ทั้งหวานทั้งซิงเสี่ยเลยอยากชิม
ทั้งหวานทั้งซิงเสี่ยเลยอยากชิม
ปัจจุบัน
“ฮือๆ” เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวเล็ดลอดจากริมฝีปากที่โดนอุดไว้ด้วยผ้าแบบไม่แน่นอะไรนัก เด็กสาวหน้าตาสะสวยพยายามดิ้นรนสุดกำลังให้หลุดจากพันธนาการ เรียวขาช่วงน่องของเธอแยกออกจากกันแล้วโดนผูกไว้กับขาเก้าอี้ส่วนแขนสองข้างถูกไพล่ไปด้านหลังและมัดไว้อย่างแน่นหนา
“อย่าทำ ฮือๆ ได้โปรด” เด็กสาวอ้อนวอนขอความเมตตา
“หนีบซะแน่นเชียวแต่เสี่ยทำให้มันอ้าได้แน่ๆ” มือสากๆ ของชายหนุ่มวัยสี่สิบปลายๆ ลูบไล้ไปที่ต้นขาด้านในของหญิงสาว อีกนิดเดียวเขาก็จะได้สัมผัสจุดสงวนอันหอมหวาน
“ฮือๆๆ” แววตาที่เคยสดใสเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เธอดิ้น ร้องและเบี่ยงตัวไปทุกทางเท่าที่จะทำได้แต่ผ้าที่มัดก็ยังแน่นอยู่เหมือนเดิม
“จุ๊ๆ ร้องทำไมครับทูนหัว เสี่ยพามาทำอะไรสนุกๆ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลยไม่ร้องนะครับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผิวขาวสะอาดสะอ้านไล้มือไปตามใบหน้าสวยหวานสมกับชื่อของเจ้าตัว
“ฮือๆ อย่าทำหนูเลย หนูกลัว” เด็กสาวอ้อนวอนขอร้องแทบจะทุกนาทีเผื่อผู้ชายคนนี้จะเห็นใจ
“กลัวทำไมครับ งั้นเรามาเริ่มกันดีกว่าจะได้รู้ว่ามันไม่มีอะไรน่ากลัว”
มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกแล้วถอดมันไปให้พ้นตัวต่อจากนั้นก็รูดซิปกางเกงสีดำเนื้อดีและก็เช่นเดียวกันมันถูกเหวี่ยงไปที่เดียวกับเสื้อ สายตาวาวฉ่ำมองไปที่เรือนร่างสะโอดสะองของนักศึกษาสาวด้วยความกระหาย
“ซ่วบ” ปากใหญ่ๆ ของผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าเสี่ยอมทรวงอกของเด็กสาวเข้าไปจนเกือบหมดเต้า เธอพยายามสะบัดตัวหนีแต่ก็ไม่ให้ผลอะไรนอกจากกระตุ้นอารมณ์ของชายคนนั้นให้มันโหมกระพือหนักขึ้นกว่าเดิม
“หวานจริงๆ ทูนหัว” เขาถึงกับเพ้อในรสหอมหวานของเด็กสาวที่ยังไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน
“ได้โปรด” เธอยังคงพร่ำพูดอ้อนวอนขอความเมตตา
ชายหนุ่มที่นุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียวนั่งคุกเข่าแล้วลูบไล้มือไปตามเรือนกายขาวนวลราวไข่ปอกของเด็กสาว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากยัดท่อนเนื้อเข้าไปกระหน่ำแทงในทางรักของเธอใจจะขาดแต่เขามันพวกโรคจิตแค่จับซอยกระแทกๆ ให้เสร็จไป มันไม่ใช่การร่วมเพศแบบที่โปรดปราน เขาชอบได้ยินเสียงกรีดร้องเสียงครวญครางเขาชอบมองยามที่ผู้หญิงเสร็จสมและควบคุมตัวเองไม่ได้มันเป็นอะไรที่เร้าใจมาก
“ไม่ๆ อย่า ได้โปรด” เด็กสาวขอร้องอ้อนวอนจนสุดเสียงเมื่อเห็นสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นหยิบออกมาจากลิ้นชัก
“ไม่ต้องกลัวนะทูนหัว” ชายหนุ่มหยิบแท่งจำลองของอวัยวะเพศชายออกมาแล้วเปิดระบบสั่น มือหนาออกแรงเพียงครั้งเดียวต้นขาที่เคยหนีบแน่นเข้าหากันก็อ้ากว้างต้อนรับเจ้าดิลโด้ยางสีสวย
“ว๊าย” เด็กสาวกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะแรงสั่นจากของจำลองที่จี้อยู่บนเม็ดเล็กๆ บนเนินสามเหลี่ยมของตัวเอง
“ดีใช่ไหมทูนหัว”
“ฮือๆ อย่า อ๊ายยย” ทั้งที่หวาดกลัวจับใจแต่มันก็ห้ามไม่ได้เลยที่จะไม่รู้สึกอะไรกับการจู่โจมตรงจุดสงวน เจ้าแท่งจำลองสั่นด้วยจังหวะเร็วไปทั่วกลีบเนื้อของเธอ ผู้ชายคนนั้นลากมันขึ้นลงไปตามรอยแยกสลับกับแช่มันนิ่งๆ ไว้ที่ปุ่มกระสัน
“มะ ไม่ ไม่ อ๊า” ส่วนหัวมนๆ ประมาณสองข้อนิ้วหายเข้าไปในร่องอุ่นแล้วร่างกายของเธอก็กระตุกสั่นรุนแรงยิ่งกว่าเจ้าแท่งเนื้อจำลองนั่นซะอีก
“เก่งมากทูนหัว” ชายหนุ่มปิดระบบสั่นของแท่งจำลอง สองมือจับหัวเข่าของเด็กสาวไว้มั่นแล้วเขาก็ละเลงลิ้นไปที่กลีบเนื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำแสนหวานลิ้นหนาตวัดเลียไปทั่วพูเนื้อนิ่มเพื่อซับทุกหยาดหยดอันแสนบริสุทธิ์และเขาก็ลอบยิ้มเพราะร่างอรชรสั่นสะท้านและครวญครางปิ่มจะขาดใจ
“ฮือๆ พอเถอะค่ะได้โปรด” ร่างบางกระตุกเกร็งอีกครั้ง เธอเพิ่งถึงจุดสุดยอดสองครั้งติดๆ กันและเพลียขึ้นทุกที เกือบชั่วโมงแล้วที่เธอถูกมัดอยู่กับเก้าอี้และดิ้นรนจนสุดแรง
“นี่แค่เริ่มเองครับทูนหัว” ชายหนุ่มลากลิ้นจากจุดสงวนของเด็กสาวขึ้นไปตามลำตัวเรียวระหง ลิ้นสากตวัดเลียเต้านมอีกครั้งเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะผ่านไปโดยไม่ทักทายทรวงงามที่แสนหอมหวาน
“ฮือๆ” เด็กสาวพยายามปัดป้องทุกทางแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรต่อให้สะบัดตัวแค่ไหนเธอก็หนีไม่พ้นการเล้าโลมที่แสนน่ารังเกียจจากชายแปลกหน้า ถ้าแฟนหนุ่มของเธอเป็นคนทำเธอคงไม่รู้สึกหวาดกลัวและขยะแขยงจนอยากอาเจียนแบบนี้
อีกครั้งที่ร่างเล็กๆ ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ผู้ชายคนนั้นหยิบขนนกออกมาจากลิ้นชักแล้วปัดมันผ่านไปทั่วตัวของเธอด้วยสัมผัสอันแผ่วเบา เธอครางและร้องไห้ในเวลาเดียวกันเพราะมันแยกไม่ได้เลยระหว่างความหวาดกลัวและความเสียวสยิวที่กำลังได้รับ เธอแสนจะอับอายและเกลียดตัวเองที่ดูเหมือนกำลังจะมีอารมณ์กับการร่วมเพศที่แสนวิตถารของผู้ชายจิตป่วยคนนี้
“ยะ อย่า” มือหนาแยกเรียวขาขาวๆ ให้อ้ากว้างอีกครั้ง เม็ดทับทิมถูกสะกิดเบาๆ ด้วยปลายขนนกและเธอก็สะดุ้งเฮือกร้องครวญครางออกมา
“เสี่ยบอกแล้วว่าไม่มีอะไรน่ากลัว” ชายหนุ่มยิ้มด้วยความพอใจและหยิบอุปกรณ์อีกชิ้นออกมา
“อื้ดๆๆๆ” เสียงของอุปกรณ์คล้ายไข่ไก่ใบจิ๋วอยู่ในระบบสั่น
“โอ๊ย” เด็กสาวร้องเสียงหลงเพราะหัวนมโดนหนีบด้วยไม้หนีบ
“ฮือๆ อย่า ได้โปรด อืม โอ้ว” เม็ดทับทิมที่เนินสาวถูกบดบี้ด้วยแรงสั่นจากเจ้าอุปกรณ์ประหลาด เต้านมข้างนึงถูกหนีบไว้ด้วยไม้หนีบส่วนอีกข้างปากของผู้ชายคนนั้นดูดเลียมันอยู่ ยามที่เขาออกแรงคลึงเคล้นหน้าอกข้างที่โดนหนีบไว้มันก็เจ็บแปลบๆ ขึ้นมา
“ซี๊ด ทูนหัว ร้องดังดีจัง” ชายหนุ่มกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อได้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวเหยแกด้วยความทรมานจากความเสียวกระสัน
“หยุดเถอะค่ะ ยะ หยุด” เสียงอ้อนวอนแหบแห้งขึ้นทุกที เธอรู้ว่าอีกไม่กี่อึดใจร่างกายก็จะทรยศอีกครั้งเธออยากให้เขาหยุดเธอไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นเข้าใจว่าเธอมีอารมณ์ร่วมกับเกมวิตถารแบบนี้
“ทูนหัว จะเสร็จแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มถามเด็กสาวเสียงกระเส่า
“โอ๊ย แฮ่กๆ” แล้วจู่ๆ เขาก็กัดหัวนมของเธอและมันเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอถึงจุดสุดยอดพอดี
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เพียงสบตาสาวน้อยหน้าหวาน ‘นัยน์ตาชวนฝัน’ ที่อาจหาญตบหน้าซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ‘เดวิโก หนึ่งเดียว เวนนิส’ ก็ประกาศก้องกับตัวเองว่า เขาจะต้องลากเจ้าหล่อนเข้าสู่ ‘กรงทอง’ ให้จงได้ ไม่มีวันที่ ‘แม่กวางน้อยด้อยประสบการณ์’ อย่างหล่อนจะต้านทานเจ้าป่า ‘ผู้ชำนาญงานรัก’ อย่างเขาได้ ใครจะคิดว่าวันสุดท้ายของการฝึกงานก่อนจบการศึกษาจะเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพียงเพราะเผลอสบตาคมเข้มคู่นั้นเข้าอย่างจัง!! หากฟ้าประทานพรให้เธอขอพรได้หนึ่งข้อ ‘ปรารถนา’ บอกตัวเองอย่างไม่ต้องหยุดคิดว่าพรข้อนั้นที่เธอจะขอคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่เธอจะขอ คือ... ‘ขอให้ผู้ชายบ้าอำนาจ บ้ากามที่จ้องลวนลามเธอคนนี้หายสาบสูญไปซะ’ แต่ยิ่งนานวันเข้า นอกจากฟ้าจะไม่นำพาแล้วยังเหมือนจะเป็นใจหยิบยื่นเนื้อกวางแสนหวานอย่างเธอเข้าปากเสือเสียนี่ เพราะยิ่งเธอพยายามหนีห่างจากเขามากเท่าไร เธอกลับพบว่าตัวเองกลับยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น ใกล้เสียจน...เธอสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ “ฉันลงมือปรุงซุปถ้วยนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เธอจะไม่ชิมสักหน่อยเหรอ ใช่ว่าใครจะมีวาสนาได้กินฝีมือฉันง่ายๆนะ” “คุณทำคุณก็กินเองสิคะ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำสักหน่อย” “เธอไม่กินงั้นฉันกินเองก็ได้” “เชิญ!” ปรารถนาเบะปากยิ้มหยันพลางขยับกายหมายล้มตัวลงนอน แต่ทว่า... “ว้าย! คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ” “บังเอิญฉันไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืดแบบซุปนั่น เลยอยากลองชิมเนื้อกวางอย่างเธอเสียหน่อยว่าจะอร่อยแค่ไหน หึหึ”
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด