ไม่รู้เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตได้ขีดเอาไว้ให้เธอต้องไปพลาดนอนกับเจ้าของบริษัทจนทำให้เกิดตั้งท้องขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอีกทั้งเรื่องราวที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อลูกของเธอไม่ใช่แค่คนธรรมดา.... เรื่องนี้จะออกแนวลึกลับข้ามภพข้ามชาติกันนิดหน่อยนะคะแต่ความโรแมนติกมาเต็มค่า ร่างโครงเรื่องโดย หอศังกร และลงรายละเอียดคำบรรยายโดย ปลายฟ้า นิยายเรื่องนี้สร้างจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์จากใครหรือสิ่งใดและไม่ได้เจตนาลบหลู่ความเชื่อย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้เจตนาลบหลู่ความเชื่อทุกอย่างเกิดจากจินตนาการนะคะ ชื่อคนสัตว์สิ่งของสถานที่ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องที่ปรุงแต่งขึ้น ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แอบกระซิบว่า ความเป็นมาของพิมพ์ดาวและเพชรรัตน์ ในชาติที่แล้วอยู่ในเรื่อง หทัยแก้วปักษา นะคะ ตัวอย่างบางตอน "นี่คุณถ้าฉันคลอดลูกแล้วคุณจะดูแลฉันดีแบบนี้หรือเปล่า" คนึงนิจเอ่ยถามชายหนุ่มในขณะที่เขาวางแก้วนมอุ่นๆตรงหน้าเธอก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างๆ "ก็คงจะเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" เขตแดนตอบไปตามตรงทุกวันนี้เขาก็ดูแลเธอจนเป็นกิจวัตรอยู่แล้วและคิดว่าจะทำไปเรื่อยๆไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง "แล้วถ้าคุณมีคนรักล่ะ ลูกกับฉันยังสำคัญกับคุณอยู่มั้ย" สาวเจ้าเอ่ยเสียงอ่อนเรื่องที่เธอกังวลในใจมาตลอดก็คงจะเป็นเรื่องนี้ "ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้น มีคุณกับลูกแล้วผมจะหาคนอื่นมาวุ่นวายกับชีวิตทำไม" เขตแดนเห็นว่าหญิงสาวดูท่าจะถามอะไรที่ค่อนข้างไร้สาระ เขาเป็นคนที่มีความคิดพอคงไม่หาเรื่องมาทำให้เขาวุ่นวายไปกว่าเดิมอยู่แล้ว คำตอบของเขตแดนทำให้คนึงนิจยิ้มและคลายกังวลไปได้มาก ทั้งยังรู้สึกเขินกับคำตอบของเขาจนใบหน้าของเธอตอนนี้แดงจนเป็นลูกตำลึงไปแล้ว "ยิ้มกรุ้มกริ่มอีกแล้ว มีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่า" "เรามาลองเป็นคนรักกันดีหรือเปล่าคะ" สาวเจ้าเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้ามองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ "นี่คุณกำลังจีบผมงั้นหรอ" เขตแดนเอี้ยวตัวมองหน้าของคนึงนิจให้แน่ใจว่าเมื่อครู่เธอพูดจริงหรือพูดเล่น "ก็แค่ถามเล่นๆ ไม่มีอะไรหรอก" ว่าจบก็ยกนมอุ่นขึ้นมาดื่มแก้เขิน "ก็ได้" พรวด.. "อะ.. แอ้กก.. " สาวเจ้าได้ฟังคำตอบที่ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะตกปากรับคำเธอเร็วเช่นนี้ จึงเกิดสำลักนมในแก้วขึ้นมากะทันหัน "เลอะเทอะหมดแล้วค่อยๆ ดื่มสิ" มือหนารีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าเช็ดตาให้หญิงสาวในขณะที่เธอยังคงนิ่งอึ้งกับคำตอบของเขาอยู่ "เมื่อกี้ว่าไงนะ" คนึงนิจมองหน้าเขตแดนด้วยความสงสัย ทั้งอยากได้ยินคำตอบที่เขาพูดกับเธออีกครั้ง "ก็ได้เอาอย่างที่คุณเสนอ ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันยาวอยู่แล้วนี่" เมื่อจบคำพูดของชายหนุ่มร่างบางก็เอาแต่บิดตัวเขินไปมาไม่ได้สนในรอยเปื้อนนมในแก้วบนตัวของตัวเอง หน้าที่เช็ดทำความสะอาดเลยตกเป็นของเขตแดน คนตัวโตส่ายหัวอมยิ้มอ่อนที่หญิงสาวเอาแต่นั่งเขินไม่คิดว่าเรื่องที่เขาอยากจะคุยกับเธอกลับเป็นเธอที่เอ่ยพูดขึ้นมาก่อน นับว่าหัวใจเขาและเธอตรงกันมานานแล้วเป็นแน่
SC group
ณ. บริษัทขายเครื่องประดับรายใหญ่ในกรุงเทพมหานครบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและผลิตแบรนด์เครื่องประดับหลายแบรนด์มีพนักงานร่วมหลายร้อยคนที่อยู่ที่นี่
ช่วงสายของวันนี้หลังจากการประชุมเรื่องการเปิดตัวคอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์หลักที่แผนกดีไซน์เนอร์ก็ค่อนข้างวุ่นวายเป็นพิเศษเพราะตอนนี้ดีไซน์เนอร์มือดีสองคนของบริษัทกำลังต่อล้อต่อเถียงกันยกใหญ่
“เธอขโมยงานของฉัน”
คนึงนิจหญิงสาวตัวเล็กวัย25 เธออยู่ในชุดพนักงานของบริษัทเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่า สิ่งที่ทำให้เธอดูสูงเทียมอีกฝ่ายได้ก็เพราะส้นสูงห้านิ้วที่เธอใส่ หญิงสาวยืนเท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“เธอมีหลักฐานอะไรมาปรักปรำฉัน”
รสสุคนสาวสวยหุ่นดีวัยยี่28เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงที่สุดในออฟฟิศก็ว่าได้ เธอยืนกอดอกมองหน้าคนึงนิจอย่างไม่พอใจเช่นกัน
“ก็งานที่เธอเสนอวันนี้มันเป็นงานที่ฉันออกแบบ”
คนึงนิจมั่นใจว่ายังไงรสสุคนก็ต้องก้อปปี้งานของเธอไป ไม่อย่างนั้นทุกตัวอย่างที่รสสุคนเสนอที่บอร์ดประชุมและได้หน้าไปวันนี้มันจะเหมือนที่เธอออกแบบทุกชิ้นได้ยังไง
“ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่ามากล่าวหากันลอยๆ อย่ามาทำตัวสก๊อยแถวนี้”
รสสุคนเปรยสายตามองคนึงนิจที่โวยวายเอะอะเสียงดังตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะหันหลังกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตนเองอย่างไม่สนใจ
“หนอย..”
เพี๊ยะ “โอ้ยย..”
ด้วยอารมณ์โทสะสาวร่างเล็กจึงเอื้อมมือไปจิกหัวรสสุคน แล้วฟาดมือเรียวไปที่ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางค์แน่นจนรสสุคนนั้นหน้าหัน
“สก๊อยงั้นหรอถึงฉันจะสก๊อยแต่ฉันก็ไม่เคยหน้าด้านขโมยงานคนอื่นมาเป็นงานของตัวเองหน้าตาเฉยหรอกนะ”
คนึงนิจแค้นรสสุคนมากที่ทำผิดแล้วยังลอยหน้าลอยตา เครื่องประดับที่เธอออกแบบเธออดหลับอดนอนตั้งหลายคืนกว่าจะทำมันเสร็จ แต่รสสุคนดันขโมยงานของเธอไปหน้าดื้อๆทั้งยังได้รับความดีความชอบจากผู้ใหญ่หลายๆคนอีกด้วย
“แก..”
“อะไรกัน”
รสสุคนเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของคนึงนิจ แต่ก็ต้องชะงักเอาไว้เพราะได้ยินเสียงของเปรมสุดาหัวหน้าแผนกของพวกเธอดังขึ้นมาก่อน
“โอ้ย..พี่ปุ้ยขาอยู่ดีๆ น้ำขิงก็มาหาเรื่องโรสค่ะ”
รสสุคนเห็นดังนั้นจึงแกล้งเจ็บยกใหญ่เพื่อที่จะให้เปรมสุดานั้นเห็นใจ
“ไปคุยกับพี่ในห้องเดี๋ยวนี้”
เปรมสุดาเรียกทั้งสองเข้าไปคุยในห้องทำงานเป็นการส่วนตัว และแล้วผลก็ออกมาว่าคนึงนิจนั้นถูกไล่ออกที่ไปกล่าวหารสสุคนโดยที่ไม่มีหลักฐานและเริ่มลงมือทำร้ายรสสุคนก่อนด้วย
ชานเมืองนนทบุรี
“เฮ้อ..ไม่น่าใจร้อนเลยเรางานเดี๋ยวนี้ก็ยิ่งหายากๆ อยู่ด้วย”
ร่างบางสวมชุดนอนตัวยาวสีชมพูออกมานั่งที่ระเบียงบ้านหลังเล็กของเธอ หลังจากที่ทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วดวงตากลมโตตอนนี้ละห้อยห่อเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจอย่างหดหู่ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้...หากเธอชั่งใจในความใจร้อนของเธอได้สักนิด แล้วหาหลักฐานมาเอาผิดรสสุคนชะตากรรมของเธอก็จะได้ไม่เป็นเช่นนี้
คนึงนิจเป็นหญิงสาวตัวเล็กน่าตาจิ้มลิ้มผมยาวสีน้ำตาลหยักศก ผิวขาวอมชมพูหุ่นนาฬิกาทรายเป็นคนที่ชอบแต่งตัวในระดับหนึ่ง เพราะชอบในแฟชั่นเธอจะดูเป็นผู้หญิงที่น่าทะนุถนอมมาก หากลดความโผงผางตรงไปตรงมาและหัวร้อนง่ายลง แต่แม้เธอจะนิสัยใจร้อนเธอก็ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน เธอเป็นคนที่คนอื่นดูจากภายนอกแล้วจะดูเข้มแข็ง แต่ในใจนั้นก็แอบว้าเหว่อยู่พอสมควร ในชีวิตไม่เคยเกรงกลัวอะไรแต่หลังจากที่เสียพ่อและแม่ไปเธอก็เกลียดและกลัวการสูญเสียเป็นที่สุด
หญิงสาวเรียนจบแฟชั่นดีไซน์มาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ หลังจากที่เรียนจบได้เพียงแค่ปีเดียวพ่อกับแม่ของเธอก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ดีที่พ่อแม่นั้นเหลือสมบัติเอาไว้ให้บ้างตอนนี้เธอจึงไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนัก
Rrrrrrr
“ว่าไงดาว อะไรนะ แกรอฉันอยู่นั่นแหละเดี๋ยวฉันขับรถไปรับเดี๋ยวนี้เลย”
สาวเจ้าที่กำลังเหม่อหลุดจากภวังค์ได้ก็เพราะเสียงมือถือที่วางอยู่ข้างๆตัวดังขึ้นและปรากฏเป็นชื่อของเพื่อนรักคนเดียวของเธอ เมื่อวางสายจากเพื่อนที่กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ผุดลุกวิ่งออกไปขับรถเก๋งสีขาวคู่ใจออกจากบ้านเพื่อไปรับเพื่อนของเธอทันที
ณ ศาลาหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
“ฮึก..ฮือๆๆ ..”
เสียงร้องให้กระซิกของหญิงสาวเคล้าคลอกับเสียงรถที่ผ่านไปผ่านมายามหัวค่ำ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็เหลือบมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาถามหญิงสาวว่าเธอนั้นเป็นอะไร เพราะที่นี่เป็นกรุงเทพมหานครเมืองที่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจใครมากนักต่างคนต่างก็เร่งรีบที่จะไปให้ถึงที่หมายเพื่อที่จะพักผ่อนหลังจากทำงานมาทั้งวัน
“ถ้าคุณพ่อยังอยู่ชีวิตของดาวจะไม่เป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่าคะ”
พิมพ์ดาวหญิงสาววัย24ย่าง25เป็นลูกคุณหนูตระกูลไฮโซที่บ้านมีกิจการนำเข้ารถหรู เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วค่อนข้างหัวอ่อนและเห็นอกเห็นใจคนอื่นเสียจนถูกเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ รูปร่างหน้าตาของเธอก็สวยหวานใครเห็นเป็นเอ็นดูกันแทบทุกคน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผอมแห้งผมยาวดำตรงสลวยจนถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่คิ้วคมเข้มได้รูปดวงตาคมกลมโตเหมือนลูกแมวน้อยจมูกเล็กตรงเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับอมชมพูมีแก้มเล็กน้อยนัยตากลมโตนั้นค่อนข้างเศร้า เพราะแม้นเธอจะเกิดมาเป็นคุณหนูแต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกมีความสุขจริงๆเลยสักครั้งในชีวิตตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นหน้าแม่ด้วยแม่เธอเสียตอนคลอดเธอ ส่วนคนเป็นพ่อก็ทำแต่งานปล่อยให้เธออยู่บ้านกับแม่เลี้ยงที่ไม่เคยเห็นเธอเป็นลูก
หลังจากที่พิมพ์ดาวเรียนจบพยาบาลเธอก็ขอออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวมาเกือบสามปีแล้ว โดยให้เหตุผลกับคนเป็นพ่อว่าอยากอยู่ใกล้ที่ทำงานแต่ความจริงแล้วเธออึดอัดที่จะอยู่บ้านกับแม่เลี้ยงที่เอาแต่กีดกันเธอกับพ่อของเธอมากกว่า..การอยู่ข้างนอกแม้คนเป็นพ่อจะนานๆ มาหาทีแต่เธอก็ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อของเธอมากกว่าตอนที่มีแม่เลี้ยงอยู่ด้วย
แต่ตอนนี้พ่อของเธอได้จากไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คราแรกคิดว่าเธอจะไม่ต้องเกี่ยวพันอะไรกับแม่เลี้ยงของเธออีกแล้วแต่แม่เลี้ยงของเธอก็ยังหาเรื่องมาทำให้เธออึดอัดใจอีกจนได้ คือให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักเพื่อเป็นการใช้หนี้ที่แม่เลี้ยงเธอก่อเอาไว้..ตอนนี้เธอเลยต้องตัดสินใจที่จะหนีเลยโทรให้คนึงนิจเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถมมารับ
คนึงนิจจอดรถที่ข้างถนนเลื่อนกระจกมองเข้าไปในศาลาริมทางเห็นหญิงสาวใส่ชุดเดรสยาวสีขาวข้างๆตัวมีกระเป๋าใบใหญ่มั่นใจแล้วว่านั่นเพื่อนเธอจึงรีบลงจากรถและเดินเข้าไปหา
“แกหยุดร้องให้แล้วบอกฉันก่อนว่าทำไมแกถึงหนีออกมาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”
“แม่ฉันจะให้ฉันแต่งงานใช้หนี้แต่ฉันไม่ได้รักคุณณัฐ”
มือน้อยของพิมพ์ดาวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเพื่อนสาวด้วยอาการสะอึกสะอื้น
“ไปๆ ขึ้นรถก่อน”
คนึงนิจรีบช่วยเพื่อนเธอลากกระเป๋าลงจากศาลาข้างทางแล้วรีบขับรถออกไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว
“คนแบบนั้นแกไม่น่ายกให้เป็นแม่นะ..ตั้งแต่พ่อแกเสียฉันนึกว่าแม่เลี้ยงจะเลิกยุ่งกับแกแล้วเสียอีกตัดสินใจหนีออกมาก็อย่ากลับไปอีกล่ะ”
คนึงนิจใช้เวลาขับรถพักใหญ่จึงพาพิมพ์ดาวกลับมาถึงบ้านหลังเล็กของเธอ ทั้งยังเจ็บใจแทนพิมพ์ดาวเรื่องแม่เลี้ยงของเพื่อนเธอที่หาแต่เรื่องมาให้เพื่อนเธออึดอัดใจ
เกริ่น “คืนนั้นฉันนอนกับเค้าเพราะต้องการแค่ลูก ใครจะไปคิดว่าเค้าจะตามหาฉันจนเจอแล้วสั่งให้ฉันทำร้ายลูกในท้องตัวเองเล่า ไอ้มาเฟียบ้าฉันจะทำยังไงกับเค้าดี” “ทำให้เค้ารักแกไง” กลิ่นชวาก็แค่อยากจะมีลูกเพื่อให้พ้นการถูกแม่เลี้ยงจับตัวไปใช้หนี้เท่านั้น คืนนั้นเธอต้องการแค่ลูก ไม่ได้คิดว่าชีวิตจะพลิกผันจนได้มาอยู่ท่ามกลางมาเฟียใจดำที่ไม่อยากให้ลูกเธอเกิดมา เพื่อนเธอก็ช่างหาเป้าหมายมาให้ถูกคนเสียจริง ชีวิตวาดิมมันเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน แค่เอาชีวิตตัวเองให้รอดไปวันๆ ยังยาก หากจะต้องมีจุดอ่อนให้ศัตรูทำลายเขาก็ต้องรีบกำจัด ใครจะไปคิดว่าการนอนกับผู้หญิงที่ถูกใจแค่คืนเดียวจะทำให้เขามีปัญหาตามมาจนปวดหัว ตัวอย่างบางตอน “ความเห็นแก่ตัวของคุณมันทำให้ตัวผมกำลังเดือดร้อนรู้ไหม” วาดิมสาดเสียงแข็งใส่กลิ่นชวากับเพื่อนของเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นพ่อคนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ “ถ้าคุณไม่มานอนกับฉันทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นไหมล่ะ อย่ามาว่าฉันเห็นแก่ตัวอย่างเดียวเลย คุณมันก็เห็นแก่ได้เหมือนกันนั่นแหละ” กลิ่นชวายังไม่เลิกปากเก่ง เด็กคนนี้จะเกิดมาไม่ได้หากเขาไม่ร่วมกระทำกับเธอด้วย ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ไม่ใช่ผลงานของเธอคนเดียวเสียเมื่อไหร่ “ถ้าพวกคุณไม่วางยาผมวันนั้นผมคงจะมีสติไม่หลงเชื่อคุณว่าไม่ต้องป้องกัน” กลิ่นชวาหันไปถลึงตากับเพื่อนรัก ส่วนพิริสาก็ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รายละเอียดความจริงเป็นเช่นไรเธอถูกบังคับให้เล่าให้หมดไปแล้วจริงๆ “ช่างเหอะน่า เด็กคนนี้ฉันรับผิดชอบเองได้คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะให้ลูกไปยุ่งกับคุณหรอก พูดจริงสาบานเลย” “ผมนัดหมอเอาไว้แล้ว ผมจะพาคุณไปเอาเด็กออก” “ไม่นะ อย่าเห็นแก่ตัวสิ เด็กน้อยตาดำๆ คนนึงกำลังจะลืมตาดูโลกเลยนะ ถึงคุณไม่รักเค้าแต่ฉันรัก คนไม่มีหัวใจอย่างคุณไม่เข้าใจหรอก” วาดิมยืนจ้องตากับกลิ่นชวาอย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นชายหนุ่มก็คว้าปืนออกมาจากเอวและจ่อปลายกระบอกปืนสั้นไปที่หน้าท้องของหญิงสาว “อ๊าย/ว๊าย” สองสาวสวยตกใจกอดกันแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่มิวายคนที่ไม่ค่อยจะยอมใครง่ายๆ อย่างกลิ่นชวาก็รีบตั้งสติและหันมาต่อว่าวาดิมอีกรอบ “พ่อแม่คุณรู้ไหมเนี่ยว่าคุณเป็นคนแบบนี้ เกิดเป็นลูกผู้ชายซะเปล่าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย” แม้หัวใจจะเต้นจนแทบจะหลุดกระเด็นออกมาข้างนอกแต่กลิ่นชวาก็ยังทำใจดีสู้เสือ พูดไปจ้องตาชายหนุ่มไปไม่สะทกสะท้าน “พอเถอะว่าน” พิริสาที่กลัวจนตัวสั่นรีบปรามให้เพื่อนรักสงบปากก่อนที่จะตายกันหมด ตอนนี้พิริสารู้แล้วว่าวาดิมอยู่ระดับไหน เขาสามารถทำให้พวกเธอหายสาบสูญไปได้แค่ไม่กี่วินาที แถมใครก็เอาผิดคนอย่างเขาง่ายๆ ไม่ได้ด้วย หากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ล็อคเขาเป็นเป้าหมายให้กลิ่นชวาเลย “จะไปไหนล่ะ ไม่ยิงฉัน...ล อื้อ” พิริสายกมือปิดปากกลิ่นชวาขณะที่เพื่อนเธอกำลังพูดตามหลังวาดิมที่กำลังเดินออกไปจากห้อง “อยากตายมากหรือไงถึงได้พูดแบบนั้นน่ะ” พิริสาในตอนนี้สั่นไปทั้งตัว “ไม่ตายหรอก อีตานั่นไม่กล้ามาทำผิดที่บ้านเมืองเราหรอก” “ไม่กล้ากับผีอะไรล่ะ รู้ไหมว่าพ่อของลูกแกเค้าเป็นใคร” “ก็แค่นักธุรกิจเพื่อนเจ้านายแกไม่ใช่หรือไง คงจะรวยพอๆ กับเจ้านายแกใช่ไหมล่ะ” “หัวหน้ามาเฟียค้าอาวุธที่รัสเซียเลยโว้ย สามารถทำให้เราหายไปโดยที่ไม่มีใครเอาผิดได้ด้วย พูดแล้วฉันก็อยากจะร้องให้ เมื่อกี้ที่แกท้าทายเค้า ฉันฉี่จะราดอยู่แล้วรู้ไหม” พูดไปปาดน้ำตาไป ไอ้ที่บอกว่าพูดแล้วอยากจะร้องให้น้ำตามันไหลมาก่อนคำพูดแล้ว “อ้าว แกหาใครมาให้ฉันเนี่ย? ไหนบอกแค่นักธุรกิจธรรมดาไง” ตัวของกลิ่นชวาชาวาบตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมายังใบหน้า ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกขนหัวลุกกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ตอนนี้เหมือนเธอกำลังขึ้นหลังเสือไปแล้วเลย จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดีล่ะเนี่ย เธอจะสามารถปกป้องลูกในท้องได้หรือไม่ แล้วชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความเป็นความตายทำให้เธอต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ติดตามได้ในนิยายเรื่อง One night คืนนั้นฉันต้องการแค่ลูก ได้เลยค่า... เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามผลงานใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB นิยาย ปลายฟ้า หากชื่นชอบนิยายที่ไรท์เขียน ฝากกดติดตามนามปากกา ปลายฟ้า เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า ขอบคุณมากค่ะ
“บอกกับผมว่าฐานะเรามันต่างกันเกินไป แต่คุณก็มีผู้ชายรวยๆผลัดกันมาส่งที่หอไม่ซ้ำหน้า นี่เหรอไม่อยากคบคนรวย หรืออยากหว่านเสน่ห์เพื่อเก็บแต้ม ทำให้เค้ารักแล้วก็เฉดหัวเค้าทิ้งแบบนี้เหรอ” “หยุดดูถูกริตานะคะ ออกไปจากห้องริตาเดี๋ยวนี้” สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัวเพราะตอนนี้ภูตะวันไม่เหมือนผู้ชายคนเดิมที่เธอรู้จักสักนิด สายตาของเขาแข็งกร้าวทั้งคำพูดคำจายังไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คำเตือน นิยายเป็นเรื่องรักโรแมนติก ดราม่า มีเรื่องเกี่ยวกับการเสียลูกในท้อง พระเอกบังคับขู่เข็ญนางเอก แต่ไม่มีนอกกายนอกใจ หากรับเรื่องแบบนี้ได้ไปต่อกับนิยายไรท์ได้เลยค่ะ
ถ้าเขามีฝาแฝด แล้วคืนนั้นเธออยู่กับใครกันแน่? เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอก่อนจะก้มมองรูปลูกสาวตัวกลมที่หน้าจอมือถือ ‘แม่จะทำยังไงดี’
เขาพาเธอขึ้นไปยังจุดสูงสุดของความสุข แล้วก็ถีบเธอล่วงหล่นลงมาตกในเหว เจ็บดีจังเลย ออกไปจากชีวิตฉัน...นายสามีตัวร้าย เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แม้ครอบครัวจะหาใครมาให้ดูตัวทำความรู้จักไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ไม่คิดที่จะตกลงปลงใจคบกับใครหากไม่เห็นความเป็นไปได้ว่าจะคบกันถึงวันแต่งงานและใช้ชีวิตไปด้วยกันได้ตลอดจริงๆ จนงานวันเกิดอายุครบ 26 ปี เธอก็ได้เจอกับใครคนนั้น คนที่เธอเห็นเพียงแวบแรกก็รู้ว่าเขาคือคนที่เธอกำลังรอ เขามีชื่อว่าดาเนียลเล นักธุรกิจหนุ่มชาวอิตาลีที่รับสืบทอดกิจการเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์หรูในอิตาลีแทนคนพ่อและแม่ที่เสียและกอบกุมธุรกิจอีกหลายอย่างในมือ คราแรกที่รู้ว่าเขาสนใจเธอจากปากของพี่ชายก็ดีใจจนแทบอยากจะกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งไม่ห่วงคำว่ากุลสตรี ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้เขาได้มาเป็นเพื่อนทางธุรกิจกับพี่ชายของเธอ และขอบคุณโชคชะตาที่นำพาคนที่เธอเฝ้ารอให้ได้มาพบกันเสียทีหลังจากเพื่อนฝูงต่างก็มีคู่หรือแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว เมื่อได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มตาน้ำข้าวแสนสุขุมได้เพียงวันเดียวเขาก็ขอเธอเป็นแฟนจากนั้นก็บินเที่ยวไปเทียวมาหาเธออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ทำการเซอร์ไพรซ์ของเธอแต่งงานบนเครื่องบินส่วนตัว เธอตอบตกลงในทันทีเพราะก่อนหน้ารู้สึกว่าเขาและเธอช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน ประกอบกับความอยากจะเป็นแม่คนเพราะเห็นเพื่อนมีลูกสาวลูกชายน่ารักน่าชังเลยอยากจะมีบ้าง ชีวิตของเธอหลังแต่งก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อิตาลี ชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายมีเรื่องง้องอนตามประสา และอุปสรรคที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวบ้าง จนกระทั่งหลังการแต่งงานผ่านพ้นไปไม่เท่าไหร่ จู่ๆ เธอก็ได้ล่วงรู้ว่าความรู้สึกโชคดีที่เจอผู้ชายดีๆ มันเป็นเรื่องจอมปลอมหมดทั้งสิ้น ความหวังที่อยากจะแต่งงานเพียงครั้งเดียวและอยู่กับสามีคนเดียวไปจนตายก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี ฝากนิยายเรื่อง ลวงรักสามีตัวร้ายไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ
ในคืนเข้าหอ...เจ้าบ่าวของเธอเปลี่ยนไป จากคนสุภาพอ่อนโยน กลายเป็นคนดิบเถื่อนในทันตา ทว่า...เธอก็ทำใจตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้ ตัวอย่างบางตอน แควก “อ๊าย...” หลังจากหลับลงไปด้วยความเพลียที่ต้องต้อนรับแขกเหรื่อในงานแต่งมาทั้งวัน เธอหลับตาลงไปได้ไม่ถึงชั่วโมงจู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนกำลังฉุดกระชากชุดเจ้าสาวของเธอจนขาดวิ่น ผ้าชิ้นหนาบวกกับแรงกระชากสร้างความเจ็บแสบให้เนื้อนวลนุ่มนิ่มของเธอไม่น้อยจนต้องระบายความเจ็บเป็นเสียงกรีดร้อง “อื้อ...” ยังไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องอีกครั้ง มือหนาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็กดปิดปากของเธอเอาไว้ ดวงตากลมโตเพ่งมองไปยังชายหนุ่มที่เคยสุภาพและอ่อนโยน ทว่าตอนนี้เธอมองเขาแล้วไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้น ดวงตาของเขาที่จ้องมองเธอแข็งกร้าวดิบเถื่อน ประดุจเสือร้ายที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ คนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอคือคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานด้วยจริงๆ หรือ เนื้อหาในนิยายไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์เขียน ปี2024 หลังจากห่างหายจากการเขียนนิยายในนามปากกาปลายฟ้าร่วมหกเดือน หวังว่าผลงานชิ้นนี้ของไรท์จะทำให้นักอ่านมีความสุขทุกเวลาที่อ่านนะคะ ...ปลายฟ้ากลับมาแล้วค่า หากชื่นชอบฝากกดติดตามนามปากกา กดนิยายเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ สามีเถื่ิอน นี่น่าจะเถื่อนแค่ไม่กี่ตอนนะคะ อิๆ ในเรื่องนี้ส่วนมากจะหวานละมุน แล้วไปดราม่านิดหน่อยช่วงท้ายๆ แต่รวมๆ มีแต่ความหวานเสียส่วนใหญ่ค่ะ (ปล นิยายเรื่องเก่าๆ ของไรท์ที่เคยลงเอาไว้ กำลังทยอยรีไรท์นะคะ หากเจอคำผิดต้องขออภัย ไรท์กำลังเตรียมรื้ออัปเดตใหม่ทั้งหมดค่ะ)
มารู้ว่าตัวเองนั้นรักเธอจนหมดหัวใจก็เมื่อวันที่เธอนั้นกำลังจะจากไป จากคราแรกที่แกล้งรักเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอที่รักคืนมา.. เขาจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นรักสาวสุดแปลกที่ไม่ใช่สเปคสักนิดเพื่อเงินก้อนโตจากคนเป็นย่าที่จะสร้างธุรกิจเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเอง..แต่..มารู้ว่าตัวเองนั้นรักเธอจนหมดหัวใจก็เมื่อวันที่เธอนั้นกำลังจะจากไป จากคราแรกที่แกล้งรักเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอที่รักคืนมา..
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!