เขาคือเจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนเธอคือหญิงสาวที่เขารับมาทำงานด้วยเพราะถูกน้องชายขอร้อง อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อคนที่เขาคิดว่าขี้เหร่นักหนากลายเป็นนางฟ้าเดินดินที่อยากครอบครอง
เขาคือเจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนเธอคือหญิงสาวที่เขารับมาทำงานด้วยเพราะถูกน้องชายขอร้อง อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อคนที่เขาคิดว่าขี้เหร่นักหนากลายเป็นนางฟ้าเดินดินที่อยากครอบครอง
บทที่ 1
จิระรีบลุกจากม้านั่งหิน เมื่อเห็นรถของเพื่อนสนิทเลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณลานวัด ใกล้กับที่เขานั่งคอยอยู่ เขารีบเดินเข้าไปเปิดประตูรถ แล้วขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ
“นึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว”
“รับปากแล้วก็ต้องมาสิวะ” ธีรสิทธิ์ตอบเพื่อนรัก มองหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของอีกฝ่าย “ไปหาที่คุยกันดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอก คุยที่นี่แหละ ถ้าตกลงจะได้ไม่เสียเวลา”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงรีบให้ฉันมาหาวะ” คำพูดมีนัยยะของเพื่อนรักทำให้เขาสงสัย
จิระพยักหน้ารับ มองเพื่อนอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจขอความช่วยเหลือ
“ฉันฝากน้องสาวไปทำงานกับนายสักปีสิวะขัน”
“ทำไมวะ หรือว่าแกจะไปไหน”
“อือ ฉันถูกบริษัทส่งตัวไปสิงคโปร์ว่ะ ที่นั่นเงินเดือนและสวัสดิการค่อนข้างดี อยู่ฟรีกินฟรี ไปอยู่ที่นั่นฉันคงลืมตาอ้าปากได้บ้าง แต่ฉันก็ไม่กล้าทิ้งให้เกลมันอยู่คนเดียว นายก็รู้ว่าน้องฉันสวยขนาดไหน แล้วนายก็เห็น ๆ อยู่ว่าแถวที่ฉันอยู่เป็นยังไง ฉันเป็นห่วงมันว่ะขัน”
“แค่นั้นเหรอที่แกห่วง” ธีรสิทธิ์หยั่งเชิง เพราะรู้ว่าเพื่อนรักเล่าไม่หมด
“นายก็รู้ ๆ อยู่”
“ฉันถึงบอกให้แกเอาเงินฉันไปใช้เจ้าหนี้พวกนั้นก่อน แล้วค่อยมาผ่อนให้ฉันทีหลัง” เขาเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนรักคนนี้ เพราะรู้ว่าหนี้ที่มันเป็นอยู่ เกิดจากการหาเงินส่งเสียค่าเล่าเรียนตัวเอง และน้องสาวที่เป็นลูกของอาที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังต้องหาเงินรักษาอาการป่วยของบิดา ที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา
“ที่นายช่วยฉันมาก็เยอะแล้วไอ้ขัน ฉันเอาจากนายอีกไม่ได้หรอก ฉันละอายแก่ใจว่ะ”
“แล้วแกจะให้เจ้าหนี้ตามทวงอยู่แบบนี้เหรอ แต่ละเดือนจ่ายได้แต่ดอก ผ่อนต้นบางส่วนก็ไม่ได้ ต้องจ่ายเป็นก้อนเหมือนตอนที่ยืม ไอ้พวกนี้มันฉลาด มันจะกินแต่ดอกจากแกไง”
“ฉันถึงต้องไปนี่ไง”
“แล้วแกจะจ่ายดอกพวกมันยังไง”
“เรื่องนั้นนายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่ตอบรับเรื่องน้องสาวฉันก็พอ”
“แล้วนายไว้ใจฉันเหรอ” ธีรสิทธิ์ถามหยั่งเชิงเพื่อนรัก
“เออ” จิระตอบอย่างไม่ลังเล “นายกับฉันกินนอนมาด้วยกันตั้งแต่เข้ามหาลัย นายก็สนิทกับน้องฉันมาตั้งแต่สมัยนั้น ฉันดูออกว่านายคิดกับเกลมันยังไง” เขามั่นใจในตัวเพื่อนรัก รู้ดีว่าธีรสิทธิ์เห็นน้องสาวของเขาเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
“ฉันให้น้องเกลไปอยู่กับฉันที่ฟาร์มก็ได้ แต่แกต้องเอาเงินจากฉันไปใช้หนี้พวกมันให้หมดก่อน เพราะไม่อยากให้เจ้าหนี้ของนายโผล่ไปทวงหนี้เกลถึงที่ฟาร์มของฉัน เกลมันไม่รู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ” ธีรสิทธิ์ให้เหตุผล และถามตบท้ายอย่างไม่แน่ใจ
“รู้แค่ว่าใช้หนี้หมดแล้ว”
“ถ้านายเป็นห่วงเกล นายต้องทำอย่างที่ฉันบอก ไปคิดมาก็แล้วกันว่าเป็นหนี้ทั้งหมดอยู่อีกเท่าไหร่ ฉันจะได้โอนให้ แล้วนายก็ไปตั้งหน้าตั้งตาทำงาน กลับมาได้เอาเงินมาใช้หนี้ฉัน ลงจากรถไปได้แล้ว ฉันมีนัดกับสาวเว้ย”
“แล้วเรื่องน้องฉันล่ะ”
“แจ้งยอดหนี้ให้ฉันเมื่อไหร่ ฉันก็มารับน้องนายเมื่อนั้นแหละ คุยกับเกลมันให้รู้เรื่องก็แล้วกัน”
“เรื่องเงิน ฉันคิดไว้ว่าจะลองยื่นกู้ที่บริษัทดูน่ะขัน ฉันไม่อยากรบกวนนายจริง ๆ”
“เอาที่ฉันไปนี่แหละ ไม่ต้องเสียดอก ไม่ต้องมีประวัติที่บริษัท ทำตามที่ฉันบอกดีที่สุดแล้ว”
จิระครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้ารับ “อือ ขอบใจมากนะไอ้ขัน แล้วฉันจะรีบติดต่อกลับไป”
“โอเค ลงไปให้ไว ฉันรีบ ฝากบอกน้องเกลด้วยว่าพี่ขันคิดถึง พรุ่งนี้บ่าย ๆ จะมารับไปกินโอมากาเสะ มึงก็ไปด้วยล่ะ”
“อือ เดี๋ยวจะบอกให้” แล้วจิระก็เปิดประตูลงจากรถของเพื่อนรัก...
ตุลฎาเปิดประตูออกมาจากห้องพักพนักงาน ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาต่อกะพร้อมโบกมือลา
“กลับก่อนนะ อย่าหลับล่ะ”
“จ้ะ วันนี้กลับบ้านเลย หรือว่าไปทำพิเศษที่อื่นต่อล่ะ” เพื่อนร่วมงานสาวทักทายกลับ
“สองทุ่มแล้วนะ จะให้ไปทำพิเศษอีกเหรอ”
“ก็บีเห็นเกลทำงานต่อเนื่องอย่างกับหุ่นยนต์”
“ตอนนี้เรียนจบแล้วจ้ะ ก็เลยลดงานลงบางส่วน แต่ก็มีรับงานจากคนรู้จักไปทำที่บ้านบ้าง”
“ทำอะไรเหรอ”
“ทำดอกไม้จันทน์ สนใจไหม”
“หึ ไม่ทำดีกว่า” เพื่อนร่วมงานหัวเราะคิกคักเมื่อพูดจบ
“เกลกลับก่อนนะ พี่ชายมารับแล้ว” ตุลฎาบอกลาเพื่อน เมื่อเห็นพี่ชายมาจอดมอเตอร์ไซค์ที่หน้าร้าน
“จ้ะ ฝากบอกพี่ชายด้วยนะว่าอย่าหล่อให้มาก สาวเซเว่นใจละลายหมดแล้ว”
“จ้ะ ไปก่อนนะ” หญิงสาวโบกมือให้เพื่อน แล้วรีบเดินออกไปจากร้าน
“ซื้อข้าวไปกินที่บ้านไหม หรือว่าจะกินจากที่ร้านไปเลย” จิระถามน้องสาวเมื่อเธอเดินมาถึงที่รถ
“เกลซื้อกะหล่ำปลีกับมาม่าไว้แล้ว ตั้งใจจะทำผัดมาม่าใส่ไข่กับผัก แต่ถ้าพี่จิระไม่อยากกิน ก็กินข้าวก็ได้” แม้จะเรียนจบปริญญาตรีแล้ว และลุงซึ่งเป็นพ่อของจิระจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่หญิงสาวก็รู้ว่าหนี้สินที่พี่ชายเป็นอยู่ยังมีอีกมาก ถึงแม้เขาจะบอกว่าใช้หมดแล้ว แต่เธอรู้ว่ามันไม่จริง ดังนั้นอะไรที่ช่วยประหยัดได้เธอจึงอยากช่วย
“ผัดมาม่าก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินนานแล้ว ของพี่ใส่ผักเยอะ ๆ นะ”
“ได้ค่ะคุณพี่” ตุลฎาโค้งกายรับคำสั่งอย่างนอบน้อม
จิระหัวเราะกับความขี้เล่นของน้องสาว “ขึ้นรถเร็ว ท้องพี่เริ่มร้องแล้ว” แล้วชักชวนน้องสาวเพื่อรีบกลับบ้าน ส่งหมวกกันน็อกให้เธอ...
กลับถึงบ้านเธอก็รีบทำอาหารทันที ไม่นานผัดมาม่าสองจาน ในปริมาณที่ไม่เท่ากันก็เสร็จเรียบร้อย
อิ่มจากอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว จิระจึงเริ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจเอาไว้
“เกล”
“จ๋า”
“ไม่ต้องหางานแล้วนะ พี่ฝากงานให้เราเรียบร้อยแล้ว”
“ทำไมต้องฝากให้เกลด้วยล่ะพี่จิระ เกลอยากใช้ความสามารถของตัวเองมากกว่า”
“เส้นเสิ้นที่ไหนล่ะ ไอ้ขันมันบอกพี่ว่าอยากให้เราไปเป็นผู้ช่วยของมันที่ฟาร์ม”
“ทำไมต้องให้เกลไปทำงานกับพี่ขันด้วยล่ะ เกลหางานทำแถวนี้ก็ได้นี่ เมื่อกี้ผู้จัดการก็เรียกเกลไปคุย บอกว่าจะให้เกลรับตำแหน่งผู้จัดการสาขา เพราะรู้ว่าเกลเรียนจบแล้ว”
“แล้วจะอยู่ยังไง เกลก็รู้ว่าพี่ต้องไปสิงคโปร์เป็นปี พี่ไม่กล้าทิ้งให้เราอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก ไปอยู่กับไอ้ขันน่ะดีแล้ว พี่ไว้ใจมันที่สุด เพราะมันก็รักเกลเหมือนน้องเหมือนนุ่ง เชื่อพี่นะ” จิระให้เหตุผลพร้อมกับคำขอร้อง
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
เธอสุขจนไม่รู้จะสุขยังไง เสียวจนไม่รู้จะเสียวยังไง สุขแล้วสุขเล่า เสียวแล้วเสียวเล่า สุขเสียวจนแทบจะไร้แรงยืนหยัด ต้องโอบแขนกับรอบลำคอแกร่งเพื่อเป็นหลักยึด “คืนนี้จะตามใจฉันทั้งคืนใช่ไหมยอดรัก” “ค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาพึงพอใจที่สุด จึงจูบปากที่บวมเจ่อนิดๆ นั้นซ้ำอีกหนักๆ ลวนลามร่างนุ่มนิ่มนั้นอย่างย่ามใจ... กว่าจะได้ถูหลังขัดขี้ไคลให้เขา เธอก็ถูกเขาจับขัดดอกไปก่อนจนแทบจะหมดแรง นับเป็นการอาบน้ำที่นานและเสียวสะท้านที่สุดเท่าที่เคยอาบมา…
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
“เหล่ากง..” หญิงสาวยกมือปิดหน้าอก ชันเข่าขึ้นซ่อนสิ่งที่บ่งบอกความเป็นสตรี ตะแคงตัวหนีสายตาหยาดเยิ้มของเขา “สายตาของท่านทำซินเอ๋อร์ขัดเขินแทบขาดใจแล้ว” “เช่นนั้นเหล่ากงให้มองคืนบ้าง” เขาดึงนางมาสู้สายตา “ซินเอ๋อร์ไม่กล้าหรอก” นางเผลอมองไปแล้ว แม้จะเห็นความใหญ่โตของมันแค่ครึ่งลมหายใจ แต่ก็ทำให้นางตกใจจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
ห้าปีก่อน เพื่อช่วยเผยจี๋ ท้องของซางหว่านถูกแทงจนบาดเจ็บ ชาตินี้ไม่สามารถมีลูกได้อีก เผยจี๋ที่เคยบอกว่าทั้งชาตินี้ไม่อยากมีลูก สุดท้ายก็ยังมีความคิด “อาศัยท้องคนอื่นอุ้มบุญ” และคนที่เขาเลือกคือ ซูเซวี่ย นักศึกษามหาวิทยาลัยที่หน้าตาคล้ายกับซางหว่าน เผยจี๋ไม่รู้เลยว่า ในวันที่เขาเสนอความต้องการนี้ออกมา ซางหว่านก็ได้ตัดสินใจจะจากเขาไปแล้ว
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY