"ถ้าไม่มีเงินใช้หนี้ ก็แค่แก้ผ้าของเธอออกซะ"
"ถ้าไม่มีเงินใช้หนี้ ก็แค่แก้ผ้าของเธอออกซะ"
ณ คฤหาสน์หรู
“อ๊ะ..ฮื่อ”
ธนกรนั่งกัดปากแน่นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นเเละเพิ่มจังหวะในการช่วยตัวเองเขานั่งที่เก้าอี้พลางจินตนาการถึงสาวที่ฝันเมื่อคืนพร้อมกับเพิ่มจังหวะในการช่วยตัวเอง เสียงร้องครวญครางถึงความเสียวซ่านได้เป่งออกมาจากปากหนา ๆ ของเขา ยังไม่ทันที่เขาจะถึงฝั่งฝันก็มีป้าแม่บ้านมา ขัดจังหวะซะก่อน เขามีอาการหัวเสียนิด ๆ
ก๊อก ๆ
“คุณหนูคะ ป้าขอเข้าไปในห้องได้ไหมคะ”
ธนกรจึงรีบใส่กางเกงโดยเร็วพร้อมเอ่ยปากตอบรับป้าน้อย
“ครับเข้ามาเลย
มีอะไรเหรอครับป้าน้อย"
ธนกรเอ่ยถามป้าน้อยพร้อมหอบเสียงเบาๆ ออกมา
“อ๋อป้าจะเข้ามาทำความสะอาดในห้องให้น่ะจ้ะ”
พูดจบป้าน้อยก็ลงมือเก็บกวาดภายในห้อง
“คุณหนูคะ เย็นนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
“เอ่อ..ผมว่าจะไม่กินข้าวที่บ้านครับผมมีนัดกับเพื่อนช่วงเย็น”
ชายหนุ่มเอ่ยตอบพลางลุกเดินออกมาจากเก้าอี้หน้าคอม และลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อไปจัดการทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จ เขาค่อย ๆ ถอดกางเกงออกและ เริ่มบิ้วอารมณ์ใหม่อีกครั้งเขาพยายามนึกถึงหน้าหญิงสาวที่เคยเห็นในฝัน พรางพูดออกมาเบา ๆ
“อยากให้เธอมีตัวตนจริง ๆ จังฮื่อ แม่สาวน้อยฉันอยากร่วมรักกับเธอ”
ยิ่งนึกถึงเขายิ่งเพิ่มความเร็วขึ้นมาเป็นเท่าตัว และในที่สุดเขาก็เสร็จสิ้นภารกิจช่วยตัวเอง ในขณะที่เขากำลังล้างมือและล้างทำความสะอาดน้องชายก็มีเสียงป้าแม่บ้านตะโกนขึ้น
“คุณหนูมีธุระกับคุณทัชเหรอคะ”
ชายหนุ่มตอบ
“ใช่ครับป้า”
ชายหนุ่มตะโกนตอบเสียงดังก้องออกมาจากห้องน้ำ
“งั้นผมขอตัวลงไปข้างล่างก่อนนะครับเดี๋ยวจะเกะกะ ป้าน้อย เอา”
“อีกสักครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้วค่ะคุณหนู...เอ่อ คุณหนูคะป้าฝากไปตามยัยลี่ให้ขึ้นมาหาป้าที่ห้องคุณหนูหน่อยนะคะพอดีป้าจะให้มันมาช่วยเก็บผ้าปูที่นอนไปซัก”
“ได้เลยครับป้า”
พลันสายตาชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นกระดาษทิชชู่ใต้เตียงที่ตนใช้เช็ดหลังจากที่ตัวเองสำเร็จความใคร่ไว้เมื่อคืนเขารีบหยิบมันขึ้นมาและโยนทิ้งไว้ในถังขยะใต้โต๊ะคอม
“โอ้โหคุณหนูคะ พักนี้คุณหนูใช้ทิชชู่เยอะจังเลยนะคะเนี่ย”
ป้าน้อยเอ่ยแซวเขาเหมือนรู้ว่าเขาใช้มันทำอะไร แต่ชายหนุ่มกลับอมยิ้มและรีบเดินออกมาจากห้องทันทีด้วยความเขินอาย
ก๊อก ๆ
“ค่า ๆ จะออกไป เดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ อุ๊ย!! คุณหนูเองหรือคะเนี่ยลี่ นึกว่าป้าน้อยมาเคาะประตูซะอีก”
“อืมป้าน้อยให้ไปช่วยเก็บห้องน่ะ”
“ที่ห้องของใครหรอคะ”
ลี่เอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือออกมากำลังจะจับแขนของเขาแต่กลับโดนปฏิเสธโดยการสะบัดแขนหนี
“ ห้องของฉัน”
พูดเสร็จเขาก็เดินหนีหายไปหลังบ้านปล่อยให้ลี่ยืนหน้าบึ้งอยู่ที่หน้าประตูลี่ยืนบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวพร้อมกับกระทืบเท้า ชักสีหน้าไม่พอใจก่อนจะรีบเดินไปหาป้าน้อย
ชายหนุ่มรูปหล่อกำลังนั่งเหม่อนึกถึงสาวในฝันเป็นเรื่องน่าแปลกที่เขาฝันถึงเธอแทบทุกคืนและเกือบเดือนแล้ว
“อ้าว...ตาหนูมานั่งตรงนี้นานหรือยังลูก”
พลันความคิดของเขาก็มลายหายไปเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียงอันไพเราะนุ่มหวานทำให้เขารู้ทันทีเลยว่าใครเอ่ยเรียก
“แม่…สวัสดีครับแม่กลับมาตอนไหนครับเนี่ย”
“มาถึงสักพักแล้วจ้ะ เราล่ะจ๊ะเป็นไงบ้างช่วงที่แม่ไม่อยู่แอบไปมีแฟนที่ไหนมาหรือเปล่า”
ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนจะเอ่ยกับผู้เป็นแม่
“โห...แม่ครับแม่ก็รู้นี่ครับว่าผมยังไม่อยากเอาใครมาทำให้ปวดหัว แล้วแม่กลับมารอบนี้จะไปทำงานอีกทีตอนไหนครับเนี่ย”
“ อีกสามวันก็ไปทำงานอีกจ้ะ”
“แบบนี้ผมเหงาอีกแล้วสิครับเนี่ย”
เขาเอ่ยปากบอกผู้เป็นแม่พร้อมกับส่งยิ้มอ่อน ๆ กลับไป
“ให้ทำยังไงได้ล่ะจ๊ะแม่กับป๊าต้องไปดูงานเปิดตัวสวนเงาะที่จันทบุรี”
“ผมอยากให้แม่รู้ไว้นะครับว่าผมเป็นห่วงแม่มาก ๆ ผมแค่อยากให้แม่ได้พักบ้าง”
“แม่เข้าใจจ้ะ แต่แม่ก็สัญญานะลูกแม่ขอเวลาหน่อยให้อะไร ๆ มันลงตัวแล้วแม่จะยกธุรกิจร้านเพชรให้ตาหนูเป็นคนดูแล”
“ไม่ต้องรีบหรอกครับแม่ ถึงยังไงผมรอได้ผมเองก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองเหมือนกันให้แม่มั่นใจในตัวผมก่อนว่าคนแบบผมสามารถดูแลธุรกิจที่ แม่ยกให้ผมได้หรือเปล่า”
“ลูกชายแม่น่ารักจริง ๆ เลยแม่ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าถ้าสักวันหนึ่งตาหนูของแม่เกิดแต่งงานมีครอบครัวไปสาวคนไหนน้อจะได้เป็นคนที่โชคดีที่ได้เจอคนดี ๆ แบบลูกชายของแม่”
“ฮ่า ๆ ไม่รู้สิครับแต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่พร้อมที่จะมีใคร”
“ จ้ะ พ่อหนุ่มหล่อของแม่ “
“แม่ครับช่วงที่แม่ไปทำงานผมขอไปเที่ยวพักผ่อนทางใต้ได้ไหมครับ”
“ได้สิจ๊ะ แล้วตาหนูจะไปคนเดียวเหรอลูก”
“ไม่ครับเดี๋ยวผมไปกับไอ้ทัช ว่าจะลงไปหาไอ้กันเนอร์มันด้วยพวกผมไม่เจอมันมาตั้งหลายเดือนแล้วตั้งแต่เรียนจบมา”
“แม่ล่ะอยากไปเที่ยวด้วยเลยแต่ติดตรงงานนี่สิจ๊ะไม่ไปก็ไม่ได้ปะป๊าเราน่ะสิบังคับให้ไปดูงานด่วนกัน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมซื้อของมาฝากนะแล้วผมก็จะถ่ายรูปภาพสวย ๆ ที่ทางใต้มาฝากแม่เยอะ ๆ เลยครับ”
“ลูกชายแม่เนี่ยน่ารักจริง ๆ เลย”
พูดจบผู้เป็นแม่ก็เข้าสวมกอดชายหนุ่มด้วยความรักและความเอ็นดู....
ที่บ้านของทัช
ธนกรขับรถมอเตอร์ไซค์มาหาทัชที่บ้าน ทัชเป็นเพื่อนเก่าและสนิทกับเขามาก ๆ ตั้งแต่เรียนอนุบาลเขาทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานมาก
รถมอเตอร์ไซค์ของธนกรได้จอดอยู่ที่หน้ารั้วบ้าน สักพักก็มีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผิวขาววิ่งหน้าตั้งออกมาจากประตูบ้านหน้าตายิ้มแย้มดีใจที่เห็นธนกรมาหาตนที่บ้านทัชจึงรีบเปิดประตูรั้วให้เพื่อนเข้ามา
“อ้าว ไอ้กรมาไวจังเลยน่าจะโทรมาหากันก่อนเนี่ยกำลังจะขึ้นไปอาบน้ำแต่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็เลยรีบมาเปิดประตูรั้วให้ก่อน”
ธนกรก้าวขาลงจากรถพร้อมถอดหมวกกันน็อคเผยให้เห็นใบหน้าคมคายและสันจมูกโด่ง ๆ ของเขา
“จะโทรบอกทำไมล่ะก็คุยกันรู้เรื่องแล้วไง”
เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามากอดคอเพื่อนและพากันเดินเข้าบ้าน
“ว่าไงเพื่อนเรื่องที่เราเคยคุยกันตอนอาทิตย์ก่อนตกลงว่าไง”
ชายหนุ่มผิวขาวที่ชื่อทัชเอ่ยปากถามผู้เป็นเพื่อน
“อืม ตกลงว่าไปก็ดีเหมือนกันจะได้ไปหาไอ้กันเนอร์ด้วยก็ไม่ได้เจอมันตั้งหลายเดือนแล้วคิดถึงมันเหมือนกัน”
ทัชมีสีหน้าที่ดีใจและตอบกลับเพื่อน
“วันไหนดีเพื่อนว่ามาเลย”
“รออีกสามวันแม่กูจะไปทำงานต่างจังหวัดรอหน่อยอีกแค่สามวันเองขอใช้เวลาอยู่กับแม่ก่อน”
“ได้เลยครับเด็กติดแม่ฮ่า ๆ “
“ไม่ได้ติดเว้ยแค่อยากมีเวลาอยู่กับแม่กับป๊าเฉย ๆ เว้ย”
“ได้ไม่แซวมึงล่ะงั้นก็แจ่มเลยเพื่อนจะรีบเก็บกระเป๋ารอเลย”
ธนกรนั่งมองหน้าเพื่อนสักพัก เพราะมีเรื่องที่อยากจะปรึกษากับทัชแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าเพื่อนจะหัวเราะ แต่อีกใจนึงก็อยากจะเปิดใจเล่าให้เพื่อนฟังเพราะว่าทัชกับธนกรเป็นเพื่อนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก
“ทัชมึงเคยฝันถึงใครสักคนหนึ่งไหม”
“ฮ่า ๆ เคยดิเพื่อนฝันถึงพ่ออะดิแกมาหลอกในฝันอะฮ่า ๆ”
ทัชพูดพร้อมกับหัวเราะชอบใจใหญ่เมื่อเขาพูดถึงพ่อของเขาที่ได้จากโลกนี้ไปเมื่อหลายปีที่แล้ว
“ไม่ใช่สิเพื่อนแบบฝันถึงผู้หญิงอะ”
“เฮ้ยเพื่อนฮ่าๆอย่าบอกนะว่า มึงฝันเปียกอะ”
“มันมากกว่านั้นเพราะถึงกับเก็บเอามาช่วยตัวเองเลยทุกครั้งที่มีอารมณ์ก็จะนึกถึงแต่หน้าผู้หญิงที่ฝันมึงว่าแปลกไหม”
ทัชทำหน้างุนงงและขมวดคิ้วขึ้น
“อืมคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงที่เด็ดนะถึงทำให้กับนึกถึงได้ แถมยังเก็บเอาไปช่วยตัวเองอะฮ่า ๆ มึงนี่อาการหนักนะเว้ย ไหนบอกหน่อยสิว่าแบบไหนที่มึงฝันอะ”
ธนกรเอามือเกาหัวทำท่าเขินอายและเล่าให้เพื่อนฟัง
“ก็...หน้าตาสะสวยหน้าอกใหญ่สะบึมสะโพกกลมมล ผิวขาวอมชมพู”
“เข้าใจแล้วสวยสุด ๆ เลยนี่หว่าทำเอาเพื่อนเราลืมไม่ลงเลยเว้ยฮ่า ๆ ผีสาวมาเข้าฝันหลอกมึงหรือเปล่าฮ่า ๆ “
“พอ ๆ เลิกคุยเถอะไปหาข้าวกินกันดีกว่าปะ”
ทัชยังคงหัวเราะใส่ธนกรไม่เลิกพร้อมลุกขึ้นเดินตามหลังเพื่อนออกมาข้างนอก
“ร้านไหนดีวะ”
ธนกรเอ่ยถามเพื่อนรักและสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์
“ร้านเดิมดีกว่าที่เราเคยไปกินกันบ่อย ๆ หลังวัดอะ”
ไม่นานรถของธนกรก็ขับออกไปอย่างเร็วโดยมีทัชเพื่อนรักนั่งซ้อนท้ายไปด้วย...
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
หลังจากแต่งงานกับกู้หลางเอี้ยน โจวซีได้ทำหน้าที่เป็นภรรยาของกู้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แม้ว่าเขาจะมีคนที่รักอยู่แล้วและปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา เธอก็ยังยินดีรับความเจ็บปวดเหมือนเป็นความสุข เมื่อทุกคนเห็นพฤติกรรมของโจวซีที่คอยตามใจเหมือนเงา เมื่อรักแรกที่ลืมไม่ลงของกู้หลางเอี้ยนกลับมาจากต่างประเทศ ทุกคนในเมืองต่างรอคอยที่จะเห็นเธออับอาย แต่ไม่คาดคิดว่าโจวซีจะเด็ดขาดและเซ็นสัญญาหย่าโดยไม่หันกลับไปมองอีก กู้หลางเอี้ยนกลับมาขวางเธอด้วยท่าทางที่ดื้อรั้นและตาแดงก่ำ "โจวซี เธอหมายความว่ายังไง?" เธอชูแหวนแต่งงานใหม่ในมือขึ้น พร้อมยิ้มอย่างสดใส "ขอโทษนะ ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว" …… ทุกคนคิดว่าโจวซีรักกู้หลางเอี้ยนอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าเธอยอมผ่านความยากลำบากและอุปสรรคเพื่อเขา แต่ไม่มีใครรู้ว่า เธอมองผ่านกู้หลางเอี้ยนไปยังชีวิตของคนอีกคนหนึ่งในอนาคต
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”
ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY