รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ณ แคว้นเหมิงอันกว้างใหญ่ หิมะกำลังโปรยปรายลงมาอย่างหนักกระทั่งสายลมยังแรงยิ่งทั้งพัดเอากิ่งไม้ปลิวมาเคาะหน้าต่างโรงเตี๊ยมที่อันซูเซี่ยนอนอยู่กระทั่งเกิดเสียงดัง
แม่นมเผิงซึ่งเป็นสตรีร่างท้วมลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอันดังสนั่นหวั่นไหวของกิ่งไม้ที่กระแทกบานหน้าต่างไม่หยุด
ยามนี้คงถึงเวลายามเหม่า[ ประมาณตี5]แล้วพวกนางต้องเร่งออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจึงถือว่าเสียงดังนั้นช่วยปลุกนางให้ตื่นขึ้นพอดี
นางยันกายลุกขึ้นกระชับเสื้อนวมอุ่นพร้อมกับเก็บที่นอนของตนเองจนเรียบร้อยจากนั้นจึงค่อยย่องออกจากห้องเพื่อไปสั่งให้สาวใช้เตรียมน้ำอุ่นเพื่อรอปรนนิบัติให้องค์หญิงล้างหน้าถูฟัน
เพราะอากาศทั้งหนาวทั้งชื้นจึงทำให้รู้สึกไม่สบายตัวบัดนี้กระถางไฟในห้องก็ดับมอดใกล้จะหมดแล้วนางจึงไม่อยากรบกวนองค์หญิงของตนเองให้ตื่น อย่างน้อยให้องค์หญิงได้หลับตาเพิ่มอีกสักหน่อยก็ยังดี
ทว่าเท้าของนางยังไม่ทันก้าวพ้นประตูน้ำเสียงหวานปนแหบของอันซูเซี่ยพลันดังขึ้น
“แม่นมจุดเทียนเถิด ข้าตื่นแล้ว”
แม่นมเผิงเอ่ยด้วยสุ้มเสียงอ่อนโยนยิ่ง
“ไยรีบตื่นเล่าเพคะ เมื่อคืนกว่าพวกเราจะเดินทางมาถึงที่นี่ก็กินเวลาไปถึงดึกแล้ว”
“เสียงไม้กระแทกหน้าต่างดังเช่นนี้ข้าข่มตานอนไม่หลับ”
แม่นมเผิงหมุนกายกลับมา เพ่งดวงตามองเรือนร่างลาง ๆ ที่นอนอยู่บนที่นอนอุ่นก่อนจะเดินกลับไปหาหญิงสาวนางนั้นแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงปลายคาง ห่อตัวนางให้แน่นหนาขึ้น
“เช่นนั้นรอบ่าวสักครู่นะเพคะ ประเดี๋ยวบ่าวไปจัดเตรียมน้ำอุ่นเสียก่อน”
“อืม”
แม่นมเผิงลุกขึ้นจากนั้นจึงเดินไปจุดตะเกียงน้ำมันจนสว่างไปทั้งห้อง
บัดนี้จึงเผยโฉมหน้าดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ใบหน้าเลอโฉมดุจดวงจันทร์ ผิวพรรณขาวประดุจหิมะ แม้ว่าสีหน้าจะขาวไร้เลือดฝาดด้วยเพราะเพิ่งตื่นนอนแต่กลับยิ่งขับเน้นความงดงามโดดเด่นของนางให้มากยิ่งขึ้น
ยามแม่นมเผิงกลับมาพร้อมสาวใช้อีกสามคนอันซูเซี่ยก็ลุกขึ้นนั่งและขดกายอยู่ในผ้าห่มท่าทางประดุจหนอนผีเสื้อตัวหนึ่งแล้ว
แม่นมเผิงยกมือทาบอกอุทานเสียงแผ่วเบา
“ตายแล้ว องค์หญิงมิอาจนั่งท่าไม่สำรวมนี้ได้นะเพคะ บ่าวสอนไปตั้งกี่ครั้งแล้ว”
อันซูเซี่ยถอนหายใจยาว ปล่อยให้บ่าวพวกนั้นปรนนิบัติตนล้างหน้าหวีผมทั้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ข้ายังจำได้ที่แม่นมสอนข้า แต่ยามนี้ยังไม่เข้าเมืองหลวงท่านก็ปล่อยให้ข้าเป็นอิสระเถิด หลังจากนั้นข้าคงไม่ได้ทำอะไรเช่นนี้อีกแล้ว”
แม่นมเผิงรู้สึกสงสารองค์หญิงน้อยของตนยิ่งนัก เพราะสองแคว้นต้องการเชื่อมสัมพันธ์ องค์หญิงอันซูเซี่ยซึ่งเติบโตมาในแดนสู่ซึ่งเป็นดินแดนแห่งสรวงสวรรค์อันเร้นลับจำต้องเข้าอภิเษกเพื่อเป็นฮองเฮาให้กับฮ่องเต้แคว้นเหมิงต้าหลง
หลังจากที่อ๋องผู้ครองแดนสู่บิดาขององค์หญิงอันซูเซี่ยพยายามถ่วงเวลามาเนิ่นนานจนกระทั่งองค์หญิงได้เข้าสู่วันสิบเจ็ดปีแล้วก็ไม่อาจรั้งเวลาเอาไว้ได้อีก ด้วยฝ่าบาทแคว้นเหมิงมีพระชนม์มายุถึงยี่สิบห้าพรรษาแล้วแต่กลับยังไม่มีบุตรกับนางสนมคนใด
แดนสู่นี้คนภายนอกแทบจะไม่รู้ว่า เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง มีอากาศหนาวตลอดทั้งปีและยังรายล้อมไปด้วยน้ำพุสวรรค์ที่เมื่อได้ดื่มกินยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงทั้งยังมีใบหน้างดงามผิวพรรณอ่อนเยาว์อย่างที่ยากจะหาแดนใดเปรียบ
เดิมทีคนแดนสู่มักไม่นิยมแต่งงานกับคนต่างแคว้นเพื่อครองสายเลือดบริสุทธิ์เอาไว้ เป็นการยากมากที่พวกเขาจะยอมตอบรับการสู่ขอของคนจากแคว้นอื่น
และยังมีข่าวลือหนาหู ว่าสตรีแดนสู่นั้นใช้ชีวิตประดุจแม่ชีพวกนางเคยออกเรือนไปกับคนต่างแคว้นแต่เรื่องบนเตียงกลับจืดชืดยิ่งล้วนทำให้สามีเบื่อหน่ายสุดท้ายต้องหย่าร้าง
และความจืดชืดนี้มิได้มีเพียงลีลารักบนเตียง แต่ยังรวมไปถึงใบหน้าที่จืดชืดจนทำให้คนที่พบเห็นล้วนรู้สึกหมดอารมณ์สนุก
ดังนั้นไม่ว่าบุรุษใดล้วนไม่ต้องการได้คนแดนสู่เป็นภรรยา นอกจากบุรุษแดนสู่ด้วยกันเอง
ทว่ายามนี้ด้วยสัญญาหมั้นหมายที่อดีตฮ่องเต้ทำเอาไว้กับอดีตอ๋องของแดนสู่ในยามที่พวกเขาเคียงบ่าเคียงไหล่ออกรบเพื่อกำจัดศัตรูที่เข้ามารุกรานสองดินแดนในสนามรบจนกลายเป็นสหายร่วมสาบาน และทำสัญญาหมั้นหมายเอาไว้
ทว่าอดีตฮ่องเต้แดนสู่ที่มีพระชายาเพียงคนเดียวกลับไม่มีพระธิดา แต่สัญญานั้นยังคงผูกพันมาถึงฮ่องเต้คนปัจจุบันที่เป็นบิดาของอันซูเซี่ยที่ต้องส่งบุตรสาวของตนให้หลานชายที่ขึ้นเป็นฮ่องเต้แคว้นเหมิงโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
อันซูเซี่ยเป็นบุตรสาวคนเล็กจากทั้งหมดสามคนของอ๋องแดนสู่ พี่สาวของนางทั้งสองคนได้แต่งกับขุนนางคนสำคัญในแดนสู่ไปแล้ว เขาจึงจำต้องส่งบุตรสาวคนเล็กไปเป็นฮองเฮายังต่างแคว้นด้วยคราบน้ำตาด้วยคิดว่าบุตรสาวคนเล็กนั้นไร้เดียงสายิ่งนัก
นั้นตั้งแต่นางรู้ความก็ถูกส่งไปฝึกฝนการบำเพ็ญเพียรที่สำนักชีหุบเขาหนี่หวาอันเป็นหุบเขาที่สูงที่สุดในแดนสู่
การพบบุรุษของนางนั้นจึงแทบจะนับครั้งได้ ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์นี้จึงยิ่งทำให้อ๋องเมืองสู่เป็นกังวลกับความไร้เดียงสาของบุตรสาวนัก เขากลัดกลุ้มจนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน
นี่เป็นครั้งแรกที่องค์หญิงน้อยอันซูเซี่ยได้ออกจากหุบเขาอันงดงามของตนเอง นางต้องกลายมาเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้หนุ่มผู้หนึ่งซึ่งนางไม่เคยเห็นเขามาก่อน แน่นอนว่านางนั้นย่อมตื่นเต้นปนหวาดกลัวด้วยไม่อาจระงับจิตใจได้
คำสั่งของมารดาของนางก่อนที่จะส่งนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวก็คือ ต่อไปสามีคือครอบครัวของนางแล้วดังนั้นขอให้นางจงเชื่อฟังสามีให้ดีที่สุด ตามหลักสี่คุณธรรมสามคล้อยตาม[ หลักสี่คุณธรรม สามคล้อยตาม หรือ 三从四德 คือ กรอบคุณธรรมที่ใช้ในการอบรมกุลสตรีชั้นสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดของขงจื่อ แบบเต็มๆ กล่าวคือ… ให้ความสำคัญกับลำดับขั้นชนชั้นในสังคม สถาบันครอบครัว และความสำคัญของเพศชาย]
“เพคะท่านแม่ลูกจะเชื่อฟังสามีตามคำที่ท่านแม่สั่งสอนเพคะ”
สตรีสองนางร่ำไห้ในวันจากลา และบิดาของนางก็ทอดสายตามองพระธิดาคนเล็กด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
“ไม่ต้องห่วงไปนะ พ่อได้ส่งจดหมายถึงฝ่าบาทโดยตรงให้ปกป้องคุ้มครองลูก หากมีผู้ใดทำให้เจ้าเดือดเนื้อร้อนใจให้เจ้ารีบส่งข่าวให้พ่อรู้ พ่อจะรับเจ้ากลับทันที”
“ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอท่านพ่อ ท่านแม่รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ลูกอกตัญญูต้องจากแดนไกลไม่มีโอกาสทดแทนคนท่านพ่อท่านแม่แล้ว”
✳✳✳หลักสี่คุณธรรม สามคล้อยตาม หรือ 三从四德 คือ กรอบคุณธรรมที่ใช้ในการอบรมกุลสตรีชั้นสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดของขงจื่อ แบบเต็มๆ กล่าวคือ… ให้ความสำคัญกับลำดับขั้นชนชั้นในสังคม สถาบันครอบครัว และความสำคัญของเพศชาย
ฝูจื่อหรงก้มหน้าวูบลงมาบดริมฝีปากกับโจวเจ้าเว่ยเบาๆ แต่เจ้าเว่ยต้องการมากกว่านั้น หญิงสาวแลบลิ้นออกมารอรับ นางเป็นฝ่ายสอดความอ่อนนุ่มเข้าไปภายในปากของเขาแทน แม้มือจะยังไม่มีแรงมากนักแต่การยึดเหนี่ยวใบหน้าเขาไว้กลับไม่เป็นปัญหา หญิงสาวบดริมฝีปากสามีอย่างเร่าร้อน "ถอดเสื้อผ้าให้ข้า จื่อหรงถอดให้ข้ามันร้อนเหลือเกิน" เจ้าเว่ยปากสั่นร้อนรนเพราะทนกับความรู้สึกเสียวซ่านที่รบกวนจนรู้สึกทรมานในทุกสัมผัสของเขา พรางนึกขัดใจตนเองที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งเสื้อผ้าของตนเองยังไม่มีปัญญาถอด "เจ้าเว่ยของข้าอย่าได้รีบร้อน เราจะค่อยๆสัมผัสและมีความสุขด้วยกัน" ฝูจื่อหรงจุมพิตปากบาง พลางถอดอาภรณ์ของนางอย่างทะนุถนอม "พี่เต้ข้าไม่เข้าใจ เจ้าหลีกเลี่ยงข้ามาตลอดเหตุใดถึงยอมโดยง่าย หากข้ามีแรงมากกว่านี้คงได้ปลุกปล้ำเจ้าไปหลายครั้งแล้ว" เจ้าเว่ยกล่าวพลางพยามยามใช้มือคว้ามังกรตัวใหญ่ไว้ในมือจนสำเร็จ อารมณ์ความต้องการเพิ่มทวีขึ้นโดยที่เจ้าเว่ยไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอกำความใหญ่แน่นแล้วลูบไล้ช้าๆ มันร้อนไปทั่วทั้งฝ่ามือ ภายใจร่างกายและจิตใจของเจ้าเว่ยสั่นระริกด้วยความร้อนและไฟปรารถนา ในที่สุดฝูจื่อหรงก็ถอดอาภรณ์ออกจากร่างบางได้สำเร็จ เจ้าเว่ยดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย นางยังกำมังกรยักษ์แน่นไม่ยอมปล่อย นางเลียริมฝีปากเมื่อมองร่างมันจนฝูจื่อหรงรู้สึกลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากกดศีรษะของคนตัวเล็กลงแล้วยัดมังกรเข้าไปในโพรงปากให้นางได้สมปรารถนาเสียเดี่ยวนี้ "ปล่อยมันก่อนเจ้าเว่ย เจ้าต้องไปอาบน้ำ" เขากระซิบเสียงแหบพร่า พยายามแกะมือเล็กที่กอบกำมังกรของเขาอยู่ เจ้าเว่ยต้องปล่อยอย่างอดเสียดาย ใบหน้าของนางฟ้องความต้องการออกมาจนฝูจื่อหรงนึกขัน แนะนำตัวละคร เรื่องย่อ โจวเจ้าเว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นเหลียง ทายาทของเผ่าบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามล่มเมือง คนของเผ่าบุปผาเป็นเผ่าที่ถือกำเนิดมาจากเทพเซียนรูปโฉมงดงามแต่ต้องคำสาปเรื่องของความรัก หากพวกเขามีความรักจะไม่สมหวังและตายอย่างอนาถด้วยความรักนั้น ฝูจื่อหรง ฮ่องเต้แคว้นชินที่มีเบื้องหลังการครองอำนาจโดยการสนับสนุนของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น รูปโฉมงดงามจนทำให้แข้งขาสตรีอ่อนระทวย เรื่องสตรีสำหรับเขาเป็นเพียงเพื่อมีไว้สนับสนุนบัลลังก์ให้มั่นคงเท่านั้น คนทั่วราชสำนักรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น กระทั่งวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับองค์หญิงผู้ลึกลับผู้หนึ่ง ที่เข้ามาพังทะลายกำแพงหัวใจที่เขาตั้งเอาไว้ และ นางผู้นั้นยังทำท่าคล้ายกับว่าไม่อาจอยู่กับเขาได้อีก สตรีผู้หนึ่งซึ่งมีความลับบางประการซ่อนอยู่ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายฝาแฝดขององค์หญิงโจวเจ้าเว่ยโจวเจ้าเว่ยองค์หญิงผู้สามารถเดินทางข้ามมิติได้โดยใช้ขลุ่ยเพรียกบุปผาซึ่งเป็นขลุ่ยวิเศษในการเดินทางข้ามมิติ โจวเจ้าเว่ยเป็นสตรีของเผ่าบุปผาอันลี้ลับ ต้องคำสาปที่ไม่สามารถมีความรักได้ หากนางมีความรักจำเป็นต้องเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย เพราะเหตุนี้โจวเจ้าเว่ย และ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีแก้คำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และ พวกเขาไม่อาจเปิดเผยความลับนี้ให้ ฝูจื่อหรงล่วงรู้ได้ (เรื่องนี้เป็นนิยายภาคต่อของต้องมนต์บุปผาค่ะ)
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เหวินเฟยเทียนเป็นพ่อค้าหน้าเลือดที่เห็นแก่ตัวที่สุดโดยเขามีผู้ช่วยคนสำคัญก็คือเฉินลี่จู เด็กสาวที่เขาได้ช่วยเอาไว้จากหมู่บ้านขอทานเมื่อนานมาแล้ว เขาเพียงใช้นางเพื่อหวังผลประโยชน์ในขณะที่เฉินลี่จูกลับมอบหัวใจให้เขาจนหมดใจ กระทั่งวันหนึ่งก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อเหวินเฟยเทียนไม่เห็นความสำคัญของนางอีกต่อไป เขากำลังจะแต่งงานกับคุณหนูซุนซื่อผู้มอบผลประโยชน์ให้เขาได้มากกว่านาง จนทำให้นางเสียใจและหนีเตลิด เพราะนางหนีจากเขาทำให้เหวินเฟยเทียนกินไม่ได้นอนไม่หลับใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เขาตามหานางและสุดท้ายได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนามว่าหลี เด็กหญิงซึ่งมีใบหน้าคล้ายคลึงเขาราวกับถอดแบบออกมา! นิยายเรื่องนี้เป็น ประเภท ดราม่า และ มีเด็กในเรื่องค่ะ
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
องค์หญิงหลิวอี้เฟยถูกส่งตัวไปแต่งงานกับอ๋องชราต่างแคว้นโดยไม่เต็มใจยังถูกคุมตัวโดยหัวหน้าองครักษ์ผู้เหี้ยมโหดที่คิดสังหารนางเพราะนางดันไปรู้ความลับดำมืดของเขาโดยบังเอิญ ด้วยความกลัวตายนางจึงคิดหนี! หมายเหตุ เรื่องนี้เป็นนิยายแนวโรมานซ์ ปมไม่หนักจบแบบสุขนิยมนะคะ
อยากหนีก็หนีไป แต่ถ้าตามเจอเมื่อไหร่ รับรอง! ได้ทรมานกว่าเดิมแน่..!! LEE ZONMIN (อีโซมิน) ชายหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี จีน ชีวิตแสนมืดมนผลักดันให้เขาต้องดิ้นรน กว่าจะมีวันนี้ได้ ... เจ้าของคาสิโนและคอมเพล็กซ์ห้างสรรพสินค้าที่กัมพูชา และ มาเก๊า เขาตามหาหญิงสาวคนหนึ่งและเธอพยายามหนี "ถ้าคิดจะหนีก็หนีให้รอด!!" BUA YONHWA (บัว หรือ ยอนฮวา) หญิงสาวลูกครึ่งไทยเกาหลีสุดแสนน่ารักชีวิตครอบครัวอบอุ่น ได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ... แต่ชีวิตกับพลิกผันเมื่อเจอกับคนเลวแบบเขา " ฉันไม่รู้จักคุณ!!"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
“อ๊ะ… อ๊อย... ” ดวงตาของฝ้ายคำหลับพริ้ม เม้มปากแน่น เมื่อโดนสามีกดใบหน้าแนบเน้นซุกไซ้เข้าหาความเป็นสาว ฉั่วๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงลิ้นสากเฉาะรัว ลากเลียเลยขึ้นเป็นจังหวะยาวๆ ตามรูปทรงของกลีบสวาท เบียดกันแน่นเป็นพูงามอร่ามอะร้าอยู่ตรงง่ามขาของหญิงสาวที่เข่าสองข้างโดนดันแบะอ้า แอ่นร่องสวาทให้สามีเบิร์นอย่างดิบเถื่อน “อ๊า... ซี้ด... อูย... เสียวค่ะ... ฮึ่ก” ทั้งที่หล่อนพยายามกัดฟัน เม้มริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นเสียงคราง กลัวว่าจะหลุดออกมาน่าอาย หากความเสียวซ่านก็ทำให้เสียงของคนโดนเลียร่องหอย เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสั่นระริก ปลายลิ้นของอลังค์จุ่มจ้วงทะลวงเลียกลีบมาลีสีชมพูสดสวยอย่างโหยหา “อ๊า... อ๊า... อ๊า... ” หญิงสาวร้องครางตามจังหวะลิ้นปาดเลียรัวๆ สลับลากเสยขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวความยาวของร่องสวาท เรียกน้ำเสียวของหญิงสาวให้สาดทะลักออกมาอย่างมิอาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ “อ๊า... ที่รักจ๋าฝ้ายเสียวเหลือเกิน... ซี้ดอูย... สะ... เสียวมาก” คนโดนจู่โจมหนอกเนินสวาท เปล่งเสียงร้องครางครวญออกมาอย่างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง ปลายลิ้นของอลังค์เสียบรัวเข้าใส่กลีบบอบบาง โดนแบะบีบจนเบ่งบวมขึ้นมารับปลายลิ้น บดขยี้ลงบนความนุ่มอ่อน ไชชอนสำรวจซอกหลืบอย่างมีลีลา สมกับเป็นสายเบิร์นตัวจริง อลังค์ไม่ทำให้หญิงสาวผิดหวัง ทำเอาผู้หญิงสามคนที่กำลังมองดูภาพของการเล้าโลมสุดเร่าร้อนผ่านหน้าจอมอนิเตอร์จนเกิดอาการน้ำเดินไปตามๆ กัน
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ” เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
คำโปรย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หลัวเซียงเซียง ถูกดูดเข้ามาอยู่ในนิยายจีนโบราณที่ตัวเองกำลังอ่าน ชีวิตในนิยายไม่ได้ง่ายเลยเมื่อต้องมาอยู่ในร่างของนางร้ายที่ใคร ๆ ก็ขนานนามว่าเป็นอสรพิษและสุดท้ายต้องสังเวยชีวิตเพราะความชั่วร้ายของตัวเอง วิธีการเดียวที่จะออกไปจากนิยายเรื่องนี้ได้ก็คือต้องเอาตัวรอดจนกระทั่งบทสุดท้ายในนิยายเรื่องนี้ หลัวเซียงเซียงจึงพยายามแสดงความร้ายกาจออกมาให้เป็นที่รังเกียจที่สุด ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง เพื่อไม่ให้ฝ่าบาทมอบสมรสพระราชทาน ถูกจับเข้าตำหนักฉินอ๋องหลงเฟยเยี่ยเพื่อเอาชีวิตรอดและออกไปจากนิยายน้ำเน่าเรื่องนี้เสียที 'เชิญรักกันตามสบาย นางร้ายอย่างฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด' ชินอ๋องหลงเฟยเยี่ย มีสตรีที่อยู่ในใจ ทว่าฝ่าบาทกลับบังคับฝืนใจให้เขาแต่งกับคุณหนูรองจากจวนแม่ทัพหลัวเพื่อผูกใจของคนผู้นั้นเอาไว้ นิสัยของคุณหนูรองผู้นี้เขาย่อมรู้ดี ต่อหน้าทำเป็นแสนดีลับหลังกลับร้ายกาจ หลอกลวงฝ่าบาทจนพระองค์คิดว่านางคือคนดี จึงทำให้เขาไม่คิดย่างกรายเข้าไปเหยียบตำหนักหวางเฟยของนางโดยเด็ดขาด ทว่าเกิดเรื่องไม่คาดฝันทำให้จำใจต้องใกล้ชิด ทำให้เขาได้รู้ว่าทุกสิ่งที่เขาได้ยินมานั้นและรู้มานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดแผกจากที่เคยรู้ ทำให้หลงเฟยเยี่ยบังเกิดความประหลาดใจ 'แท้จริงแล้วสตรีผู้นี้เป็นคนเช่นไรกันแน่' มู่ลี่เอ๋อร์ ผู้เป็นที่รักของหลงเฟยเยี่ย ในเนื้อหานิยายเรื่องนี้ เดิมนางผู้นี้จะถูกหลัวเซียงเซียงแอบลอบสังหารเพราะเป็นหนามตำใจ ทว่าเรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อหลัวเซียนเซียนผู้เคยร้ายกาจกลับคิดญาติดีกับนาง 'ทำให้มู่ลี่เอ๋อร์งวยงงยิ่งนัก'