จากนี้ไปผมคงทำได้เพียงจดจำความรักของเธอเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงที่ชื่อตะวันรักผมมากขนาดไหน ความรักที่ผมไม่สามารถตอบแทนอะไรให้เธอได้เลย
จากนี้ไปผมคงทำได้เพียงจดจำความรักของเธอเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงที่ชื่อตะวันรักผมมากขนาดไหน ความรักที่ผมไม่สามารถตอบแทนอะไรให้เธอได้เลย
บทนำ
รถ 7 ที่นั่งของครอบครัวขับมาจอดเทียบหน้าบ้านหลังใหม่ที่พวกเราสามคน พ่อ แม่ ลูก จะย้ายเข้ามาอยู่ในวันนี้ ตามมาด้วยรถบริการขนส่งรับย้ายบ้านที่เข้ามาจอดในเวลาไล่เลี่ยกัน เนื่องจากบริษัทของพ่อขยายเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วทำให้พ่อสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมสำหรับพวกเราได้
“ตะวันชอบไหมลูก”
พ่อถามขึ้นเมื่อเห็นฉันเอาแต่ยืนจ้องมองอยู่ที่ตัวบ้านจนไม่ขยับไปไหน
“ชอบค่ะพ่อ”
ระหว่างที่กำลังตอบคำถาม สายตาก็เหลือบไปเห็นรถสปอร์ตสีเหลืองดำแล่นเข้าจอดที่บ้านหลังถัดไป
“ข้างบ้านเป็นบ้านของลุงคาร์ล เพื่อนพ่อเอง ตะวันจำลุงคาร์ลได้หรือเปล่า”
เมื่อพยายามนึกถึงหน้าคนที่พ่อกำลังพูดถึงก็พอจำได้ลาง ๆ เพราะว่าตัวฉันเองก็ไม่ได้เจอลุงคาร์ลมานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดถ้าจำไม่ผิดน่าจะตอนที่ฉันอายุ 10 ขวบล่ะมั้ง
“เข้าไปข้างในดีกว่านะตะวัน จะได้ช่วยแม่ดูด้วยว่าจะวางอะไรตรงไหนดี”
“ค่ะแม่”
ฉันละสายตาจากรถสปอร์ตคันนั้นที่คนขับกำลังก้าวลงจากรถพอดี เมื่อหันกลับไปดูอีกครั้งก็เห็นคนที่น่าจะตัวสูงกว่าฉันเป็นฟุตเดินเข้าบ้านไปแล้ว
คงจะเป็นลูกชายของลุงคาร์ลละมั้ง...
หลังจากทางทีมงานของรถขนส่งขนของลงมาหมดแล้ว ตอนนี้ฉันก็เดินขึ้นมาดูห้องข้างบน
“ห้องของตะวันอยู่ทางนั้นนะลูก ลองเข้าไปดูสิว่าอยากจะปรับเปลี่ยน หรือแต่งอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
ฉันเดินเข้ามาในห้องที่พ่อพึ่งบอกเมื่อกี้ ข้างในตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าขาวแบบที่ฉันชอบ โต๊ะอ่านหนังสือและเตียงนอนถูกจัดไว้อย่างพอดีแบบที่ไม่ต้องปรับอะไรอีกเลย
เมื่อสำรวจไปทั่วห้องก็พบว่ามีประตูเปิดออกไปตรงระเบียงได้ พอเปิดออกไปดูตรงระเบียงก็พบว่าห้องของฉันอยู่ตรงข้ามกับบ้านของลุงคาร์ลพอดี แล้วก็ห้องที่อยู่ตรงข้ามนั้นน่าจะเป็นของผู้ชายคนที่ฉันเห็นเมื่อกี้ เพราะฉันเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้อง เขาน่าจะอายุเยอะกว่าฉันไม่กี่ปี ร่างกายบึกบึนมีกล้ามเป็นมัด คงจะออกกำลังกายอย่างหนัก แถมหน้าตาก็หล่ออย่างกับดารา เรียกว่าเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คนเลยล่ะ อ่อ รวมทั้งฉันด้วย
ฉันยืนมองเขาเพลินจนผู้ชายคนนั้นหันมาสบตานั่นแหละถึงได้ดึงตัวเองออกมาจากภวังค์ได้ แต่ว่า สายตาของเขาดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ ก็พอเขาหันมาเห็นว่าฉันมองอยู่ เขาก็รีบเดินมาปิดผ้าม่านทันที
ช่างเถอะ..ก็แค่คนข้างบ้าน ถึงจะหล่อมาก หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริงแต่ขี้เก๊กแบบนี้ก็ไม่อยากจะรู้จักนักหรอก ไว้ไปมหาวิทยาลัยค่อยไปส่องหนุ่มหล่อ ๆ ในคณะก็ได้
“ตะวัน ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก แม่เข้าไปได้ไหม”
เสียงของแม่เรียกอยู่หน้าประตู ฉันที่กำลังจัดเก็บเสื้อผ้าและสิ่งของไว้ในตู้ก็รีบเดินไปเปิดประตูให้ท่านทันที
“เข้ามาได้สิคะแม่ ห้องตะวันไม่ได้มีความลับสักหน่อย ว่าแต่ แม่มีอะไรให้หนูช่วยหรือเปล่าคะ”
ฉันถามแม่ออกไปด้วยความอยากรู้ ก็ตอนนี้แค่บ่ายโมงกว่า ๆ เท่านั้น จะว่าแม่มาเรียกไปทานของว่างก็ไม่น่าจะใช่
“แม่จะให้ตะวันช่วยเอาตะกร้าผลไม้ไปให้ลุงคาร์ลหน่อยน่ะ อีกอย่าง อย่าลืมชวนลุงคาร์ลมากินข้าวที่บ้านเราเย็นนี้ด้วยนะ บอกท่านว่าพวกเราอยากจะเลี้ยงฉลองที่พึ่งย้ายมาใหม่น่ะ”
“ได้ค่ะแม่ เรื่องแค่นี้เอง สบายมาก”
ฉันตอบตกลงพร้อมกับเดินตามแม่ลงไปข้างล่างหยิบตะกร้าผลไม้เพื่อจะได้เอาไปให้ลุงคาร์ล
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง! ฉันยืนกดกริ่งที่หน้าประตูรั้วบ้านของลุงคาร์ลอยู่หลายรอบแต่ก็ไม่มีใครมาเปิด หรือว่าจะไม่มีคนอยู่บ้านนะ..
“มีธุระอะไร กดซ้ำ ๆ อยู่ได้ ไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือไง”
ขณะที่ฉันกำลังหันหลังจะเดินกลับมาบ้านตัวเองก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากในตัวบ้าน แล้วมันก็ฟังไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ พอหันไปดูก็เห็นเป็นผู้ชายที่ปิดผ้าม่านใส่ฉันเมื่อเช้า
หึ..ปากแบบนี้ใครกันแน่ที่ไม่มีมารยาท
“เอ่อ พอดีพ่อกับแม่ให้หนูเอาผลไม้มาให้ลุงคาร์ลน่ะค่ะ แล้วก็ให้มาเชิญลุงคาร์ลไปทานข้าวเย็นที่บ้านวันนี้ด้วยค่ะ ไม่ทราบว่าลุงคาร์ลอยู่ไหมคะ”
พอดีฉันเป็นคนมีมารยาทมากพอก็เลยจำใจต้องพูดเพราะ ๆ กับอีตาหน้าบูดนี่
“พ่อไม่อยู่ แต่เดี๋ยวจะบอกให้ละกัน ส่วนตะกร้านั่น เอามานี่”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรต่อ ไอ้หน้าหล่อก็เดินมากระชากตะกร้าผลไม้จากมือของฉันไป ต้องใช้คำว่ากระชากเลยแหละ เพราะแรงที่เขาใช้มันแรงพอ ๆ กับแรงของควายลากไถเวลาไถนาก็ไม่ผิด
ตอนเด็กอีตานี่ไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือไงนะ..
///////
ผู้หญิงสวย รวย เก่ง อย่างพลอยใส จะแต่งงานทั้งที ก็ต้องแต่งกับคนที่ศึกษากันมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่หน้าตา ไปจนถึงโจ้ย เอ้ย ถึงใจ ยิ่งเฉพาะกับเขาคนนั้น ที่เคยผิดสัญญา จะให้ไปแต่งงานด้วยเหรอ ไม่มีทาง! ถ้าเขาเป็นกรงเธอก็จะแหก ถ้ายังจะแต่ง ก็จะทำให้ร้องขออย่าแทบไม่ทันเลย คอยดู!
...คุณเชื่อในเรื่องกลับชาติมาเกิดไหม.. เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยเชื่อในเรื่องพวกนี้ จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดก็เกิดขึ้นในชีวิตของผม เมื่อผมได้พบกับเธอ ผู้หญิงที่เหมือนกับคนรักที่ตายจากไปแล้วถึง 21 ปีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา น้ำเสียง อายุ หรือแม้กระทั่งชื่อของเธอ ..ตะวัน.. เคลลี่ ชายหนุ่มที่เคยสูญเสียคนรักไปเมื่อ 21 ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จู่ ๆ เขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ ผู้หญิงคนที่เหมือนกับคนรักของเขาที่ตายไปแล้วทุกกระเบียดนิ้ว และนั่นก็ทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่าเธอคือตะวันกลับชาติมาเกิด เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาคบกับเธออีกครั้ง ดุจตะวัน หญิงสาววัยย่างเข้า 21 ปี เขาพบเจอกับเคลลี่ด้วยความบังเอิญ และมันก็เป็นความบังเอิญอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาคือประธานบริษัทที่เธอกำลังฝึกงานอยู่ และเขาสั่งให้เธอเข้ามาฝึกงานในห้องทำงานของเขา นั่นถึงทำให้เธอรู้ว่าที่เคลลี่เอ็นดูเธอ เพราะว่าหน้าตาและชื่อคล้ายแฟนที่เสียชีวิตไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พลิกผันแบบไม่คาดคิด เคลลี่พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะให้ดุจตะวันรู้ว่าเธอคือตะวันกลับชาติมาเกิด แต่มันก็ไม่ง่ายเมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกครั้งซ้ำรอยเดิม และเธอก็ลืมความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจนหมด ........ มาติดตามว่าเคลลี่จะทำยังไงให้เธอกลับมาจำความสัมพันธ์ของเขาและเธอได้ แล้วเธอจะใช่คนรักกลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือเปล่า รักครั้งนี้ จะสมหวัง หรือสุดท้ายแล้วจะลงเอยด้วยน้ำตาเช่นเดิม //////
เพราะต้องหาเงินมาไว้ใช้จ่าย และเตรียมไว้สำหรับการผ่าตัดให้คุณยาย พิมพ์มาดาเลยจำเป็นต้องหางานพิเศษทำตัวเป็นเกลียว จนวันหนึ่งเธอเห็นป้ายรับสมัครงานที่ติดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เงินเดือนสูง และเวลาทำงานไม่กระทบกับชีวิตประจำวันของเธอ พิมพ์มาดาตัดสินใจสมัครงานทันที เพราะเธอคิดว่าเป็นงานดูแลผู้สูงอายุ แต่มันไม่ใช่ เจ้าของคฤหาสน์ที่ทุกคนเรียกว่าคุณท่านรับเธอเข้าทันงานทันที โดยที่พิมพ์มาดาไม่รู้เลยว่า สัญญาที่เธอเซ็นไปนั้นมันแตกต่างจากของคนอื่น มันเป็นสัญญาฉบับพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อเธอเพียงคนเดียว อาร์เดน ชายหนุ่มหลังม่านสีดำเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ และเป็นผู้สืบทอดกลุ่มมาเฟีย ไททันสเนค เขากำลังสืบหาคนที่ลอบวางระเบิดรถของพ่อเขาเมื่อสองปีก่อน แต่ยิ่งสืบ ความจริงก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดใจ เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือคนที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน การแก้แค้นก็สำคัญ แต่ความปลอดภัยของหญิงสาวที่อยู่ใต้อาณัติของตัวเองนั้นก็มองข้ามไม่ได้ เมื่อเธอถูกจับตัวไป ความอดทนเส้นสุดท้ายของอาร์เดนก็ขาดลง ทุกคนที่ทำเลวกับเขาจะต้องชดใช้ /////////
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY