เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า“เจียงซุ่ย ทำไมถึงอย่ากับคุณยู่น่ะ” เจียงซุ่ยยิ้ม“เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก” อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที “คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ”
“จินเฉิน วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของพวกเรานะ ฉันเตรียมเซอร์ไพรส์เอาไว้ให้คุณด้วย กลับมาได้ไหม?”
หลังจากส่งข้อความไปแล้ว เจียงซุ่ยจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ รอคอยด้วยความคาดหวัง
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เจียงซุ่ยคอยเปิดโทรศัพท์ดูเป็นครั้งคราว กลัวว่าตัวเองจะพลาดข่าวสารอะไรไป
แต่ก็เหมือนเดิม เธอไม่เคยได้รับการตอบกลับใด ๆ จากยู่จินเฉินเลย
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา เจียงซุ่ยรู้สึกมีความสุขมาก หัวใจเธอพองโตขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ แววตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ
หรือว่า จิ่นเฉินจะกลับมาแล้วเหรอ?
เจียงซุ่ยอดใจรอไม่ไหว รีบไปเปิดประตูทันที
แต่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูกลับไม่ใช่ยู่จินเฉิน แต่เป็นบอดี้การ์ดชุดดำของเขาแทน
“คุณผู้หญิง เชิญคุณไปโรงพยาบาลด้วยครับ” หัวหน้าบอร์ดี้การ์ดพูดขึ้นมา
เจียงซุ่ยตกใจ เธอถอยหลังไปเล็กน้อย แต่ก็ยังถูกคนเข้ามาล็อคตัว แล้วก็ลากเธอไปขึ้นรถจนได้
ตลอดทาง ไม่ว่าเธอจะถามอะไร พวกเขาก็ไม่ให้คำตอบเธอเลยสักอย่าง
แล้วรถก็ขับมาถึงโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว
บอร์ดี้การ์ดชุดดำพาเจียงซุ่ยไปยังหน้าห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง แล้วก็ผลักเธอไปติดกับกำแพง
เจียงซุ่ยยืนพิงกำแพงนิ่งอยู่ในสภาพน่าอนาถ เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นยู่โหล น้องสาวของสามีเธอกำลังมองมาที่เธออย่างไม่สบอารมณ์
“ทำไมมาช้าขนาดนี้ล่ะ?”
หัวใจของเจียงซุ่ยเหมือนดิ่งลงไปในเหวลึกทันที “โหลโหล ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? แล้วทำไมจู่ ๆ บอดี้การ์ดพวกนั้นถึงพาฉันมาที่นี่ล่ะ จินเฉินป่วยเหรอ?”
ยู่โหลมองเธอด้วยสายตารังเกียจ แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างตามเรื่องตามราวว่า “พี่ฉันไม่ได้ป่วยหรอก แต่เป็นเพราะไตของเธอกับพี่เมิ่งหนิงเข้ากันได้ดีต่างหากล่ะ วันนี้ ที่ฉันพาเธอมาที่นี่ ก็เพื่อให้เธอบริจาคไตให้พี่เมิ่งหนิงไง”
“อะไรนะ?” เจียงซุ่ยตัวแข็งทื่อ เธอพูดออกมาด้วยความยากลำบากว่า “... นี่คือสิ่งที่จินเฉินต้องการงั้นเหรอ?”
แต่งงานกันมาสามปี เธอรู้มาโดยตลอดว่าในใจของยู่จินเฉินมีแต่เสิ่นเมิ่งหนิงเท่านั้น ตอนที่เสิ่นเมิ่งหนิงป่วย และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศนั้น เขาก็มักบินไปเยี่ยมเธอบ่อยครั้ง บ้านเขาก็ไม่ได้กลับ เมื่อเสิ่นเมิ่งหนิงกลับมา เขาก็รับเธอกลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วก็คอยดูแลเธอด้วยตัวเอง
แต่เจียงซุ่ยก็ยังคงหวังว่า สักวันหนึ่งสามีของเธอจะเห็นความดีของเธอบ้าง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงคอยดูแลเรื่องงานบ้านทั้งหมด แล้วก็คอยปรนนิบัติรับใช้คนในครอบครัวเขาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งเธอก็ยอมทุ่มสุดตัวทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ
แต่ครั้งนี้ เขากลับต้องการที่จะช่วยชีวิตของเสิ่นเมิ่งหนิงไว้ ด้วยการเอาไตของเธอไปข้างหนึ่งเนี่ยนะ?
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ
ยู่โหลหลบสายตาของเธอเล็กน้อย จากนั้นก็ทำตัวหยิ่งผยองมากขึ้น “แน่นอนสิ! คนที่พี่ชายของฉันชอบก็คือพี่เมิ่งหนิง ไม่ใช่เธอ! ตอนแรก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่ารีบร้อนอยากจะอุ้มหลาน แล้วพี่เมิ่งหนิงต้องไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ พี่ชายของฉันจะแต่งงานกับคุณแบบส่งเดชไปทำไมล่ะ ไม่เช่นนั้น เด็กกำพร้าที่มาจากชนบทอย่างเธอ จะเข้ามาอยู่ในตระกูลยู่ได้ยังไง!”
เจียงซุ่ยมองดูริมฝีปากของเธอที่ขยับไปมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แต่สิ่งที่ยู่โหลพูดนั้น เธอกลับได้ยินไม่ชัด ราวกับว่ายู่โหลพูดมาจากอีกโลกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นแหละ
ยู่โหลเอามือทั้งสองข้างกอดอกเอาไว้ “เธอแต่งงานเข้ามาตั้งสามปีแล้ว แต่กลับยังไม่มีลูกสักคน แถมเรื่องอาหารการกินหรือเรื่องงานบ้าน เธอก็เทียบกับสาวใช้ไม่ติดเลยสักนิด ตอนนี้ถึงเวลาที่จะได้ทำตัวให้มีประโยชน์แล้ว ก็ช่วยรู้จักหน้าที่ด้วย ยอมให้ความร่วมมือ บริจาคไตให้กับพี่เมิ่งหนิงดี ๆ พี่ชายของฉันจะไม่ทำให้เธอเสียเปรียบแน่ มิฉะนั้น หลังจากการรักษาสิ้นสุดลงแล้ว ถ้าพี่ชายของฉันทิ้งเธอไปแต่งงานกับพี่เมิ่งหนิงขึ้นมา เธอก็จะไม่ได้อะไรเลยนะ!”
ตอนที่กำลังจะตอบกลับไป ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อของเจียงซุ่ยก็สั่นขึ้นมา
เธอหยิบมันออกมาดู แล้วก็พบว่าเป็นการแจ้งเตือนการโอนเงินผ่านธนาคาร
“... มีเงินโอนเข้ามา 10,000,000”
ยู่จินเฉินโอนเงินให้เธอสิบล้าน!
นี่คือเงินซื้อไตของเธองั้นเหรอ?
เธอควรต้องรู้สึกเป็นเกียรติไหม ที่ไตของเธอมีค่ามากขนาดนี้?
หัวใจของเจียงซุ่ยราวกับถูกเจาะด้วยเข็มเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ทิ่มแทงเข้ามาจนเลือดไหลชุ่มไปหมด เธอเริ่มรู้สึกร้อย ๆ ที่เบ้าตา มีเพียงแค่ความภูมิใจและความรู้สึกนับถือในตนเองที่เหลืออยู่เท่านั้น ที่ช่วยทำให้เธอไม่ร้องไห้ออกมา
เวลานี้ยู่โหลหมดความอดทนแล้ว เธอกวัดมือเรียกบอดี้การ์ดชุดดำเข้ามา “ดูเธอเอาไว้ให้ดี ฉันจะไปพบหมอก่อน เราจะดำเนินการผ่าตัดทันที อย่าปล่อยให้เธอหนีไปเด็ดขาด”
เธอจงใจพูดเสียงดัง ราวกับว่าเธอกำลังพูดให้เจียงซุยได้ยินโดยเฉพาะ เมื่อพูดจบแล้ว เธอก็จากไปอย่างภาคภูมิใจ
แต่เจียงซุ่ยไม่อยากนั่งรอความตายอยู่เฉย ๆ เธอจึงอาละวาดขึ้นมา ผลักบอร์ดี้การ์ดออก เธอจะไปถามยู่จินเฉินให้มันรู้เรื่องด้วยตัวเธอเอง
เธอเดินโซซัดโซเซ บุกเข้าไปในห้องผู้ป่วย
ในห้องผู้ป่วย เจียงซุ่ยได้เห็นด้วยตาของตัวเองว่า สามีที่เธอคิดถึง กำลังคอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงอีกคนอยู่
เสิ่นเมิ่งหนิงเอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของยู่จินเฉิน ราวกับเธอเป็นกระต่ายน้อยที่น่าสงสารและน่าเอ็นดูมากอย่างไรอย่างนั้นแหละ
ยู่จินเฉินกอดเธอเอาไว้ ปลอบเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “เมิ่งหนิง ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาคุณให้หายดีให้ได้ ผมหาไตที่เหมาะสมได้แล้วนะ คุณกำลังจะหายในไม่ช้านี้แล้ว”
เวลานี้ เจียงซุ่ยรู้สึเหมือนตัวเองตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งที่เย็นสุดหัวใจ
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ