ต้าเฉิน มีคำสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่เขาตกหลุมรัก เป็นความรักอันแสนบริสุทธิ์ ที่ไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาให้ได้ยิน จนถึงเวลาที่ต้องไปจากเธอ โดยที่ไม่บอกเธอสักคำ ทิ้งไว้แต่เพียงแหวนเพชรพร้อมกับคำสัญญาที่ว่า "รอพี่นะตัวเล็ก" อีก 6 เดือนเขาจะกลับมา หากใจเธอยังมีเขาอยู่ให้สวมแหวนวงนี้เอาไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย เมื่อกลับมาเขาจะเห็นและจะมอบคำว่ารักให้เธอ แต่... ชะตามันช่างเล่นตลก ทำให้คำว่ารักที่เตรียมเอาไว้ให้เธอ กลับกลายเป็นความแค้นและความตายที่เขากำลังจะส่งให้ เธอ... อลิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวมาเฟีย เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต เขาเอาเธอมาทรมานให้สาแก่ใจและปล่อยให้ตายไปทีละนิด แต่มันไม่ง่ายเมื่อเธอคือคนที่มาเฟียรัก และเฝ้ารอมาตลอดหลายเดือน แทนที่เขาจะได้ทรมานเธอ แต่กลับเป็นเธอ... ที่ทรมานให้เขาคุ้มคลั่งแทน “คุณต้องการอะไรจากฉัน” เธอตัดสินใจถาม ในเมื่อเขาก็ออกตัวว่าไม่ใช่คนที่เธอคิดถึง “ความตาย!!! แต่ก่อนตาย มาตกนรกกับผมก่อน” จบคำ เขาก็กระชากเธอแรงๆ จนแทบจะตัวปลิว
จอมทัพ หรือชื่อเล่น ต้าเฉิน เจ้าของกาสิโนในต่างประเทศ และเป็นเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวในเมืองไทย 1 แห่ง เขาเป็นลูกครึ่งเสี้ยว บิดาเป็นชาวไต้หวันลูกครึ่งอเมริกัน และแม่เป็นคนไทย จึงสามารถมีธุรกิจที่ต่างประเทศได้ วันนี้เข้ากลายเป็นเจ้าของทั้งหมด เพราะทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิต ต้องบินไปกลับไต้หวันเมืองไทย และอเมริกาเป็นว่าเล่น มาเมืองไทยคราวละเป็นเดือน
แต่ไปเมืองนอกคราวละหลายๆ เดือนเช่นกัน ทว่ารอบนี้แทนที่เขาจะได้มาตรวจงานที่เมืองไทยอย่างเดียว กลับต้องมาจัดพิธีศพน้องสาว ที่เขาต้องดูแลแทนพ่อกับแม่ตั้งแต่ ม.6 ยันเรียนจบปริญญา ไม่รู้เพราะปัญหาชีวิตที่ไม่เคยปรึกษาพี่ชายคนนี้ ส่งผลให้เธอเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า จึงทำให้ต้าเอสจบชีวิตลงที่คอนโดมิเนี่ยม
ภายในพิธีศพถูกจัดขึ้นที่มูลนิธิ ไทย- จีน โดยมีจอมทัพเป็นเจ้าของมูลนิธิ เป็นผู้นำและคอยให้ความช่วยเหลือเหล่าคนไทยเชื้อสายจีนมาโดยตลอด ซึ่งมูลนิธิตั้งอยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านนั่นเอง แขกเหรื่อหมุนเวียนกันเขามาร่วมงานทั้งวัน จอมทัพและลูกน้องก็ปลีกตัวมารับแขก แต่ถึงกระนั้นก็แทบจะไม่เชิญใคร
รับรู้กันเฉพาะคนรู้จักกันแค่ระแวกใกล้ๆ ก็พอ เพราะการตายของต้าเอส มันนำมาซึ่งแต่คำติฉินนินทา มันเป็นที่เสื่อมเสียแม้ว่าเขาจะไม่แคร์ก็ตาม แต่ไม่อยากให้ใครมาว่าน้องสาวแบบนั้น จึงอยากทำแบบเงียบๆ ไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โต
คนมาร่วมงานก็แค่อยากจะมาใส่ใจ เรื่องการตายของต้าเอสเท่านั้น และคงรู้กันหมดแล้วล่ะ จอมทัพคิด พลางเดินเข้าไปในงานพร้อมด้วยลูกน้องนับสิบคน ทุกคนอยู่ในชุดสูทสีดำทั้งหมด แต่เขาค่อนข้องโดดเด่นที่สุดเพราะเป็นนายใหญ่ ผิวขาวแบบคนไทยเชื้อสายจีน สูงใหญ่แบบฝรั่ง จมูกโด่งปากกระจับชมพู แต่ดวงตาเล็กตี๋แบบเอเชีย แต่นัยตาสีน้ำตาลอ่อน จอมทัพเดินผ่านแขกที่กำลังนั่งกินโจ๊ก หลังจากที่มาไหว้เสร็จพอดี จังหวะนั้นเสียงนินทาก็ดังเข้าหู
“เพิ่งได้ข่าวว่า พี่ชายของคนที่ตาย เป็นมาเฟียอยู่ใต้หวันด้วยนี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย” เสียงแขกคนหนึ่งกระซิบกัน ตามปกติ แต่ไม่มีใครรู้จักจอมทัพ ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เพราะเขาไม่เคยเปิดเผยตัว แทบจะไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าต้าเอสมีพี่ชาย เพราะหญิงสาวขอไปใช้ชีวิตเพียงลำพังอย่างคนหัวสมัยใหม่ รักอิสระ แต่พอตายมาดันเป็นข่าวดังเสียอีก
“ระดับมาเฟียขนาดนี้ ดันปล่อยให้น้องสาวเป็นไปเป็นเมียน้อยอ่ะเนอะ” เสียงนินทาก็ดังขึ้นอีกและมันก็เล็ดลอดเข้าหูจอมทัพ เพราะถ้าตั้งใจฟังมันก็ได้ยิน
“แหมความรัก มันไม่เข้าใครออกใครนี่น่า” คำนินทายังพ่นออกมาจากปากมนุษย์ป้าไม่หยุด แน่นอนว่าใครนินทาจอมทัพจะได้ยินชัดกว่าปกติ ขณะเดินผ่าน เขาตวัดหางตามองไปที่คนกลุ่มนั้น สายตาเย็นชา แต่น่าเกรงขามพร้อมกับบุคลิกเยื้องย่างอย่างมังกรอันแสนสง่าผ่าเผย ทำให้คนนินทาถึงกับตาด้วยอาการตาโต ก่อนจะก้มหน้าก้มตา แล้วจอมทัพก็เดินเข้าไปในงานตามปกติ แต่คล้อยหลังเสียงซุบซิบก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เพราะแขกบางคนเพิ่งจะมาวันนี้ และก็ยังคงไม่รู้ว่าจอมทัพอยู่ในงาน เพราะคิดแต่เพียงว่าเป็นแขกผู้ใหญ่มาเท่านั้น
“พี่ชายคนที่ตายน่ะ เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากไต้หวันด้วย” มนุษย์ป้าอีกคนเอ่ยขึ้น
“ใช่ๆ เขาว่าไปดูธุรกิจที่ฮ่องกง ใต้หวัน อเมริกา แล้วกลับมาไม่ทันน้องตาย ใครเป็นต้นเหตุการตายน่ะ เตรียมตัวเลย พวกนี้สายโหดด้วยนะคะ” มนุษย์ป้าอีกคนแทรกขึ้น
“แหม มาเฟียมีอิทธิพลในฮ่องกงใต้หวันขนาดนี้ มันต้องโหดสิคะ แล้วนี่ปล่อยให้น้องเป็นไปเมียน้อยเขาได้ล่ะเนี่ย ข่าวรู้กันทั่วทุกสำนักแล้วมั้ง นี่น่าจะฆ่าตัวตายเพราะอับอายล่ะสิท่า”
“อะแฮ่ม! เอ่อ ขอโทษครับ เผื่อจะไม่ทราบว่า... คุณจอมทัพ หรือคุณต้าเฉินอยู่ในงาน” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น เพื่อจะได้หยุดการสนทนาของทุกคน ไม่งั้นจะสนุกกว่านี้ พร้อมกับส่งสัญญาณบอกกลุ่มที่กำลังนินทาเจ้านาย ให้หันไปมองจอมทัพ ซึ่งกำลังเคารพศพน้องสาวอยู่
“เอ่อ เอ่อคือ นะ นะ นั่นเหรอคะ” มนุษย์ป้าขี้นินทาเอ่ยถามเสียงสั่น
“นึกว่าผู้หลักผู้ใหญ่นักการเมืองซะอีก”
“พี่ชายครับ พี่ชายคุณต้าเอส” เขาย้ำอีกครั้งชัดๆ เน้นๆ
“จะเข้าไปทักทายท่านหน่อยไหมครับ” ชายหนุ่มบอกอีกครั้ง ทำเอาป้าๆ ทั้งหลายถึงกับหุบปากแล้วก้มหน้ากินโจ๊กต่อ เวลาเดียวกันนั้นแขกที่เป็นเครือญาติ หรือคนไทยเชื้อสายจีนด้วยกันก็ต่างทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้จอมทัพต้องออกไปต้องรับด้วยตัวเอง
“คนน้อยจังเลยคุณเฉิน” แขกผู้ใหญ่ท่านหนึ่งถามน้ำเสียงหม่นพลางมองไปรอบๆ
“ก็มีแต่พี่น้องเราครับ แล้วก็คนรู้จักใกล้ๆ กัน ผมแทบไม่อยากจะให้เป็นข่าวด้วยซ้ำ” จอมทัพเอ่ยเสียงกดต่ำเรียบๆ แต่หม่นเพราะความเศร้า พลางยืนนิ่งๆ มองไปยังแขกเหรื่อในงาน
“อาเสียใจด้วยนะเรื่องหนูเอส กะทันหันมาก ไม่คิดว่า...”
“ครับ ไม่เป็นไร” จอมทัพรีบแทรกขึ้นทันที และยิ่งหม่นหนักเข้าไปอีกเมื่อต้องนึกถึงการจากไปของน้องสาว จนแขกผู้ใหญ่ท่านนี้ถึงกับเอามือลูบหลังเบาๆ เพราะรู้ว่าจอมทัพอดกลั้นความเสียใจเอาไว้อย่างหนัก นั่นก็เพราะว่าภายนอก จอมทัพเป็นคนที่โคตรแกร่ง เจ็บปวดเสียใจเพียงใดทำได้แค่นิ่ง เพื่อกดตัวเองให้อยู่ภายใต้ความน่าเกรงขาม ฉะนั้นเวลาเสียใจจึงทำได้แค่กัดฟันทน แม้ในหัวใจจะเจ็บปวด แหลกสลายแค่ไหนก็ตาม ฉากหน้าทุกคนจะได้เห็นแต่เพียงความเข้มแข็งดุดัน จะว่าจะแข็งกระด้างตามฉบับของมาเฟียก็ได้ ไม่มีแม้แต่หยดน้ำตา
“เชิญคุณอาด้านในดีกว่าครับ” จอมทัพสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับตัดบท แล้วผายมือเชิญแขกผู้ใหญ่เข้าไปด้านในเพื่อเคารพศพ จากนั้นเขาก็ยืนต้อนรับแขกไปเรื่อยๆ บางคนก็ไม่กล้าเข้ามาคุยด้วยรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร หรือแค่เขายืนเฉยๆ บวกกับสายตาอันแสนเย็นชาก็น่าเกรงขามเกินพอแล้ว อย่าต้องให้คุยเลย โดยเฉพาะกลุ่มที่นินทายิ่งไม่กล้าสบตาเลยด้วยซ้ำ
“คุณท่านครับ ไปนั่งกับแขกผู้ใหญ่ก่อนไหมคครับ” ลูกน้องคนหนึ่งถามขึ้น
“ฉันไม่อยากคุยกับใครตอนนี้” จอมทัพตอบเสียงกดต่ำ
“ผมเข้าใจความรู้สึกครับ” ลูกน้องตอบ แต่จอมทัพก็ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปงานอีกครั้ง เหมือนจะไปสมทบกับญาติๆ แต่ลูกน้องคนหนึ่งก็เดินมากระซิบจากทางด้านหลังพอดี
“คุณท่านครับ ผมลากตัวมันมาแล้ว” เสียงกระซิบจากคนสนิทเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่น้ำเสียงเหี้ยม ทำให้จอมทัพชะงักฝีเท้าที่กำลังเดิน สีหน้าเรียบเฉย แต่แววตามีความดุดันเกรี้ยวกราด เมื่อได้ยินเช่นนั้นสันกรามก็ขบกันแน่นจนเห็นเส้นเลือดนูน
“คนที่หนึ่ง” เจ้านายเอ่ยคล้ายกับจะถาม
“ครับคนที่หนึ่ง อยู่หลังห้องประชุม” เมื่อได้ยินดังนั้นเจ้านายหนุ่มจึงหันไปกลับมองหน้าลูกน้องมือขวาที่ชื่อโจว์
“ให้คนของเราส่วนหนึ่ง ดูแลแขกในงานจนกว่าจะเสร็จ” จอมทัพบอกเสียงเรียบและเบา
“ครับ” คนสนิทรับคำ จากนั้นจอมทัพไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ทว่ากลับเดินออกจากงานไปอย่างช้าๆ ฝีเท้าหนักแน่น เยื้องย่างสง่าน่าเกรงขาม ปรายตามองแขกในงานเล็กน้อย กระทั่งเดินพ้นออกไป
เสี่ยต้น หรือเจ้าสัวตันติวัฒน์ ชื่อนี้ที่สาวๆ การันตีว่าคาสโนว่าที่สุดแห่งภูมิภาค เจ้าพ่อเงินกู้ หนุ่มใหญ่ร้างไร้คนรัก ที่มักจะเอาเรือนร่างของสาวๆ มาขัดดอก เขาไม่เคยมีหัวใจให้ใครง่ายๆ “ซื้อกินสบายใจกว่า” แม้บางคนจะบอกว่าแก่ แต่บอกเลยว่าหล่อ เท่ แซ่บ ทว่าไม่มีใครได้เป็นคุณนายเบอร์ 1 เสียที จนกระทั่งหัวใจของเขาได้เต้นตูมตาม เมื่อเจอสาวสวยลูกสาวกำนันที่การันตีด้วยตำแหน่งนางงาม หนุ่มใหญ่หัวใจว้าวุ่น อยากได้ก็ต้องได้… “ใครมา” “สาวๆ ของคุณ” เธอตอบแบบขอไปที พลางมองยาในกล่อง ไม่ยอมมองหน้าเขา ใบหน้าเธอก็ดูบูดบึ้งชอบกล “เยอะดีนะคะ” “จ้ะ” เขาก็กล้าตอบเช่นกัน เท่านั้นแหละเธอก็ตวัดหางตาขึ้นมองหน้าทันที ยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเสียอีกแต่เธอไม่พูด กลับค่อยๆ เอายาทาป้ายไปตามแขนของเขาแรงๆ “ซี้ดโอ๊ย ฟ้า” เขากับถึงร้องออกมาเลยทีเดียว ยัง ยังไม่พอเธอก็ทาไปตามแก้มและรอยช้ำบนใบหน้าของเขาแรงๆ “โอ๊ยๆ ฟ้าจ๋า เบาๆ” “ยังมีอีกไหมคะเนี่ย” เธอถามไปพลางก็ทายาไปพลาง “น่าจะมาอีก” สิ้นคำเธอก็ทำแรงกว่าเดิม “ซี๊ด! โอ๊ย ฟ้า เฮียเจ็บจริงๆ นะ นี่หึงเหรอเนี่ย” เขาแกล้งแซวแต่ก็เจ็บมากจริงๆ “ถ้าจะมีเยอะขนาดนี้ แล้วยังจะมีหน้าอยากได้ลูกสาวกำนันอีก ใครเขาจะพิศวาส” เธอออกปากบ่น ลมหึงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ “ก็ถ้าลูกสาวกำนันใจอ่อนได้ เฮียก็จะยอมเลิกยุ่งกับทุกคนเลย แต่นี่ลูกสาวกำนันไม่สนใจอ่อนกับเฮียเลยแม้แต่น้อย” เขาพูดพลางหรี่ตามองเธอเล็กน้อย “คุณทำไม่ได้หรอกค่ะฟ้าดูแล้วล่ะ มันอยู่ในสันดาน”
แสงเหนือ เจ้าของฟาร์มวัวนม เป็นคนดุ ทำแต่งาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และเกลียดเด็ก! แต่กลับถูกขอร้องให้ช่วยดูแลลูกสาวของเพื่อน และใช่... คิดว่าสามขวบ ที่ไหนได้ยี่สิบสองต่างหาก นี่เวลาผ่านไปเร็วอะไรเบอร์นี้ แต่เขายังหล่อ รวย โสดอยู่เลย กับคำขอร้องของเพื่อนรุ่นพี่ ให้ดัดนิสัยลูกสาวให้แต่เขาปฏิเสธหัวชนฝา ไม่เอาเด็ดขาด แต่ความจริงบางอย่าง ทำให้เขาต้องช่วยเหลือและปฏิเสธไม่ได้ แคท หรือแคทรียา ลูกสาวท่านนายพลจากเมืองกรุงฯ ต้องจากบ้านอันแสนสุขสบาย ไปเลี้ยงวัว ล้างขี้วัว ตากแดดหน้าดำ เพื่อ... เพื่อหนีไอ้เฒ่าหัวงูหื่นกามที่มารดาสรรหามาให้ จะฟังพ่อหรือฟังแม่ก็เลือกเอา แน่นอนเธอเลือกฟังพ่อ แต่หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะแค่วันแรก... ก็ทำเอาใจเหลวเป็นน้ำเพราะเจ้าของฟาร์มดันอวดสาขาใหญ่ให้เธอใจเต้น...
หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
One night stand คำที่ นิโคไล แอนตัน มหาเศรษฐีเพลย์บอย เลือกมาใช้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและ มีความสุขแบบไร้ข้อผูกมัด แต่แล้วค่ำคืนที่แสนหฤหรรษ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะผู้หญิงแปลกหน้าที่ทำให้เขาพอใจตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอกลับทำร้ายเขาเพราะความเข้าใจผิด ทำให้ได้อับอายต่อสายตานับร้อยคู่ เพียงคำขอโทษเท่านั้นที่เขาต้องการ ทว่าไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะดันเจอกับผู้หญิง หัวแข็ง ปากร้ายและดื้อ ทางเดียวที่จะกำราบและให้เธออยู่ในอ้อมกอดอันแน่นหนาของเขาได้ นั่นคือขังเธอเอาไว้เสียเลย พร้อมกับข้อตกลงเพียงข้อเดียว ดินเนอร์แล้วจบ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้ ไอลดาต้องหนีความรู้สึกผิดต่อตัวเอง และหนีจากความทรงจำคืนเดียวที่แสนวาบหวาม หอบกายใจที่เต็มไปด้วยรอยรักจากชายแปลกหน้ากลับประเทศไทย แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ใช่แค่รอยรักที่ติดตัว มาด้วยเท่านั้น หากแต่เป็นพยานรักที่ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่รู้มาก่อน จนกระทั่งได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอต้องหนีใจตัวเองและปกปิดความลับบางอย่างไม่ให้เขารู้ว่า พยานรักตัวน้อยเป็น “ลูกใคร”
ของขวัญ กลายเป็นคนไวต่อความรู้สึก นับตั้งแต่สัมผัสร้อนรุ่มในคืนอัปยศนั้นเป็นต้นมา ทุกค่ำคืนเธอเอาแต่นอนฝันถึงเงาปริศนา ที่มอบรอยจูบบนร่องรัก มือของเธอคือสิ่งที่ช่วยให้ปลดปล่อยจากความปรารถนา ราวกับต้องคำสาป พอคิดถึงเงานั้น ก็ทำให้ร่องรักแฉะไปด้วยน้ำหวาน จนต้องช่วยตัวเองทุกคืน ทว่าเธอไม่ยอมมีแฟน ไม่คบใคร หัวใจเจ้ากรรมเฝ้าแต่ถวิลหาสัมผัสนั้นด้วยความทรมาน แต่เขารังแกเธอ เธอควรเกลียดและสาปแช่ง อธิษฐานขอให้ได้เจอสักวัน แล้วเธอจะเอาคืนให้สาสม ทว่าเธอจะเป็นฝ่ายเอาคืน หรือเขาจะเป็นฝ่าย เอา... กันแน่
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้