เขาคือเจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนเธอคือหญิงสาวที่เขารับมาทำงานด้วยเพราะถูกน้องชายขอร้อง อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อคนที่เขาคิดว่าขี้เหร่นักหนากลายเป็นนางฟ้าเดินดินที่อยากครอบครอง
เขาคือเจ้าของฟาร์มนกกระจอกเทศที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนเธอคือหญิงสาวที่เขารับมาทำงานด้วยเพราะถูกน้องชายขอร้อง อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อคนที่เขาคิดว่าขี้เหร่นักหนากลายเป็นนางฟ้าเดินดินที่อยากครอบครอง
บทที่ 1
จิระรีบลุกจากม้านั่งหิน เมื่อเห็นรถของเพื่อนสนิทเลี้ยวเข้ามาภายในบริเวณลานวัด ใกล้กับที่เขานั่งคอยอยู่ เขารีบเดินเข้าไปเปิดประตูรถ แล้วขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับ
“นึกว่านายจะไม่มาซะแล้ว”
“รับปากแล้วก็ต้องมาสิวะ” ธีรสิทธิ์ตอบเพื่อนรัก มองหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของอีกฝ่าย “ไปหาที่คุยกันดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอก คุยที่นี่แหละ ถ้าตกลงจะได้ไม่เสียเวลา”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงรีบให้ฉันมาหาวะ” คำพูดมีนัยยะของเพื่อนรักทำให้เขาสงสัย
จิระพยักหน้ารับ มองเพื่อนอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจขอความช่วยเหลือ
“ฉันฝากน้องสาวไปทำงานกับนายสักปีสิวะขัน”
“ทำไมวะ หรือว่าแกจะไปไหน”
“อือ ฉันถูกบริษัทส่งตัวไปสิงคโปร์ว่ะ ที่นั่นเงินเดือนและสวัสดิการค่อนข้างดี อยู่ฟรีกินฟรี ไปอยู่ที่นั่นฉันคงลืมตาอ้าปากได้บ้าง แต่ฉันก็ไม่กล้าทิ้งให้เกลมันอยู่คนเดียว นายก็รู้ว่าน้องฉันสวยขนาดไหน แล้วนายก็เห็น ๆ อยู่ว่าแถวที่ฉันอยู่เป็นยังไง ฉันเป็นห่วงมันว่ะขัน”
“แค่นั้นเหรอที่แกห่วง” ธีรสิทธิ์หยั่งเชิง เพราะรู้ว่าเพื่อนรักเล่าไม่หมด
“นายก็รู้ ๆ อยู่”
“ฉันถึงบอกให้แกเอาเงินฉันไปใช้เจ้าหนี้พวกนั้นก่อน แล้วค่อยมาผ่อนให้ฉันทีหลัง” เขาเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนรักคนนี้ เพราะรู้ว่าหนี้ที่มันเป็นอยู่ เกิดจากการหาเงินส่งเสียค่าเล่าเรียนตัวเอง และน้องสาวที่เป็นลูกของอาที่เสียชีวิตไปแล้ว และยังต้องหาเงินรักษาอาการป่วยของบิดา ที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา
“ที่นายช่วยฉันมาก็เยอะแล้วไอ้ขัน ฉันเอาจากนายอีกไม่ได้หรอก ฉันละอายแก่ใจว่ะ”
“แล้วแกจะให้เจ้าหนี้ตามทวงอยู่แบบนี้เหรอ แต่ละเดือนจ่ายได้แต่ดอก ผ่อนต้นบางส่วนก็ไม่ได้ ต้องจ่ายเป็นก้อนเหมือนตอนที่ยืม ไอ้พวกนี้มันฉลาด มันจะกินแต่ดอกจากแกไง”
“ฉันถึงต้องไปนี่ไง”
“แล้วแกจะจ่ายดอกพวกมันยังไง”
“เรื่องนั้นนายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่ตอบรับเรื่องน้องสาวฉันก็พอ”
“แล้วนายไว้ใจฉันเหรอ” ธีรสิทธิ์ถามหยั่งเชิงเพื่อนรัก
“เออ” จิระตอบอย่างไม่ลังเล “นายกับฉันกินนอนมาด้วยกันตั้งแต่เข้ามหาลัย นายก็สนิทกับน้องฉันมาตั้งแต่สมัยนั้น ฉันดูออกว่านายคิดกับเกลมันยังไง” เขามั่นใจในตัวเพื่อนรัก รู้ดีว่าธีรสิทธิ์เห็นน้องสาวของเขาเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
“ฉันให้น้องเกลไปอยู่กับฉันที่ฟาร์มก็ได้ แต่แกต้องเอาเงินจากฉันไปใช้หนี้พวกมันให้หมดก่อน เพราะไม่อยากให้เจ้าหนี้ของนายโผล่ไปทวงหนี้เกลถึงที่ฟาร์มของฉัน เกลมันไม่รู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ” ธีรสิทธิ์ให้เหตุผล และถามตบท้ายอย่างไม่แน่ใจ
“รู้แค่ว่าใช้หนี้หมดแล้ว”
“ถ้านายเป็นห่วงเกล นายต้องทำอย่างที่ฉันบอก ไปคิดมาก็แล้วกันว่าเป็นหนี้ทั้งหมดอยู่อีกเท่าไหร่ ฉันจะได้โอนให้ แล้วนายก็ไปตั้งหน้าตั้งตาทำงาน กลับมาได้เอาเงินมาใช้หนี้ฉัน ลงจากรถไปได้แล้ว ฉันมีนัดกับสาวเว้ย”
“แล้วเรื่องน้องฉันล่ะ”
“แจ้งยอดหนี้ให้ฉันเมื่อไหร่ ฉันก็มารับน้องนายเมื่อนั้นแหละ คุยกับเกลมันให้รู้เรื่องก็แล้วกัน”
“เรื่องเงิน ฉันคิดไว้ว่าจะลองยื่นกู้ที่บริษัทดูน่ะขัน ฉันไม่อยากรบกวนนายจริง ๆ”
“เอาที่ฉันไปนี่แหละ ไม่ต้องเสียดอก ไม่ต้องมีประวัติที่บริษัท ทำตามที่ฉันบอกดีที่สุดแล้ว”
จิระครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้ารับ “อือ ขอบใจมากนะไอ้ขัน แล้วฉันจะรีบติดต่อกลับไป”
“โอเค ลงไปให้ไว ฉันรีบ ฝากบอกน้องเกลด้วยว่าพี่ขันคิดถึง พรุ่งนี้บ่าย ๆ จะมารับไปกินโอมากาเสะ มึงก็ไปด้วยล่ะ”
“อือ เดี๋ยวจะบอกให้” แล้วจิระก็เปิดประตูลงจากรถของเพื่อนรัก...
ตุลฎาเปิดประตูออกมาจากห้องพักพนักงาน ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาต่อกะพร้อมโบกมือลา
“กลับก่อนนะ อย่าหลับล่ะ”
“จ้ะ วันนี้กลับบ้านเลย หรือว่าไปทำพิเศษที่อื่นต่อล่ะ” เพื่อนร่วมงานสาวทักทายกลับ
“สองทุ่มแล้วนะ จะให้ไปทำพิเศษอีกเหรอ”
“ก็บีเห็นเกลทำงานต่อเนื่องอย่างกับหุ่นยนต์”
“ตอนนี้เรียนจบแล้วจ้ะ ก็เลยลดงานลงบางส่วน แต่ก็มีรับงานจากคนรู้จักไปทำที่บ้านบ้าง”
“ทำอะไรเหรอ”
“ทำดอกไม้จันทน์ สนใจไหม”
“หึ ไม่ทำดีกว่า” เพื่อนร่วมงานหัวเราะคิกคักเมื่อพูดจบ
“เกลกลับก่อนนะ พี่ชายมารับแล้ว” ตุลฎาบอกลาเพื่อน เมื่อเห็นพี่ชายมาจอดมอเตอร์ไซค์ที่หน้าร้าน
“จ้ะ ฝากบอกพี่ชายด้วยนะว่าอย่าหล่อให้มาก สาวเซเว่นใจละลายหมดแล้ว”
“จ้ะ ไปก่อนนะ” หญิงสาวโบกมือให้เพื่อน แล้วรีบเดินออกไปจากร้าน
“ซื้อข้าวไปกินที่บ้านไหม หรือว่าจะกินจากที่ร้านไปเลย” จิระถามน้องสาวเมื่อเธอเดินมาถึงที่รถ
“เกลซื้อกะหล่ำปลีกับมาม่าไว้แล้ว ตั้งใจจะทำผัดมาม่าใส่ไข่กับผัก แต่ถ้าพี่จิระไม่อยากกิน ก็กินข้าวก็ได้” แม้จะเรียนจบปริญญาตรีแล้ว และลุงซึ่งเป็นพ่อของจิระจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่หญิงสาวก็รู้ว่าหนี้สินที่พี่ชายเป็นอยู่ยังมีอีกมาก ถึงแม้เขาจะบอกว่าใช้หมดแล้ว แต่เธอรู้ว่ามันไม่จริง ดังนั้นอะไรที่ช่วยประหยัดได้เธอจึงอยากช่วย
“ผัดมาม่าก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินนานแล้ว ของพี่ใส่ผักเยอะ ๆ นะ”
“ได้ค่ะคุณพี่” ตุลฎาโค้งกายรับคำสั่งอย่างนอบน้อม
จิระหัวเราะกับความขี้เล่นของน้องสาว “ขึ้นรถเร็ว ท้องพี่เริ่มร้องแล้ว” แล้วชักชวนน้องสาวเพื่อรีบกลับบ้าน ส่งหมวกกันน็อกให้เธอ...
กลับถึงบ้านเธอก็รีบทำอาหารทันที ไม่นานผัดมาม่าสองจาน ในปริมาณที่ไม่เท่ากันก็เสร็จเรียบร้อย
อิ่มจากอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว จิระจึงเริ่มพูดถึงเรื่องที่ตั้งใจเอาไว้
“เกล”
“จ๋า”
“ไม่ต้องหางานแล้วนะ พี่ฝากงานให้เราเรียบร้อยแล้ว”
“ทำไมต้องฝากให้เกลด้วยล่ะพี่จิระ เกลอยากใช้ความสามารถของตัวเองมากกว่า”
“เส้นเสิ้นที่ไหนล่ะ ไอ้ขันมันบอกพี่ว่าอยากให้เราไปเป็นผู้ช่วยของมันที่ฟาร์ม”
“ทำไมต้องให้เกลไปทำงานกับพี่ขันด้วยล่ะ เกลหางานทำแถวนี้ก็ได้นี่ เมื่อกี้ผู้จัดการก็เรียกเกลไปคุย บอกว่าจะให้เกลรับตำแหน่งผู้จัดการสาขา เพราะรู้ว่าเกลเรียนจบแล้ว”
“แล้วจะอยู่ยังไง เกลก็รู้ว่าพี่ต้องไปสิงคโปร์เป็นปี พี่ไม่กล้าทิ้งให้เราอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก ไปอยู่กับไอ้ขันน่ะดีแล้ว พี่ไว้ใจมันที่สุด เพราะมันก็รักเกลเหมือนน้องเหมือนนุ่ง เชื่อพี่นะ” จิระให้เหตุผลพร้อมกับคำขอร้อง
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
เธอสุขจนไม่รู้จะสุขยังไง เสียวจนไม่รู้จะเสียวยังไง สุขแล้วสุขเล่า เสียวแล้วเสียวเล่า สุขเสียวจนแทบจะไร้แรงยืนหยัด ต้องโอบแขนกับรอบลำคอแกร่งเพื่อเป็นหลักยึด “คืนนี้จะตามใจฉันทั้งคืนใช่ไหมยอดรัก” “ค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาพึงพอใจที่สุด จึงจูบปากที่บวมเจ่อนิดๆ นั้นซ้ำอีกหนักๆ ลวนลามร่างนุ่มนิ่มนั้นอย่างย่ามใจ... กว่าจะได้ถูหลังขัดขี้ไคลให้เขา เธอก็ถูกเขาจับขัดดอกไปก่อนจนแทบจะหมดแรง นับเป็นการอาบน้ำที่นานและเสียวสะท้านที่สุดเท่าที่เคยอาบมา…
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
“เหล่ากง..” หญิงสาวยกมือปิดหน้าอก ชันเข่าขึ้นซ่อนสิ่งที่บ่งบอกความเป็นสตรี ตะแคงตัวหนีสายตาหยาดเยิ้มของเขา “สายตาของท่านทำซินเอ๋อร์ขัดเขินแทบขาดใจแล้ว” “เช่นนั้นเหล่ากงให้มองคืนบ้าง” เขาดึงนางมาสู้สายตา “ซินเอ๋อร์ไม่กล้าหรอก” นางเผลอมองไปแล้ว แม้จะเห็นความใหญ่โตของมันแค่ครึ่งลมหายใจ แต่ก็ทำให้นางตกใจจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
ด้วยพันธะสัญญาแห่งการเป็นนางบำเรอข้อที่ว่า ไม่มีการเเต่งงาน ไม่มีการเปิดเผยเรื่องการคบหาต่อผู้อื่น ทำให้ไมเคิลและพราวตะวันอยู่ด้วยกันมาได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หากเเต่ความเปลี่ยนเเปลงอันเลวร้ายก็เกิดขึ้นเมื่อเธอรักเขา ในขณะที่เขาไม่เคยศรัทธาในคำว่าความรัก และพร้อมจะเฉดหัวเธอไป ถ้าคิดจะจับเขา แล้วพราวตะวันจะทำอย่างไร เมื่อความรักที่มีมันล้นทุกอณูใจจนไม่อาจเก็บได้อีกต่อไปอีกแล้ว
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
แต่งงานกับนักเลงคนหนึ่งแทนพี่สาวและใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก แต่ไม่คิดว่าจู่ ๆ สามีก็พลิกตัวกลายเป็นมหาเศรษฐีลึกลับที่มีอำนาจล้นฟ้า?เจียงช่านพยายามบอกกับตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่นอน เธอวิ่งกลับไปที่บ้านเช่าเล็ก ๆ นั้นและโผ่เข้าในอ้อมกอดของสามีและพูดว่า"พวกเขาบอกว่าคุณเป็นคุณฮั่ว จริงเหรอ?"เขาลูบผมเธอพลางพูดว่า"คนนั้นก็แค่หน้าตาเหมือนฉันเท่านั้นน่ะ"เจียงช่านรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย"คนนั้นน่ารำคาญมาก ยืนยันตลอดว่าฉันเป็นภรรยาเขา ที่รัก ช่วยจัดการเขาสักทีนะ"วันต่อมา คุณฮั่วปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยจมูกที่ช้ำและใบหน้าที่บวม "คุณฮั่ว นี่มัน?"มีคนหนึ่งอดถามขึ้นไม่ได้ เขายกยิ้มอย่างใจเย็น"ภรรยาสั่งให้จัดการ ผมจึงจำเป็นต้องลงมือหนักหน่อย"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY