว่ากล่าวหนูด้วยซ้ำ” ไม่ได้อยากเถียงผู้ใหญ่ แต่กานต์ระพีต้องการปกป้องตัวเอง เพราะเขาตำหนิเธอรุนแรงมากเกินไปแล้ว
เธอ...รักอย่างภักดีและเจียมใจ เขา...จ้องแต่จะทำลาย เลยทำทุกอย่างเพื่อหลอกให้รัก สุดท้าย...สิ่งที่เธอได้รับการตอบแทน จากรักที่แสนภักดีก็คือคำว่า ง่าย ที่เขาตะโกนใส่หน้าอย่างไม่คิดแม้แต่จะสงสาร
ศาสตรา ภูวเดชาธร คือผู้ชายที่ ภัคธีมา บอกตัวเองว่าเขาช่างร้ายกาจสมกับชื่อ ผู้ชายคนนี้พร้อมจะฟาดฟันให้เธอย่อยยับแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทั้งๆ ที่เธอคือว่าที่น้องสะใภ้ หรือเขารังเกียจว่าเธอจน ไม่คู่ควรกับคนในตระกูลภูวเดชธรเจ้าของไร่ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เขาจึงกีดกันเธอกับน้องชายเขาทุกวิถีทาง แม้ภัคธีมาพยายามจะไม่ข้องแวะกับเขา หากทว่าในที่สุด โชคชะตาก็กลั่นแกล้ง ให้ต้องตกไปอยู่ในบ่วงพันธนาการของเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ภัคธีมาจึงได้แต่นับวันรอ… รอวันที่กริชผู้แข็งกร้าวอย่างเขาจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาจริงๆ มันกลับไม่ง่ายเลย เพราะหัวใจที่แสนอ่อนไหวถูกบ่วงเสน่หาร้อยรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา
ร่างบางดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ ร่างกายทุรนทุรายเพื่อความอยู่รอด แต่ใจเธอยอมแพ้แล้ว มันอึดอัด มันหนาวเหน็บ นี่สินะความตาย ความตายของเธอที่พี่อิสร์ต้องการ เอมทำให้แล้วนะคะ หวังว่าการกระทำของเอมในครั้งนี้ จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เอมทำให้พี่อิสร์มีความสุข ขอให้ความรักความแค้นระหว่างเราจบลงแค่นี้ เอมเจ็บ เจ็บจนไม่อยากจะหายใจแล้วเช่นกัน ขอบคุณที่บอกให้เอมมาตาย มันน่าจะเป็นหนทางดับทุกข์ที่ดีที่สุดของเอมแล้ว ลาก่อนค่ะพี่อิสร์...
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวในคืนแต่งงาน ทำให้พรรษรดาต้องเข้าพิธีกับน้องชายของเจ้าบ่าวแทน แม้วิวาห์ครั้งนี้จะเป็นเพียงวิวาห์สมมติในความรู้สึกของเขาและเธอ หากทว่าความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในนั้นต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอจะกล้าบอกความในได้อย่างไร ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอมีใจใฝ่ปองและอยากแต่งงานด้วยจริงๆ ก็คือเขา ในเมื่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี เอาแต่เฉยเมยเย็นชาใส่ ซ้ำยังเอ่ยปากขอหย่าอยู่หลายครั้ง พรรษรดาจะจัดการปัญหาหัวใจครั้งนี้อย่างไรดี ในเมื่อยิ่งเขาทำให้เจ็บ หัวใจไม่รักดีก็ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เธอควรรั้งเขาไว้ให้เป็นสามีในนามเพื่อทรมานใจกันเล่นๆ หรือว่าปล่อยเขาไปให้สมรักกับผู้หญิงอื่นตามที่เขาร้องขอ ***ตัวอย่าง*** “ฉันรักเธอพรรษรดา ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว” เขาสารภาพออกมาเสียงแหบห้าว นัยน์ตาหม่นมัวไปด้วยแรงรักแรงปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ข้างใน “คุณภู...” “หัวเราะสิ หัวเราะเยาะฉัน หัวเราะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตลอดหลายปี หัวเราะเยาะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ตัดใจไม่ได้เสียที” คำสารภาพของเขาเหมือนระลอกคลื่นยักษ์ที่กระแทกโครมเข้าใส่หัวใจดวงน้อยของพรรษรดา เธอถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแบกรับความรู้สึกอันท่วมท้นนั้นไม่ไหว “ฉันมันคงน่าสมเพชมากสินะ” ร่างใหญ่ขยับตัวเหมือนจะถอดถอนออกไป แต่พรรษตวัดขารัดรอบเอวสอบไว้แน่น ทำให้เขาดำดิ่งเข้ามาฝังลึกอยู่ในช่องสาวอีกครั้ง “อย่าบังอาจลุกจากตัวพรรษ” เธอแหวใส่เขาเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทาเพราะความรัญจวนและความเต็มตื้นในหัวใจ “พรรษรดา...” “อย่าคิดว่าจะผลักไสพรรษง่ายๆ อีก รู้มั้ยว่าพรรษรอนานแค่ไหน รู้ไหมว่าต้องเสียน้ำตาไปกี่ครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองรักคุณภูข้างเดียว อย่ามาบอกรักพรรษ ล้อเล่นกับหัวใจพรรษแล้วหนีไปง่ายๆ อีก พรรษไม่ยอมอีกแล้ว คราวนี้พรรษจะตามรังควานไปตลอดชีวิตเลย อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสมีความสุขกับผู้หญิงคนไหน อย่าหวังว่าจะได้บอกรักใครอีก เพราะคำว่ารักของคุณภูจะเป็นของพรรษคนเดียวตลอดไป”
ในเมื่อเธอเป็นเมียที่ได้มาจากการทรยศ ความรู้สึกเดียวที่เธอจะได้รับจากเขาก็มีแค่ ความชัง เท่านั้น อย่างหวังว่า เขาจะเลิกชัง อย่าหวังว่า เขาเหลียวแล อย่าหวังว่า จะได้แม้แต่เศษเสี้ยวความรักของเขา นภัทรบอกตัวเองเช่นนั้น อย่างหนักแน่นอยู่เสมอ แต่ความเกลียดชังโกรธแค้นของเขามันน้อยลงตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือเป็นเพราะนัยน์ตาเศร้าๆ ซื่อๆ ของเด็กคนนั้น ที่มันค่อยๆ เขย่าความเย็นชาในหัวใจเขา ให้กลายเป็นความรู้สึกอื่น
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
“คุณรักฉันยอมรับมาเถอะ” “เปล่าเลย มิรันดา ผมไม่เคยรักคุณเลยสักนิด ที่ผ่านมามันก็แค่เรื่องเซ็กซ์ ให้ยืนยันอีกกี่ครั้งผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่ได้รักคุณผมรักแค่เซ็กซ์ของคุณ” ************************* เพราะเสียคนรักจากการลอบทำร้ายของคู่อริเมื่อห้าปีก่อน มาร์คัสจึงไม่คิดจะรักใครอีก แต่เหมือนฟ้าจะกลั่นแกล้งเมื่อมาเจอกับมิรันดาสาวน้อยที่เขาใช้เงินซื้อมาเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับน้องเขยของตนเอง ชายหนุ่มทั้งทั้งหลง แต่ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นอีก เขาจึงคิดจะวางมือและถอนตัวจากธุรกิจสีเทา แต่การจะลงจากหลังเสือนั้นมันยากกว่าที่คิดไว้ ในเมื่อมีคนที่จ้องจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ฟรานเชสโก้ ซิวีลิอาโน่ ชายหนุ่มเจ้าของมันสมองระดับอัจริยะ, จอมวางแผนและหล่อเหลาทุกกระเบียดนิ้วทำให้เขาได้ของฉายา “เจ้าชายมาเฟีย” เขาต้องมาเผชิญกับพินัยกรรมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปทั้งชีวิตนั้นคือการให้เขาแต่งงานกับไปรยา พรภวิษย์ ลูกสาวนอกสมรสของโทนี่ ลินตัน ผู้ที่เขานับถือเสมือนเป็นลุงแท้ๆ แม้ไม่ได้มีความผูกพันทางสายเลือด เขาจำเป็นต้องแต่งงานกับเธอเพื่อรักษาบริษัทซึ่งเป็นสิ่งที่ลุงโทนี่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดของชีวิต และผู้หญิงคนนั้นก็คือคนๆ เดียวกับพริตตี้สาวสวยที่เขาเข้าใจผิดว่าเป็นสาวไซด์ไลน์! ในวันเกิดครบ 22 ปีของไปรยา เธอได้รู้ความจริงถึงชาติกำหนดของตัวเอง เพียงแค่ข้ามคืนจากหญิงสาวธรรมดาที่ไม่มีแม้กระทั่งบ้านของตัวเองกลายเป็นลูกสาวคนเดียวของเศรษฐีชาวอเมริกัน แต่เธอจะครอบครองทรัพย์สินนั้นได้ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อฟรานเชสโก้ ซิวีลิอาโน่ เมื่อการวิวาห์เป็นเพียงเงื่อนไขทางธุรกิจ พวกเขาทั้งคู่จะทำอย่างไรกับหัวใจที่ผูกพันกันอย่างไม่รู้ตัว.
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY