เสี่ยต้น หรือเจ้าสัวตันติวัฒน์ ชื่อนี้ที่สาวๆ การันตีว่าคาสโนว่าที่สุดแห่งภูมิภาค เจ้าพ่อเงินกู้ หนุ่มใหญ่ร้างไร้คนรัก ที่มักจะเอาเรือนร่างของสาวๆ มาขัดดอก เขาไม่เคยมีหัวใจให้ใครง่ายๆ “ซื้อกินสบายใจกว่า” แม้บางคนจะบอกว่าแก่ แต่บอกเลยว่าหล่อ เท่ แซ่บ ทว่าไม่มีใครได้เป็นคุณนายเบอร์ 1 เสียที จนกระทั่งหัวใจของเขาได้เต้นตูมตาม เมื่อเจอสาวสวยลูกสาวกำนันที่การันตีด้วยตำแหน่งนางงาม หนุ่มใหญ่หัวใจว้าวุ่น อยากได้ก็ต้องได้… “ใครมา” “สาวๆ ของคุณ” เธอตอบแบบขอไปที พลางมองยาในกล่อง ไม่ยอมมองหน้าเขา ใบหน้าเธอก็ดูบูดบึ้งชอบกล “เยอะดีนะคะ” “จ้ะ” เขาก็กล้าตอบเช่นกัน เท่านั้นแหละเธอก็ตวัดหางตาขึ้นมองหน้าทันที ยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเสียอีกแต่เธอไม่พูด กลับค่อยๆ เอายาทาป้ายไปตามแขนของเขาแรงๆ “ซี้ดโอ๊ย ฟ้า” เขากับถึงร้องออกมาเลยทีเดียว ยัง ยังไม่พอเธอก็ทาไปตามแก้มและรอยช้ำบนใบหน้าของเขาแรงๆ “โอ๊ยๆ ฟ้าจ๋า เบาๆ” “ยังมีอีกไหมคะเนี่ย” เธอถามไปพลางก็ทายาไปพลาง “น่าจะมาอีก” สิ้นคำเธอก็ทำแรงกว่าเดิม “ซี๊ด! โอ๊ย ฟ้า เฮียเจ็บจริงๆ นะ นี่หึงเหรอเนี่ย” เขาแกล้งแซวแต่ก็เจ็บมากจริงๆ “ถ้าจะมีเยอะขนาดนี้ แล้วยังจะมีหน้าอยากได้ลูกสาวกำนันอีก ใครเขาจะพิศวาส” เธอออกปากบ่น ลมหึงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ “ก็ถ้าลูกสาวกำนันใจอ่อนได้ เฮียก็จะยอมเลิกยุ่งกับทุกคนเลย แต่นี่ลูกสาวกำนันไม่สนใจอ่อนกับเฮียเลยแม้แต่น้อย” เขาพูดพลางหรี่ตามองเธอเล็กน้อย “คุณทำไม่ได้หรอกค่ะฟ้าดูแล้วล่ะ มันอยู่ในสันดาน”
ภายในงาน ประกวดนางงามประจำจังหวัด ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้หลักผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนเข้าร่วมงาน และเป็นสปอนเซอร์ ในงานเฟ้นหาสาวงามประจำจังหวัด แน่นอนว่างานแบบนี้ เต็มไปด้วยหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่อยากเห็นความงามเต็มๆ ตา โดยเฉพาะพวกตาเฒ่า ตาแก่ตัณหากลับก็ยังไม่เว้น รู้กันดีว่าผู้หลักผู้ใหญ่สนใจงานประเภทนี้ กะไว้ประดับบารมีสักคน
พิธีกรเริ่มงาน ด้วยการกล่าวต้อนรับแขกคนสำคัญทั้งหมด จังหวะเดียวกันนั้น กรรมการผู้ร่วมตัดสินผู้มีความรู้หลากหลายแขนง ได้เดินมานั่งด้านหน้า หนึ่งในนั้นก็นางงามอดีตมาร่วมตัดสิน
หญิงสาวใบหน้าสวยเฉี่ยว ผมดัดลอน สวมมุงกฎ และมาในชุดราตรีสีครีมปักเลื่อมทั้งตัว เดินสว่างวาบมาพร้อมกับผู้ติดตามขนาบข้าง แสงไฟสปอทไลต์สาดไปหาเธอเป็นหลัก ราวกับต้องมนต์สะกด สปอนเซอร์ใหญ่นั่งที่เก้าอี้วีไอพี หันไปมองคอแทบเคล็ด ตะลึงไปกับความสวยแทบอ้าปากค้าง หนวดกระดิกเลยเชียว
“แมงวันบินเข้าปากแล้วครับเสี่ย” นายมิ่งลูกน้องคนสนิทแซวขึ้น
ทำเอาเสี่ยต้น หรือเจ้าสัวตันติวัฒน์ถึงกับงับปากเลยทีเดียว แล้วหันมายักคิ้วใส่ลูกน้อง
“ใครวะ อั้วะไปอยู่ไหนมาทำไมเพิ่งเห็น” เสี่ยต้นเอ่ยถามขึ้น ตายังคงมองไปสาวสวยคนนั้นอยู่ ขณะที่เธอนั่งลงที่เก้าอี้ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าเธอคือใคร กระทั่งพิธีกรเริ่มแนะนำกรรมการ และเมื่อถึงคิว...
“กรรมการท่านสุดท้าย คุณม่านฟ้า ชัยวงศ์” พิธีกรประกาศชื่อและพ่วงด้วยตำแหน่งนางงามรวมถึงปีที่เธอได้ตำแหน่ง
“เป็นนางงามเหรอวะนั่น” เสี่ยต้นถึงกับตาลุกวาว
“เสี่ยไม่กระพริบตาเลยนะครับ ใจเย็นๆ” นายมิ่งแซวอีกครั้ง
“เอ้า! ก็สวย สวยจน... อยากได้” ไม่ได้อยากได้อย่างเดียว เพ้อด้วยสิน่า
“เลือดเจ้าชู้ไม่เคยสลายไปเลย ที่มีอยู่ก็เป็นโหล”
“อันนั้นเล่นๆ ขำๆ แต่คนนี้... มึงไปถามประวัติเลย ลูกเต้าเหล่าใคร”
“หลังเสร็จจากงานนี้ครับเสี่ย เอางานเอาการให้เสร็จก่อน”
“แต่อั้วะอยากได้คนนั้น มึงไปจัดการมาเลย”
“คนแก่ใจร้อนไปได้ครับ ใจเย็นๆ”
“จะให้เย็นไปได้ยังไง มึงเห็นไอ้พวกเฒ่าทั้งหลายจ้องไหมล่ะ ถ้าไม่รีบ ได้ต่อคิวทำยังไง”
“เอาจริงเหรอครับ หรือเอาเล่นๆ”
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่จะเอา เอาไว้ก่อน”
เสี่ยแสดงความเอาแต่ใจออกมาทันที เรียกได้ว่านิสัยอยากได้ต้องได้
ขณะที่ปล่อยให้พิธีการประกวดประขันกันอยู่นั้น มิ่งหล้าลูกน้องมือขวาของเสี่ยต้น ก็ไปสืบเสาะให้ว่าม่านฟ้าคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร และแน่นอนว่าเธอคือคนที่มีชื่ออยู่ไม่น้อย เป็นที่รู้จักในวงการนางงามของจังหวัด
เช่นเดียวกัน เสี่ยต้นก็เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดเหมือนกัน ช่วงเวลาที่การประกวดดำเนินการไป ม่านฟ้ารู้ว่าตัวเองเป็นจุดเด่นมากพอสมควร รู้ว่าใครกำลังมองอยู่ ทำให้เธอปรายตามองไปเรื่อยๆ กระทั่งสบตาเข้ากับผู้ชายที่เจ้าชู้ที่สุดในจังหวัด มากที่สุดในภาคเลยมั้งนั่น ทำให้เธอจ้องเพียงเล็กน้อย ทำหน้านิ่ง ดวงตาดูจองหอง แล้วหันกลับมามองที่เวทีต่อ
ทำให้เสี่ยต้นใจเต้นแรง จะต้องเอามาเป็นของตัวเองให้ได้ เขาบอกตัวเองเช่นนั้น หลังจากเสร็จงาน เสี่ยต้นก็ใช้อำนาจที่มีแจ้งไปว่า ให้เชิญม่านฟ้ามาที่โต๊ะเพื่อรับซองพิเศษ ซึ่งปกติก็คงจะไม่ได้หรอก แต่เขาจะให้ ใครจะทำไมล่ะ
“เอ่อ ไปที่โต๊ะเหรอคะ” ม่านฟ้าถามอย่างประหม่า
“ค่ะ ท่านขอเชิญคุณฟ้าไปที่โต๊ะ สัก 30 นาที”
“ไม่สะดวกเลยค่ะ”
“นะคะ นี่ผู้มีอิทธิพลเลยนะคะ ถ้าไม่ไปอาจจะไม่โอเค นะคะคุณฟ้า”
“แค่ 30 นาทีนะคะ” ม่านฟ้าต่อรอง
ทำให้เจ้าหน้าที่สาวถึงกับยิ้มออก จากนั้นจึงผายมือเพื่อพาม่านฟ้า ไปยังโต๊ะที่เสี่ยต้นนั่งอยู่ เขาก็นั่งยืดรอเลย เพราะรู้สึกถึงการมีอำนาจบาตรใหญ่เสียเหลือเกิน
“สวัสดีค่ะเจ้าสัว คุณม่านฟ้ามาแล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่บอก ม่านฟ้าจึงย่อตัวลงพร้อมกับยกมือไหว้ เสี่ยต้นก็รับไหว้ในทันที สายตาเยิ้มแพรวพราวออกนอกหน้า
“คุณฟ้าคะ นี่คือเจ้าสัวตันติวัฒน์ หรือที่เรารู้จักกันดีคือเสี่ยต้น”
“ค่ะ เจ้าสัว”
“เรียกเสี่ยต้นก็ได้จ้ะ หรือทางที่ดี เรียกเฮียก็พอ” เสี่ยต้นแนะนำตัวเองน้ำเสียงอ่อนเสียงหวาน
“งั้นดิฉันขอตัวนะคะ” เจ้าหน้าที่บอก ก่อนจะปลีกตัวไป เพื่อไม่ให้ม่านฟ้าได้ทักท้วง ตอนนี้มีเพียงม่านฟ้ากับเสี่ยต้นนั่งโต๊ะด้วยกันสองต่อสอง ลูกน้องไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว
“เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณฟ้า” เขาเอ่ยขึ้นก่อน ขณะที่ม่านฟ้านั่งหลังตรง หน้าเชิด มองไปเบื้องหน้าของตัวเองไม่มองเขา
“ยินดีเช่นกันค่ะ” เธอตอบกลับเพื่อเป็นมารยาท ครั้นจะเฉยก็ดูจะไม่เหมาะ
“หิวไหมครับ” เสี่ยต้นถาม บ้าบอมาก เขาไม่เคยมาจีบใครแบบนี้เลย มีแต่กระดิกนิ้วเรียกแล้วได้เลย มันก็จะเขินๆ หน่อย
ต้าเฉิน มีคำสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เขาตกหลุมรัก เป็นความรักอันแสนบริสุทธิ์ ที่ไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาให้ได้ยิน จนถึงเวลาที่ต้องไปจากเธอ โดยที่ไม่บอกเธอสักคำ ทิ้งไว้แต่เพียงแหวนเพชรพร้อมกับคำสัญญาที่ว่า "รอพี่นะตัวเล็ก" อีก 6 เดือนเขาจะกลับมา หากใจเธอยังมีเขาอยู่ให้สวมแหวนวงนี้เอาไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย เมื่อกลับมาเขาจะเห็นและจะมอบคำว่ารักให้เธอ แต่... ชะตามันช่างเล่นตลก ทำให้คำว่ารักที่เตรียมเอาไว้ให้เธอ กลับกลายเป็นความแค้นและความตายที่เขากำลังจะส่งให้ เธอ... อลิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวมาเฟีย เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาเอาเธอมาทรมานให้สาแก่ใจและปล่อยให้ตายไปทีละนิด แต่มันไม่ง่ายเมื่อเธอคือคนที่มาเฟียรัก และเฝ้ารอมาตลอดหลายเดือน แทนที่เขาจะได้ทรมานเธอ แต่กลับเป็นเธอ... ที่ทรมานให้เขาคุ้มคลั่งแทน “คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอตัดสินใจถาม ในเมื่อเขาก็ออกตัวว่าไม่ใช่คนที่เธอคิดถึง “ความตาย!!! แต่ก่อนตาย มาตกนรกกับผมก่อน” จบคำ เขาก็กระชากเธอแรงๆ จนแทบจะตัวปลิว
แสงเหนือ เจ้าของฟาร์มวัวนม เป็นคนดุ ทำแต่งาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และเกลียดเด็ก! แต่กลับถูกขอร้องให้ช่วยดูแลลูกสาวของเพื่อน และใช่... คิดว่าสามขวบ ที่ไหนได้ยี่สิบสองต่างหาก นี่เวลาผ่านไปเร็วอะไรเบอร์นี้ แต่เขายังหล่อ รวย โสดอยู่เลย กับคำขอร้องของเพื่อนรุ่นพี่ ให้ดัดนิสัยลูกสาวให้แต่เขาปฏิเสธหัวชนฝา ไม่เอาเด็ดขาด แต่ความจริงบางอย่าง ทำให้เขาต้องช่วยเหลือและปฏิเสธไม่ได้ แคท หรือแคทรียา ลูกสาวท่านนายพลจากเมืองกรุงฯ ต้องจากบ้านอันแสนสุขสบาย ไปเลี้ยงวัว ล้างขี้วัว ตากแดดหน้าดำ เพื่อ... เพื่อหนีไอ้เฒ่าหัวงูหื่นกามที่มารดาสรรหามาให้ จะฟังพ่อหรือฟังแม่ก็เลือกเอา แน่นอนเธอเลือกฟังพ่อ แต่หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะแค่วันแรก... ก็ทำเอาใจเหลวเป็นน้ำเพราะเจ้าของฟาร์มดันอวดสาขาใหญ่ให้เธอใจเต้น...
หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
One night stand คำที่ นิโคไล แอนตัน มหาเศรษฐีเพลย์บอย เลือกมาใช้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและ มีความสุขแบบไร้ข้อผูกมัด แต่แล้วค่ำคืนที่แสนหฤหรรษ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะผู้หญิงแปลกหน้าที่ทำให้เขาพอใจตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอกลับทำร้ายเขาเพราะความเข้าใจผิด ทำให้ได้อับอายต่อสายตานับร้อยคู่ เพียงคำขอโทษเท่านั้นที่เขาต้องการ ทว่าไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะดันเจอกับผู้หญิง หัวแข็ง ปากร้ายและดื้อ ทางเดียวที่จะกำราบและให้เธออยู่ในอ้อมกอดอันแน่นหนาของเขาได้ นั่นคือขังเธอเอาไว้เสียเลย พร้อมกับข้อตกลงเพียงข้อเดียว ดินเนอร์แล้วจบ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้ ไอลดาต้องหนีความรู้สึกผิดต่อตัวเอง และหนีจากความทรงจำคืนเดียวที่แสนวาบหวาม หอบกายใจที่เต็มไปด้วยรอยรักจากชายแปลกหน้ากลับประเทศไทย แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ใช่แค่รอยรักที่ติดตัว มาด้วยเท่านั้น หากแต่เป็นพยานรักที่ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่รู้มาก่อน จนกระทั่งได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอต้องหนีใจตัวเองและปกปิดความลับบางอย่างไม่ให้เขารู้ว่า พยานรักตัวน้อยเป็น “ลูกใคร”
ของขวัญ กลายเป็นคนไวต่อความรู้สึก นับตั้งแต่สัมผัสร้อนรุ่มในคืนอัปยศนั้นเป็นต้นมา ทุกค่ำคืนเธอเอาแต่นอนฝันถึงเงาปริศนา ที่มอบรอยจูบบนร่องรัก มือของเธอคือสิ่งที่ช่วยให้ปลดปล่อยจากความปรารถนา ราวกับต้องคำสาป พอคิดถึงเงานั้น ก็ทำให้ร่องรักแฉะไปด้วยน้ำหวาน จนต้องช่วยตัวเองทุกคืน ทว่าเธอไม่ยอมมีแฟน ไม่คบใคร หัวใจเจ้ากรรมเฝ้าแต่ถวิลหาสัมผัสนั้นด้วยความทรมาน แต่เขารังแกเธอ เธอควรเกลียดและสาปแช่ง อธิษฐานขอให้ได้เจอสักวัน แล้วเธอจะเอาคืนให้สาสม ทว่าเธอจะเป็นฝ่ายเอาคืน หรือเขาจะเป็นฝ่าย เอา... กันแน่
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ