“กะทิ” เด็กสาวที่โหยหาความรักความอบอุ่นมาตลอดชีวิต “เอก” ชายหนุ่มที่ไม่เคยพอในรสสวาท “แก้ว” หญิงสาวผู้มีรักแท้อันมั่นคง
“กะทิ” เด็กสาวที่โหยหาความรักความอบอุ่นมาตลอดชีวิต “เอก” ชายหนุ่มที่ไม่เคยพอในรสสวาท “แก้ว” หญิงสาวผู้มีรักแท้อันมั่นคง
“กะทิเดี๋ยวขัดตรงนี้เสร็จแล้วไปเตรียมอาหารกลางวันนะ” หญิงวัยกลางคนบอกเด็กสาวที่กำลังง่วนกับการทำความสะอาดพื้นกระเบื้อง
“ได้จ้ะป้า” เด็กสาววัยแรกแย้มตอบรับด้วยใบหน้าสดใส
กุสุมา วรโกมลหรือกะทิ เด็กสาววัยสิบเก้าปี เธอเติบโตมาในสถานสงเคราะห์เพราะมารดาแท้ๆ ที่ให้กำเนิดนำเธอมาฝากไว้แล้วก็ไม่เคยกลับมาหาอีกเลย
กะทิโตมาพร้อมกับเด็กกำพร้าคนอื่นๆ เพื่อนของเธอบางคนก็มีครอบครัวใหม่มารับอุปถัมภ์ บางคนก็จากไปตั้งแต่เด็กเพราะร่างกายไม่แข็งแรง ตั้งแต่จำความได้เธอไม่มีเพื่อนวัยเดียวกันที่พอจะเป็นเพื่อนสนิทได้เลยเพราะในสถานสงเคราะห์ เด็ก จะเข้าๆ ออกๆ หรือไม่ก็โดนย้ายที่กันอยู่บ่อยๆ
มีแต่เธอที่ได้อยู่ที่เดิมมาตั้งแต่เด็กจนโต ช่วงประถมเธอได้ไปเข้าเรียนที่โรงเรียนใกล้ๆ สถานสงเคราะห์จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้เพราะเธอดันเรียนเก่งผลการศึกษาของเธอทุกปีอยู่ในขั้นดีเยี่ยมมาตลอด คุณครูจึงให้เธอไปคอยดูแลเด็กเล็ก
กะทิจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยการเรียนแบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า กศน. เธอไปเรียนทุกวันอาทิตย์ส่วนวันอื่นๆ ก็ทำงานอยู่ในสถานสงเคราะห์
กิจวัตรประจำวันของเธอคือตื่นตอนตีห้าเพื่อมาเตรียมอาหารเช้าให้แผนกเด็กเล็กหลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงที่เด็กๆ จะได้ไปอยู่กับคุณครูที่ดูแลเธอมีหน้าที่คอยช่วยสอดส่องเด็กๆ พวกนั้น กลางวันก็ถึงเวลาของเธออีกครั้งที่ต้องเตรียมอาหารอีกหนึ่งมื้อพอจบจากตรงนั้นก็จะเป็นการเรียนในช่วงบ่ายเธอก็ไปทำหน้าที่แบบเดิมเหมือนตอนเช้า
บ่ายแก่ๆ คุณครูก็จะให้เด็กนอนกลางวัน ช่วงที่เด็กๆ หลับเธอกับคุณครูก็จะช่วยกันตรวจการบ้านของเด็กๆ แล้วก็อีกครั้งที่เธอต้องกลับไปที่โรงอาหารเพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับมื้อเย็น
หลังเด็กๆ กินเสร็จเธอก็จะไปช่วยเด็กๆ อาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมเข้านอนแล้วหัวค่ำไปจนดึกเธอถึงจะได้มีเวลาส่วนตัว กะทิใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการอ่านหนังสือทั้งหมด
เงินเดือนของเธอครูสร้อยฟ้าจ่ายให้เป็นการส่วนตัวเพราะเธอไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นลูกจ้างอย่างถูกกฎหมาย ครูรักและเอ็นดูเธอมากตอนเด็กๆ เวลาที่ใครมาแกล้งครูก็จะคอยดุคอยว่าให้ตลอด
ถ้าชีวิตนี้ไม่มีครูสร้อยฟ้าเธอคงไม่ได้เติบโตมาจนป่านนี้ ส่วนนึงที่เธอได้อภิสิทธิ์อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็กจนโตก็เพราะคุณครูนี่แหละกะทิจึงสำนึกในบุญคุณของคุณครูมาก เธอตั้งใจทำงานรับใช้คุณครูและสถานสงเคราะห์เต็มความสามารถหน้าที่ของตัวเองเธอทำมันเต็มที่ด้วยความเต็มใจเท่านั้นยังไม่พอเธอยังไปช่วยหยิบจับงานอื่นด้วยถ้างานของตัวเองเสร็จแล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ทุกคนจะรักและเอ็นดูเธอ
กะทิมีรูปร่างสมส่วน ผิวกายขาวนวล ดวงหน้าเนียนใสเพราะเพิ่งจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแต่เธอรู้สึกว่าช่วงนี้สายตาของเธอพร่าๆ ชอบกล อาจเป็นเพราะเธอชอบอ่านหนังสือในที่สลัวๆ ทุกคืน
“กะทิขอไปข้างนอกนะคะครูสร้อยฟ้าแล้วจะรีบกลับมาก่อนมื้อเย็น” เธอมาขออนุญาต จริงๆ วันอาทิตย์เป็นวันหยุดของเธอแต่กะทิก็ยังตื่นมาช่วยเตรียมมื้อเช้าและกลางวันให้เด็กๆ เพราะให้นั่งเฉยๆ ทั้งวันเธอทำไม่ได้
“ไม่ต้องรีบหรอกกะทิเสร็จธุระแล้วค่อยกลับก็ได้” สร้อยฟ้าตอบเด็กสาว
“หนูจะไปดูแว่นสายตาค่ะแล้วก็จะไปร้านหนังสือแค่นั้นเอง”
“แล้วเงินพอไหมกะทิ” สร้อยฟ้าถามด้วยความเป็นห่วง
“พอค่ะคุณครูหนูจะไปดูแบบสำเร็จรูป หนูเคยเห็นในร้านหนังสือค่ะอันละสองสามร้อยเองถูกกว่าไปตัดในร้านแว่นตั้งเยอะ”
“ไปเถอะ ขึ้นรถลงรถก็ระวังด้วยนะกะทิ” สร้อยฟ้าลูบหัวเด็กสาว เธอยกมือไหว้แล้วเดินออกไป
กะทิสวมชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนกับรองเท้ารัดส้นสีน้ำตาล ไหล่เล็กๆ มีกระเป๋าใบน้อยคล้องอยู่
“ลุงศักดิ์เอาอะไรไหมจ๊ะ หนูจะไปห้าง” กะทิแวะถามลุงศักดิ์ผู้รักษาความปลอดภัยประจำสถานสงเคราะห์
“เอาบัตรเติมเงินมาให้ลุงห้าสิบบาทแล้วกันกะทิ” ศักดิ์ยื่นเงินให้เด็กสาว
“ไม่เป็นไรลุงเดี๋ยวกะทิออกให้ ลุงเก็บไว้กินข้าวเถอะ” กะทิบอกปัดแล้วรีบเดินออกมาตัวเธอมีอาหารให้กินทั้งสามมื้อ ที่อยู่ก็ไม่ต้องเสียค่าเช่าแต่ลุงศักดิ์ต้องเสียทุกอย่างเองแถมเมียแกก็พิการแขนขาอ่อนแรงทำงานไม่ได้ อะไรที่ช่วยกันได้เล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยกันไป
“เติมเงินออนไลน์ค่ะ” กะทิแวะเข้าร้านสะดวกซื้อที่หน้าปากซอยก่อนจะขึ้นรถไปห้างเพราะเธอกลัวจะลืม
เด็กสาววัยสดใสมาถึงห้างสรรพสินค้าตอนบ่ายโมงกว่า เธอเดินมุ่งหน้าไปที่ร้านหนังสือทันที
กะทิลองสวมแว่นที่ขายอยู่ในร้านหนังสือ เธอลองอยู่สามสี่อันแล้วก็เห็นว่าแว่นที่เธอสบายตาที่สุดคือสายตาลบร้อยห้าสิบ
“สั้นร้อยห้าสิบ ได้ไงเนี่ย” กะทิถามตัวเอง
เธอหยิบแว่นตาใส่ตะกร้าใบเล็กของร้านแล้วไปเดินดูหนังสือต่อ กะทิชอบอ่านวรรณกรรมแปลเธอไล่สายตาดูทีละเล่มที่ชั้น สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกมาได้หนึ่งเล่ม จากคำโปรยมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายคนนึงที่หลุดเข้าไปในโลกเวทย์มนต์
พอได้ของที่ต้องการครบเธอก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย กะทิมองเข้าไปในร้านอาหารเห็นเด็กสาวรุ่นๆ เดียวกับเธอสี่คนกินไปพูดคุยหยอกล้อกันไปด้วยใบหน้าสดใส เธอได้แต่มองภาพเหล่านั้นแล้วอิจฉาอยู่ในใจถ้าเธอมีพ่อแม่เธอก็คงได้ไปเข้าเรียนแบบปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ แล้วเธอก็จะได้มีเพื่อนสนิทแบบนั้น
เหตุผลนึงที่กะทิไม่ชอบออกไปไหนเพราะเธอไม่อยากเห็นภาพครอบครัวของพ่อแม่ลูกหรือกลุ่มๆ เพื่อนที่มีความสุขมันทำให้เธอทุกข์ใจเธอยอมรับความกำพร้าของตัวเองได้แต่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับมัน หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอหวั่นไหวและเจ็บแปลบทุกครั้งเวลาต้องเห็นภาพอะไรแบบนั้น
“ตาสั้นแล้วหรอกะทิ” ลุงศักดิ์ทักเมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้
“จ้ะลุงมันแค่มองไม่ชัดนิดเดียวแต่กะทิรำคาญจ้ะ”
“ลุงได้เงินแล้วนะขอบใจมาก”
“เกือบลืมเลย หนูซื้อมาฝากจ้ะลุง” กะทิยื่นถุงแกงกับผลไม้ให้ลุงศักดิ์
“เอาเงินไปเลยนะกะทิ ลุงไม่ยอมหรอก” ศักดิ์หยิบธนบัตรใบแดงๆ ออกมา
“ลุงศักดิ์หนูกินฟรีอยู่ฟรีไม่ต้องจ่ายอะไรเลย นานๆ ทีจะซื้อของแบ่งปันให้ลุงบ้างมันจะไม่ได้เลยหรือคะ” กะทิถามแล้วทำหน้าน้อยใจ
“นอกจากคนที่นี่หนูก็ไม่มีใครแล้วนะคะ”
“ขอบใจนะกะทิ” ศักดิ์ยอมแพ้แล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋า
“หนูไปก่อนนะ” กะทิยิ้มยิงฟันให้ลุง รปภ.
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด