หมอสาวจอมแสบหายไปพร้อมสเปิร์มของมาเฟียหนุ่มสามปีแล้ววันนี้เขาก็ได้มาเจอเธอเสียทีแถมยังพ่วงลูกน้อยวัยสองขวบที่เหมือนเขาอย่างกับแกะมาด้วยมาเฟียหนุ่มจะทำอย่างไรกับเธอและลูกต่อติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ เธอหมอสาววัย29สาวตัวเล็กตาคมที่หน้าเด็กกว่าอายุไปเยอะมากเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวที่บ้านได้ทิ้งสมบัติไว้ให้ใช้มากมายจนไม่ต้องทำงานเลยก็ว่าได้เป็นคนโลกสวยเพ้อฝันอยากจะมีลูกที่น่ารักแถมฉลาดเมื่อเจอพ่อพันธุ์ที่แสนจะเพอร์เฟคเธอยอมละทิ้งจากอาชีพคุณหมอขโมยสเปริ์มของคนไข้ที่ฝากไว้แล้วหนีไปอยู่ที่ต่างประเทศเพื่อให้กำเนิดลูกน้อยสุดแสนจะน่ารักน่าชังออกมา เขามาเฟียหนุ่มลูกครึ่งอายุ35ปีมีรูปงามเรือนร่างราวกับนายแบบหน้าตาคมเข้มสายตาของเขาเด็ดเดี่ยวประดุจเหยี่ยวนักล่าขึ้นแท่นมาเฟียจอมโหดเย็นชาเด็ดขาดกอบกุมกิจการในมือมากมายทั้งสีขาวและสีเทามีอิทธิพลในวงการธุรกิจอสังหาอย่างมากสามปีแล้วที่เขาเฝ้าตามหาคนที่ขโมยสเปิร์มของเขาไปแถมตอนนี้ยังพึ่งจะมารู้อีกว่าตัวเองได้มีลูกวัยสองขวบอย่างที่ไม่ได้ตั้งใจอีกต่างหาก ... เรื่องราวอันน่าปวดหัวนี้เขาจะจัดการมันอย่างไรเมื่อต้องมามีลูกกับหมอสาวที่ผันตัวเป็นหัวขโมยติดตามความสนุกได้ในเรื่อง.....เลยนะคะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไรท์เขียนไปก็ขำไปหวังว่านิยายเรื่องนี้จะสร้างความสุขให้รีดที่รักได้อย่างดีกันนะคะ *ชื่อตัวละครหรือสถานที่และเรื่องราวในเรื่องล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาจะอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใดนะคะ ติดตามผลงานนิยายของปลายฟ้าได้ที่ FB: prayfa นิยายรักโรแมนติก
สนามบินXXX
เวลานี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่มที่สนามบินมีคนค่อนข้างจอกแจกจอแจอยู่ไม่ขาดสามปีกว่าแล้วที่ปลายฝนไม่ได้กลับมาที่ประเทศไทยและนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอพาลูกชายวัยสองขวบของเธอกลับมาที่บ้านเกิดอีกครั้งหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่ช่วงที่ตั้งท้อง
หญิงสาวตัวเล็กหุ่นบางหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูผมยาวดัดลอนใหญ่เข้ากับใบหน้าของเธออุ้มลูกน้อยวัยสองขวบตัวกลมตาน้ำข้าวใบหน้าลูกครึ่งแก้มยุ้ยของเธอพาดบ่าเอาไว้อีกมือก็ลากกระเป๋าใบใหญ่อย่างทุลักทุเลเดินเยื้องย่างอย่างสบายอารมณ์รอรถแท็กซี่ที่เรียกมารับ
“ปลายฝน..”
หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมพร้อมหันหลังกลับไปมองคนที่ส่งเสียงเรียกเธอวินาทีนั้นเหมือนโลกหยุดหมุนใจของเธอเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นกลัวเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นฟรานซิสผู้ชายลูกครึ่งร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดสูทสีเทา
ตาสีน้ำข้าวของเขามองมาทางเธอด้วยสายตาเยือกเย็นเธอไม่ได้อยากจะเจอหน้าเขาอีกเลยในชีวิตนี้ไม่รู้ว่าเขาโผล่มาที่นี่และยืนชี้หน้าเธออยู่ได้อย่างไรแต่เท่าที่ในสมองของเธอบอกกับเธอก็คือจะต้องวิ่งหนีคนๆนี้ไปเสียก่อน
“อารายฮับมามี๊”
ต้นหนาวทำหน้างงเล็กน้อยเมื่อจู่ๆคนเป็นแม่ก็ทิ้งกระเป๋าพร้อมพาตัวเองวิ่งหนีอะไรบางอย่าง
“มี๊อยากพาต้นหนาววิ่งเล่นชอบมั้ยครับ”
ปลายฝนบอกลูกชายของเธอในขณะที่กำลังวิ่งหนีสุดชีวิต
“ชอบฮับซาหนุกคริๆๆๆ”
เด็กชายแก้มยุ้ยตบมือแปะๆไม่คิดว่าคนเป็นแม่จะพาวิ่งเล่นในตอนนี้แต่ดูจะชอบใจมากเป็นพิเศษ
“เรามาเล่นซ่อนแอบด้วยดีมั้ย”
ปลายฝนวิ่งมาจนถึงหน้าอาคารผู้โดยสารขาเข้าที่มีรถจอดเรียงรายอยู่ด้านหน้าเธอมองซ้ายมองขวาแล้วหยุดพักเหนื่อยอยู่ครู่หนึ่งเมื่อไม่เห็นว่าฟรานซิสวิ่งตามมาแล้ว
“แอบใครฮับ”
“อืม...คนแถวนี้ไง”
หญิงสาวชี้มือชี้ไม้อมยิ้มคุยหยอกล้อกับลูกของเธอไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตของคนที่นี่
“แอบตรงนั้น”
ต้นหนาวชี้มือป้อมไปทางรถตู้คันหรูที่กำลังเปิดประตูคาเอาไว้อยู่ในตอนนี้
“อ่อ...ดีเลย”
ปลายฝนมองว่าในรถน่าจะไม่มีคนอยู่เธอขอเข้าไปหลบสักครู่คงจะไม่เป็นอะไรยังขอบคุณลูกชายของเธอที่หาที่แอบให้ได้อย่างดี
“อะ..อ๊ายยย..”
ในขณะที่เธอเข้ามานั่งในรถตู้คันหรูอย่างสบายใจแล้วจู่ๆก็มีชายหนุ่มโผล่หัวออกมาจากด้านหลังเธอและอีกคนก็ยังเดินมาปิดประตูรถขังเธอเอาไว้อีกด้วยคนที่โผล่หัวมาด้านหลังเธอเมื่อหญิงสาวเห็นแวบแรกก็จำได้ทันทีว่าเป็นมอแกนคนสนิทของฟรานซิสเธอคิดในใจว่าไม่น่าหลงกลคนพวกนี้เสียเลย
“สวัสดีครับ”
มอแกนยิ้มให้หญิงสาวพร้อมทั้งทักทายเธอด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ซาหวัดดีฮับคุณลุง”
ต้นหนาวเป็นเด็กที่จำคำที่แม่ของเขาสอนได้ทุกอย่างเมื่อมีคนทักทายว่าสวัสดีเขาก็จะต้องสวัสดีตอบเด็กชายแก้มยุ้ยยกมือป้อมน้อยๆสวัสดีชายหนุ่มที่ยิ้มให้เขาตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี
“มารยาทดีผิดเวลาหรือป่าวลูก”
ปลายฝนหน้าเสียเล็กน้อยแอบสบถออกมาเบาๆและเธอก็ต้องนั่งรถไปที่คฤหาสน์ของฟรานซิสโดยดีขัดขืนอะไรไม่ได้เพราะเธอเป็นคนโดดขึ้นมาบนนี้เอง
คฤหาสน์ฮันส์
ปลายฝนนั่งอุ้มลูกน้อยของเธออยู่บนโซฟาราคาแพงตรงหน้าของเธอมีฟรานซิสนั่งไขว่ห้างเท้าคางมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ยอมพูดยอมจาอะไรแต่สายตาของเขานั้นก็เหมือนเป็นใบมีดคมเชือดเฉือนเธออยู่ทุกวินาทีที่เธอสบตากลับไป
บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งคนสนิทของเขาก็ยืนรายล้อมอย่างเงียบๆอยู่ทั่วทุกมุมในห้องโถงนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขารู้ว่าเธอได้ทำอะไรลงไปเพราะคนอย่างเขาหากจะรู้เรื่องอะไรก็คงจะไม่ยากคิดไปคิดมาเธอเองก็คิดผิดที่รีบกลับมาที่นี่รู้แบบนี้เธอไม่กลับมาเลยจะดีกว่า
“หนาวง่วงคร้าบมามี๊”
ต้นหนาวขยี้หูขยี้ตาอยู่บนตักของคนเป็นแม่
“ง่วงก็นอนนะครับ”
ปลายฝนกล่อมลูกชายของเธอพักใหญ่จนหลับไปในขณะที่ในที่นี้ก็ยังมีแต่ความเงียบอยู่เช่นเดิมเธอจะไม่ยอมพูดอะไรจนกว่าอีกฝ่ายจะพูดมาก่อนเพราะเธอไม่รู้ว่าเขารู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวของเธอมากมายแค่ไหน
“พาเค้าไปนอนในห้อง”
ฟรานซิสเอ่ยบางคำออกมากับลูกน้องของเขาหลังจากที่เด็กชายได้หลับไปพักหนึ่งแล้ว
“ครับนาย”
ปลายฝนต้องปล่อยลูกชายของเธอให้กับบอดี้การ์ดหนุ่มแต่โดยดีเพราะเธอรู้ว่าตอนนี้เธอขัดใจอะไรพวกเขาไม่ได้แน่นอน
ฟรานซิสได้แต่งงานกับภรรยาของเขาเมื่อห้าปีก่อนเมื่อแต่งงานได้ไม่นานเขาและเธอก็ต้องการที่จะทำเด็กหลอดแก้วเพราะทั้งคู่ไม่มีใจประสงค์ที่จะมีสัมพันธ์กันเนื่องด้วยแต่งงานกันเพราะธุรกิจจึงเลือกที่จะทำเด็กหลอดแก้วกับหมอปลายฝนที่เป็นหมอสาวที่มีชื่อเสียงในด้านนี้มากทั้งที่อายุยังน้อย
แต่แล้วก่อนที่จะได้ทำภรรยาของเขาก็ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปก่อนเขาจึงไม่ได้ใส่ใจว่าเขาได้ฝากสเปริ์มไว้กับหมออีกเลยจนสองปีต่อมาเขาได้รู้ว่าหมอปลายฝนได้ลาออกไปและสเปริ์มของเขาก็ได้หายไปด้วยอันที่จริงเขาอยากจะฟ้องร้องกับโรงพยาบาลแต่ก็ต้องตัดเรื่องนี้ไปเพราะกลัวว่ามันจะเป็นข่าวใหญ่โตว่าเขาแต่งงานกับภรรยาคนก่อนด้วยเรื่องธุรกิจและคิดที่จะมีลูกโดยการผสมเทียมเขาจึงเลือกที่จะตามเรื่องหมอปลายฝนเองและนี่ก็เป็นเวลาสามปีแล้วที่เขาตามเรื่องนี้มาจนได้มารู้ว่าเขามีทายาทตัวน้อยออกมาแล้วตอนนี้สองขวบแล้วด้วย
เขารู้เรื่องปลายฝนจะกลับมาได้อย่างไรก็ไม่ยากเขาตามหาหมอลัลลนินหมอสาวเพื่อนรักของปลายฝนและเค้นเอาความจริงทุกอย่างจากเธอจนได้รู้ว่าปลายฝนได้ขโมยสเปริ์มของเขาไปทำอะไรและจะกลับมาวันไหนเขาจึงเตรียมแผนไปดักรอเธอได้ตรงเวลา
“ขอเหตุผลที่เธอกล้าทำ”
ฟรานซิสแทบอยากจะฉีกเนื้อหญิงสาวเป็นชิ้นๆในตอนนี้ไม่คิดว่าเธอจะกล้าเล่นแบบนี้กับคนอย่างเขา
“ฉ... ฉันแค่อยากมีลูก.. ล.. แล้วคุณก็เป็นพ่อพันธ์ที่สมบูรณ์ทุกอย่าง”
ปลายฝนตอบชายหนุ่มที่นั่งจ้องเธอเขม็งอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ฉันขอทายาทฉันคืนส่วนเธอจะไปไหนก็ไปหากอยากจะได้เงินเท่าไรก็บอกมา”
ฟรานซิสอยากจะตัดปัญหานี้ให้จบไปตั้งแต่เสียวันนี้เพราะในเมื่อจู่ๆเขาก็พึ่งรู้ตัวว่ามีลูกเพราะฉะนั้นลูกก็ควรที่จะเป็นของเขาส่วนคนเป็นแม่เขาไม่ได้อยากได้หากหญิงสาวอยากได้เงินเท่าไรเพื่อนที่จะแลกกับลูกเขาก็จะยอมจ่าย
“คุณจะบ้าหรือไงฉันอุ้มท้องถนอมต้นหนาวมาอย่างดีฉันไม่ให้ลูกกับคุณง่ายๆหรอก”
ปลายฝนรู้สึกฉุนขึ้นอย่างมากที่ชายหนุ่มดูเหมือนจะชอบตีค่าชีวิตคนเป็นเงินเสียจริงเรื่องเงินเธอไม่ได้มีปัญหาเธอก็ไม่ได้อยากได้เงินของใครทั้งนั้นและเธอก็จะไม่ยอมให้ลูกกับเขาไปง่ายๆแน่นอน
เกริ่น “คืนนั้นฉันนอนกับเค้าเพราะต้องการแค่ลูก ใครจะไปคิดว่าเค้าจะตามหาฉันจนเจอแล้วสั่งให้ฉันทำร้ายลูกในท้องตัวเองเล่า ไอ้มาเฟียบ้าฉันจะทำยังไงกับเค้าดี” “ทำให้เค้ารักแกไง” กลิ่นชวาก็แค่อยากจะมีลูกเพื่อให้พ้นการถูกแม่เลี้ยงจับตัวไปใช้หนี้เท่านั้น คืนนั้นเธอต้องการแค่ลูก ไม่ได้คิดว่าชีวิตจะพลิกผันจนได้มาอยู่ท่ามกลางมาเฟียใจดำที่ไม่อยากให้ลูกเธอเกิดมา เพื่อนเธอก็ช่างหาเป้าหมายมาให้ถูกคนเสียจริง ชีวิตวาดิมมันเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน แค่เอาชีวิตตัวเองให้รอดไปวันๆ ยังยาก หากจะต้องมีจุดอ่อนให้ศัตรูทำลายเขาก็ต้องรีบกำจัด ใครจะไปคิดว่าการนอนกับผู้หญิงที่ถูกใจแค่คืนเดียวจะทำให้เขามีปัญหาตามมาจนปวดหัว ตัวอย่างบางตอน “ความเห็นแก่ตัวของคุณมันทำให้ตัวผมกำลังเดือดร้อนรู้ไหม” วาดิมสาดเสียงแข็งใส่กลิ่นชวากับเพื่อนของเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นพ่อคนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ “ถ้าคุณไม่มานอนกับฉันทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นไหมล่ะ อย่ามาว่าฉันเห็นแก่ตัวอย่างเดียวเลย คุณมันก็เห็นแก่ได้เหมือนกันนั่นแหละ” กลิ่นชวายังไม่เลิกปากเก่ง เด็กคนนี้จะเกิดมาไม่ได้หากเขาไม่ร่วมกระทำกับเธอด้วย ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ไม่ใช่ผลงานของเธอคนเดียวเสียเมื่อไหร่ “ถ้าพวกคุณไม่วางยาผมวันนั้นผมคงจะมีสติไม่หลงเชื่อคุณว่าไม่ต้องป้องกัน” กลิ่นชวาหันไปถลึงตากับเพื่อนรัก ส่วนพิริสาก็ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รายละเอียดความจริงเป็นเช่นไรเธอถูกบังคับให้เล่าให้หมดไปแล้วจริงๆ “ช่างเหอะน่า เด็กคนนี้ฉันรับผิดชอบเองได้คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะให้ลูกไปยุ่งกับคุณหรอก พูดจริงสาบานเลย” “ผมนัดหมอเอาไว้แล้ว ผมจะพาคุณไปเอาเด็กออก” “ไม่นะ อย่าเห็นแก่ตัวสิ เด็กน้อยตาดำๆ คนนึงกำลังจะลืมตาดูโลกเลยนะ ถึงคุณไม่รักเค้าแต่ฉันรัก คนไม่มีหัวใจอย่างคุณไม่เข้าใจหรอก” วาดิมยืนจ้องตากับกลิ่นชวาอย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นชายหนุ่มก็คว้าปืนออกมาจากเอวและจ่อปลายกระบอกปืนสั้นไปที่หน้าท้องของหญิงสาว “อ๊าย/ว๊าย” สองสาวสวยตกใจกอดกันแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่มิวายคนที่ไม่ค่อยจะยอมใครง่ายๆ อย่างกลิ่นชวาก็รีบตั้งสติและหันมาต่อว่าวาดิมอีกรอบ “พ่อแม่คุณรู้ไหมเนี่ยว่าคุณเป็นคนแบบนี้ เกิดเป็นลูกผู้ชายซะเปล่าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย” แม้หัวใจจะเต้นจนแทบจะหลุดกระเด็นออกมาข้างนอกแต่กลิ่นชวาก็ยังทำใจดีสู้เสือ พูดไปจ้องตาชายหนุ่มไปไม่สะทกสะท้าน “พอเถอะว่าน” พิริสาที่กลัวจนตัวสั่นรีบปรามให้เพื่อนรักสงบปากก่อนที่จะตายกันหมด ตอนนี้พิริสารู้แล้วว่าวาดิมอยู่ระดับไหน เขาสามารถทำให้พวกเธอหายสาบสูญไปได้แค่ไม่กี่วินาที แถมใครก็เอาผิดคนอย่างเขาง่ายๆ ไม่ได้ด้วย หากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ล็อคเขาเป็นเป้าหมายให้กลิ่นชวาเลย “จะไปไหนล่ะ ไม่ยิงฉัน...ล อื้อ” พิริสายกมือปิดปากกลิ่นชวาขณะที่เพื่อนเธอกำลังพูดตามหลังวาดิมที่กำลังเดินออกไปจากห้อง “อยากตายมากหรือไงถึงได้พูดแบบนั้นน่ะ” พิริสาในตอนนี้สั่นไปทั้งตัว “ไม่ตายหรอก อีตานั่นไม่กล้ามาทำผิดที่บ้านเมืองเราหรอก” “ไม่กล้ากับผีอะไรล่ะ รู้ไหมว่าพ่อของลูกแกเค้าเป็นใคร” “ก็แค่นักธุรกิจเพื่อนเจ้านายแกไม่ใช่หรือไง คงจะรวยพอๆ กับเจ้านายแกใช่ไหมล่ะ” “หัวหน้ามาเฟียค้าอาวุธที่รัสเซียเลยโว้ย สามารถทำให้เราหายไปโดยที่ไม่มีใครเอาผิดได้ด้วย พูดแล้วฉันก็อยากจะร้องให้ เมื่อกี้ที่แกท้าทายเค้า ฉันฉี่จะราดอยู่แล้วรู้ไหม” พูดไปปาดน้ำตาไป ไอ้ที่บอกว่าพูดแล้วอยากจะร้องให้น้ำตามันไหลมาก่อนคำพูดแล้ว “อ้าว แกหาใครมาให้ฉันเนี่ย? ไหนบอกแค่นักธุรกิจธรรมดาไง” ตัวของกลิ่นชวาชาวาบตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมายังใบหน้า ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกขนหัวลุกกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ตอนนี้เหมือนเธอกำลังขึ้นหลังเสือไปแล้วเลย จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดีล่ะเนี่ย เธอจะสามารถปกป้องลูกในท้องได้หรือไม่ แล้วชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความเป็นความตายทำให้เธอต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ติดตามได้ในนิยายเรื่อง One night คืนนั้นฉันต้องการแค่ลูก ได้เลยค่า... เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามผลงานใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB นิยาย ปลายฟ้า หากชื่นชอบนิยายที่ไรท์เขียน ฝากกดติดตามนามปากกา ปลายฟ้า เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า ขอบคุณมากค่ะ
“บอกกับผมว่าฐานะเรามันต่างกันเกินไป แต่คุณก็มีผู้ชายรวยๆผลัดกันมาส่งที่หอไม่ซ้ำหน้า นี่เหรอไม่อยากคบคนรวย หรืออยากหว่านเสน่ห์เพื่อเก็บแต้ม ทำให้เค้ารักแล้วก็เฉดหัวเค้าทิ้งแบบนี้เหรอ” “หยุดดูถูกริตานะคะ ออกไปจากห้องริตาเดี๋ยวนี้” สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัวเพราะตอนนี้ภูตะวันไม่เหมือนผู้ชายคนเดิมที่เธอรู้จักสักนิด สายตาของเขาแข็งกร้าวทั้งคำพูดคำจายังไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คำเตือน นิยายเป็นเรื่องรักโรแมนติก ดราม่า มีเรื่องเกี่ยวกับการเสียลูกในท้อง พระเอกบังคับขู่เข็ญนางเอก แต่ไม่มีนอกกายนอกใจ หากรับเรื่องแบบนี้ได้ไปต่อกับนิยายไรท์ได้เลยค่ะ
ถ้าเขามีฝาแฝด แล้วคืนนั้นเธออยู่กับใครกันแน่? เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอก่อนจะก้มมองรูปลูกสาวตัวกลมที่หน้าจอมือถือ ‘แม่จะทำยังไงดี’
เขาพาเธอขึ้นไปยังจุดสูงสุดของความสุข แล้วก็ถีบเธอล่วงหล่นลงมาตกในเหว เจ็บดีจังเลย ออกไปจากชีวิตฉัน...นายสามีตัวร้าย เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แม้ครอบครัวจะหาใครมาให้ดูตัวทำความรู้จักไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ไม่คิดที่จะตกลงปลงใจคบกับใครหากไม่เห็นความเป็นไปได้ว่าจะคบกันถึงวันแต่งงานและใช้ชีวิตไปด้วยกันได้ตลอดจริงๆ จนงานวันเกิดอายุครบ 26 ปี เธอก็ได้เจอกับใครคนนั้น คนที่เธอเห็นเพียงแวบแรกก็รู้ว่าเขาคือคนที่เธอกำลังรอ เขามีชื่อว่าดาเนียลเล นักธุรกิจหนุ่มชาวอิตาลีที่รับสืบทอดกิจการเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์หรูในอิตาลีแทนคนพ่อและแม่ที่เสียและกอบกุมธุรกิจอีกหลายอย่างในมือ คราแรกที่รู้ว่าเขาสนใจเธอจากปากของพี่ชายก็ดีใจจนแทบอยากจะกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งไม่ห่วงคำว่ากุลสตรี ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้เขาได้มาเป็นเพื่อนทางธุรกิจกับพี่ชายของเธอ และขอบคุณโชคชะตาที่นำพาคนที่เธอเฝ้ารอให้ได้มาพบกันเสียทีหลังจากเพื่อนฝูงต่างก็มีคู่หรือแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว เมื่อได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มตาน้ำข้าวแสนสุขุมได้เพียงวันเดียวเขาก็ขอเธอเป็นแฟนจากนั้นก็บินเที่ยวไปเทียวมาหาเธออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ทำการเซอร์ไพรซ์ของเธอแต่งงานบนเครื่องบินส่วนตัว เธอตอบตกลงในทันทีเพราะก่อนหน้ารู้สึกว่าเขาและเธอช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน ประกอบกับความอยากจะเป็นแม่คนเพราะเห็นเพื่อนมีลูกสาวลูกชายน่ารักน่าชังเลยอยากจะมีบ้าง ชีวิตของเธอหลังแต่งก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อิตาลี ชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายมีเรื่องง้องอนตามประสา และอุปสรรคที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวบ้าง จนกระทั่งหลังการแต่งงานผ่านพ้นไปไม่เท่าไหร่ จู่ๆ เธอก็ได้ล่วงรู้ว่าความรู้สึกโชคดีที่เจอผู้ชายดีๆ มันเป็นเรื่องจอมปลอมหมดทั้งสิ้น ความหวังที่อยากจะแต่งงานเพียงครั้งเดียวและอยู่กับสามีคนเดียวไปจนตายก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี ฝากนิยายเรื่อง ลวงรักสามีตัวร้ายไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ
ในคืนเข้าหอ...เจ้าบ่าวของเธอเปลี่ยนไป จากคนสุภาพอ่อนโยน กลายเป็นคนดิบเถื่อนในทันตา ทว่า...เธอก็ทำใจตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้ ตัวอย่างบางตอน แควก “อ๊าย...” หลังจากหลับลงไปด้วยความเพลียที่ต้องต้อนรับแขกเหรื่อในงานแต่งมาทั้งวัน เธอหลับตาลงไปได้ไม่ถึงชั่วโมงจู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนกำลังฉุดกระชากชุดเจ้าสาวของเธอจนขาดวิ่น ผ้าชิ้นหนาบวกกับแรงกระชากสร้างความเจ็บแสบให้เนื้อนวลนุ่มนิ่มของเธอไม่น้อยจนต้องระบายความเจ็บเป็นเสียงกรีดร้อง “อื้อ...” ยังไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องอีกครั้ง มือหนาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็กดปิดปากของเธอเอาไว้ ดวงตากลมโตเพ่งมองไปยังชายหนุ่มที่เคยสุภาพและอ่อนโยน ทว่าตอนนี้เธอมองเขาแล้วไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้น ดวงตาของเขาที่จ้องมองเธอแข็งกร้าวดิบเถื่อน ประดุจเสือร้ายที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ คนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอคือคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานด้วยจริงๆ หรือ เนื้อหาในนิยายไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์เขียน ปี2024 หลังจากห่างหายจากการเขียนนิยายในนามปากกาปลายฟ้าร่วมหกเดือน หวังว่าผลงานชิ้นนี้ของไรท์จะทำให้นักอ่านมีความสุขทุกเวลาที่อ่านนะคะ ...ปลายฟ้ากลับมาแล้วค่า หากชื่นชอบฝากกดติดตามนามปากกา กดนิยายเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ สามีเถื่ิอน นี่น่าจะเถื่อนแค่ไม่กี่ตอนนะคะ อิๆ ในเรื่องนี้ส่วนมากจะหวานละมุน แล้วไปดราม่านิดหน่อยช่วงท้ายๆ แต่รวมๆ มีแต่ความหวานเสียส่วนใหญ่ค่ะ (ปล นิยายเรื่องเก่าๆ ของไรท์ที่เคยลงเอาไว้ กำลังทยอยรีไรท์นะคะ หากเจอคำผิดต้องขออภัย ไรท์กำลังเตรียมรื้ออัปเดตใหม่ทั้งหมดค่ะ)
มารู้ว่าตัวเองนั้นรักเธอจนหมดหัวใจก็เมื่อวันที่เธอนั้นกำลังจะจากไป จากคราแรกที่แกล้งรักเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอที่รักคืนมา.. เขาจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นรักสาวสุดแปลกที่ไม่ใช่สเปคสักนิดเพื่อเงินก้อนโตจากคนเป็นย่าที่จะสร้างธุรกิจเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเอง..แต่..มารู้ว่าตัวเองนั้นรักเธอจนหมดหัวใจก็เมื่อวันที่เธอนั้นกำลังจะจากไป จากคราแรกที่แกล้งรักเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอที่รักคืนมา..
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"