" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
แพททริค
นิสัย : โหดเหี้ยม ดุร้าย ใจร้อน พูดมากขี้เล่น ( เฉพาะอยู่กับคนสนิท ) เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นไม่เชื่อเรื่องความรัก อายุ 35 ปี ประธานบริษัทยักใหญ่ ทำธุรกิจสีเทากับเหล่าเพื่อน เจ้าของกาสิโนใหญ่ที่สุดในประเทศ ดูไบ
ใบชา
นิสัย : ใจเย็น คิดบวก พูดจาสุภาพ อายุ 25 ปี ทำงานCreativeในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ทำอาชีพเสริม เป็นเด็กเสิร์ฟ ชงเหล้า ในผับ Nice เพื่อหาเงินให้ครอบครัวใช้หนี้
----------------------
ประเทศดูไป
“ยะ…อย่า..กลัวแล้วอึก! “เสียงร้องเอะอะโวยวายของหญิงสาวในอ้อมกอดดังขึ้นช่วงกลางดึก พลันให้ชายหนุ่มรีบเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก
“มิลตื่น..มิล!..มิล! “มือหนาพลางเขย่าตัวหญิงสาวให้ตื่นจากฮ่วงนินทาเนื่องจากคาดว่าเธอน่าจะฝันร้าย ขณะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงร้อนรน คิ้วหนาทั้งสองข้างพลันขมวดเข้าหากันเป็นปม บ่งบอกว่าตนนั้นกระวนกระวายใจไม่ต่างไปจากเธอ
“อึก!แพทมิลกลัว “ครั้นได้ยินเสียงเรียกจากชายหนุ่มที่รักพลันหลุดออกจากฮ่วงเวลาแห่งความฝันอันน่ากลัว จึงโผล่เข้ากอดร่างใหญ่ทันควัน ใบหน้างามเต็มไปด้วยคาบน้ำตาเลอะเปรอะเปื้อนทั่วบริเวณ โดยมีมือใหญ่คอยลูบหลังปลอบขวัญอยู่ไม่ห่าง
“ไม่เป็นไรนะมิลแพทอยู่ตรงนี้แล้ว “ยามได้เห็นหญิงอันเป็นที่รักร้องไห้หวาดกลัวเช่นนี้ พลอยให้หัวใจแกร่งกระตุกวูบตามไปอีกคน ด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งท่อนแขนแกร่งพลางกระชับกอดร่างเล็กไว้แน่นกว่าเดิม เมื่อเนื้อตัวเธอสั่นเทา อย่างหนัก
“จะไม่มีใครกล้ามาทำร้ายมิล หากยังมีผมอยู่ตรงนี้เข้าใจไหมครับ “มือหนาทั้งสองข้างพลันเลื่อนมากุมใบหน้างามไว้ หลวม ๆ ใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากพวกแก้มนวลอย่างอ่อนโยน เช่นเดียวกับน้ำเสียงที่นุ่มละมุนฟังแล้วดุจใยไหมทุกคำพูด
“มะ..มิลเชื่อแพทนะ ถ้ามิลไม่เจอแพทที่นั่นครั้งแรก มิล..อึก ~ คงถูกไอ้เลวนั่นทำร้าย..ฮื้อ ~”
“มันผ่านมานานแล้วอย่านึกถึงมันอีกเลยครับ…มิลนอนต่อเถอะนะที่รักของผม “ริมฝีปากหนาพลางเลื่อนขึ้นบรรจงจูบหน้าผากมน
“ค่ะ”
มือหนาขยับหมอนใบใหญ่ให้เธอหนุน ก่อนจะล้มตัวนอนกระชับกอดร่างเล็กไว้แน่นเช่นเดิม เขาเชื่อว่าท่อนแขนทั้งสองจะช่วยให้เธออุ่นใจไร้กังวล และ ปลอดภัยจากทุกสิ่ง หากมีเขาอยู่ เคียงข้าง
วันต่อมา ~~
ปึก! ปึก! ปึก! พับ ๆๆ !!!!!
“อ้า ๆๆ ~ สะ..เสียวจังอือ ๆ อี้ ~~พะ..แพทขามิลเสียวอ๊า ๆๆ ~~ “ร่างเล็กเชิดหน้าร้องครวญครางเสียงกระเส่า เมื่อถูกความเสียวเล่นงานอย่างหนักหน่วงจนแทบขาดใจ ฝ่ามือเล็กทำได้เพียงแค่ขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายความรู้สึก ซึ่งผลมาจากการกระทำอันบ้าคลั่งของชายหนุ่มด้านหลัง เขากำลังถาโถมแรงทั้งหมดกระหน่ำเข้าออกในร่องรัก จนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นทั่วห้องนอนใหญ่
เมื่อได้ฟังมุมปากหนาจึงแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ ขณะมือหนาจับบั้นท้ายงอนงามแน่น ท่อนเอ็นใหญ่อัดกระแทกเข้าออกในช่องทางรักอันคับแคบระรัวเร็ว โดยที่น้ำรักฉ่ำเยิ้มชโลมตามท่อนลำมันวาว ก่อนจะหยดแหมะลงบนเตียงตามจังหวะ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูดันแทรกเข้ามารบกวน พลันให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียอารมณ์เป็นอย่างมาก ทว่ากลับไม่สนใจและ สิ่งที่ดึงความสนใจได้ชะงัด มีเพียงร่องรักตรงหน้านี้เท่านั้น
ปึก! ปึก! ปึก ๆๆๆ !!!
“พะ..แพท อือ ~~ พะ..พอก่อนค่ะ อ้า ๆ ~~ “ใบหน้างามเอี่ยวหลังกลับมาเอ่ยขอเสียงกระท่อนกระแท่น ประสานกับเสียงครางหวานฟังแล้วแทบไม่เป็นภาษา
ก๊อก!!!! ก๊อก!!!! ก๊อก!!!
เสียงเคาะประตูดังระรัวขึ้นอีกครั้ง ยามที่คนข้างในยังเงียบกริบ ไม่มีท่าทีว่าจะออกมา “อะ ๆๆ แพทคะพะ..พอก่อนนะ อื้อ ~~”
“โถ่โว้ย! อะไรกันนักกันหนาวะ! “แพททริคสบถคำหยาบคายออกมาอย่างโมโห ก่อนจะหยุดการกระทำตามที่หญิงสาวอันเป็นที่รักขอร้อง ทั้งที่ความต้องการยังพลุ่งพล่านไปทั่วร่างด้วยไฟแห่งกามราคะ จึงถอนแก่นกายใหญ่พลางคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวสอบแบบลวก ๆ
แกร๊ก ~~
“มึงอยากตายห…..!!!!!”
เพียะ!
ประโยคอันเกรี้ยวกราดเป็นต้องหยุดชะงัก เมื่อฝ่ามือใหญ่ของผู้เป็นพ่อฟาดเข้ามาที่แก้มสากอย่างจัง โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นโซนประสาทยังคิดว่าเป็นเหล่าลูกน้อง แต่ไม่เลยกลับกลายเป็นบุคคลที่เขาต้องหวั่นเกรงมากที่สุด
“เอาแต่คลุกอยู่แต่กลับผู้หญิงนะไอ้ลูกเวร!! “เรียวลิ้นสากดันเข้าหากระพุ้งแก้มที่โดนตบอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะจ้องมองผู้เป็นพ่อตาเขม็ง
“แล้วพ่อมีอะไร?”
“เดี๋ยวแกก็รู้เองว่ามีอะไร! ฉันให้เวลาแกหนึ่งนาทีแต่งตัวไปเจอฉันที่ห้องใต้ดิน! “ทอลสั่งลูกชายด้วยน้ำเสียงขึงขัง ก่อนจะสาวเท้าจากไปทันที การกระทำของผู้เป็นพ่อพลันให้มาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างหงุดหงิด
เวลาต่อมา ~~~
แกร๊ก
มาเฟียหนุ่มในชุดธรรมดาเสื้อยืดกางเกงยีน ได้ผลักบานประตูห้องใต้ดินเข้ามาตามสั่งของผู้ทรงอำนาจที่สุดในชีวิต เหล่าลูกน้องต่างพากันก้มหลังทำความเคารพนายน้อย
“พ่อมีอะไรก็รีบพูดมา? “น้ำเสียงรบเร้าจากลูกชายเอ่ยถาม ทอลจึงหันไปเลิกหน้าขึ้นสั่งให้ลูกน้องนำของบางอย่างส่งให้ลูกชาย ซึ่งใบหน้าอันเต่งตึงคล้ายหนุ่มอายุสามสิบต้น ๆ ทั้งที่อายุตอนนี้ห้าสิบกว่าแล้ว เต็มไปด้วยอารมณ์โทสะ
“อะไร? “แพททริคขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจรวมถึงหัวใจแกร่งกระตุกวูบวาบกะทันหัน เมื่อของในมือมีแต่ภาพของหญิงอันเป็นที่รัก และ ชายหนุ่มอีกคนที่ไม่รู้จัก ยืนกอดกันอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งหลายภาพ ทำให้ให้เปลวไฟในดวงตาลุกโชนขึ้นทันที
“แกก็ไม่ใช่คนโง่นะ! ทำไมเรื่องผู้หญิงถึงโดนหลอกเอาได้ง่าย ๆ วะ! ผู้หญิงดี ๆ มีตั้งเยอะแยะ ดันเอาผู้หญิงกลางคืนมาเป็นเมีย!”
“พ่อหมายความว่ายังไง!? “แพททริคตวาดถามเสียงห้าว ยิ่งผู้เป็นพ่อพูดเขายิ่งสับสนว้าวุ่นใจจวนจะคลั่ง
“ตั้งแต่แกมีผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิต แกเสียอะไรไปบ้าง ถามตัวเองดูซะ!”
ปัง!
ทอลทิ้งคำถามอันน่าสงสัยและภาพในมือลูกชายไว้แค่นั้น ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องใต้ดิน โดยมีลูกน้องคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลังตลอดเวลา ขณะที่แพททริคครุ่นคิดอย่างหนักในดวงตาของเขาฉายแววของความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้ง ยามที่ปะติดปะต่อเรื่องราวตามประโยคของผู้เป็นพ่อ เขาไม่เคยสนใจเรื่องไหนเลยตั้งแต่มีมิลเข้ามา ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจ กาสิโน ผับ หรือ งานบริษัทที่ไทย ต่างทิ้งให้ลูกน้องเป็นฝ่ายดูแล จนหุ้นตกต่ำ รวมถึงข้อมูลธุรกิจยังหลุดถึงมือศัตรู ทว่าเขากลับไม่คิดจะจัดการ เนื่องจากเธอคือความสนใจหนึ่งเดียวของเขา ไม่หนำช้ำยังคิดจะวางมือจากทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นใหม่ หากถามว่าสิ่งที่ตนละเลยนั้นไม่มีใครสักคนเตือนเลยหรือ….? ทุกคนพยายามเตือนสติและเอ่ยถึงปัญหา แต่เขาเองกลับดื้อด้านไม่ยอมฟังใคร
“นายมีอะไรหรือเปล่าครับ? ผมเห็นนายใหญ่เพิ่งออกไปหน้าเครียดเชียว “ไทม์ลูกน้องคนสนิทรีบเร่งเข้ามาเอ่ยถามความเป็นมาจากผู้เป็นนายทันที ทว่ายามที่เจ้านายหนุ่มหันกลับมาดวงตาวาวโรจน์กลับ เต็มไปด้วยสีแดงก่ำอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงถามต่อเสียงติดขัด “นะ..นายโอเคไหมครับ ? “
“มึงไปสืบเรื่องไอ้ผู้ชายในภาพนี้มาให้กูเดี๋ยวนี้ รวมถึงมิลมาให้มากที่สุด!”
“ครับนาย “ไทม์น้อมรับคำสั่งทันที ก่อนจะรีบเร่งสืบความตามหน้าที่ หากช้ากว่านี้ต้องถูกผู้เป็นนายฆ่าเอาเป็นแน่
“…” ใบหน้าสง่างามกลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง จนไม่สามารถคาดเดาอารมณ์และความรู้สึกได้ มือหนาทั้งสองข้างพลางกำหมัดแน่น ตระหนักและไตร่ตรองเรื่องราวที่ผ่านมาหลังจากไร้สติปัญญาราว ๆ เกือบสองปี
" ฉันจะทำให้พี่เธอรู้จักการสูญเสียเหมือนที่มันทำกับพี่ชายฉัน คนทรยศ อย่างมันต้องตาย หรือการตายสำหรับมันจะง่ายไป เธอคิดว่าไงล่ะ ? " "อย่าทำอะไรพี่ชายลินเลยนะคะ "
เขาแต่งงานกับเธอเพราะผลประโยชน์ แต่เธอแต่งงานกับเขาเพราะรัก อีกทั้งพี่สาวยังเป็นแฟนเก่าของเขา....
“โดนกูเปิดบริสุทธิ์ตั้งแต่คืนเข้าหอ จนถึงตอนนี้มี คxx ของไอ้ตัวไหนกระแทกส่วนนั้นของมึงบ้างแล้วล่ะ?”
พระเอกซึ่งเป็นหมอเจ้าของโรงพยาบาล และ เป็นมาเฟีย เขาถูกบังคับให้หมั้นกับนางเอก เธอเป็นนักเขียนนิยายอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย