หญิงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยว ผมดัดลอน สวมมุงกฎ และมาในชุดราตรีสีครีมปักเลื่อมทั้งตัว เดินสว่างวาบมาพร้อมกับผู้ติดตามขนาบข้าง แสงไฟสปอทไลต์สาดไปหาเธอเป็นหลัก ราวกับต้องมนต์สะกด สปอนเซอร์ใหญ่นั่งที่เก้าอี้วีไอพี หันไปมองคอแทบเคล็ด ตะลึงไปกับความสวยแทบอ้าปากค้าง หนวดกระดิกเลยเชียว
“แมงวันบินเข้าปากแล้วครับเสี่ย” นายมิ่งลูกน้องคนสนิทแซวขึ้น
ทำเอาเสี่ยต้น หรือเจ้าสัวตันติวัฒน์ถึงกับงับปากเลยทีเดียว แล้วหันมายักคิ้วใส่ลูกน้อง
“ใครวะ อั้วะไปอยู่ไหนมาทำไมเพิ่งเห็น” เสี่ยต้นเอ่ยถามขึ้น ตายังคงมองไปสาวสวยคนนั้นอยู่ ขณะที่เธอนั่งลงที่เก้าอี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าเธอคือใคร กระทั่งพิธีกรเริ่มแนะนำกรรมการ และเมื่อถึงคิว...
“กรรมการท่านสุดท้าย คุณม่านฟ้า ชัยวงศ์” พิธีกรประกาศชื่อและพ่วงด้วยตำแหน่งนางงามรวมถึงปีที่เธอได้ตำแหน่ง
“เป็นนางงามเหรอวะนั่น” เสี่ยต้นถึงกับตาลุกวาว
“เสี่ยไม่กระพริบตาเลยนะครับ ใจเย็นๆ” นายมิ่งแซวอีกครั้ง
“เอ้า! ก็สวย สวยจน... อยากได้” ไม่ได้อยากได้อย่างเดียว เพ้อด้วยสิน่า
“เลือดเจ้าชู้ไม่เคยสลายไปเลย ที่มีอยู่ก็เป็นโหล”
“อันนั้นเล่นๆ ขำๆ แต่คนนี้... มึงไปถามประวัติเลย ลูกเต้าเหล่าใคร”
“หลังเสร็จจากงานนี้ครับเสี่ย เอางานเอาการให้เสร็จก่อน”
“แต่อั้วะอยากได้คนนั้น มึงไปจัดการมาเลย”
“คนแก่ใจร้อนไปได้ครับ ใจเย็นๆ”
“จะให้เย็นไปได้ยังไง มึงเห็นไอ้พวกเฒ่าทั้งหลายจ้องไหมล่ะ ถ้าไม่รีบ ได้ต่อคิวทำยังไง”
“เอาจริงเหรอครับ หรือเอาเล่นๆ”
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่จะเอา เอาไว้ก่อน”
เสี่ยแสดงความเอาแต่ใจออกมาทันที เรียกได้ว่านิสัยอยากได้ต้องได้
ขณะที่ปล่อยให้พิธีการประกวดประขันกันอยู่นั้น มิ่งหล้าลูกน้องมือขวาของเสี่ยต้น ก็ไปสืบเสาะให้ว่าม่านฟ้าคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร และแน่นอนว่าเธอคือคนที่มีชื่ออยู่ไม่น้อย เป็นที่รู้จักในวงการนางงามของจังหวัด
เช่นเดียวกัน เสี่ยต้นก็เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดเหมือนกัน ช่วงเวลาที่การประกวดดำเนินการไป ม่านฟ้ารู้ว่าตัวเองเป็นจุดเด่นมากพอสมควร รู้ว่าใครกำลังมองอยู่ ทำให้เธอปรายตามองไปเรื่อยๆ กระทั่งสบตาเข้ากับผู้ชายที่เจ้าชู้ที่สุดในจังหวัด มากที่สุดในภาคเลยมั้งนั่น ทำให้เธอจ้องเพียงเล็กน้อย ทำหน้านิ่ง ดวงตาดูจองหอง แล้วหันกลับมามองที่เวทีต่อ
ทำให้เสี่ยต้นใจเต้นแรง จะต้องเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ เขาบอกตัวเองเช่นนั้น หลังจากเสร็จงาน เสี่ยต้นก็ใช้อำนาจที่มีแจ้งไปว่า ให้เชิญม่านฟ้ามาที่โต๊ะเพื่อรับซองพิเศษ ซึ่งปกติก็คงจะไม่ได้หรอก แต่เขาจะให้ ใครจะทำไมล่ะ
“เอ่อ ไปที่โต๊ะเหรอคะ” ม่านฟ้าถามอย่างประหม่า
“ค่ะ ท่านขอเชิญคุณฟ้าไปที่โต๊ะ สัก 30 นาที”
“ไม่สะดวกเลยค่ะ”
“นะคะ นี่ผู้มีอิทธิพลเลยนะคะ ถ้าไม่ไปอาจจะไม่โอเค นะคะคุณฟ้า”
“แค่ 30 นาทีนะคะ” ม่านฟ้าต่อรอง
ทำให้เจ้าหน้าที่สาวถึงกับยิ้มออก จากนั้นจึงผายมือเพื่อพาม่านฟ้า ไปยังโต๊ะที่เสี่ยต้นนั่งอยู่ เขาก็นั่งยืดรอเลย เพราะรู้สึกถึงการมีอำนาจบาตรใหญ่เสียเหลือเกิน
“สวัสดีค่ะเจ้าสัว คุณม่านฟ้ามาแล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่บอก ม่านฟ้าจึงย่อตัวลงพร้อมกับยกมือไหว้ เสี่ยต้นก็รับไหว้ในทันที สายตาเยิ้มแพรวพราวออกนอกหน้า
“คุณฟ้าคะ นี่คือเจ้าสัวตันติวัฒน์ หรือที่เรารู้จักกันดีคือเสี่ยต้น”
“ค่ะ เจ้าสัว”
“เรียกเสี่ยต้นก็ได้จ้ะ หรือทางที่ดี เรียกเฮียก็พอ” เสี่ยต้นแนะนำตัวเองน้ำเสียงอ่อนเสียงหวาน
“งั้นดิฉันขอตัวนะคะ” เจ้าหน้าที่บอก ก่อนจะปลีกตัวไป เพื่อไม่ให้ม่านฟ้าได้ทักท้วง ตอนนี้มีเพียงม่านฟ้ากับเสี่ยต้นนั่งโต๊ะด้วยกันสองต่อสอง ลูกน้องไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว
“เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณฟ้า” เขาเอ่ยขึ้นก่อน ขณะที่ม่านฟ้านั่งหลังตรง หน้าเชิด มองไปเบื้องหน้าของตัวเองไม่มองเขา
“ยินดีเช่นกันค่ะ” เธอตอบกลับเพื่อเป็นมารยาท ครั้นจะเฉยก็ดูจะไม่เหมาะ
“หิวไหมครับ” เสี่ยต้นถาม บ้าบอมาก เขาไม่เคยมาจีบใครแบบนี้เลย มีแต่กระดิกนิ้วเรียกแล้วได้เลย มันก็จะเขินๆ หน่อย