ไอรัก เธอเป็นสาวสวยวัย19ปีที่หุ่นอวบสมส่วนผิวขาวน่ารัก ทว่าเธอถูกเก็บมาเลี้ยงในครอบครัวร่ำรวยที่มีพี่ชายต่างพ่อต่างแม่ถึงสี่คน แล้วเหล่าพี่ชายวัยกลัดมันจะทนความสวยของน้องสาวที่โตขึ้นทุกวันๆจนไม่ล่วงเกินเธอได้หรือ? ในบ้านบ้านหลังใหญ่นี้มีอยู่เจ็ดคนคือไอรักน้องสาวคนเล็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ไออุ่นพี่ชายคนโต ไอเย็นพี่ชายคนรอง ไอคิวพี่ชายคนที่สามไอน้ำพี่ชายคนสุดท้อง และพ่อกับแม่ ไออุ่นเป็นพี่คนโตอายุ27และทำงานในบริษัทของพ่อ เขาอบอุ่น เป็นผู้นำและรักน้องๆ และหล่อเข้มสูงใหญ่ล่ำสันผิวสีแทน ไอเย็นอายุยี่25เขาเป็นคนใจเย็นสุขุม เงียบ ๆ นิ่งๆ และหล่อคมผิวขาวผอมสูง ไอคิวเรียนอยู่มหาลัยปี4เป็นหนุ่มแว่นหน้าหล่อตี๋มาดเด็กเรียนที่ฉลาดและชื่อดังในมหาลัย ไอน้ำเรียนอยู่ปี2เขาเป็นนักกีฬารักบี้ประจำมหาลัยที่ร่าเริงผิวขาวและหล่อล่ำกล้ามใหญ่ มีสาวมาติดพันเขาเยอะเอาเรื่อง ส่วนไอรักน้องสาวคนสวยเรียนอยู่มหาลัยปี1 เธอมีใบหน้าสวยรูปไข่ผิวขาว สูง160และอวบอิ่มสมส่วนไปทุกจุด
ตอน โดนพี่ไออุ่นหลอกจูบ
วันนี้ไอรักต้องไปซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ที่มหาลัย เนื่องจากเป็นวันหยุดแม่เลยสั่งให้ไออุ่นพี่ชายคนโตไปส่งเธอ
"โตเป็นสาวแล้วนะเนี่ยน้องพี่" ไอรักขับรถเก๋งแล้วหันมาเอามือจับแก้มขาวๆนุ่มนิ่มของไอรักบีบเบาๆ
"สาวแล้วหรือคะ หนูอยู่ม.ห้าเอง" ไอรักหันมายิ้มแล้วเอามือเล็กๆดึงมือหนาใหญ่ของพี่ไออุ่นลงจากแก้มของเธอมากุมไว้ที่ตัก
เธอใส่ชุดเชียร์ลีดเดอร์ที่เป็นเสื้อกล้ามรัดรูปและกระโปรงสีฟ้าสั้นๆบานๆจนไออุ่นเห็นขาอ่อนและเนินก้นงอนๆ
บรืน! ๆ ๆ ๆ ๆ ไออุ่นดึงมือกลับมาเข้าเกียร์แล้วขับรถพาไอรักไปที่โรงเรียนมัธยมชื่อดัง
ฮืม! ๆ ๆ ๆ ไอรักเอาแขนวางไว้บนคอลโซนหน้ารถแล้วก้มลงเอาคางวางไว้บนหลังมือแล้วมองไปข้างหน้าพลางร้องเพลงตามวิทยุในรถเสียงแจ๋ว ๆ ๆ น่ารักมาก
ไออุ่นหนุ่มใหญ่วัย27หน้านั่งแอบมองเต้านมอวบๆที่ใหญ่ย้อยลงมาของไอรัก เขาขับรถไปด้วยอาการไม่ดีเมื่อความสวยเซ็กซี่ของน้องสาวคนเล็กกำลังเล่นงานเขาเสียแล้ว
บรืน! ๆ ๆ ๆ ไออุ่นลดความเร็วลงและแอบชำเลืองมองเต้าอวบๆของไอรักเป็นระยะ ๆ
ไอรักฟังเพลงไปด้วยแล้วเอียงหน้าซ้ายทีขวาทีร้องเพลงไปด้วยอย่างน่ารักจนพี่ชายคนโตตกหลุมรักเธอไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
เอี๊ยดดด! ๆ ๆ ๆ ไออุ่นขับรถมาจอดที่หน้ายิมในโรงเรียนแล้วหันมาหาไอรัก
"พี่จะไปดูหนังในห้างรอ เสร็จแล้วโทรมานะคนสวย" ไออุ่นยิ้มหวานและหยอดไอรักจนเธอหน้าแดง
ค่ะ! เธอยิ้มหวานแล้วพยักหน้าสวยๆลงพร้อมทั้งสบตาโตๆที่กลมแป๋วใส่ไออุ่นจนเขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
แอ๊ดดด! ไอรักหันมาหยิบเป้สะพายสีชมพูแล้วเปิดประตูรถจะลงไป
"เดี๋ยวก่อน ลืมอะไรรึปล่าว" ไออุ่นทักแล้วยื่นแก้มซ้ายมาให้ไอรัก
ฟ่อดด! เธอหันมาหอมแก้มไออุ่นฟ่อดใหญ่แล้วจะหันกลับไป
"เอ พี่ขอหอมบ้างได้ไหมน้า" ไออุ่นทักอีกจนไอรักต้องหันกลับมา
"ได้สิคะ" ไอรักตอบและยิ้มเพราะเธอก็หอมแก้มกับพ่อกับแม่และพี่ๆจนเป็นเรื่องปกติ
"แต่วันนี้หนูแต่งตัวสวยพี่อายน่ะสิ จะทำยังไงดีล่ะ" ไออุ่นออกอุบายและจ่อหน้าหล่อๆเข้มๆลงมาหายใจรดไอรัก
"อือ แล้วจะทำยังไงล่ะคะ" ไอรักถาม เธอโดนลมหายใจร้อนๆของไออุ่นพ่นใส่หน้าจนใจเต้นตูมๆและตัวร้อนวาบๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"หลับตาสิจ๊ะ" ไออุ่นยิ้มแล้วบอก
ค่ะ! ไอรักพยักหน้าหนึ่งทีแล้วหลับตา
หมับ! ๆ ไออุ่นเอามือมาประกบสองแก้มของไอรักไว้แล้วก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกโด่งๆชนจมูกจิ้มลิ้มของไอรัก
จนเธอตกใจสะดุ้งโหยง
อุ๊ปส์! ๆ ๆ จุ๊บ! ๆ ๆ ๆ ไม่ทันที่จะร้องถามปากของเธอก็โดนไออุ่นประกบจูบจนพูดไม่ออก
ฟุ่บบบ! จุ๊บ! ๆ ๆ ๆ ๆ ไออุ่นบดปากแดงๆนุ่มๆจุบปากไอรักอย่างดูดดื่มจนเธอตัวอ่อนและเอนหัวพิงเบาะเพราะว่านั่งไม่ไหว
จุ๊บ! ๆ ๆ ๆ จ๊วบ! ๆ ๆ ๆ ไออุ่นจูบและดูดกินน้ำลายของไอรักจนเธอเสียววาบๆ มันเป็นจูบแรกที่แสนสยิวและตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
อือ! ๆ ๆ ๆ ไอรักเริ่มร้องครางและจูบปากตอบไออุ่นด้วยการเลียนแบบเขา
ตูม! ๆ ๆ ๆ เธอได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดังราวกับระเบิด ที่หว่างขารู้สึกแฉะๆเหมือนมีน้ำหลั่งออกมาจากในตัวจนเลอะกางเกงในตัวเล็กๆ
แผล็บ! ๆ ๆ จุ๊บ! ๆ ๆ ๆ ไออุ่นดันลิ้นเข้าไปในปากของไอรักแล้วกวัดแกว่งวนๆพันลิ้นของเธอ
อื้อ! ๆ ๆ ๆ ไอรักนอนพิงเบาะรถและร้องคราง เธอเสียวหวิวๆและตัวเบาลอยๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธออายพี่ชายคนโตจนต้องหลับตา แต่ร่างกายของเธอกลับโหยหาปากของเขาและบดจูบตอบไปโดยอัตโนมัติ
หมับ! ๆ ๆ ๆ จุ๊บ! ๆ ๆ ๆไออุ่นได้ทีรีบเอามือบีบขยำเต้านมของไอรัก เขารู้สึกว่านมของเธอใหญ่อวบและอิ่มเน่นเกินวัยจนล้นไม้ล้นมือ
อ๊ายยย! "หนูต้องไปแล้วค่ะ" ไอรักตกใจเมื่อโดนล่วงล้ำมาจับนม เธอบอกแล้วก้าวเท้าวิ่งหนีไออุ่นเข้ายิมไปด้วยความเขินอายแบบสุดๆ
ทำไมพี่ไออุ่นทำแบบนี้กับเรานะ แล้วทำไมเราเสียวจังเลย แบบนี้เองหรือการจูบ!
ไอรักวิ่งเข้าห้องน้ำไปยืนส่องกระจกแล้วคิดในใจ
ซ่า! ๆ ๆ ๆ เธอก้มหน้าแล้วเปิดก๊อกน้ำกวักขึ้นมาล้างหน้าหลายหนเพื่อดึงสติสตังกลับมา
ไอรักไปซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ต่อแล้วก็เรียกไออุ่นกลับมารับกลับบ้านตอนเที่ยงโดยที่เธอนั่งก้มหน้าเขินอายจนไม่ได้พูดอะไรกับไออุ่นเลยซักคำ
แล้วอีกหน่อยจะโดนมากกว่านี้ไหมนะ!
เธอก้มหน้าก้มตาแล้วนั่งคิดในใจไปจนถึงบ้าน
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม