เธอเป็นเด็กในบ้านที่ป้านำมาอุปาการะ แต่แล้ววันหนึ่งกลับพลาดท่าให้กับลูกชายคนเดียวของเจ้าของบ้าน ทำให้เขาจำต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน ทว่ามันไม่ใช่ความรัก เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆเริ่มขึ้นนับตั้งแต่วันนั้น
เธอเป็นเด็กในบ้านที่ป้านำมาอุปาการะ แต่แล้ววันหนึ่งกลับพลาดท่าให้กับลูกชายคนเดียวของเจ้าของบ้าน ทำให้เขาจำต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน ทว่ามันไม่ใช่ความรัก เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆเริ่มขึ้นนับตั้งแต่วันนั้น
บทนำ
ดาริน…ถูกปลุกให้ตื่นด้วยบางอย่างที่กระตุกถูไถอยู่ช่วงบั้นท้ายและการสัมผัสรบกวนบริเวณอกสวยด้วยมือของใครบางคนพร้อมเสียงครางในลำคอที่เบาจน คล้ายกระซิบอยู่ข้างใบหูงามของเธอ สาวสวยพยายามปรือตาหนักๆขึ้นและกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องคุ้นเคยนี้ดารินจำได้ทันที คือ ห้องของ “ภากร” ทายาทคนเดียวของเจ้าของบ้านหลังนี้ที่เธอมาขออาศัยอยู่ในช่วงหลายปีมานี้ แรงบีบเค้นหน้าอกที่แรงขึ้นทำให้เธอสะดุ้งจนต้องเอียงตัวเพื่อดูให้แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“พี่ภาค” กรี๊ดดดดดดดด
เสียงกรีดร้องที่ดังพอทำให้อีกคนตื่นจากภวังค์ กายเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของทั้งคู่ที่กอดก่ายกันอยู่นั้นแทบจะผละออกจากกันทันทีเมื่อสบสายตากัน ความงุนงงตกใจแล่นเข้ามาในหัวของชายหนุ่ม เขาทำหน้าอย่างกับเห็นผี พยายามขยี้ตาและหันมองไปรอบๆ ตัว เพื่อเรียกสติให้ตัวเอง
“นี่มัน เกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้… ไม่สิฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
ชายหนุ่มพึงพำออกมาขณะที่สายตายังจับจ้องไปที่สาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าไม่วางตา…และจ้องมองเลื่อนต่ำลงไปถึงอกตูมนั่น รอยจ้ำแดงทั่วหน้าอกสวยนั้น นั่นเป็นหลักฐานชี้ชัดว่าเมื่อคืนต้องมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งคู่
ดารินที่กำลังจ้องชายหนุ่มคุ้นเคยตรงหน้าได้สติรีบดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเปลือยของตัวเอง และหันหลังให้ชายหนุ่มด้วยความเขินอายทันที ขณะที่สมองก็เริ่มทบทวนความจำถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ทำไมเธอถึงได้มานอนอยู่ที่นี่และมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยิ่งคิดน้ำตาก็เริ่มไหลอาบพวงแก้มงาม สาวน้อยจำอะไรไม่ได้เลยกับเรื่องเมื่อคืน
ก๊อก ก๊อก ก๊อกกกก ปัง ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้น ที่จริงแล้วมันมันดังคล้ายจะพังประตูเข้ามาเลยล่ะ
“เมย์ อยู่ในนั้นหรือเปล่าลูก แกไปเอากุญแจสำรองมาซิ! ฉันได้ยินเสียงลูกสาวฉันร้องมาจากห้องของคุณภาค ต้องเป็นยัยเมย์แน่ๆ ” สาวสวยวัยกลางคนหันมาออกคำสั่งกับสาวรับใช้ในบ้าน
“ค่ะ คุณผู้หญิง” สาวใช้รับคำและรีบวิ่งไปเอากุญแจสำรองของบ้าน ไม่นานเกินรอหล่อนก็วิ่งกลับมาพร้อมพวงกุญแจพวงใหญ่
เสียงคนหลายคนโหวกเหวกอยู่หลังประตูนั่น คล้ายจะพังประตูกันเข้ามา ทั้งคู่หันมาสบตาเลิ่กลั่กกันอีกครั้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่าคนหลังประตูบานนั้นไขกุญแจเข้ามาได้ ดารินรีบแทรกตัวมาด้านหลังของชายหนุ่มเพื่อหาที่กำบังร่างเปลือยเปล่าของตน พร้อมซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของเขา
แกรกกก เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับเจ้าของเสียงโหวกเหวกนั่นถลาตัวเข้ามาทันที โดยคนอื่นๆ อีก 4-5 คน ยังยืนอยู่ด้านนอก ไม่กล้ามองเข้ามาตรงๆภายในห้องของชายหนุ่มแม้จะอยากมองก็ตาม
“ยัยเมย์ คุณภาค โอ้ยยยฉันจะเป็นลม นี่คุณทำอะไรลูกสาวน้าคะ” หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของภากร ด้วยสีหน้าตกใจสุดขีดกับภาพตรงหน้า และไม่คิดว่าจะมีวันนี้
“แม่….โวยวายอะไรแต่เช้าคะ กะจะปลุกคนทั้งบ้านเลยหรือไง”เสียงแหลมนั่นโวยวายอยู่ด้านหลังของโฉมลดา ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างหันมองตามเสียงแหลมนั่น
“คุณเมย์”
“ยัยเมย์ ถ้าแกอยู่ตรงนี้แล้วนั่นใครที่อยู่กับคุณภาค อย่าบอกนะว่านั่น…”
คำโปรย :“ไม่น้อยไปหน่อยเหรอสำหรับค่าเปิดซิง” “แน่ใจเหรอที่พูด…แสนเดียวฉันก็เสียดายเงินจะแย่อยู่แล้วกับผู้หญิงแบบเธอ..หึ!!” เรื่องย่อ ให้รักมัดใจ มาลีรินทร์ (ริน) เด็กสาวที่เติบโตในครอบครัวนักธุรกิจที่เพียบพร้อมทุกอย่าง หลังจากที่เธอเดินทางกลับมายังประเทศไทยเธอก็ปวารณาตัวว่าจะนั่งกินนอนกินใช้เงินจากกงสีอย่างไม่ต้องใช้ความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาให้เหนื่อย กระนั้นจึงทำให้เธอถูกตัดออกจากกองมรดก ทำให้มาลีรินทร์ต้องแสวงหาชีวิตใหม่ที่สามารถให้เธอได้มากกว่าเงินกงสีที่เคยได้ เธอเริ่มภารกิจด้วยการเดินหน้าเข้างานสังคมเพื่อมองหาใครสักคน โดยใช้ความสวยน่ารัก ความฉลาดและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์พร้อมกับสินทรัพย์อันมีค่าของเธอเข้าแลกภายใต้เงื่อนไขที่เธอจะต้องเกิดความพอใจสูงสุด จนกระทั่งในคืนหนึ่งที่เธอได้เจอกับนักธุรกิจหนุ่มผู้มีสินทรัพย์ระดับแสนล้าน เธอตัดสินใจมอบดอกไม้แรกแย้มของเธอให้กับแอนดี้ อดิรัตน์ เจ้าของสโมสรทีมฟุตบอลระดับโลกผู้มีสินทรัพย์มหาศาลเพื่อที่จะผูกมัดเขาให้อยู่หมัด อย่างไม่ลังเล และเริ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตของเขา โดยที่มาลีรินทร์ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เธอวิ่งเข้าหานั้น จะเป็นสิ่งเดียวกันกับที่เธอวิ่งหนีมาตลอดทั้งชีวิตของเธอ...แอนดี้..ผู้ชายที่สาว ๆ ต่างใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง ทว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นยิ่งกว่าซาตาน เสียอีก…
คำโปรย สาวหม้ายขันหมากช้ำรัก..จนต้องหนีไปเลียแผลใจบนเกาะทางใต้..ได้พบกับนายหัวหนุ่มปากแซ่บที่เข้ามาจิกกัดพร้อมป่วนหัวใจ จนมีความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว รักเก่าก็ตามมา รักใหม่ก็แซ่บกว่า คนสวยก็เลยวุ่นวายเลยทีนี้ เรื่องย่อ หญิงสาวม่ายขันหมากเพราะดันไปพบเข้าว่าว่าที่เจ้าบ่าว (แอนดี้/อดิรัตน์) ซึ่งเป็นคู่หมั้นของเธอกำลังทำบางสิ่งในคืนวันงานสละโสด ทำเอาเธอรับไม่ได้ถึงกับถอนหมั้น ทิ้งงานแต่งแล้วลาพักร้อนอย่างไม่มีกำหนดมาอยู่กับตัวเองบนเกาะเกือบร้าง จนมาพบเข้ากับไลฟ์การ์ดสุดเท่ห์อย่าง (กร/กรรฐา) ซึ่งก็เคยพบเจอกับเหตุการณ์อย่างเช่นที่ (มัท/มาธ่า/มัทนา) เจอมาแล้ว ด้วยความเหมือนจึงเข้าอกเข้าใจกันอย่างรวดเร็วทำให้คนทั้งคู่เริ่มมีใจให้กันทีละน้อย เมื่อกระทั่งความรักของทั้งสองสุขงอมพร้อมที่จะปล่อยอารมณ์ไปกับความสัมพันธ์อันลึกซึ้งในทิศทางที่ดี ทว่าก่อนหน้านั้นอดีตคู่หมั้นได้จ้างนักสืบเอกชนให้พลิกแผ่นดินหาเธอ จนนักสืบ (เอ/เอศรา) เอจ้างเรือข้ามฟากติดตามมาธ่ามายังเกาะส่วนตัวเกาะหนึ่งซึ่งตนเคยมาถึงเมื่อนานมาแล้ว ‘เกาะอัณยา’ จนเอได้พบกับกร เพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบเจอกันมาหลายปี เอบอกเล่าเรื่องราวที่ตนมีภารกิจมาตามหามาธ่า โดยเอรู้เพียงแต่ว่ามาธ่านั้นเป็นเพียงนักท่องเที่ยวที่หนีมาหลบเลียแผลใจ ทำให้กรหวั่นไหวไปกับสิ่งที่ได้รับรู้มาเป็นอย่างมาก เพราะกรนั้นก็เคยมีแผลเป็นที่หัวใจฝังติดมาจากอดีตเช่นกัน บนความรู้สึกที่คลอนแคลนยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อทั้งแอนดี้และริน (รินทร์/มาลีรินทร์) ต่างก็เดินทางมาที่เกาะอัณยาเพื่อตามหาหัวใจตนเองเช่นกัน
“ทุกคำรักแค่หลอกให้เธอตายใจแม้กระทั่งยามนอนกกกอดครามก็มองดาวเหนือเป็นแค่เงาและตัวแทนของคนรักเก่าเท่านั้น” ครามที่ใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นหลังจากที่เขาสูญเสียภรรยา วันนึงเขาเจอกับดาวเหนือ หญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายเมียเก่า เขาจึงวางแผนเข้าหาและครอบครองทันที โดยที่นางเอกไม่รู้เลยว่าคนรักไม่เคยรักที่เธอเป็นเธอสักนิด
เงื่อนไขเดียวที่เขาจะรักษาทุกอย่างไว้ได้ คือต้องแต่งงานล้างหนี้ !! “สมบัติก็อยากได้คืน แต่เมียนี่สิไม่ได้อยากได้เลย” จะเลี่ยงไงได้ ในเมื่อฝ่ายนั้นจัดฉากรวบหัวรวบหาง คงต้องเลยตามเลยแล้วรอเอาคืน ขณะที่ว่าที่พ่อตาวุ่นวายจัดฉากสารพัดเพราะอยากได้เขาเป็นลูกเขยเสียเหลือเกิน ภากรก็แอบไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับนาตาลี (ลูกสาวเจ้าสัว) จนกระทั่งเป็นข่าวดัง ทุกอย่างเลยเข้าทางพ่อตาหมด งานแต่งงานจึงเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ระหว่างซ้อนแผนกันไปมาของพ่อตากับลูกเขย คนที่น่าสงสารสุดก็คือ คุณหนูเหมยลี่/นาตาลี เพราะกลายเป็นหมากให้พ่อกับสามีแก้เกมส์ แถมกว่าจะรู้เรื่องก็รักสามีไปหมดใจแล้ว
เมลดา สาวไฮโซสุดฮอต ดีกรีนางแบบดังระดับอินเตอร์ น้องสาวคนเล็กของบ้าน หลังเรียนจบกลับมาปักหลักและรับงานในวงการบันเทิงที่ไทย เรื่องราววุ่นวายเริ่มเกิดขึ้นหลังจากพลาดไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับตำรวจหนุ่มฮอต ที่ดันเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายตัวเอง และดันอยากเป็นสุภาพบุรุษรับผิดชอบกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ความรักและความผูกพัน ที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและทำท่าว่าจะไปได้ดี แต่กลับมีเรื่องราวมาทดสอบความรักของพวกเขา โชคชะตาที่ทำให้เธอต้องเจอกับเรื่องราวเลวร้ายจนสูญเสียความทรงจำและเสียลูกไปในเวลาเดียวกัน การสูญเสียความทรงจำครั้งนี้ เธอลืมแม้กระทั่งความรัก เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางให้รักนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง เมื่อเขาคือรักแรกของเธอ และเธอคือรักสุดท้ายของเขา….. เรื่องราวของเมลดากับชานนท์ ไรท์มองว่าเป็นเรื่องราวของโชคชะตาและพรหมลิขิตที่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวอะไร หรือต้องรีเซ็ตเพื่อเริ่มใหม่อีกครั้ง สุดท้ายทั้งคู่ก็วนกลับมาเจอและรักกันใหม่ทุกครั้ง มันเป็นความรักที่เกิดขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า ไม่รู้จบ เรื่องนี้เป็นเรื่องราวภาคต่อจาก เงาซ่อนรัก Love Shadow ( เนื้อเรื่องไม่ต่อเนื่องกัน)
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด