[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แสงแดดแผดจ้า
ลู่ชิงชิงทนต่อแดดจ้าทำงานพาร์ทไทม์แจกใบปลิวอยู่หน้าประตูห้าง
ทันใดนั้นไม่ไกลออกไปก็หันไปเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาทางประตูด้านข้างของห้าง
เมื่อมองจากแผ่นหลังแล้ว ดูเหมือนจะเป็นหลินซั่วแฟนของเธอ กับฉินฮันเยว่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ
วันนี้หลินซั่วต้องไปสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ?
ลู่ชิงชิงรู้สึกร้อนใจมาก เธอจึงรีบตามไปทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็พบว่าพวกเขาหายไปเสียแล้ว
หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความเตือนการใช้บัตรเครดิต
เคาน์เตอร์เครื่องประดับ ยอดค่าใช้จ่าย 250000 บาท
ลู่ชิงชิงตกใจกับตัวเลขนี้จนมือสั่นไปหมด นี่มันรายได้เกือบครึ่งปีของเธอเลยนะ
ไม่ช้าลู่ชิงชิงก็หาเคาน์เตอร์รับเงินเจออย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็เห็นว่าพนักงานแคชเชียร์กำลังสวมแหวนเพชรที่แวววาวลงบนนิ้วนางที่ขาวกระจ่างใสและนุ่มนิ่มของฉินฮันเยว่
เพชรบนแหวนมีขนาดใหญ่มาก แล้วก็งดงามมากด้วย มันเป็นเพชรที่ลู่ชิงชิงหมายตามานานมากแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของฉินฮันเยว่ ลู่ชิงชิงก็รู้สึกหัวสมองว่างเปล่าไปหมด
หลินซั่วตกงานมาหกเดือนแล้ว เขากินอยู่กับเธอทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขากลับกล้าที่ใช้บัตรของเธอไปซื้อแหวนเพชรให้กับเมียน้อยเนี่ยนะ?
คิดว่าเธอตายไปแล้วรึไง?
เธอรีบวิ่งไปแย่งแหวนจากมือของฉินฮันเยว่มาทันที แล้วก็ยื่นไปให้พนักงานแคชเชียร์
“คืนแหวนวงนี้ค่ะ”
“ลู่ชิงชิง นี่มันอะไรของเธอเนี่ย? นี่มันแหวนที่ฉันเพิ่งซื้อมานะ เธอมีสิทธิ์อะไรเอาไปคืนห่ะ?” ฉินฮันเยว่ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
“เพี๊ยะ!” ลู่ชิงชิงตบหน้าของฉินฮันเยว่ไปทีหนึ่ง
“นี่คุณทำบ้าอะไร?” เวลานี้หลินซั่วที่กลับมาจากไปจ่ายเงิน กอดฉินฮันเยว่เอาไว้ในอ้อมแขนอย่างสงสาร แล้วก็ตะโกนใส่ลู่ชิงชิงเสียงดัง
“ก็แค่เอาบัตรคุณไปรูดไม่กี่แสงเอง คุณถึงขั้นต้องทำตัวเป็นหมาบ้ามาลงมือลงไม้กับคนอื่นเลยเหรอ คุณไม่รู้จักอายบ้างเลยรึไง?” ความรังเกียจและความเคียดแค้นในแววตาของหลินซั่วมันชัดเจนมาก
หัวใจของลู่ชิงชิงเหมือนถูกบดละเอียด การถูกหักหลัง ความโกรธ และความอัปยศอดสู ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ
“คุณเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากของฉันไปเลี้ยงดูผู้หญิงคนอื่น แล้วคุณยังจะมาบอกว่าฉันหน้าไม่อายอีกงั้นเหรอ?”
“แล้วจะทำไม เธอไม่ดูสารรูปของเธอ จะมีผู้ชายที่ไหนมาสนใจเธอกันห่ะ!”
ตลอดเวลาครึ่งปีที่ผ่านมาที่เธอต้องเลี้ยงหลินซั่ว เธอต้องประหยัดเงินค่าอาหารและค่าใช้จ่ายของเธอ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเลย เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็เก่า ๆ แต่แล้วสิ่งที่เธอได้ตอบแทนมามันคืออะไร เป็นการทรยศที่ไร้ยางอายเนี่ยนะ!
คนมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ หลินซั่วจึงโยนบัตรเครดิตและใบแจ้งหนี้ไปที่หน้าของลู่ชิงชิงด้วยความโกรธ
“เอาไปเลย อะไรก็เงิน เงิน เงิน ฉันทนกับเธอมามากพอแล้ว”
ใบหน้าของลู่ชิงชิงโดนบัตรเครดิตฝาดจนรู้สึกเจ็บ แต่ทว่าหัวใจของเธอเจ็บกว่าเยอะ
“ลู่ชิงชิง จุดจบของผู้หญิงอย่างเธอคงต้องตายอย่างโดดเดี่ยวเท่านั้นแหละ ไม่มีผู้ชายคนไหนรับเธอได้หรอก” หลังจากที่หลินซั่วพูดจบ เขาก็ดึงฉินฮันเยว่ออกจากห้างสรรพสินค้าไป
ลู่ชิงชิงก้มลงหยิบบัตร และใบแจ้งหนี้บนพื้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ เธอทำตามขั้นตอนการคืนเงินเสร็จสิ้น แล้วก็กลับไปที่บ้านที่เธอ และหลินซั่วเช่าเอาไว้
บ้านหลังนี้เป็นแบบสองห้องนอน หลินซั่วและเธออาศัยอยู่ห้องใครห้องมันมาโดยตลอด
แต่ที่น่าตลกก็คือ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าที่หลินซั่วทำเช่นนี้เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษ
เมื่อเธอเข้าบ้านไป เธอก็เริ่มจัดกระเป๋าเดินทางของหลินซั่ว เพื่อเตรียมที่จะไล่เขาออกไป
ตอนที่เธอกำลังสะบัดผ้าปูที่นอน เธอก็เจอถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วสองอัน
เมื่อมองดูถุงยางที่ ‘สด ๆ’ นี้ ความรู้สึกที่ลู่ชิงชิงมีต่อหลินซั่วก็ดับลงในทันที
สัมภาระที่ถูกแพ็คเรียบร้อยแล้วถูกโยนออกไปนอกประตูทีละชิ้น
ขณะเดียวกันหลินซั่วกลับมาพร้อมกับฉินฮันเยว่
เมื่อเห็นว่าห้องถูกเก็บจนว่างเปล่า หลิน ซั่วก็โมโหสุด ๆ
“ลู่ชิงชิง เธอบ้าไปแล้วรึไง เธอมีสิทธิ์อะไรมาแตะต้องของของฉันห่ะ?”
ลู่ชิงชิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ในอดีตเธอแค่คิดว่าหลินซั่วเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลก แต่เมื่อมามองดูตอนนี้อีกที เธอกลับรู้สึกรังเกียจเขายิ่งกว่าอะไรดี
“คุณกลับมาพอดี เอากุญแจห้องมาคืนฉันซะ แล้วต่อไปก็อย่ามาที่นี่อีก เดี๋ยวบ้านของฉันจะสกปรก”
“ลู่ชิงชิง เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า? ก่อนหน้านี้ฉันก็จ่ายค่าเช่าเหมือนกันนะ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาย้ายข้าวของของฉันไม่ทราบ?” หลินซั่วตะหวาดขึ้นมาด้วยความโกรธ
“คุณก็บอกเองหนิว่าเมื่อก่อน แล้วค่าเช่าครึ่งปีมานี้กับค่าครองชีพสองปีครึ่ง คุณได้ให้ฉันบ้างรึเปล่า?”
ลู่ชิงชิงทำใจให้เย็นเข้าไว้ พยายามทำตัวให้แข็งแกร่งมากที่สุด
เมื่อหลินซั่วเห็นเพื่อนบ้านที่มามุงดูแล้วก็เริ่มชี้มือชี้ไม้วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก เขาจึงรู้สึกอับอาย ทำให้เขาต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้ แล้วก็ต้องเอาตัวรอดจากตอนนี้ไปให้ได้
“ลู่ชิงชิง เธอต้องการแค่เงินไม่ใช่เหรอ? ค่าเช่าครึ่งปีก็แค่แสนกว่าสองแสงเอง ก็แค่เงินเดือนครึ่งเดือนของฉันเท่านั้นไว้รอฉันหางานได้ก่อน ฉันจะจ่ายค่าเช่าครึ่งปีที่ฉันติดค้างเธอคืนให้หมด”
“ไม่จำเป็นต้องรอถึงครึ่งปีหรอก เราจะให้เงินเธอตอนนี้เลย” ฉินฮันเยว่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา แล้วก็เดินไปหาลู่ชิงชิง “เรามาตกลงกันก่อน ถ้าฉันจ่ายค่าเช่าครึ่งปีนั้นให้เธอแล้ว เธอต้องย้ายออกไปวันนี้”
จากการคำนวณของฉินฮันเยว่แล้ว ครึ่งหนึ่งของค่าเช่าครึ่งปีอยู่ที่ห้าหมื่นกว่า ๆ เท่านั้น แต่หลายปีที่ผ่านมานี้ยัยโง่ลู่ชิงชิงจ่ายไปมากกว่านั้นอีก แถมเธอยังจะสร้างความประทับใจที่ดีให้หลินซั่วได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้หลินซั่วสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐที่จัดอันดับมหาลัยดีเด่น ถือว่าเขาเป็นเสมือนหุ้นที่มีศักยภาพ เมื่อก่อนตอนที่เขาทำงานเขาเคยมีรายได้มากถึงแสนห้าต่อเดือนเลย!
เมื่อฉินฮันเยว่เห็นว่าลู่ชิงชิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล เธอก็เปิดคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน แล้วเงินก็ถูกโอนไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ประตูอย่างได้ใจพลางพูดว่า “รีบไปเก็บข้าวของและไสหัวออกไปซะสิ!”
“ไม่รีบ” ลู่ชิงชิงหันกลับมาโดยไม่ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แล้วก็หันไปหยิบโฉนดบ้านออกมาจากห้อง
“พวกเธออ่านให้ละเอียดนะ” ลู่ชิงชิงเปิดโฉนดบ้านออก ชื่อเจ้าของบ้านเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เขียนชื่อของลู่ชิงชิงเอาไว้
“ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แล้ววันนี้ฉันก็จะเอาบ้านหลังนี้คืน”
“ลู่ชิงชิง เธอหลอกฉันเหรอ?” เมื่อเห็นโฉนดบ้าน หลินซั่วก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที “เธอเป็นเจ้าของบ้าน แต่ยังมาบอกให้ฉันจ่ายค่าเช่ามาตั้งหลายปีอีกเนี่ยนะ?”
“มาอยู่บ้านคนอื่นก็ต้องจ่ายค่าเช่า มันก็ถูกต้องแล้วหนิ?” ลู่ชิงชิงยักไหล่ ใบหน้าของเธอดูใสซื่อมาก
“เธอมันใจร้าย!” หลินซั่วใช้นิ้วที่กำลังสั่นเทาของเขาชี้หน้าลู่ชิงชิง “ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ”
“ลู่ชิงชิง เธอมันน่ารังเกียจมาก” ฉินฮันเยว่รู้สึกเสียใจจนเจ็บใจไปหมด นอกจากจะเสียเงินแล้ว ที่จะอยู่ยังไม่มีอีกด้วย
“ถ้าเทียบกับพวกคุณแล้ว ฉันยังคงตามหลังอยู่ไกลมาก”
ลู่ชิงชิงเปิดประตูบ้านพลางพูดว่า “เอาของของพวกคุณออกไป แล้วก็ไสหัวไปซะ!”
ฉินฮันเยว่ยังอยากจะอาละวาดต่ออีก แต่เมื่อหลินซั่วเห็นว่าเพื่อนบ้านมามุงดูกันเต็มไปหมด เขาจึงรีบลากฉินฮันเยว่ออกไปทันที
ก่อนจะไปเขายังหันไปมองลู่ชิงชิงตาเขม็ง คิดวางแผนในใจว่าจะหลอกเอาอพาร์ทเมนต์แห่งนี้มาได้อย่างไร
หลังจากจัดการกับผู้ชายสารเลวไปแล้ว ลู่ชิงชิงก็พิงมุมกำแพงแบบไร้เรี่ยวแรงใด ๆ
สิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจก็คือ ก็ดีเหมือนกัน ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องทำหลาย ๆ งานเพื่อมาคอยเลี้ยงผู้ชายสารเลวแบบนี้อีกแล้ว
แต่ในขณะที่เธอเพิ่งจะถอนหายใจออกไป จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เมื่อลู่ชิงชิงก้มไปมองก็พบว่าเป็นน้องชายของเธอที่โทรมา
“พี่ ย่าเป็นมะเร็ง ต้องจ่ายค่าผ่าตัดสองล้านห้า ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้น ผม.....” ในโทรศัพท์ เสียงน้องชายที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นมา
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"