"มาร์ค พะ พอแล้ว อื้ออออ เราจะต้องไปทำงานนะ อ๊ะ อ๊ะ หยุดก่อน อื้ออออ" ตอนนี้ฉันแทบจะขาดใจตายเมื่อโดนคนด้านบนปรนเปรอความเสียวให้อย่างไม่ขาด "อย่าห้ามน่า....เธอไม่ชอบให้ฉันทำรึไง" ตอนนี้มาร์คกำลังสอดใส่แท่งร้อนของเขาที่ถูกห่อหุ้มด้วยเครื่องป้องกันเรียบร้อยแล้วเข้ามาในช่องทางรักของฉันอย่างช้าๆ จนมันเข้ามาจนสุดทาง แล้วก็เริ่มกระแทก มันทำให้ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาอย่างสุดเสียงเพราะมันเสียดสีกับผนังมดลูกด้านใน ทุกจังหวะการเข้าออกมันทั้งเจ็บทั้งเสียวแทบขาดใจ "อื้ออออ ชะ ชอบ แต่ว่าเราต้องไปทำงานไง" "เดี๋ยวไปส่งก็ได้ตอนนี้ขอเอาเธอให้หายอยากก่อนไม่ได้เจอกันหลายวันฉันโคตรคิดถึงเธอเลยว่ะ" ใช่ค่ะเราไม่ได้เจอกันมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เพราะเขาพาคู่ควงคนล่าสุดของเขาไปเที่ยวญี่ปุ่นมายังไงล่ะ
คอนโดM.....
อาย....
"มาร์ค พะ พอแล้ว อื้ออออ เราจะต้องไปทำงานนะ อ๊ะ อ๊ะ หยุดก่อน อื้ออออ" ตอนนี้ฉันแทบจะขาดใจตายเมื่อโดนคนด้านบนปรนเปรอความเสียวให้อย่างไม่ขาด
"อย่าห้ามน่า....เธอไม่ชอบให้ฉันทำรึไง" ตอนนี้มาร์คกำลังสอดใส่แท่งร้อนของเขาที่ถูกห่อหุ้มด้วยเครื่องป้องกันเรียบร้อยแล้วเข้ามาในช่องทางรักของฉันอย่างช้าๆ จนมันเข้ามาจนสุดทาง แล้วก็เริ่มกระแทก มันทำให้ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาอย่างสุดเสียงเพราะมันเสียดสีกับผนังมดลูกด้านใน ทุกจังหวะการเข้าออกมันทั้งเจ็บทั้งเสียวแทบขาดใจ
"อื้ออออ ชะ ชอบ แต่ว่าเราต้องไปทำงานไง"
"เดี๋ยวไปส่งก็ได้ตอนนี้ขอเอาเธอให้หายอยากก่อนไม่ได้เจอกันหลายวันฉันโคตรคิดถึงเธอเลยว่ะ" ใช่ค่ะเราไม่ได้เจอกันมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เพราะเขาพาคู่ควงคนล่าสุดของเขาไปเที่ยวญี่ปุ่นมายังไงล่ะ
พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ
"อ๊ะ อ๊ะ อ้าาาาาา มาร์ค เราจะเสร็จ อ๊ะ อ๊ายยยยยย มาร์ค" ฉันนับไม่ได้ว่าตั้งแต่ทำกันเกือบชั่วโมงมาฉันเสร็จไปแล้วกี่รอบ
"เสร็จเลยฉันยังอีกนาน" พั่บ พั่บ พั่บ เขายังแรงดีไม่มีตกแทงเข้าแทงออกร่องของฉันจนฉันเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบทั้งที่เพิ่งจะเสร็จไปไม่ถึงห้านาที
"อ๊ะ อ๊ะ แรงๆ เลยมาร์ค"
"พูดเองนะว่าเอาแรงๆ "
พูดจบมาร์คก็ถอดท่อนเอ็นของเขาออกจากนั้นเขาลุกขึ้นยืนก่อนจะดึงแขนฉันให้ลุกตามเขาไปจากนั้นเขาก็อุ้มฉันควบเอวและให้ฉันใช้มือจับท่อนเอ็นที่มันยังแข็งอยู่สอดใส่เข้าไปในร่องของฉันอีกครั้งซึ่งท่านี้เราทำกันทุกครั้งและมันก็เสียวมากทุกครั้งเพราะมันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นแล้วก็รุนแรงเพราะมาร์คสะกดคำว่าเบาๆ ไม่เคยเป็น
ปึก ปึก ปึก ปึก มารค์เดินไปรอบๆ ห้องพร้อมกันอุ้มฉันไปด้วยมือของเขาคอยพยุงบั้นท้ายของฉันให้มันขยับขึ้นขยับลงเพื่อรับแรงกระแทกที่เขาส่งมา สุดท้ายฉันก็ต้องกรี๊ดร้องออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ เพราะทุกจังหวะการเดินของเขามันทำให้ท่อนเอ็นลำใหญ่เสียดแทงเข้าไปด้านในจนมันชนกับมดลูกของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า
"กรี๊ดดดด อื้อ มาร์ค เราจุกเดินช้าๆ "
"ช้าได้ไงช้าก็ไม่เสียวดิ จุ๊บ จ๊วบบบบ" มาร์คกดจูบลงมาที่ริมฝีปากของฉันอย่างรวดเร็วเราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่มจูบไปก็กระแทกไปไม่เสียวก็ให้มันรู้ไป
"อื้มมมมม ฉันคิดถึงจูบของนายจังเลยมาร์ค" ฉันพูดความจริงค่ะเราไม่ได้จูบกันมาเกือบอาทิตย์แล้วมันเหมือนเป็นความเคยชินที่เราต้องจุบกันทุกวัน
จากนั้นมาร์คก็พาฉันเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง เขาวางฉันลงและจับฉันพลิกตัวหันหลังให้เขาจากนั้นก็จับท่อนเอ็นที่ยังไม่ยอมเสร็จสักทีเข้ามาอีกครั้ง
"อื้ออออ แทงเข้ามาเบาๆ สิ"
"เบาไม่เป็นก็รุ้อยู่" พอเข้ามาได้เขาก็เริ่มซอยเอวเข้าใส่ร่องของฉันอีกครั้งทุกจังหวะกระแทกเข้ามาแบบเน้นๆ จนฉันจุกแล้วจุกอีกแต่บ่นไปมาร์คก็ไม่มีทางเบาแรงให้หรอก
"ร่องเธอแม่งโคตรตอดฉันเลยว่ะ เสียวชิบหายเอากันกี่ทีก็แน่นตลอด" พูดไปก็กระแทกไปไม่มีหยุด
"อื้ออออ มาร์ค เราจะเสร็จอีกแล้ว มาร์คจะเสร็จยัง"
"ใกล้ละ ใกล้ละ ซี๊ดดดด อื้มมมม" มาร์คคงจะใกล้แล้วค่ะเพราะเขาใส่มาแบบรุนแรงและรัวสะโพกใส่ไม่ยั้ง
ปัก ปัก ปัก ปัก ปึก ปึก ปึก เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วทั้งห้องโชคดีที่ห้องของมาร์คมันเก็บเสียงได้เป็นอย่างดีไม่งั้นข้างห้องคงจะรุ้ว่าเราทำอะไรกัน
"อ๊ายยยย มาร์คจ๋าเราเสร็จแล้วววววว อื้ออออออ"
"อ๊าาาาา อ๊าาสสสสส ซี๊ดดดดดดดดด"
ฉันรับรุ้ถึงความอุ่นร้อนที่มาร์คปลดปล่อยออกมาในร่องของฉันเขาเสร็จแล้วสินะ แต่เขาใส่ถุงยางไม่ใช่เหรอแล้วทำไม....
"มาร์คถุงยางไม่ไ่ด้ใส่เหรอ" ฉันหันไปถามเขาแต่คำตอบที่ได้ก็ทำให้ฉันไปไม่เป็น
"ตอนแรกใส่แต่เอาไม่มันส์เลยสด แต่คงไม่เป็นไรมั้งเธอก็ทานยาคุมตลอดนี่ใช่มั้ย"
"อื้มมมก็ใช่แต่เราอยากให้นายป้องกันด้วย"
"โอเครอบหน้าละกันแต่ตอนนี้ฉันยังไม่หายอยากเธอเลยว่ะ ขอต่ออีกรอบนะ"
"อ๊ายยย มาร์คไม่เอา" แต่ไม่ทันแล้วเขาแทงท่อนเอ็นเข้ามาอีกรอบโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว เราสร้างความสุขและความเสียวกันอีกรอบจนมาจบลงที่เตียงนอน
"เอาเธอแม่งโคตรมันส์เลยว่ะอาย จุ๊บ"
มาร์คจุ๊บลงมาที่แผ่นหลังอันเปลือยเปล่าของฉันหลังจากที่เขาเสร็จก่อนจะดึงท่อนเอ็นของเขาออกจากช่องทางรักของฉันและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทิ้งให้ฉันนอนคว่ำหน้าหายใจรวยรินเพราะความเพลียอยู่บนเตียง มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เรามีอะไรกันเสร็จ ไม่มีสักครั้งหรอกที่เขาจะอุ้มหรือพาฉันเข้าไปทำความสะอาดร่างกายหลังจากที่เราสองคนผ่านศึกรักกันมาเหมือนที่ฉันเคยอ่านในนิยายที่พระเอกจะอุ้มนางเอกเข้ามาอาบน้ำด้วยกันในห้องน้ำ เพราะนี่มันคือชีวิตจริงฉันไม่ใช่นางเอกของเขาและเขาก็ไม่ใช่พระเอกของฉัน เราเป็นแค่เพียงเพื่อนกัน แค่เพื่อนเท่านั้น เพื่อนที่ทำให้กันได้ทุกอย่างแม้จะเกินเลยจากคำว่าเพื่อนไปไกลแค่ไหนสำหรับมาร์คฉันเป็นได้แค่นี้ เป็นเพื่อน เป็นที่ระบาย (ความใคร่) ซึ่งฉันก็รับได้นะขอแค่ฉันได้อยู่กับเขาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ต่อให้อยู่กับเขาแบบนี้ทั้งชีวิตฉันก็อยู่ได้ถ้าตราบใดที่เขายังไม่คิดที่จะจริงจังกับใครเพราะถ้าถึงวันนั้นวันที่เขารักใครสักคนอย่างจริงใจจนพร้อมที่จะหยุดที่เธอคนนั้น วันนั้นฉันจะเป็นคนเดินไปเองแม้จะต้องเจ็บปวดก็ตาม เพราะฉัน....ไม่ไ่ด้คิดกับเขาแค่เพื่อนยังไงล่ะ
แจ้งก่อนอ่าน.....เรื่องนี้มีคำหยาบคายและมีการกระทำที่รุนแรงในบางEPเพราะฉะนั้นใครโลกสวยหรือไม่ชอบนิยายแนวนี้โปรดเลื่อนผ่านXX เขาเอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ฉันคุ้นตาออกมาเพราะฉันเคยเก็บเศษซากของมันมาก่อน มันคือถุงยางอนามัย "คุณธามคะ อย่า!!!" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าอย่าทำเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่เขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง "ทำไม หรืออยากเอาสดกับกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมสดกับคนอย่างมึง" สวบ!!!! ปึ่ก!!!!! "ไม่ กรี๊ดดดดดดด" ฉันกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดทางฉันเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย จนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "เชี่ย!!! มึง ไม่เคยเหรอวะ" คุณธามก้มมองดูจุดเชื่อมต่อแล้วอุทานออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด ภูผาอัยวาอยู่ในเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรัก นะคะ
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" "ค่ะ" ฉันฝืนความรู้สึกแล้วตอบออกไป ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะรับผิดชอบอะไรอยู่แล้วคำพูดของเขาเมื่อคืนฉันยังจำขึ้นใจ "และฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องแม่ฉันอีกว่าฉันรังแกเธอ" "ค่ะ" "สรุปก็คือเธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอเคยโกหกไปบอกพ่อเธอรวมถึงย่าเธอด้วยว่าเธอโกหกสร้างเรื่องหาว่าฉันล่วงเกินเธอทั้งที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำ เธอคิดเอาก็แล้วกันว่าย่าเธอจะผิดหวังแค่ไหนที่หลานสาวสุดที่รักของท่านสร้างเรื่องโกหกหน้าด้านๆ เพื่อจับผู้ชาย" ฉันก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง "เข้าใจที่พูดใช่ไหม" "อื้มมม" ฉันตอบเขาได้แค่นั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่ "แต่ความผิดของเธอยังไม่หมดฉันยังไม่พอใจเพราะฉะนั้นเธอต้องมาที่นี่ทุกครั้งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าเธอดื้อไม่ยอมมาฉันจะไปลากตัวเธอถึงบ้านไม่เชื่อก็คอยดู" "พี่ติดใจอัยก็บอกว่าเถอะไม่ต้องเอาเรื่องผิดไม่ผิดมาเป็นข้ออ้างหรอก" ฉันโต้กลับเพราะฉันไม่อยากให้พี่ภูคิดว่าฉันกลัวเขา "เธอพูดว่าไงนะฉันเนี่ยนะติดใจเธอ เหอะพูดผิดพูดใหม่ได้นะ"
"เพลง ฮึก ฮึกเพลง" น้ำเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพนี้ "พะ พี่ไทม์เหรอคะ" มือบางลูบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างสะเปะสะปะ "พี่เองครับ ฮือออ เพลงพี่ขอโทษพี่ขอโทษพี่มันเหี้ยพี่มันเลวเพลงให้อภัยพี่ได้มั้ย" เขาจับมือคนรักแล้วนำมาแนบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "พี่รู้ได้ยังไงว่าเพลงอยู่ที่นี่" "พี่รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่พี่จะพาเพลงไปรักษาต่างประเทศที่นั่นหมอเก่งมากเพลงต้องหาย"
"เธอชอบเพื่อนฉันเหรอวะ เหอะดูสารรูปตัวเองซะก่อนเหอะยัยอ้วนก่อนจะมาบอกรักใครไอ้คิมมันหล่อขนาดนั้นเธอคิดว่ามันจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่แบบเธองั้นเหรอห๊ะ อย่างเธอมันไม่มองให้เปลืองลูกกะตาหรอกตัดใจจากมันซะเถอะ" "แต่...ฉันชอบคิมจริงๆนะ" "อย่างเธอถ้าอยากให้ไอ้คิมชอบมันก็พอมีวิธีอยู่นะอยากรู้มั้ยฉันจะบอก" "บอกมาสิ" "ข้อหนึ่งเธอคงต้องไปตายแล้วเกิดใหม่" "ห๊ะนายว่าอะไรนะ!!!" "ฟังฉันยังพูดไม่จบ ฉันยังมีข้อสองให้เธอเลือกนั่นก็คือเธอต้องไปศัลยกรรมให้มันดูดีกว่านี้ไม่แน่ไอ้คิมมันอาจจะหันมาสนใจเธอก็ได้ แต่..ฉันว่าเบ้าหน้าอย่างเธอคงไปไม่รอดทำไปก็แค่นั้นเปลืองเงินเปลืองแรงหมอเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเธอตัดใจจากมันซะ" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชมจันทร์พยาบาลสาวสวยกับอาร์ตเพื่อนสนิทของคิมหันต์จากเรื่อง ชังรักเมียรับใช้ นะคะ
"ลิล ลิลจำพี่ได้มั้ย" "พี่ พี่เหรอ" "ครับพี่เอง พี่คิมไงสามีของลิล" "สามี สามี" แววตาว่างเปล่าจ้องผมไม่วางตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว "ไม่ ไม่ กรี๊ดดดด ไม่ออกไป ฮืออออ ออกไป ฮืออออ"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ