นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
กลางดึกยามจื่อคืนนี้ครึกครื้นนัก ภายในจวนใหญ่ของอ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานผู้ที่กำลังเกิดความต้องการอันบ้าคลั่ง สองมือปลดเปลื้องชุดแต่งงานของสตรีที่ชื่อว่าเป็นพระชายาของตนเองออกโดยแรง กระทั่งชุดแต่งงานขาดออกเป็นชิ้น ๆ กระจายอยู่เต็มพื้น
สตรีนางหนึ่งกลับนอนแน่นิ่ง ปล่อยให้เต๋อลู่หานย่ำยีร่างกายตนเองตามที่เขาปรารถนาโดยไร้อาการต่อต้านอย่างสิ้นเชิง
เมิ่งลี่เฟยมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังจับร่างของตนด้วยอาการหยาบโลนด้วยสายตาอันว่างเปล่าไร้ความรู้สึก
นางได้แต่คิดถึงงานมงคลของตนเองที่เพิ่งจะผ่านพ้น
ช่างเป็นวันมงคลที่น่าอดสูสิ้นดี
สามีเกลียดชัง ไร้การคล้องแขนดื่มสุราอวยพร ไร้ซึ่งการเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวอย่างที่ควรจะเป็น
เสียงของผู้คนภายนอกยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอากาศด้านนอกนั้นจะหนาวจัด แต่ผู้คนยังปักหลักอยู่ในจวน ร่ำสุราฟังเสียงหวานของนักดนตรีผู้งดงามขับกล่อมด้วยความสนุกสนาน
ผ้าสีแดงถูกประดับเต็มอาณาเขต ภายนอกเรือนหอผู้คนเริงสำราญ ทว่าบรรยากาศภายในเรือนนั้นกำลังเดือดพล่านด้วยความร้อนแรงของเต๋ออ๋องที่คล้ายจะคลุ้มคลั่งด้วยความหื่นกระหายจนไม่อาจควบคุม
อ๋องเจ็ดเต๋อลู่หานปลดผ้าคาดเอวของตนเองออกแล้วโยนทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่แยแส มือของเขาสั่นเทา รู้สึกปวดร้าวไปทั่วกายราวกับว่าหากเขามิได้ปลดปล่อยความใคร่ออกไปในยามนี้ เขาคงต้องตายเป็นแน่แท้
สายตาของเต๋อลู่หานเต็มไปด้วยไฟราคะกวาดมองร่างงดงามจนทั่ว พระชายาของเขาผู้นี้มีผิวพรรณขาวผ่องรูปร่างเย้ายวล ใบหน้างดงามประดุจเทพเซียนที่ลงมาจุติจากสวรรค์ ในยามที่เขามองนางด้วยสายตาหื่นกระหายนั้นเมิ่งลี่เฟยกลับไม่ร้อนรนเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าของนางยังราบเรียบไร้ความเขินอาย ไร้แววยินดี คล้ายกับว่าเต๋อลู่หานที่กำลังย่ำยีนางอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงแค่บุรุษที่อยู่ในฝันร้ายเท่านั้น
นางได้ยินเสียงหัวเราะหยันของเขาชัดเจน เขาผู้นี้แม้ไม่ต้องการแตะต้องกายนางทว่ายามนี้กลับไม่สามารถต้านทานความต้องการของตนเองได้
สองมือใหญ่กดข่มร่างบางเอาไว้ ลมหายใจของเขาเป่ารดใบหน้างามกระทั่งเมิ่งลี่เฟยได้กลิ่นสุรารุนแรง
ใบหน้าหล่อเหลาของเต๋อลู่หานแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุรา มีรอยยิ้มเย็นชาปรากฏชัด เขาแยกขาของนางออกอย่างรวดเร็วแล้วชำแรกร่างกายใหญ่โตเข้ามาในช่องทางคับแคบทันใด
สตรีนางนี้ใจกล้าเป็นอย่างยิ่ง เมิ่งลี่เฟยไม่รู้หรือว่าเขาเกลียดคนเช่นนางมากเพียงใด ในเมื่อนางต้องการให้เขาเป็นสามีโดยที่เขาไม่เต็มใจ เขาก็จะทำให้นางรู้จักคำว่าอยู่ไม่สู้ตาย
“อ๊ะ!”
เมิ่งลี่เฟยรู้สึกเจ็บแสบที่ช่วงกึ่งกลางร่างกายจนต้องกัดฟันทนเอาไว้ มีเพียงเปล่งเสียงร้องออกมาเล็กน้อยเท่านั้นแม้จะเจ็บปวดเพียงใดก็ยังอดทน ด้วยทั้งหมดคือความต้องการของนางเอง เช่นนั้นนางก็ยินดียอมรับผลที่ตามมาด้วยความเต็มใจ
ไฟร้อนแรงที่กำลังเผาไหม้เต๋อลู่หานยิ่งทำให้การกระทำนั้นรุนแรงขึ้น เขากระแทกบดอัดโดยไม่สนใจว่าร่างบอบบางของนางจะเป็นเช่นใด
ระหว่างคนสองคน มิได้มีความรักใคร่ มิได้มีการเล้าโลม มีเพียงความป่าเถื่อนและจุมพิตที่หนักหน่วงจนริมฝีปากของนางแตกยับ ในยามที่เขาก้มลงมาขบกัดครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงเย็นแหบแห้งของเขาพลันดังขึ้น
"พระชายาคงไม่อยากตายดีสินะ จึงกล้าหาญวางยาข้าเช่นนี้ ทำกรรมใดไว้ก็ให้ผลกรรมนั้นคืนสนองเถิด"
เขาบดอัดร่างกายรุนแรงยิ่งขึ้นสะโพกซอยไม่ยั้งกระทั่งเกิดเสียงดังสนั่น เขากัดลำคอขาวผ่องจนเป็นรอยแผล เมิ่งลี่เฟยเจ็บปวดทว่ากลับแหงนใบหน้ารับด้วยความหยิ่งทะนง
สัมผัสของเต๋อลู่หานนับว่าป่าเถื่อน ยามนี้เขาเพียงคิดเล่นงานเมิ่งลี่เฟยด้วยบทพิสวาสของตนเอง ไม่สนใจสิ่งใดขอเพียงตนได้รับการปลดปล่อยความอัดอั้นภายในออกไปเท่านั้น
ในขณะที่เมิ่งลี่เฟยยังคงอดกลั้นต่อความรู้สึกเจ็บปวดมหาศาล ราวกับร่างกายของนางกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
เหงื่อของนางเปียกชื้นเต็มตัว บุรุษผู้นี้แม้ว่าวาจาจะเผ็ดร้อน แต่ไม่อาจละจากร่างกายของนางได้เลยแม้แต่น้อย เขาเลื่อนริมฝีปากลงมา กัดเข้าที่ลำคอขาวผ่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท่าทางราวกับสุนัขป่าที่กำลังขย้ำเหยื่อ ทั้งดูดกินทั้งกลืนด้วยความกระหาย
เสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่รุนแรงขึ้น ในขณะที่เมิ่งลี่เฟยรู้สึกคล้ายจะไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป แท่งหยกของเขาใหญ่โตเกินไป แม้ว่านางจะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ก็ยังเจ็บปวดอยู่จนเกินทนไหว
"อ๊ะ เจ็บ!"
สุดท้ายแล้วนางก็อดที่จะร้องออกมาไม่ได้
เต๋อลู่หานคล้ายวิญญาณหลุดลอยจากร่างกายเมื่อเมิ่งลี่เฟยเปล่งเสียงออกมา
เสียงของนางหวานใสดุจจักจั่นในเดือนหงาย หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าที่ทำให้คนเคลิบเคลิ้มอยากลิ้มลอง
ดวงตากลมโตของนางเบิกกว้างเมื่อริมฝีปากคู่นั้นครอบครองที่ปทุมถันอันหวงแหน สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาจุดนี้นางจากบ่าวข้างกายที่ปรนนิบัติยามอาบน้ำแล้ว ไม่เคยมีสักคนที่จะได้ยลและล่วงล้ำ
ความรู้สึกแปลกใหม่กับสัมผัสจากริมฝีปากทำให้นางต้องพยายามตั้งสติ ปลายถันของนางเปียกชุ่มยามที่เขาอ้าปากรวบดูดตวัดเลีย นิ้วมือร้อนจัดบีบเขี่ยยอดถันไม่หยุด
"อื้ม ไม่คิดว่าจะดีเพียงนี้"
นางได้ยินเสียงของเขาครางชัดเจน และยังมีเสียงดูดเลียอันน่าละอายที่ดังขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าเมิ่งลี่เฟยแดงก่ำรู้สึกเหมือนตนเองเป็นสตรีที่ไร้ยางอายยิ่งนัก
เขาขยับท่อนล่าง ปากรวบดูดสองเต้าสลับไปมาคล้ายจะหลงใหลจุดนี้ไปเสียแล้ว
"ใหญ่โตยิ่งนัก กินอร่อยยิ่งนัก คนชั่วช้าเช่นเจ้าไม่สมควรได้รับร่างกายที่งดงามเพียงนี้"
เสียงกระซิบหยาบคายดังขึ้น เมิ่งลี่เฟยตอบเสียงต่ำ
"ใช่ ข้าชั่วช้าแล้วอย่างไร ท่านมิใช่พระสวามีของข้าหรือ"
"ข้ามิใช่สามีของเจ้าแม้แต่น้อย ความรู้สึกนี้ไม่อาจฝืนได้อย่าได้เพ้อว่าข้าจะยอมรับเจ้าเป็นอันขาด"
น้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยไฟโทสะ เมิ่งลี่เฟยเชิดใบหน้าตอบโต้ไม่ลดละ
"ไม่ว่าท่านจะคิดอย่างไร แต่ฐานะพระชายาของข้าท่านก็มิอาจปฏิเสธได้มิใช่หรือ"
กระแสเสียงของนางเองก็เต็มไปด้วยความชิงชังอย่างเปิดเผย แม้ว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยปากจากการละเลียดดูดกลืนปทุมถัน แต่วาจาที่เปล่งออกมากลับเต็มไปด้วยน้ำเสียงแห่งความเดียดฉันท์
"แล้วอย่างไรเล่า แม้เรื่องจะเกิดขึ้นแล้ว ข้าจะไม่มีวันให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการ ไม่มีทาง"
เมิ่งลี่เฟยข่มโทสะ คิดเพียงว่าอย่างไรนางต้องเอาชนะคนผู้นี้ให้จงได้ นางไม่ได้โต้เถียงเขาอีก เมื่อปากของเขาบอกว่ารังเกียจแต่ในความจริงแล้วเขากลับโอบกอดร่างของนางอยู่เช่นนี้
เต๋อลู่หานสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายอันหอมหวานของเมิ่งลี่เฟยทำให้เขาเจียนบ้า ถึงจะถูกนางวางยาและรู้อยู่เต็มอก ในยามนี้กลับไม่สามารถถอยห่างจากความงดงามของนางได้
ริมฝีปากร้อนรุ่มถูไถที่ปลายถัน สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดให้เกิดขึ้นกับนางทว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมาอีกครั้งทำให้นางแทบอยากจะถีบเขาออกจากร่างของตน
เมิ่งลี่เฟยได้แต่ข่มใจของตนเองเอาไว้ เพื่อตนเอง เพื่ออำนาจของสกุลเมิ่ง นางต้องทำให้คนผู้นี้กลายเป็นสามีของนางจริง ๆ
คนผู้นี้เคยสาปส่งนางอยู่หลายคราและแสดงอาการรังเกียจอย่างเปิดเผย การแต่งเข้าจวนเต๋ออ๋องแม้ว่าจะอยู่ในฐานะพระชายา แต่จะมีประโยชน์อันใดหากเขาไม่สนใจนางเลยแม้แต่น้อย
เมิ่งลี่เฟยยังคงคิดเอาตัวรอด ยามนี้ยังมีคนของไทเฮาที่เฝ้าดูและจดบันทึกไว้ไม่ขาด หากอ๋องเจ็ดไม่แตะต้องนางและนำไปรายงาน อย่างไรไทเฮาก็ต้องไม่พอพระทัยและต้องหาเรื่องสกุลเมิ่งที่มีบุตรสาว ไร้ความสามารถเช่นนางเป็นแน่ เมิ่งลี่เฟยย่อมไม่ทำให้ท่านพ่อพลอยได้รับความลำบากไปด้วย
ในเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในนี้แล้ว นางจำต้องมีบุตรชายสักคนเพื่อ คงสถานะอันสูงส่งนี้เอาไว้ แผนการวางยาอ๋องเจ็ดในคืนแต่งงานจึงเกิดขึ้นโดยทันใด
"อ๊ะ อื้อ"
แต่แล้วสมองของนางพลันพร่าเลือน เมื่อริมฝีปากของเขาขบกัดเข้าที่ปลายถัน รู้สึกเจ็บไปพร้อมกับความรู้สึกเสียวจนยากจะบรรยาย ร่างกายของนางอ่อนเปลี้ยความเจ็บปวดนั้นแม้จะหลงเหลืออยู่ทว่าความสุขสมที่กำลังเกิดขึ้นกำลังกลบความรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะไม่หลงเหลือ
ในยามนี้นี่เองที่นางเผลอคิดว่า
เขาคงยอมรับนางแล้ใช่หรือไม่!
เขาโอบร่างงดงามของนางแนบแน่น ไต่เลียและเล็มจนนางต้องแหงนใบหน้าคราง ริมฝีปากคู่นั้นตามมาประกบ ช่วงท้องของหญิงสาวบิดเกร็ง สองมือเรียวโอบรอบร่างหนา
เมิ่งลี่เฟยจิกเล็บแหลมทั้งลากนิ้วข่วนลงบนเนื้อแข็งแกร่งจนเกิดรอยแดงและเลือดซิบ
เสียงครางดังออกมาเมื่อเขากดแท่งหยกเข้ามาในกายของนางอย่างลึกล้ำ เขาขยับช่วงสะโพกเร็วขึ้นพร้อมทั้งส่งเสียงครางในลำคอไม่หยุด
"อ๊า อืม อืม"
ริมฝีปากบางเฉียบถูกเขาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งขบกัดดูดลิ้นเล็กของนางไม่หยุด ในใจของเต๋อลู่หานรู้สึกรังเกียจ ทว่ามิอาจต้านทานฤทธิ์ของยากำหนัดของเมิ่งลี่เฟยผู้ชั่วช้าผู้นี้ได้
เขาดึงลิ้นนางออกมาด้วยปากของเขา พัวพันและดูดกลืนหลายครั้งอย่างรุนแรง พิษของยาปลุกกำหนัดก่อให้เกิดความใคร่ที่มิอาจหยุดยั้ง ท่วงท่าแปรเปลี่ยนเมื่อเขาขยับตัวแล้วกระเตงนางขึ้นมาอุ้ม
"โอบขารอบเอวข้าเอาไว้"
นางจำต้องทำตามคำสั่ง ปากของเขายังคงดูดปากของนาง ในยามที่จับแก้มก้นงอนด้วยสองมือแล้วจับกระแทกเข้าหาร่างของเขา
ปัก ปัก ปัก
"อื้อ อื้อ ข้าเจ็บ"
เพราะอยู่ในท่านี้ทำให้เขาเข้าลึกเกินไป ร่างกายของเมิ่งลี่เฟยบัดนี้เกินจะรับไหวจริง ๆ แล้ว สองมือน้อยโอบรอบลำคอของเขาและก่อนที่นาง จะรู้สึกว่าร่างกายกำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ หน้าท้องของนางพลันร้อนระอุและของบางสิ่งบางอย่างพลันวิ่งเข้าไปสู่ช่องท้องของนาง
ในยามนั้นที่เขากอดนางแนบแน่น ร่างกายเกร็งกระตุกและครางออกมาราวกับสัตว์ป่าที่บาดเจ็บสาหัส
นางหอบหายใจปวดร้าวไปตั้งแต่ช่วงกลางกระทั่งถึงปลายเท้า ศีรษะเล็กซบที่อกแข็งแกร่งอย่างอ่อนแรง กระทั่งร่างบางถูกกระชากออกจากอกของเขาโดยทันใด ในยามนี้นางรู้สึกคล้ายตกจากที่สูงเมื่อเขาโยนร่างของนางลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว
"กล้าที่จะทำก็รับผลที่ตามมาเถิด"
นางเจ็บไปทั้งแผ่นหลังยังไม่ทันหวีดร้องร่างสูงก็ทาบทับลงมาขบกัดริมฝีปากอย่างร้อนแรง มือใหญ่ยึดสะโพกกลมกลึงเอาไว้ ปลายลิ้นพัวพันดูดกลืนลิ้นนางไม่หยุด
เป็นอีกครั้งที่นางต้องแยกขาออกให้เขาเข้ามาภายใน เขากัดนางกระทั่งเลือดไหลออกมา รุนแรงเกินที่สตรีในห้องหอเช่นนางจะรับได้ ทว่าแม้จะทรมานเพียงใดเมิ่งลี่เฟยก็ได้แต่อดกลั้นเอาไว้สุดกำลัง
เขาจับนางให้หันหลัง ยกขาเรียวงามข้างหนึ่งให้สูงขึ้น ส่งเสียงคำรามต่ำอยู่ข้างหูในขณะที่ทาบปากลงมาที่ลำคอแล้วกัดจนเกิดรอยช้ำไปทั่วบริเวณ
ฮึ่ก!
หลังจากหลุดพ้นจากความทรมานร่างกายบัดนี้กลับรับรู้ความเป็นเจ้าของ เขากลืนกินนางแทบจะทุกสัดส่วนทั้งไม่ยอมถอนริมฝีปากจากปทุมถันคู่งามของนางด้วยความหลงใหล
"อื้มเต้าเต่งตึงงดงามยิ่งนัก ข้ามิเคยพบมาก่อน"
"อ๊า ซี๊ด อืมม ท่านอ๋อง อ๊า"
ราตรีนี้ผ่านไปพร้อมกับเสียงครางและร่างกายอันบอบช้ำจนแทบจับไข้ของคุณหนูสกุลเมิ่งผู้เลื่องชื่อเรื่องความยโสโอหังที่สุดในแผ่นดิน
พิษความใคร่จากยาปลุกกำหนัดเลือนหายไปแล้ว ร่างเล็กถูกจับห่อเอาไว้ในห่อผ้าสีแดง บัดนี้นางกำลังรู้สึกสะลึมสะลือเพราะยังไม่คลายจากฤทธิ์ยาอันรุนแรงที่เขาเอาคืน!
คนของไทเฮาที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ร่วมหอครานี้ ได้เห็นคาตาจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ผ้าสีขาวเปื้อนเลือดบริสุทธิ์ถูกโยนออกมาจากด้านในด้วยฝีมือของเต๋อลู่หาน
คนเหล่านั้นสำรวจจนเรียบร้อย เมื่อพบว่าถูกต้องจึงหายตัวไปพร้อมผ้าผืนนั้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อคนไปจนหมดแล้ว ครานี้เต๋อลู่หานอุ้มนางขึ้นมาท่าทางยามแรกคล้ายจะอ่อนโยน ทว่าในดวงตากลับฉายแววเหี้ยมโหดยิ่งนัก
"กฎของการกล้าวางยาข้า แม้ว่าจะเป็นพระชายาก็ต้องรับโทษไม่มีละเว้น"
“ทะ ท่านอ๋อง มิ ใช่ท่านเต็มใจรับข้าแล้วหรือ”
เดิมทีเมิ่งลี่เฟยคิดว่าแผนของตนเองสำเร็จแล้ว เต๋อลู่หานได้ยอมรับนางแล้วเป็นแน่ ทว่าท่าทางของเขาในยามนี้ทำให้นางรู้แล้วว่าตนเองคิดผิดเพียงใด
เมิ่งลี่เฟยเจ็บปวดยิ่งนัก เมื่อเต๋อลู่หานเพียงแต่ส่งสายตาเย็นชาปนเกลียดชังออกมา
เต๋อลู่หานอุ้มนางขึ้นมาคิดจะนำนางไปลงโทษด้วยใบหน้าเฉยชา แม้ว่าเมิ่งลี่เฟยจะอ้อนวอนเพียงใด เขาผู้นี้ก็ไม่คิดที่จะใจเป็นอันขาด
“ท่านอ๋อง ข้าคือพระชายาของท่านมิใช่หรือ คืนที่ผ่านมาเราสองคนก็เป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์แล้ว”
“เรื่องที่ผ่านมาล้วนเกิดเพราะแผนอันต่ำช้าของเจ้า เมิ่งลี่เฟยชื่อเสียงอันเลวทรามของเจ้ามิได้ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย เรือนเย็นท้ายจวนคือโทษของเจ้าจงรับผลกรรมเสีย”
เมิ่งลี่เฟยพูดไม่ออกแล้ว นางเจ็บไปทั้งกายและใจ เขาพานางไปที่เรือนเย็นท้ายจวนด้วยตนเอง ร่างอรชรมีเพียงผ้าห่มสีแดงผืนนั้นห่อกาย ความเจ็บปวดพุ่งชนไปทั่วทุกส่วนในร่างกาย เจ็บเจียนตายทว่ากลับไม่ยอมเปล่งเสียงใดออกมา
อากาศภายนอกบัดนี้เยียบเย็นเสียดแทงไปจนถึงกระดูก ร่างเล็กของเมิ่งลี่เฟยถูกผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีโยนทิ้งไว้ที่ตำหนักร้างอันหนาวเหน็บ
นางได้ยินเสียงสั่งอันเหี้ยมเกรียมดังขึ้นก่อนที่เขาจะสบัดแขนเสื้อจากไปโดยไม่แยแสคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเลยแม้แต่น้อย
"เฝ้าเอาไว้ให้ดีอย่าปล่อยให้นางไปทำเรื่องชั่วช้าอีกเด็ดขาด"
ฝูจื่อหรงก้มหน้าวูบลงมาบดริมฝีปากกับโจวเจ้าเว่ยเบาๆ แต่เจ้าเว่ยต้องการมากกว่านั้น หญิงสาวแลบลิ้นออกมารอรับ นางเป็นฝ่ายสอดความอ่อนนุ่มเข้าไปภายในปากของเขาแทน แม้มือจะยังไม่มีแรงมากนักแต่การยึดเหนี่ยวใบหน้าเขาไว้กลับไม่เป็นปัญหา หญิงสาวบดริมฝีปากสามีอย่างเร่าร้อน "ถอดเสื้อผ้าให้ข้า จื่อหรงถอดให้ข้ามันร้อนเหลือเกิน" เจ้าเว่ยปากสั่นร้อนรนเพราะทนกับความรู้สึกเสียวซ่านที่รบกวนจนรู้สึกทรมานในทุกสัมผัสของเขา พรางนึกขัดใจตนเองที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งเสื้อผ้าของตนเองยังไม่มีปัญญาถอด "เจ้าเว่ยของข้าอย่าได้รีบร้อน เราจะค่อยๆสัมผัสและมีความสุขด้วยกัน" ฝูจื่อหรงจุมพิตปากบาง พลางถอดอาภรณ์ของนางอย่างทะนุถนอม "พี่เต้ข้าไม่เข้าใจ เจ้าหลีกเลี่ยงข้ามาตลอดเหตุใดถึงยอมโดยง่าย หากข้ามีแรงมากกว่านี้คงได้ปลุกปล้ำเจ้าไปหลายครั้งแล้ว" เจ้าเว่ยกล่าวพลางพยามยามใช้มือคว้ามังกรตัวใหญ่ไว้ในมือจนสำเร็จ อารมณ์ความต้องการเพิ่มทวีขึ้นโดยที่เจ้าเว่ยไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอกำความใหญ่แน่นแล้วลูบไล้ช้าๆ มันร้อนไปทั่วทั้งฝ่ามือ ภายใจร่างกายและจิตใจของเจ้าเว่ยสั่นระริกด้วยความร้อนและไฟปรารถนา ในที่สุดฝูจื่อหรงก็ถอดอาภรณ์ออกจากร่างบางได้สำเร็จ เจ้าเว่ยดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย นางยังกำมังกรยักษ์แน่นไม่ยอมปล่อย นางเลียริมฝีปากเมื่อมองร่างมันจนฝูจื่อหรงรู้สึกลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากกดศีรษะของคนตัวเล็กลงแล้วยัดมังกรเข้าไปในโพรงปากให้นางได้สมปรารถนาเสียเดี่ยวนี้ "ปล่อยมันก่อนเจ้าเว่ย เจ้าต้องไปอาบน้ำ" เขากระซิบเสียงแหบพร่า พยายามแกะมือเล็กที่กอบกำมังกรของเขาอยู่ เจ้าเว่ยต้องปล่อยอย่างอดเสียดาย ใบหน้าของนางฟ้องความต้องการออกมาจนฝูจื่อหรงนึกขัน แนะนำตัวละคร เรื่องย่อ โจวเจ้าเว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นเหลียง ทายาทของเผ่าบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามล่มเมือง คนของเผ่าบุปผาเป็นเผ่าที่ถือกำเนิดมาจากเทพเซียนรูปโฉมงดงามแต่ต้องคำสาปเรื่องของความรัก หากพวกเขามีความรักจะไม่สมหวังและตายอย่างอนาถด้วยความรักนั้น ฝูจื่อหรง ฮ่องเต้แคว้นชินที่มีเบื้องหลังการครองอำนาจโดยการสนับสนุนของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น รูปโฉมงดงามจนทำให้แข้งขาสตรีอ่อนระทวย เรื่องสตรีสำหรับเขาเป็นเพียงเพื่อมีไว้สนับสนุนบัลลังก์ให้มั่นคงเท่านั้น คนทั่วราชสำนักรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น กระทั่งวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับองค์หญิงผู้ลึกลับผู้หนึ่ง ที่เข้ามาพังทะลายกำแพงหัวใจที่เขาตั้งเอาไว้ และ นางผู้นั้นยังทำท่าคล้ายกับว่าไม่อาจอยู่กับเขาได้อีก สตรีผู้หนึ่งซึ่งมีความลับบางประการซ่อนอยู่ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายฝาแฝดขององค์หญิงโจวเจ้าเว่ยโจวเจ้าเว่ยองค์หญิงผู้สามารถเดินทางข้ามมิติได้โดยใช้ขลุ่ยเพรียกบุปผาซึ่งเป็นขลุ่ยวิเศษในการเดินทางข้ามมิติ โจวเจ้าเว่ยเป็นสตรีของเผ่าบุปผาอันลี้ลับ ต้องคำสาปที่ไม่สามารถมีความรักได้ หากนางมีความรักจำเป็นต้องเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย เพราะเหตุนี้โจวเจ้าเว่ย และ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีแก้คำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และ พวกเขาไม่อาจเปิดเผยความลับนี้ให้ ฝูจื่อหรงล่วงรู้ได้ (เรื่องนี้เป็นนิยายภาคต่อของต้องมนต์บุปผาค่ะ)
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เหวินเฟยเทียนเป็นพ่อค้าหน้าเลือดที่เห็นแก่ตัวที่สุดโดยเขามีผู้ช่วยคนสำคัญก็คือเฉินลี่จู เด็กสาวที่เขาได้ช่วยเอาไว้จากหมู่บ้านขอทานเมื่อนานมาแล้ว เขาเพียงใช้นางเพื่อหวังผลประโยชน์ในขณะที่เฉินลี่จูกลับมอบหัวใจให้เขาจนหมดใจ กระทั่งวันหนึ่งก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อเหวินเฟยเทียนไม่เห็นความสำคัญของนางอีกต่อไป เขากำลังจะแต่งงานกับคุณหนูซุนซื่อผู้มอบผลประโยชน์ให้เขาได้มากกว่านาง จนทำให้นางเสียใจและหนีเตลิด เพราะนางหนีจากเขาทำให้เหวินเฟยเทียนกินไม่ได้นอนไม่หลับใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เขาตามหานางและสุดท้ายได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนามว่าหลี เด็กหญิงซึ่งมีใบหน้าคล้ายคลึงเขาราวกับถอดแบบออกมา! นิยายเรื่องนี้เป็น ประเภท ดราม่า และ มีเด็กในเรื่องค่ะ
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
องค์หญิงหลิวอี้เฟยถูกส่งตัวไปแต่งงานกับอ๋องชราต่างแคว้นโดยไม่เต็มใจยังถูกคุมตัวโดยหัวหน้าองครักษ์ผู้เหี้ยมโหดที่คิดสังหารนางเพราะนางดันไปรู้ความลับดำมืดของเขาโดยบังเอิญ ด้วยความกลัวตายนางจึงคิดหนี! หมายเหตุ เรื่องนี้เป็นนิยายแนวโรมานซ์ ปมไม่หนักจบแบบสุขนิยมนะคะ
อยากหนีก็หนีไป แต่ถ้าตามเจอเมื่อไหร่ รับรอง! ได้ทรมานกว่าเดิมแน่..!! LEE ZONMIN (อีโซมิน) ชายหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี จีน ชีวิตแสนมืดมนผลักดันให้เขาต้องดิ้นรน กว่าจะมีวันนี้ได้ ... เจ้าของคาสิโนและคอมเพล็กซ์ห้างสรรพสินค้าที่กัมพูชา และ มาเก๊า เขาตามหาหญิงสาวคนหนึ่งและเธอพยายามหนี "ถ้าคิดจะหนีก็หนีให้รอด!!" BUA YONHWA (บัว หรือ ยอนฮวา) หญิงสาวลูกครึ่งไทยเกาหลีสุดแสนน่ารักชีวิตครอบครัวอบอุ่น ได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ... แต่ชีวิตกับพลิกผันเมื่อเจอกับคนเลวแบบเขา " ฉันไม่รู้จักคุณ!!"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
จะดีแค่ไหน หากหล่อนได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาทุกเช้า... ตั้งแต่จำความได้ ชมพูนุชก็หายใจเป็นชื่อของเขาเรื่อยมา องค์รัชทายาทรูปงามแห่งซาเรีย เขาคือความสุขเดียวในชีวิตของหล่อน แต่ความสุขนั้นกลับไม่จีรังดั่งใจหวัง เมื่อหญิงเดียวในดวงใจของเขาหนีหน้าหายไปพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ความผิดบาปทุกอย่างจึงถูกขว้างใส่หน้า เขาเรียกร้องให้ครอบครัวของหล่อนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับตราหน้าผู้หญิงที่เฝ้าภักดีกับเขาอย่างหล่อนว่า ‘นังแพศยา’ “หน้าที่หนึ่งเดียวสำหรับเธอ บนเตียงของฉันก็คือ... นางบำเรอ” องค์รัชทายาทรูปงามหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ นัยน์ตาสีทองตวัดจ้องมองมายังร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำของหล่อนอย่างดูแคลน “จำเอาไว้ ถ้าฉันเรียก เธอก็ต้องมา ถ้ามาช้า ฉันจะสั่งโบยพ่อ หรือไม่ก็ แม่ของเธอ” “อย่านะเพคะ...” ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มหยัน “ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรจะรู้หน้าที่ของตนเอง...” มือใหญ่ตบลงบนเตียงนอนนุ่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนหน้าที่อันทรงเกียรติของหญิงสาว
เทกันแล้วจะกลับมาเยกันอีกทำไม! นาชาเจ็บแล้วจำอย่าหวังว่าจะมาฟันเธอได้ง่าย ๆ อีก ทิ้งกันเก่งนักอย่ามาเสียดายคลานกลับมาเป็นหมาหวงก้างก็แล้วกัน ด้วยความจำเป็นนาชาจึงต้องขายตัวให้เควิล หลังจากนั้นเธอกับเขาบังเอิญพบกันในฐานะคนกันเอง เขาดีกับเธอจนทำให้เธอหลงรักและเข้าใจว่าเขาก็รักเธอ แต่วันหนึ่งเขากลับเทเธอไปอย่างไม่ไยดี หลังเสียใจอย่างหนักวันหนึ่งเขาก็กลับมาและทนไม่ได้ที่เห็นเธอกับเพื่อนสนิทของเขากำลังจะคบกัน!
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
ซีรี่ส์ “รสรักสวิงร้อน2” กับเรื่องราวของชายเดี่ยวคนแรกของคนคอเดียวกันที่ชื่นชอบรสชาติความเร้าใจที่ได้เห็นคู่ของตัวเองร้อนร่านกับชายเดี่ยวที่มาเติมเต็มอารมณ์และความต้องการ