เพราะต้องหาเงินมาไว้ใช้จ่าย และเตรียมไว้สำหรับการผ่าตัดให้คุณยาย พิมพ์มาดาเลยจำเป็นต้องหางานพิเศษทำตัวเป็นเกลียว จนวันหนึ่งเธอเห็นป้ายรับสมัครงานที่ติดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ เงินเดือนสูง และเวลาทำงานไม่กระทบกับชีวิตประจำวันของเธอ พิมพ์มาดาตัดสินใจสมัครงานทันที เพราะเธอคิดว่าเป็นงานดูแลผู้สูงอายุ แต่มันไม่ใช่ เจ้าของคฤหาสน์ที่ทุกคนเรียกว่าคุณท่านรับเธอเข้าทันงานทันที โดยที่พิมพ์มาดาไม่รู้เลยว่า สัญญาที่เธอเซ็นไปนั้นมันแตกต่างจากของคนอื่น มันเป็นสัญญาฉบับพิเศษที่ทำขึ้นเพื่อเธอเพียงคนเดียว อาร์เดน ชายหนุ่มหลังม่านสีดำเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ และเป็นผู้สืบทอดกลุ่มมาเฟีย ไททันสเนค เขากำลังสืบหาคนที่ลอบวางระเบิดรถของพ่อเขาเมื่อสองปีก่อน แต่ยิ่งสืบ ความจริงก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดใจ เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดคือคนที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน การแก้แค้นก็สำคัญ แต่ความปลอดภัยของหญิงสาวที่อยู่ใต้อาณัติของตัวเองนั้นก็มองข้ามไม่ได้ เมื่อเธอถูกจับตัวไป ความอดทนเส้นสุดท้ายของอาร์เดนก็ขาดลง ทุกคนที่ทำเลวกับเขาจะต้องชดใช้ /////////
...รับสมัครแม่บ้านดูแลคุณท่าน 1 อัตรา อายุ 20-25 ปี รูปร่างพอดี ไม่อ้วน ถ้ามีประสบการณ์ในการทำงานจะพิจารณาเป็นพิเศษ ทำงาน 18.00 น.- 00.00 น. ทุกวัน เงินเดือน 45,000 บาท มีเงินเพิ่มสำหรับงานพิเศษ...
พิมพ์มาดา หรือพิมพ์ กำลังยืนอ่านป้ายรับสมัครงานที่ติดไว้หน้าบ้าน แต่เท่าที่เห็นควรจะเรียกว่าคฤหาสน์เสียมากกว่า เพราะมันใหญ่โตเหลือเกิน ทั้งยังสวยงามราวกับปราสาทในหนังที่เธอเคยดูบ่อย ๆ
“เรามีคุณสมบัติครบเลยนี่นา”
พิมพ์มาดายืนพูดอยู่กับตัวเองหน้าป้าย หญิงสาวอายุ 20 ปี พอดิบพอดี รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นส่วนเว้าส่วนโค้งเด่นชัด ทั้งยังเวลาในการทำงานนั้นก็ไม่รบกวนกับเวลาเรียนและเวลาที่เธอจะต้องดูแลคุณยายเพียงคนเดียวของตัวเองอีกด้วย
พิมพ์มาดากดกริ่งที่อยู่หน้าประตูคฤหาสน์หลังนั้นไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู เขาเป็นผู้ชายที่น่าจะอายุราว 30 ปี ใส่ชุดที่ดูเหมือนไม่น่าจะใช่พ่อบ้านธรรมดาแน่นอน
“สวัสดีค่ะ พอดีหนูเห็นป้ายรับสมัครงานน่ะค่ะ ก็เลยอยากจะลองสมัครดูค่ะ”
รอยยิ้มหวานคลี่ให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร เขายืนมองพิจารณาเธออยู่ครู่เดียวก็เปิดประตูให้เธอเข้ามาข้างใน
“เข้ามาสิ แต่จะได้ทำงานหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับคุณท่านนะ เพราะท่านจะเป็นคนพิจารณาเองทั้งหมด”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาค่ะ”
สองเท้าก้าวเดินตามคนข้างหน้าโดยเว้นระยะไว้พอสมควร ส่วนดวงตาคู่สวยก็หันมองซ้ายมองขวาไม่หยุด ภายในตัวคฤหาสน์แม้จะสวย แต่ก็ดูน่ากลัวอยู่ในตัว แถมบรรยากาศก็มืดมนแปลก ๆ มีเพียงแสงไฟสลัว ๆ ที่เปิดอยู่ตามทางเดิน ทางที่เธอเดินผ่านมีแม่บ้านคนอื่นทำงานอยู่บ้าง และทุกคนก็ใส่ชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านอย่างกับในหนังแถบตะวันตกทุกคน
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ”
พิมพ์มาดาชะงักฝีเท้าแทบไม่ทันจนเกือบจะชนกับคนข้างหน้า เมื่อผู้ชายที่เดินนำอยู่หยุดเดิน ก็เพราะมัวแต่มองนั่นมองนี่เพลินจนลืมมองข้างหน้าน่ะสิ เมื่อสังเกตดี ๆ ก็เห็นว่าเธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง ๆ หนึ่ง บานประตูไม้ 2 บาน ทั้งใหญ่ทั้งสูงราวกับประตูวังไม่มีผิด ทั้งยังสลักลวดลายงูตัวใหญ่แลดูน่ากลัวไว้อีก
“คุณท่านอยู่ข้างในห้องนี้ แต่เธอยืนอยู่ตรงนี้ก็พอ หน้าประตูมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ท่านสามารถมองเห็นเธอจากข้างในได้ ..คุณท่านครับ มีคนมาสมัครงานครับ..”
เขาพูดกับเธอเสร็จ ก็หันไปพูดกับสปีคเกอร์ที่ติดอยู่ตรงข้างประตู เสร็จแล้วก็เดินออกไปทิ้งให้พิมพ์มาดายืนอยู่หน้าประตูห้องเพียงคนเดียว
“แนะนำตัวเองว่าทำไมฉันถึงต้องรับเธอเข้าทำงาน”
เสียงทุ้มลึกแต่ทรงพลังดังผ่านลำโพงตัวเล็กที่ติดอยู่หน้าประตูห้อง แค่ได้ยินเสียงก็ทำเอาพิมพ์มาดาขนลุกซู่ แต่เพื่อเงินเดือนที่สูงมากเมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ เธอก็จำเป็นต้องทำใจดีสู้เสือเข้าไว้
“สวัสดีค่ะคุณท่าน หนูชื่อพิมพ์มาดานะคะ เรียกสั้น ๆ ว่าพิมพ์ค่ะ อายุ 20 ปีเต็ม หนูมีคุณสมบัติตามที่คุณท่านต้องการทุกอย่างค่ะ หนูอายุไม่เกิน ไม่อ้วน ทำงานบ้านได้ ทำอาหารได้ แล้วก็มีประสบการณ์ในด้านดูแลผู้สูงอายุค่ะ”
พิมพ์มาดาแนะนำตัวเองอย่างละเอียด ภายในใจตอนนี้เต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่เธอลุ้นลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งเสียอีก
“มีประสบการณ์ในด้านดูแลผู้สูงอายุอย่างนั้นเหรอ”
เสียงทุ้มของคนข้างหลังประตูพูดกับเธออีกครั้ง พิมพ์มาดาข่มความรู้สึกตื่นเต้นเอาไว้ข้างในใจแล้วก็รีบตอบกลับไปทันที
“ใช่ค่ะคุณท่าน พอดีหนูต้องดูแลคุณยายของหนูที่อายุมากแล้วค่ะ แล้วก็มีโรคประจำตัวด้วย หนูคิดว่าหนูน่าจะดูแลคนมีอายุอย่างคุณท่านได้ดีแน่นอนค่ะ”
“หืม?”
เสียงเบา ๆ ที่ลอดออกมาจากลำโพงนั้นทำเอาพิมพ์มาดาเย็นวาบไปทั้งตัว กำลังคิดว่าเธอพูดอะไรผิดไปเลยทำให้คุณท่านไม่พอใจหรือเปล่า
“ตกลงฉันรับเธอเข้าทำงาน พร้อมจะเริ่มงานเมื่อไหร่”
“ระ รับแล้วเหรอคะ”
“อืม”
“พร้อมค่ะ พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้เลยค่ะคุณท่าน
“ดี พรุ่งนี้มาทำงาน ห้ามสายเด็ดขาด ฉันไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลาเข้าใจไหม ยืนรอที่เดิมนั่นแหละ เดี๋ยวมาตินมาพาเธอไปเซ็นสัญญาทำงาน”
พิมพ์มาดาตื่นเต้นจนแทบทำตัวไม่ถูก เธอยืนรออยู่ไม่นานผู้ชายคนเดิมก็มาพาเธอเดินไปยังห้องเอกสาร และเธอก็ได้รู้ว่าผู้ชายหน้าเข้มคนนี้ชื่อมาติน
“เซ็นตรงนี้นะ แล้วนี่ก็ชุดของเธอ พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้ มาเร็วหน่อยก็ดี เดี๋ยวจะให้แม่บ้านคนอื่นช่วยสอนงานให้”
พิมพ์มาดาพยักใบหน้าขึ้นลง แม้จะยังสงสัยกับเอกสารที่จะเซ็นสัญญาแต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถาม เพราะในเอกสารนั้นมีเพียงข้อความเดียวอยู่บนหน้ากระดาษ
...ลักษณะงานมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับคำสั่งของคุณท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น..
เธอจรดปลายปากกาและรีบเซ็นชื่อตัวเองลงไปทันที ขืนเธอชักช้าก็กลัวว่าจะโดนยกเลิกงานเสียก่อน
หลังจากพิมพ์มาดากลับไปแล้ว มาตินก็เดินกลับมายังห้องเดิมที่เขาพาพิมพ์มาดามาเมื่อกี้ ประตูบานใหญ่ที่สลักรูปงูไว้เปิดออกเพื่อให้เขาเข้าไปข้างใน
ภายในห้องใหญ่ อาร์เดน หนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น อายุ 32 ปีนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวประจำ และเขาก็เป็นคุณท่านของที่นี่
“ทำไมคุณท่านถึงรับเธอเข้าทำงานเหรอครับ”
มาตินถามออกไปด้วยความอยากรู้ เพราะมีผู้หญิงมากมายที่มาสมัครตำแหน่งนี้ แต่ไม่มีใครผ่านการคัดเลือกเลยสักคน
“เพราะเด็กคนนั้นคิดว่าฉันเป็นตาแก่น่ะสิ”
เขาพูดแล้วก็หัวเราะอยู่ในลำคอ ทิ้งให้บอดี้การ์ดคนสนิทได้แต่ยืนเกาหัวด้วยความสงสัยต่อไป
อาร์เดน เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของผู้ก่อตั้งกลุ่มมาเฟียที่มีชื่อว่า ไททันสเนค มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางและก็มีศัตรูมากมายอยู่รอบตัวเช่นกัน เขาสานต่อการดูแลกลุ่มจากพ่อที่จากโลกนี้ไปเมื่อสองปีที่แล้วจากการถูกลอบวางระเบิดรถยนต์ ส่วนแม่ของเขาที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้หนีหายไปตั้งแต่เขายังเด็ก ธุรกิจหลักของไททันสเนคก็คือคาสิโนขนาดใหญ่ และการค้าแทบทุกประเภทที่เป็นสีเทา ยกเว้นยาเสพติด
ส่วนเหตุผลที่อาร์เดนรับพิมพ์มาดาเข้ามาทำงาน ก็เพราะเธอดูท่าทางไม่มีพิษมีภัย อีกทั้งคำพูดคำจายังดูใสซื่อ มีอย่างที่ไหนเสียงของเขาไม่ได้ดูแก่เลยสักนิด แต่เธอกลับคิดว่าเขาเป็นเพียงตาแก่ที่ต้องมีคนคอยดูแลซะได้
อีกด้าน พิมพ์มาดาที่พึ่งได้งานทำหมาด ๆ แถมยังเงินเดือนสูงชนิดที่ว่าคงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เธอรีบกลับมาที่บ้านเช่าของเธอที่อยู่ถัดมาอีกแค่สองซอยเท่านั้น พิมพ์มาดาอาศัยอยู่กับยายที่อายุเยอะมากแล้ว ทั้งยังมีโรคประจำตัวรุมเร้าหลายโรค ไปหาหมอแต่ละครั้งก็ใช้เงินหลายพันบาท
“ยายจ๋า หนูได้งานทำแล้วนะ เงินเดือนดีด้วยล่ะ ต่อไปนี้เราจะไม่ลำบากอีกแล้วนะยาย หนูจะมีเงินซื้อยาแล้วก็พายายไปหาหมอแล้วนะจ๊ะ”
พิมพ์มาดาสวมกอดยายที่นอนอยู่บนที่นอนไว้เบา ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเธอก็มียายเพียงคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้าง ส่วนพ่อกับแม่ไม่รู้ว่าหายไปไหนตั้งแต่เธอยังแบเบาะ
“งานอะไรล่ะพิมพ์ งานหนักหรือเปล่าลูก แล้วอยู่ไกลไหมล่ะ เอ็งจะไปทำงานลำบากหรือเปล่า”
ด้วยความเป็นห่วงหลานสาวเพียงคนเดียว ทั้งยังหน้าตาสะสวยไร้ที่ติ แม้จะไม่ค่อยมีแรง คุณยายของพิมพ์มาดาก็ยังมีคำถามมากมาย
“เป็นงานแม่บ้านดูแลคนสูงอายุจ้ะยาย ท่าทางจะรวยมาก บ้านใหญ่ยังกับคฤหาสน์ เขาให้เงินเดือนดีมากเลยนะจ๊ะยาย ทำงานช่วงกลางคืน ไม่กระทบกับเวลาเรียนหนูด้วย อีกอย่าง อยู่ถัดไปแค่สองซอยเองจ้ะ”
พิมพ์มาดาอธิบายให้คุณยายฟังยาวเหยียดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพราะเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่ พิมพ์มาดาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ยายได้อยู่กับเธอได้นานที่สุด แม้ว่างานจะหนักแค่ไหนเธอก็ไม่เคยบ่นให้ยายฟังแม้แต่คำเดียว
//////////
ผู้หญิงสวย รวย เก่ง อย่างพลอยใส จะแต่งงานทั้งที ก็ต้องแต่งกับคนที่ศึกษากันมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่หน้าตา ไปจนถึงโจ้ย เอ้ย ถึงใจ ยิ่งเฉพาะกับเขาคนนั้น ที่เคยผิดสัญญา จะให้ไปแต่งงานด้วยเหรอ ไม่มีทาง! ถ้าเขาเป็นกรงเธอก็จะแหก ถ้ายังจะแต่ง ก็จะทำให้ร้องขออย่าแทบไม่ทันเลย คอยดู!
...คุณเชื่อในเรื่องกลับชาติมาเกิดไหม.. เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยเชื่อในเรื่องพวกนี้ จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดก็เกิดขึ้นในชีวิตของผม เมื่อผมได้พบกับเธอ ผู้หญิงที่เหมือนกับคนรักที่ตายจากไปแล้วถึง 21 ปีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา น้ำเสียง อายุ หรือแม้กระทั่งชื่อของเธอ ..ตะวัน.. เคลลี่ ชายหนุ่มที่เคยสูญเสียคนรักไปเมื่อ 21 ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จู่ ๆ เขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ ผู้หญิงคนที่เหมือนกับคนรักของเขาที่ตายไปแล้วทุกกระเบียดนิ้ว และนั่นก็ทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่าเธอคือตะวันกลับชาติมาเกิด เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาคบกับเธออีกครั้ง ดุจตะวัน หญิงสาววัยย่างเข้า 21 ปี เขาพบเจอกับเคลลี่ด้วยความบังเอิญ และมันก็เป็นความบังเอิญอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาคือประธานบริษัทที่เธอกำลังฝึกงานอยู่ และเขาสั่งให้เธอเข้ามาฝึกงานในห้องทำงานของเขา นั่นถึงทำให้เธอรู้ว่าที่เคลลี่เอ็นดูเธอ เพราะว่าหน้าตาและชื่อคล้ายแฟนที่เสียชีวิตไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พลิกผันแบบไม่คาดคิด เคลลี่พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะให้ดุจตะวันรู้ว่าเธอคือตะวันกลับชาติมาเกิด แต่มันก็ไม่ง่ายเมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกครั้งซ้ำรอยเดิม และเธอก็ลืมความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจนหมด ........ มาติดตามว่าเคลลี่จะทำยังไงให้เธอกลับมาจำความสัมพันธ์ของเขาและเธอได้ แล้วเธอจะใช่คนรักกลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือเปล่า รักครั้งนี้ จะสมหวัง หรือสุดท้ายแล้วจะลงเอยด้วยน้ำตาเช่นเดิม //////
จากนี้ไปผมคงทำได้เพียงจดจำความรักของเธอเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงที่ชื่อตะวันรักผมมากขนาดไหน ความรักที่ผมไม่สามารถตอบแทนอะไรให้เธอได้เลย
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"