[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แสงแดดแผดจ้า
ลู่ชิงชิงทนต่อแดดจ้าทำงานพาร์ทไทม์แจกใบปลิวอยู่หน้าประตูห้าง
ทันใดนั้นไม่ไกลออกไปก็หันไปเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาทางประตูด้านข้างของห้าง
เมื่อมองจากแผ่นหลังแล้ว ดูเหมือนจะเป็นหลินซั่วแฟนของเธอ กับฉินฮันเยว่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ
วันนี้หลินซั่วต้องไปสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ?
ลู่ชิงชิงรู้สึกร้อนใจมาก เธอจึงรีบตามไปทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็พบว่าพวกเขาหายไปเสียแล้ว
หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความเตือนการใช้บัตรเครดิต
เคาน์เตอร์เครื่องประดับ ยอดค่าใช้จ่าย 250000 บาท
ลู่ชิงชิงตกใจกับตัวเลขนี้จนมือสั่นไปหมด นี่มันรายได้เกือบครึ่งปีของเธอเลยนะ
ไม่ช้าลู่ชิงชิงก็หาเคาน์เตอร์รับเงินเจออย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็เห็นว่าพนักงานแคชเชียร์กำลังสวมแหวนเพชรที่แวววาวลงบนนิ้วนางที่ขาวกระจ่างใสและนุ่มนิ่มของฉินฮันเยว่
เพชรบนแหวนมีขนาดใหญ่มาก แล้วก็งดงามมากด้วย มันเป็นเพชรที่ลู่ชิงชิงหมายตามานานมากแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของฉินฮันเยว่ ลู่ชิงชิงก็รู้สึกหัวสมองว่างเปล่าไปหมด
หลินซั่วตกงานมาหกเดือนแล้ว เขากินอยู่กับเธอทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขากลับกล้าที่ใช้บัตรของเธอไปซื้อแหวนเพชรให้กับเมียน้อยเนี่ยนะ?
คิดว่าเธอตายไปแล้วรึไง?
เธอรีบวิ่งไปแย่งแหวนจากมือของฉินฮันเยว่มาทันที แล้วก็ยื่นไปให้พนักงานแคชเชียร์
“คืนแหวนวงนี้ค่ะ”
“ลู่ชิงชิง นี่มันอะไรของเธอเนี่ย? นี่มันแหวนที่ฉันเพิ่งซื้อมานะ เธอมีสิทธิ์อะไรเอาไปคืนห่ะ?” ฉินฮันเยว่ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“เพี๊ยะ!” ลู่ชิงชิงตบหน้าของฉินฮันเยว่ไปทีหนึ่ง
“นี่คุณทำบ้าอะไร?” เวลานี้หลินซั่วที่กลับมาจากไปจ่ายเงิน กอดฉินฮันเยว่เอาไว้ในอ้อมแขนอย่างสงสาร แล้วก็ตะโกนใส่ลู่ชิงชิงเสียงดัง
“ก็แค่เอาบัตรคุณไปรูดไม่กี่แสงเอง คุณถึงขั้นต้องทำตัวเป็นหมาบ้ามาลงมือลงไม้กับคนอื่นเลยเหรอ คุณไม่รู้จักอายบ้างเลยรึไง?” ความรังเกียจและความเคียดแค้นในแววตาของหลินซั่วมันชัดเจนมาก
หัวใจของลู่ชิงชิงเหมือนถูกบดละเอียด การถูกหักหลัง ความโกรธ และความอัปยศอดสู ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ
“คุณเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากของฉันไปเลี้ยงดูผู้หญิงคนอื่น แล้วคุณยังจะมาบอกว่าฉันหน้าไม่อายอีกงั้นเหรอ?”
“แล้วจะทำไม เธอไม่ดูสารรูปของเธอ จะมีผู้ชายที่ไหนมาสนใจเธอกันห่ะ!”
ตลอดเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาที่เธอต้องเลี้ยงหลินซั่ว เธอต้องประหยัดเงินค่าอาหารและค่าใช้จ่ายของเธอ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเลย เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็เก่า ๆ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้ตอบแทนมามันคืออะไร เป็นการทรยศที่ไร้ยางอายเนี่ยนะ!
คนมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินซั่วจึงโยนบัตรเครดิตและใบแจ้งหนี้ไปที่หน้าของลู่ชิงชิงด้วยความโกรธ
“เอาไปเลย อะไรก็เงิน เงิน เงิน ฉันทนกับเธอมามากพอแล้ว”
ใบหน้าของลู่ชิงชิงโดนบัตรเครดิตฝาดจนรู้สึกเจ็บ แต่ทว่าหัวใจของเธอเจ็บกว่าเยอะ
“ลู่ชิงชิง จุดจบของผู้หญิงอย่างเธอคงต้องตายอย่างโดดเดี่ยวเท่านั้นแหละ ไม่มีผู้ชายคนไหนรับเธอได้หรอก” หลังจากที่หลินซั่วพูดจบ เขาก็ดึงฉินฮันเยว่ออกจากห้างสรรพสินค้าไป
ลู่ชิงชิงก้มลงหยิบบัตร และใบแจ้งหนี้บนพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ เธอทำตามขั้นตอนการคืนเงินเสร็จสิ้น แล้วก็กลับไปที่บ้านที่เธอ และหลินซั่วเช่าเอาไว้
บ้านหลังนี้เป็นแบบสองห้องนอน หลินซั่วและเธออาศัยอยู่ห้องใครห้องมันมาโดยตลอด
แต่ที่น่าตลกก็คือ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าที่หลินซั่วทำเช่นนี้เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษ
เมื่อเธอเข้าบ้านไป เธอก็เริ่มจัดกระเป๋าเดินทางของหลินซั่ว เพื่อเตรียมที่จะไล่เขาออกไป
ตอนที่เธอกำลังสะบัดผ้าปูที่นอน เธอก็เจอถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วสองอัน
เมื่อมองดูถุงยางที่ ‘สด ๆ’ นี้ ความรู้สึกที่ลู่ชิงชิงมีต่อหลินซั่วก็ดับลงในทันที
สัมภาระที่ถูกแพ็คเรียบร้อยแล้วถูกโยนออกไปนอกประตูทีละชิ้น
ขณะเดียวกันหลินซั่วกลับมาพร้อมกับฉินฮันเยว่
เมื่อเห็นว่าห้องถูกเก็บจนว่างเปล่า หลิน ซั่วก็โมโหสุด ๆ
“ลู่ชิงชิง เธอบ้าไปแล้วรึไง เธอมีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องของของฉันห่ะ?”
ลู่ชิงชิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ในอดีตเธอแค่คิดว่าหลินซั่วเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก แต่เมื่อมามองดูตอนนี้อีกที เธอกลับรู้สึกรังเกียจเขายิ่งกว่าอะไรดี
“คุณกลับมาพอดี เอากุญแจห้องมาคืนฉันซะ แล้วต่อไปก็อย่ามาที่นี่อีก เดี๋ยวบ้านของฉันจะสกปรก”
“ลู่ชิงชิง เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า? ก่อนหน้านี้ฉันก็จ่ายค่าเช่าเหมือนกันนะ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาย้ายข้าวของของฉันไม่ทราบ?” หลินซั่วตะหวาดขึ้นมาด้วยความโกรธ
“คุณก็บอกเองหนิว่าเมื่อก่อน แล้วค่าเช่าครึ่งปีมานี้กับค่าครองชีพสองปีครึ่ง คุณได้ให้ฉันบ้างรึเปล่า?”
ลู่ชิงชิงทำใจให้เย็นเข้าไว้ พยายามทำตัวให้แข็งแกร่งมากที่สุด
เมื่อหลินซั่วเห็นเพื่อนบ้านที่มามุงดูแล้วก็เริ่มชี้มือชี้ไม้วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก เขาจึงรู้สึกอับอาย ทำให้เขาต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แล้วก็ต้องเอาตัวรอดจากตอนนี้ไปให้ได้
“ลู่ชิงชิง เธอต้องการแค่เงินไม่ใช่เหรอ? ค่าเช่าครึ่งปีก็แค่แสนกว่าสองแสงเอง ก็แค่เงินเดือนครึ่งเดือนของฉันเท่านั้นไว้รอฉันหางานได้ก่อน ฉันจะจ่ายค่าเช่าครึ่งปีที่ฉันติดค้างเธอคืนให้หมด”
“ไม่จำเป็นต้องรอถึงครึ่งปีหรอก เราจะให้เงินเธอตอนนี้เลย” ฉินฮันเยว่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา แล้วก็เดินไปหาลู่ชิงชิง “เรามาตกลงกันก่อน ถ้าฉันจ่ายค่าเช่าครึ่งปีนั้นให้เธอแล้ว เธอต้องย้ายออกไปวันนี้”
จากการคำนวณของฉินฮันเยว่แล้ว ครึ่งหนึ่งของค่าเช่าครึ่งปีอยู่ที่ห้าหมื่นกว่า ๆ เท่านั้น แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ยัยโง่ลู่ชิงชิงจ่ายไปมากกว่านั้นอีก แถมเธอยังจะสร้างความประทับใจที่ดีให้หลินซั่วได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้หลินซั่วสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐที่จัดอันดับมหาลัยดีเด่น ถือว่าเขาเป็นเสมือนหุ้นที่มีศักยภาพ เมื่อก่อนตอนที่เขาทำงานเขาเคยมีรายได้มากถึงแสนห้าต่อเดือนเลย!
เมื่อฉินฮันเยว่เห็นว่าลู่ชิงชิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เธอก็เปิดคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน แล้วเงินก็ถูกโอนไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ประตูอย่างได้ใจพลางพูดว่า “รีบไปเก็บข้าวของและไสหัวออกไปซะสิ!”
“ไม่รีบ” ลู่ชิงชิงหันกลับมาโดยไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แล้วก็หันไปหยิบโฉนดบ้านออกมาจากห้อง
“พวกเธออ่านให้ละเอียดนะ” ลู่ชิงชิงเปิดโฉนดบ้านออก ชื่อเจ้าของบ้านเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เขียนชื่อของลู่ชิงชิงเอาไว้
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แล้ววันนี้ฉันก็จะเอาบ้านหลังนี้คืน”
“ลู่ชิงชิง เธอหลอกฉันเหรอ?” เมื่อเห็นโฉนดบ้าน หลินซั่วก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที “เธอเป็นเจ้าของบ้าน แต่ยังมาบอกให้ฉันจ่ายค่าเช่ามาตั้งหลายปีอีกเนี่ยนะ?”
“มาอยู่บ้านคนอื่นก็ต้องจ่ายค่าเช่า มันก็ถูกต้องแล้วหนิ?” ลู่ชิงชิงยักไหล่ ใบหน้าของเธอดูใสซื่อมาก
“เธอมันใจร้าย!” หลินซั่วใช้นิ้วที่กำลังสั่นเทาของเขาชี้หน้าลู่ชิงชิง “ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ”
“ลู่ชิงชิง เธอมันน่ารังเกียจมาก” ฉินฮันเยว่รู้สึกเสียใจจนเจ็บใจไปหมด นอกจากจะเสียเงินแล้ว ที่จะอยู่ยังไม่มีอีกด้วย
“ถ้าเทียบกับพวกคุณแล้ว ฉันยังคงตามหลังอยู่ไกลมาก”
ลู่ชิงชิงเปิดประตูบ้านพลางพูดว่า “เอาของของพวกคุณออกไป แล้วก็ไสหัวไปซะ!”
ฉินฮันเยว่ยังอยากจะอาละวาดต่ออีก แต่เมื่อหลินซั่วเห็นว่าเพื่อนบ้านมามุงดูกันเต็มไปหมด เขาจึงรีบลากฉินฮันเยว่ออกไปทันที
ก่อนจะไปเขายังหันไปมองลู่ชิงชิงตาเขม็ง คิดวางแผนในใจว่าจะหลอกเอาอพาร์ทเมนต์แห่งนี้มาได้อย่างไร
หลังจากจัดการกับผู้ชายสารเลวไปแล้ว ลู่ชิงชิงก็พิงมุมกำแพงแบบไร้เรี่ยวแรงใด ๆ
สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจก็คือ ก็ดีเหมือนกัน ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องทำหลาย ๆ งานเพื่อมาคอยเลี้ยงผู้ชายสารเลวแบบนี้อีกแล้ว
แต่ในขณะที่เธอเพิ่งจะถอนหายใจออกไป จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เมื่อลู่ชิงชิงก้มไปมองก็พบว่าเป็นน้องชายของเธอที่โทรมา
“พี่ ย่าเป็นมะเร็ง ต้องจ่ายค่าผ่าตัดสองล้านห้า ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น ผม.....” ในโทรศัพท์ เสียงน้องชายที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นมา
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ
ชีวิตเธอกำลังมีความสุข แต่แล้วก็ประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในยุคโบราณ อยู่โบราณไม่ว่าถ้ามาอยู่ในร่างเด็กที่แม่ป่วย พ่อพิการ แถมตัวเองก็เป็นคนเดียวที่พอจะหาอาหารให้พวกเขาได้!!