เสิ่นซูบอกได้ว่าตนเองถือไพ่ที่เหนือกว่าใครแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสุดท้ายแล้วมันกลับพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า การทำแท้ง เสียโฉม อาชีพถูกทำลายจนพังหมด และชื่อเสียงของเธอก็ฉาวโฉ่ไปทั่ว เหตุผลที่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเสิ่นซูต้องตกอับเป็นอย่างนี้ คงเป็นเพราะฟู่เซินเหยียนมั้ง เพราะอย่างที่ว่ากันว่า ความรักสามารถทำลายชีวิตผู้หญิงได้จริง ๆ!
ระยะเวลาการตั้งครรภ์: หกสัปดาห์
เมื่อเห็นรายงานผลอัลตราซาวด์ ฉันถึงกับอึ้งไปกับข้อความที่เห็น แค่ครั้งเดียว ท้องได้ยังไงกัน?
ตอนนี้จะทำยังไงดี?
ถ้าบอกฟู่เชิ่นเหยียน เพราะเหตุผลนี้จะทำให้เขาไม่หย่ารึเปล่า? ไม่ ตรงกันข้าม เขาจะคิดว่าฉันนั้นหน้าด้าน ใช้เด็กเพื่อมาจับเขา
ฉันพยายามระงับความหดหู่ในใจ และเก็บผลอัลตราซาวด์ลงในกระเป๋าก่อนจะออกจากโรงพยาบาลไป
นอกตึกที่สูงใหญ่ของโรงพยาบาล ในรถมายบัคสีดำเงา หน้าต่างถูกเปิดออกเล็กน้อย จากด้านนอกนั้นสามารถมองเห็นสายตาเย็นชาของผู้ชายที่นั่งอยู่ในที่นั่งคนขับได้ลาง ๆ
ผู้ชายที่หล่อเหลา กับรถหรู ดึงดูดความสนใจของผู้คนไม่น้อย
รวย และหน้าตาดีนั้นเป็นเอกลักษณ์ของฟู่เชิ่นเหยียน หลายปีมานี้ฉันเริ่มจะชินกับมัน และไม่สนใจสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา และเข้าไปนั่งในที่นั่งข้างคนขับ
ผู้ชายที่กำลังหลับตาพักผ่อนอยู่นั้น พอได้ยินเสียงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ลืมตาขึ้น แล้วพูดออกมาเบา ๆ ว่า “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“อืม!” ฉันพยักหน้า ยื่นสัญญาที่เซ็นไว้กับโรงพยาบาลให้เขา และพูดว่า “ผู้อำนวยการลู่ฝากมาทักทายคุณด้วย!” สัญญาในวันนี้ ความจริงฉันต้องเป็นคนมาเซ็นเอง แต่ระหว่างทางกับเจอฟู่เชิ่นเหยียนเข้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ขับรถพาฉันมาที่นี่
“งานเคสนี้ต่อไปเธอดูแลจัดการทั้งหมดด้วย!” ฟู่เชิ่นเหยียนนั้นเป็นคนไม่ค่อยพูดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาไม่ได้รับสัญญาไป ก่อนจะสั่งออกมาเรียบ ๆ ประโยคนึง และสตาร์ทรถ
ฉันพยักหน้า และไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้น
ฉันเงียบไปนาน นอกจากฟังคำสั่ง แล้วทำตาม เรื่องอื่น ๆ ดูเหมือนฉันจะไม่รู้อะไรเลย
รถขับมาถึงใจกลางเมือง นี่ก็ค่ำแล้ว เขาไม่กลับไปที่วิลล่า แล้วจะไปที่ไหน? แม้ว่าจะรู้สึกสงสัย แต่ฉันไม่เคยเป็นฝ่ายถามอะไรเขาก่อนอยู่เลย เพราะงั้นเลยเลือกที่จะเงียบ
พอนึกถึงผลอัลตราซาวด์แล้ว ฉันก็ไม่รู้จะพูดกับเขายังไง พอหันไปข้าง ๆ ก็เห็นสายตาของเขามองตรงไปข้างหน้า สายตาของเขาคมกริบ และเย็นชาเหมือนเคย
“ฟู่เชิ่นเหยียน!” ฉันปริปากพูด ฝ่ามือที่ถือกระเป๋านั้นเริ่มชื่นเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะรู้สึกประหม่าเลยเหงื่อออก
“ว่ามาสิ!” คำพูดสั้น ๆ ที่เย็นชา ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
เขาเป็นแบบนี้กับฉันมาตลอด พอนาน ๆ เข้า ฉันก็ปล่อยวางพยายามระงับความตื่นเต้น พลางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดออกมาว่า “ฉัน...” ท้อง
พูดได้ไม่ทันถึงสองคำ แต่ตอนนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น คำพูดนั้นก็ถูกกลืนไปทันที
“ชินหราน มีอะไรรึป่าว?” ความอ่อนโยนของคนบางคนนั้นถูกกำหนดไว้ให้คนเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นความรัก หรือความสุข สุดท้ายก็มักจะมอบให้กับคน ๆ หนึ่งเสมอ
ความอ่อนโยนของฟู่เชิ่นเหยียนนั้นมีไว้สำหรับลู่ชินหรานโดยเฉพาะ แค่ฟังที่เขาคุยกับลู่ชินหรานก็รู้แล้ว
โดยไม่รู้ว่าลู่ชินหรานที่อยู่ปลายสายพูดอะไร จู่ ๆ ฟู่เชิ่นเหยียนก็เหยียบเบรกกะทันหันและพูดปลอบไปตามสายว่า “โอเค ผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้ คุณอย่าไปไหนล่ะ”
หลังจากวางสาย เขาก็กลับมาทำหน้าเคร่ง มองมาที่ฉัน แล้วพูดว่า “ลงรถ!”
เป็นคำสั่งที่ไม่เปิดโอกาสให้แย้งเลย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ฉันพยักหน้า และกลืนคำพูดทั้งหมดไป ก่อนจะเปิดประตู และลงจากรถ
การแต่งงานของฉันกับฟู่เชิ่นเหยียนนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก็เป็นโชคชะตาเช่นกัน แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับความรักเลย ใจของฟู่เชิ่นเหยียนนั้นมีแต่ลู่ชินหราน การมีฉันอยู่นั้นก็เป็นแค่ของประดับ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคก็ได้
เมื่อสองปีที่แล้ว คุณปู่กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เขาบังคับให้ฟู่เชิ่นเหยียนแต่งงานกับฉันตอนที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล แม้ว่าฟู่เชิ่นเหยียนจะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังแต่งงานกับฉันเพราะคุณปู่ สองปีที่ผ่านมานั้นมีคุณปูอยู่ ฟู่เชิ่นเหยียนแสร้งทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน ตอนนี้พอคุณปู่เสียชีวิตแล้ว เขาก็แทบจะอดรนทนไม่ไหวหาทนายมาร่างสัญญาการหย่า เหลือเพียงรอฉันเซ็นชื่อ
พอกลับมาถึงวิลล่า ฟ้าก็มืดแล้ว บ้านหลังใหญ่นั้นว่างเปล่าราวกับบ้านผีสิง อาจจะเพราะท้อง เลยไม่รู้สึกอยากอาหาร ฉันเลยตรงกลับไปที่ห้องนอน อาบน้ำ และเข้านอน
ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความงุนงง ก็ได้ยินเสียงรถดับเครื่องดังมาจากหน้าบ้าน
ฟู่เชิ่นเหยียนกลับมาแล้วเหรอ?
เขาไม่ได้ไปหาลู่ชินหรานหรอกเหรอ?
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"