[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แสงแดดแผดจ้า
ลู่ชิงชิงทนต่อแดดจ้าทำงานพาร์ทไทม์แจกใบปลิวอยู่หน้าประตูห้าง
ทันใดนั้นไม่ไกลออกไปก็หันไปเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาทางประตูด้านข้างของห้าง
เมื่อมองจากแผ่นหลังแล้ว ดูเหมือนจะเป็นหลินซั่วแฟนของเธอ กับฉินฮันเยว่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ
วันนี้หลินซั่วต้องไปสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ?
ลู่ชิงชิงรู้สึกร้อนใจมาก เธอจึงรีบตามไปทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็พบว่าพวกเขาหายไปเสียแล้ว
หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความเตือนการใช้บัตรเครดิต
เคาน์เตอร์เครื่องประดับ ยอดค่าใช้จ่าย 250000 บาท
ลู่ชิงชิงตกใจกับตัวเลขนี้จนมือสั่นไปหมด นี่มันรายได้เกือบครึ่งปีของเธอเลยนะ
ไม่ช้าลู่ชิงชิงก็หาเคาน์เตอร์รับเงินเจออย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็เห็นว่าพนักงานแคชเชียร์กำลังสวมแหวนเพชรที่แวววาวลงบนนิ้วนางที่ขาวกระจ่างใสและนุ่มนิ่มของฉินฮันเยว่
เพชรบนแหวนมีขนาดใหญ่มาก แล้วก็งดงามมากด้วย มันเป็นเพชรที่ลู่ชิงชิงหมายตามานานมากแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของฉินฮันเยว่ ลู่ชิงชิงก็รู้สึกหัวสมองว่างเปล่าไปหมด
หลินซั่วตกงานมาหกเดือนแล้ว เขากินอยู่กับเธอทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขากลับกล้าที่ใช้บัตรของเธอไปซื้อแหวนเพชรให้กับเมียน้อยเนี่ยนะ?
คิดว่าเธอตายไปแล้วรึไง?
เธอรีบวิ่งไปแย่งแหวนจากมือของฉินฮันเยว่มาทันที แล้วก็ยื่นไปให้พนักงานแคชเชียร์
“คืนแหวนวงนี้ค่ะ”
“ลู่ชิงชิง นี่มันอะไรของเธอเนี่ย? นี่มันแหวนที่ฉันเพิ่งซื้อมานะ เธอมีสิทธิ์อะไรเอาไปคืนห่ะ?” ฉินฮันเยว่ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“เพี๊ยะ!” ลู่ชิงชิงตบหน้าของฉินฮันเยว่ไปทีหนึ่ง
“นี่คุณทำบ้าอะไร?” เวลานี้หลินซั่วที่กลับมาจากไปจ่ายเงิน กอดฉินฮันเยว่เอาไว้ในอ้อมแขนอย่างสงสาร แล้วก็ตะโกนใส่ลู่ชิงชิงเสียงดัง
“ก็แค่เอาบัตรคุณไปรูดไม่กี่แสงเอง คุณถึงขั้นต้องทำตัวเป็นหมาบ้ามาลงมือลงไม้กับคนอื่นเลยเหรอ คุณไม่รู้จักอายบ้างเลยรึไง?” ความรังเกียจและความเคียดแค้นในแววตาของหลินซั่วมันชัดเจนมาก
หัวใจของลู่ชิงชิงเหมือนถูกบดละเอียด การถูกหักหลัง ความโกรธ และความอัปยศอดสู ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ
“คุณเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากของฉันไปเลี้ยงดูผู้หญิงคนอื่น แล้วคุณยังจะมาบอกว่าฉันหน้าไม่อายอีกงั้นเหรอ?”
“แล้วจะทำไม เธอไม่ดูสารรูปของเธอ จะมีผู้ชายที่ไหนมาสนใจเธอกันห่ะ!”
ตลอดเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาที่เธอต้องเลี้ยงหลินซั่ว เธอต้องประหยัดเงินค่าอาหารและค่าใช้จ่ายของเธอ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเลย เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็เก่า ๆ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้ตอบแทนมามันคืออะไร เป็นการทรยศที่ไร้ยางอายเนี่ยนะ!
คนมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินซั่วจึงโยนบัตรเครดิตและใบแจ้งหนี้ไปที่หน้าของลู่ชิงชิงด้วยความโกรธ
“เอาไปเลย อะไรก็เงิน เงิน เงิน ฉันทนกับเธอมามากพอแล้ว”
ใบหน้าของลู่ชิงชิงโดนบัตรเครดิตฝาดจนรู้สึกเจ็บ แต่ทว่าหัวใจของเธอเจ็บกว่าเยอะ
“ลู่ชิงชิง จุดจบของผู้หญิงอย่างเธอคงต้องตายอย่างโดดเดี่ยวเท่านั้นแหละ ไม่มีผู้ชายคนไหนรับเธอได้หรอก” หลังจากที่หลินซั่วพูดจบ เขาก็ดึงฉินฮันเยว่ออกจากห้างสรรพสินค้าไป
ลู่ชิงชิงก้มลงหยิบบัตร และใบแจ้งหนี้บนพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ เธอทำตามขั้นตอนการคืนเงินเสร็จสิ้น แล้วก็กลับไปที่บ้านที่เธอ และหลินซั่วเช่าเอาไว้
บ้านหลังนี้เป็นแบบสองห้องนอน หลินซั่วและเธออาศัยอยู่ห้องใครห้องมันมาโดยตลอด
แต่ที่น่าตลกก็คือ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าที่หลินซั่วทำเช่นนี้เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษ
เมื่อเธอเข้าบ้านไป เธอก็เริ่มจัดกระเป๋าเดินทางของหลินซั่ว เพื่อเตรียมที่จะไล่เขาออกไป
ตอนที่เธอกำลังสะบัดผ้าปูที่นอน เธอก็เจอถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วสองอัน
เมื่อมองดูถุงยางที่ ‘สด ๆ’ นี้ ความรู้สึกที่ลู่ชิงชิงมีต่อหลินซั่วก็ดับลงในทันที
สัมภาระที่ถูกแพ็คเรียบร้อยแล้วถูกโยนออกไปนอกประตูทีละชิ้น
ขณะเดียวกันหลินซั่วกลับมาพร้อมกับฉินฮันเยว่
เมื่อเห็นว่าห้องถูกเก็บจนว่างเปล่า หลิน ซั่วก็โมโหสุด ๆ
“ลู่ชิงชิง เธอบ้าไปแล้วรึไง เธอมีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องของของฉันห่ะ?”
ลู่ชิงชิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ในอดีตเธอแค่คิดว่าหลินซั่วเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก แต่เมื่อมามองดูตอนนี้อีกที เธอกลับรู้สึกรังเกียจเขายิ่งกว่าอะไรดี
“คุณกลับมาพอดี เอากุญแจห้องมาคืนฉันซะ แล้วต่อไปก็อย่ามาที่นี่อีก เดี๋ยวบ้านของฉันจะสกปรก”
“ลู่ชิงชิง เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า? ก่อนหน้านี้ฉันก็จ่ายค่าเช่าเหมือนกันนะ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาย้ายข้าวของของฉันไม่ทราบ?” หลินซั่วตะหวาดขึ้นมาด้วยความโกรธ
“คุณก็บอกเองหนิว่าเมื่อก่อน แล้วค่าเช่าครึ่งปีมานี้กับค่าครองชีพสองปีครึ่ง คุณได้ให้ฉันบ้างรึเปล่า?”
ลู่ชิงชิงทำใจให้เย็นเข้าไว้ พยายามทำตัวให้แข็งแกร่งมากที่สุด
เมื่อหลินซั่วเห็นเพื่อนบ้านที่มามุงดูแล้วก็เริ่มชี้มือชี้ไม้วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก เขาจึงรู้สึกอับอาย ทำให้เขาต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แล้วก็ต้องเอาตัวรอดจากตอนนี้ไปให้ได้
“ลู่ชิงชิง เธอต้องการแค่เงินไม่ใช่เหรอ? ค่าเช่าครึ่งปีก็แค่แสนกว่าสองแสงเอง ก็แค่เงินเดือนครึ่งเดือนของฉันเท่านั้นไว้รอฉันหางานได้ก่อน ฉันจะจ่ายค่าเช่าครึ่งปีที่ฉันติดค้างเธอคืนให้หมด”
“ไม่จำเป็นต้องรอถึงครึ่งปีหรอก เราจะให้เงินเธอตอนนี้เลย” ฉินฮันเยว่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา แล้วก็เดินไปหาลู่ชิงชิง “เรามาตกลงกันก่อน ถ้าฉันจ่ายค่าเช่าครึ่งปีนั้นให้เธอแล้ว เธอต้องย้ายออกไปวันนี้”
จากการคำนวณของฉินฮันเยว่แล้ว ครึ่งหนึ่งของค่าเช่าครึ่งปีอยู่ที่ห้าหมื่นกว่า ๆ เท่านั้น แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ยัยโง่ลู่ชิงชิงจ่ายไปมากกว่านั้นอีก แถมเธอยังจะสร้างความประทับใจที่ดีให้หลินซั่วได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้หลินซั่วสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐที่จัดอันดับมหาลัยดีเด่น ถือว่าเขาเป็นเสมือนหุ้นที่มีศักยภาพ เมื่อก่อนตอนที่เขาทำงานเขาเคยมีรายได้มากถึงแสนห้าต่อเดือนเลย!
เมื่อฉินฮันเยว่เห็นว่าลู่ชิงชิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เธอก็เปิดคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน แล้วเงินก็ถูกโอนไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ประตูอย่างได้ใจพลางพูดว่า “รีบไปเก็บข้าวของและไสหัวออกไปซะสิ!”
“ไม่รีบ” ลู่ชิงชิงหันกลับมาโดยไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แล้วก็หันไปหยิบโฉนดบ้านออกมาจากห้อง
“พวกเธออ่านให้ละเอียดนะ” ลู่ชิงชิงเปิดโฉนดบ้านออก ชื่อเจ้าของบ้านเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เขียนชื่อของลู่ชิงชิงเอาไว้
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แล้ววันนี้ฉันก็จะเอาบ้านหลังนี้คืน”
“ลู่ชิงชิง เธอหลอกฉันเหรอ?” เมื่อเห็นโฉนดบ้าน หลินซั่วก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที “เธอเป็นเจ้าของบ้าน แต่ยังมาบอกให้ฉันจ่ายค่าเช่ามาตั้งหลายปีอีกเนี่ยนะ?”
“มาอยู่บ้านคนอื่นก็ต้องจ่ายค่าเช่า มันก็ถูกต้องแล้วหนิ?” ลู่ชิงชิงยักไหล่ ใบหน้าของเธอดูใสซื่อมาก
“เธอมันใจร้าย!” หลินซั่วใช้นิ้วที่กำลังสั่นเทาของเขาชี้หน้าลู่ชิงชิง “ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ”
“ลู่ชิงชิง เธอมันน่ารังเกียจมาก” ฉินฮันเยว่รู้สึกเสียใจจนเจ็บใจไปหมด นอกจากจะเสียเงินแล้ว ที่จะอยู่ยังไม่มีอีกด้วย
“ถ้าเทียบกับพวกคุณแล้ว ฉันยังคงตามหลังอยู่ไกลมาก”
ลู่ชิงชิงเปิดประตูบ้านพลางพูดว่า “เอาของของพวกคุณออกไป แล้วก็ไสหัวไปซะ!”
ฉินฮันเยว่ยังอยากจะอาละวาดต่ออีก แต่เมื่อหลินซั่วเห็นว่าเพื่อนบ้านมามุงดูกันเต็มไปหมด เขาจึงรีบลากฉินฮันเยว่ออกไปทันที
ก่อนจะไปเขายังหันไปมองลู่ชิงชิงตาเขม็ง คิดวางแผนในใจว่าจะหลอกเอาอพาร์ทเมนต์แห่งนี้มาได้อย่างไร
หลังจากจัดการกับผู้ชายสารเลวไปแล้ว ลู่ชิงชิงก็พิงมุมกำแพงแบบไร้เรี่ยวแรงใด ๆ
สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจก็คือ ก็ดีเหมือนกัน ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องทำหลาย ๆ งานเพื่อมาคอยเลี้ยงผู้ชายสารเลวแบบนี้อีกแล้ว
แต่ในขณะที่เธอเพิ่งจะถอนหายใจออกไป จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เมื่อลู่ชิงชิงก้มไปมองก็พบว่าเป็นน้องชายของเธอที่โทรมา
“พี่ ย่าเป็นมะเร็ง ต้องจ่ายค่าผ่าตัดสองล้านห้า ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น ผม.....” ในโทรศัพท์ เสียงน้องชายที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นมา
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
วามสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ทำให้เธอ...ท้องไม่มีพ่อ .................... “คูน...คุณ” ชมพลอยทรุดตัวนั่งใกล้ร่างหนาที่หันมองเธอด้วยสายตาแปลกใจ เธอทักทายเขาด้วยภาษาสากล “คูณนอนกับช้านม้าย ฉันซิงนะ” บุรุษที่ชมพลอยเข้าไปทักคือ ภาคินทร์ ภักดีธำรง หรือหมอธาม ในวัยสามสิบปีที่มาเรียนแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติมในประเทศเยอรมัน เขายังคงมองหน้าคนเสนอตัวให้ด้วยสายตาตกใจปนประหลาดใจ เขาพบเจอผู้หญิงที่ชวนไปหลับนอนหลายคน ทว่ากลับไม่มีใครสักคนที่บอกให้รู้ว่า ครองพรหมจรรย์ ในตอนนั้นภาคินทร์คิดว่า สาวสวยตรงหน้าเมาจึงพูดในเรื่องตรงกันข้ามกับการกระทำ ผู้หญิงบริสุทธิ์คงไม่ชวนผู้ชายหลับนอนด้วย “วันไนท์สแตนด์งาย...สนใจไหม” “ได้สิ” ภาคินทร์ยิ้มและตอบรับทันที อาจเป็นเพราะเขาถูกใจในความสวยงามบนใบหน้า ผิวขาวลออตา และรูปร่างที่น่าฟัดอย่าบอกใคร ภาคินทร์เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป กิเลสตัณหาเกิดขึ้นได้หากเจอคนถูกใจ