One night stand คำที่ นิโคไล แอนตัน มหาเศรษฐีเพลย์บอย เลือกมาใช้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและ มีความสุขแบบไร้ข้อผูกมัด แต่แล้วค่ำคืนที่แสนหฤหรรษ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะผู้หญิงแปลกหน้าที่ทำให้เขาพอใจตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอกลับทำร้ายเขาเพราะความเข้าใจผิด ทำให้ได้อับอายต่อสายตานับร้อยคู่ เพียงคำขอโทษเท่านั้นที่เขาต้องการ ทว่าไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะดันเจอกับผู้หญิง หัวแข็ง ปากร้ายและดื้อ ทางเดียวที่จะกำราบและให้เธออยู่ในอ้อมกอดอันแน่นหนาของเขาได้ นั่นคือขังเธอเอาไว้เสียเลย พร้อมกับข้อตกลงเพียงข้อเดียว ดินเนอร์แล้วจบ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้ ไอลดาต้องหนีความรู้สึกผิดต่อตัวเอง และหนีจากความทรงจำคืนเดียวที่แสนวาบหวาม หอบกายใจที่เต็มไปด้วยรอยรักจากชายแปลกหน้ากลับประเทศไทย แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ใช่แค่รอยรักที่ติดตัว มาด้วยเท่านั้น หากแต่เป็นพยานรักที่ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่รู้มาก่อน จนกระทั่งได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอต้องหนีใจตัวเองและปกปิดความลับบางอย่างไม่ให้เขารู้ว่า พยานรักตัวน้อยเป็น “ลูกใคร”
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ในวอร์ชังตันดีซี นักศึกษาบางส่วนจบการศึกษาและเตรียมตัวรับปริญญาในอีกไม่กี่วัน ฉะนั้นการเฉลิมฉลองจึงได้เริ่มต้นขึ้น แน่นอนว่าบรรดาหนุ่มสาวต่างนัดแนะที่จะไปปาร์ตี้เรียนจบกันที่ผับประจำซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มก้อน แต่สุดท้ายยังคงไปสังสรรค์ในที่เดียวกันทุกที
“ไอซ์! เฮ้! ไอซ์! เย็นนี้วางหรือเปล่า” หญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ และเอ่ยถามเพื่อนสาวคนสนิทที่กำลังเดินอยู่
“อ้าวเทรซีย์ ว่าง มีอะไรจ๊ะ ถามทำไม” ไอลดานักศึกษาไทยแสนสวย ถามกลับและเดินให้ช้าลงเพื่อจะได้คุยกัน
“เพื่อนๆ เรา ชวนไปปาร์ตี้กันน่ะ ไปนะห้ามปฏิเสธ” เทรซีย์บอกกึ่งบังคับ
“แบบนี้ไม่น่าจะเรียกว่าชวน แต่เรียกว่าบังคับ แล้วจะถามฉันทำไม” ไอลดาออกปากบ่นแต่ไม่ได้จริงจังนัก
“งั้นไปนะ เพื่อนๆ เราไปกันหมดเลย เครียดกันมาตลอดทั้งปีต้องหาเวลาผ่านคลายบ้าง” เทรซีย์บอกอีกครั้งแต่ไอลดากลับทำท่าครุ่นคิดเหมือนกำลังชั่งใจอยู่
“อะไร ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นเชียวเหรอ ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะไอซ์”
“ก็... กำลังคิดว่าจะใส่ชุดอะไรไปดีไง แล้วเพื่อนเราน่ะกลุ่มไหนบ้าง” ไอลดาถาม แต่เทรซีย์เงียบไป เพราะบอกไม่ถูกเนื่องจากมีหลายกลุ่ม แต่สำคัญอยู่ตรงมีกลุ่มที่เป็นอริกับกลุ่มของไอลดา และไปปาร์ตี้ด้วยนี่สิ
“ก็รู้ๆ กันอยู่แต่จะแคร์ทำไม” เทรซีย์บอกใบ้เท่านั้น เพราะเรื่องคู่อริที่เหยียดคนไทยอย่างไอลดานั้นมีไม่มาก ทำให้เดาได้ไม่อยาก
“ฉันไม่ได้แคร์ ไม่ได้นั่งด้วยกันอยู่แล้ว” ไอลดายักไหล่และเบ้ปากเล็กน้อย
“งั้นเจอกันตอนเย็นนะ หรือให้ฉันไปรับดีล่ะ”
“ไม่จ้ะ เจอกันที่ผับเลย ใกล้กันนิดเดียวฉันนั่งแท็กซี่ไปเองได้”
“แน่ใจนะ ว่าแต่แต่งตัวสวยๆ นะ งานนี้มีหนุ่มๆ จากคณะๆ อื่นก็ไปด้วย”
“ให้ความสนใจกับหนุ่มๆ จริงนะ” ไอลดาหยอกเย้าด้วยความที่เพื่อนอยากมีคู่ซะแล้ว
“อ้าว เราสองคนอายุขนาดนี้แล้วยังเป็นโสดอยู่ได้เนี่ย ไม่ธรรมดา เดี๋ยวจะถูกล้อว่าเป็นยัยแก่ทึนทึก”
“ฮ่าๆ ย่างยี่สิบห้าเนี่ยนะ แก่ทึนทึก ที่เมืองไทยเขาเรียกวัยนี้ว่าวัยรุ่นย่ะ เพราะเพิ่งเรียบจบและกำลังหางานทำ”
“แต่นี่คือวัยที่สมควรมีครอบครัว มีงานทำงานและร่ำรวย ฉะนั้นคืนนี้ฉันไม่พลาด เป็นโสดมานานแล้วฉันจะต้องปิดจ๊อบกับใครสักคน”
“อะไรจะปานนั้น” สำหรับไอลดาไม่ได้ไปงานปาร์ตี้เพื่อหาหนุ่มๆ แม้ว่าวัยสำหรับเธอ ควรจะมีคนมาเคียงข้างกายแล้วก็ตามแต่ไม่ได้ร้อนรุ่มถึงเพียงนั้น ทั้งที่อยากจะนึกลองสักครั้งก็ตามทีเถอะ เกิดมาจนอายุย่างยี่สิบห้าแล้ว สามารถรักษาพรหมจรรย์ได้นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ชีวิตทั้งชีวิตก็ต้องใช้เวลาเลือกกันบ้าง ทว่าเพื่อนก็อยากให้มีแฟนเสียเหลือเกิน อีกอย่างคนรักไม่ได้หากันง่ายๆ ตามผับเสียเมื่อไหร่
“เอาเป็นว่า ไม่คุยด้วยแล้วแยกย้าย ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า ส่วนเธอแต่งตัวสวยๆ แล้วเจอกันที่ผับตอนหนึ่งทุ่มตรงนะเพื่อน” เทรซีย์ตัดบทการสนทนา พร้อมกับยิ้มหวานและเตรียมจะเดินแยกตัวไป
“โอเค แล้วเจอกันจ้ะ บายเทรซีย์”
“บายไอซ์” เมื่อล่ำลากันเรียบร้อย ทั้งคู่จึงได้ไปคนละทาง เทรซีย์ตรงไปที่ลานจอดรถเพราะมีรถส่วนตัว ส่วนไอลดายังคงเดินไปตามทางฟุตบาทในมหาวิทยาลัย มองเหล่านักศึกษาฝรั่งกำลังทยอยกลับที่พักส่วนเธอเองก็เช่นกัน ที่พักของเธอคืออพาร์ตเมนต์ ที่ค่อนข้างราคาแพง แถมยังพักคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนแชร์ค่าห้องด้วย เพราะด้วยฐานะทางครอบครัวมีอันจะกินพอสมควร จึงสามารถพักได้โดยไม่เดือดร้อน
ไอลดา เป็นหนึ่งในนักศึกษาของไทยซึ่งมาเรียนที่นี่ตั้งแต่ปริญญาตรี กระทั่งถึงปริญญาโท ใช้ชีวิตอยู่นานจนทำให้ซึมซับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ที่รักอิสระไปจนถึงชีวิตรักแบบหนุ่มสาวอเมริกัน ที่จะทำอะไรก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว ทว่านั่นสำหรับคนอื่น เพราะสำหรับไอลดาแล้วนั้นยังไม่มีแฟน จนเพื่อนๆ แซวว่าแก่ปูนนี้แล้วจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ทำไม ไม่ลองหาประสบการณ์ให้กับตัวเองบ้าง ซึ่งความจริงเธอรักษามันไว้เพื่อคนที่เธอรักไงล่ะ
จะว่าไปแล้วการไปปาร์ตี้เรียบจบในวันนี้ ก็เหมือนกับเป็นการเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง เพื่อจะได้พบปะเพื่อนใหม่ๆ ทั้งหญิงและชาย ก็ได้แต่แอบหวังลึกๆ ว่าจะสะดุดกับความรักเหมือนคนอื่นบ้าง ไอลดาคิดไปพลางและเดินไปพลาง จนกระทั่งถึงอพาร์ตเมนต์ซึ่งอยู่บนชั้นสาม พอกลับขึ้นห้องมาได้ก็เหวี่ยงทุกอย่างที่อยู่ในมือไปทางโซฟา ทั้งกระเป๋า หนังสือ เสื้อหนัง เพื่อเป็นการปลดปล่อยความเครียดมาตลอดทั้งเทอมอย่างที่เทรซีย์บอก
“เฮ้อ! คืนนี้ไปปลดปล่อยความเครียดอย่างนั้นเหรอ เอาก็เอา” เธอบอกกับตัวเองพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แต่เวลาหนึ่งทุ่มยังอีกนานหลายชั่วโมง พอจะมีเวลาเตรียมตัว และเลือกเสื้อผ้าสวยๆ ใส่ ทว่าก่อนที่จะทำทุกอย่างตามที่คิดมา เธอขอพักสักครู่ ว่าแล้วจึงทิ้งตัวลงบนที่นอนแรงๆ เพื่อพักสายตาอย่างที่ต้องการก่อน
ต้าเฉิน มีคำสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เขาตกหลุมรัก เป็นความรักอันแสนบริสุทธิ์ ที่ไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาให้ได้ยิน จนถึงเวลาที่ต้องไปจากเธอ โดยที่ไม่บอกเธอสักคำ ทิ้งไว้แต่เพียงแหวนเพชรพร้อมกับคำสัญญาที่ว่า "รอพี่นะตัวเล็ก" อีก 6 เดือนเขาจะกลับมา หากใจเธอยังมีเขาอยู่ให้สวมแหวนวงนี้เอาไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย เมื่อกลับมาเขาจะเห็นและจะมอบคำว่ารักให้เธอ แต่... ชะตามันช่างเล่นตลก ทำให้คำว่ารักที่เตรียมเอาไว้ให้เธอ กลับกลายเป็นความแค้นและความตายที่เขากำลังจะส่งให้ เธอ... อลิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวมาเฟีย เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาเอาเธอมาทรมานให้สาแก่ใจและปล่อยให้ตายไปทีละนิด แต่มันไม่ง่ายเมื่อเธอคือคนที่มาเฟียรัก และเฝ้ารอมาตลอดหลายเดือน แทนที่เขาจะได้ทรมานเธอ แต่กลับเป็นเธอ... ที่ทรมานให้เขาคุ้มคลั่งแทน “คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอตัดสินใจถาม ในเมื่อเขาก็ออกตัวว่าไม่ใช่คนที่เธอคิดถึง “ความตาย!!! แต่ก่อนตาย มาตกนรกกับผมก่อน” จบคำ เขาก็กระชากเธอแรงๆ จนแทบจะตัวปลิว
เสี่ยต้น หรือเจ้าสัวตันติวัฒน์ ชื่อนี้ที่สาวๆ การันตีว่าคาสโนว่าที่สุดแห่งภูมิภาค เจ้าพ่อเงินกู้ หนุ่มใหญ่ร้างไร้คนรัก ที่มักจะเอาเรือนร่างของสาวๆ มาขัดดอก เขาไม่เคยมีหัวใจให้ใครง่ายๆ “ซื้อกินสบายใจกว่า” แม้บางคนจะบอกว่าแก่ แต่บอกเลยว่าหล่อ เท่ แซ่บ ทว่าไม่มีใครได้เป็นคุณนายเบอร์ 1 เสียที จนกระทั่งหัวใจของเขาได้เต้นตูมตาม เมื่อเจอสาวสวยลูกสาวกำนันที่การันตีด้วยตำแหน่งนางงาม หนุ่มใหญ่หัวใจว้าวุ่น อยากได้ก็ต้องได้… “ใครมา” “สาวๆ ของคุณ” เธอตอบแบบขอไปที พลางมองยาในกล่อง ไม่ยอมมองหน้าเขา ใบหน้าเธอก็ดูบูดบึ้งชอบกล “เยอะดีนะคะ” “จ้ะ” เขาก็กล้าตอบเช่นกัน เท่านั้นแหละเธอก็ตวัดหางตาขึ้นมองหน้าทันที ยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเสียอีกแต่เธอไม่พูด กลับค่อยๆ เอายาทาป้ายไปตามแขนของเขาแรงๆ “ซี้ดโอ๊ย ฟ้า” เขากับถึงร้องออกมาเลยทีเดียว ยัง ยังไม่พอเธอก็ทาไปตามแก้มและรอยช้ำบนใบหน้าของเขาแรงๆ “โอ๊ยๆ ฟ้าจ๋า เบาๆ” “ยังมีอีกไหมคะเนี่ย” เธอถามไปพลางก็ทายาไปพลาง “น่าจะมาอีก” สิ้นคำเธอก็ทำแรงกว่าเดิม “ซี๊ด! โอ๊ย ฟ้า เฮียเจ็บจริงๆ นะ นี่หึงเหรอเนี่ย” เขาแกล้งแซวแต่ก็เจ็บมากจริงๆ “ถ้าจะมีเยอะขนาดนี้ แล้วยังจะมีหน้าอยากได้ลูกสาวกำนันอีก ใครเขาจะพิศวาส” เธอออกปากบ่น ลมหึงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ “ก็ถ้าลูกสาวกำนันใจอ่อนได้ เฮียก็จะยอมเลิกยุ่งกับทุกคนเลย แต่นี่ลูกสาวกำนันไม่สนใจอ่อนกับเฮียเลยแม้แต่น้อย” เขาพูดพลางหรี่ตามองเธอเล็กน้อย “คุณทำไม่ได้หรอกค่ะฟ้าดูแล้วล่ะ มันอยู่ในสันดาน”
แสงเหนือ เจ้าของฟาร์มวัวนม เป็นคนดุ ทำแต่งาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และเกลียดเด็ก! แต่กลับถูกขอร้องให้ช่วยดูแลลูกสาวของเพื่อน และใช่... คิดว่าสามขวบ ที่ไหนได้ยี่สิบสองต่างหาก นี่เวลาผ่านไปเร็วอะไรเบอร์นี้ แต่เขายังหล่อ รวย โสดอยู่เลย กับคำขอร้องของเพื่อนรุ่นพี่ ให้ดัดนิสัยลูกสาวให้แต่เขาปฏิเสธหัวชนฝา ไม่เอาเด็ดขาด แต่ความจริงบางอย่าง ทำให้เขาต้องช่วยเหลือและปฏิเสธไม่ได้ แคท หรือแคทรียา ลูกสาวท่านนายพลจากเมืองกรุงฯ ต้องจากบ้านอันแสนสุขสบาย ไปเลี้ยงวัว ล้างขี้วัว ตากแดดหน้าดำ เพื่อ... เพื่อหนีไอ้เฒ่าหัวงูหื่นกามที่มารดาสรรหามาให้ จะฟังพ่อหรือฟังแม่ก็เลือกเอา แน่นอนเธอเลือกฟังพ่อ แต่หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะแค่วันแรก... ก็ทำเอาใจเหลวเป็นน้ำเพราะเจ้าของฟาร์มดันอวดสาขาใหญ่ให้เธอใจเต้น...
หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
ของขวัญ กลายเป็นคนไวต่อความรู้สึก นับตั้งแต่สัมผัสร้อนรุ่มในคืนอัปยศนั้นเป็นต้นมา ทุกค่ำคืนเธอเอาแต่นอนฝันถึงเงาปริศนา ที่มอบรอยจูบบนร่องรัก มือของเธอคือสิ่งที่ช่วยให้ปลดปล่อยจากความปรารถนา ราวกับต้องคำสาป พอคิดถึงเงานั้น ก็ทำให้ร่องรักแฉะไปด้วยน้ำหวาน จนต้องช่วยตัวเองทุกคืน ทว่าเธอไม่ยอมมีแฟน ไม่คบใคร หัวใจเจ้ากรรมเฝ้าแต่ถวิลหาสัมผัสนั้นด้วยความทรมาน แต่เขารังแกเธอ เธอควรเกลียดและสาปแช่ง อธิษฐานขอให้ได้เจอสักวัน แล้วเธอจะเอาคืนให้สาสม ทว่าเธอจะเป็นฝ่ายเอาคืน หรือเขาจะเป็นฝ่าย เอา... กันแน่
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า