เจนสุดา คุณหนูแสนสวยวัย19ปี เธอมีแม่ใหม่ที่แสนจะเพอร์เฟกต์ชื่อวาเลรีน สาวน้อยจึงเสียใจแทบบ้า ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปความจริงเริ่มปรากฏว่าแม่เลี้ยงสุดสวยไม่ได้ชอบผู้ชาย สาวน้อยจะพลาดท่าเสียตัวให้แม่เลี้ยงของตัวเองหรือไม่
แม่เลี้ยงกับหนู เป็นชู้กัน
ตอน วันแรกที่เข้าบ้าน
รถเบนซ์สีขาวของคุณพ่อขับมาจอดหน้าบ้านหลัวใหญ่โตหรูหรา
"เย้ คุณพ่อมาแล้ว" สาวน้อยเจนสุดดาวิ่งออกมาหน้าบ้านขณะที่เธอยังใส่ชุดนักศึกษา
พลันใดนั้นคุณพ่อวัยสี่สิบห้า นักธุรกิจใหญ่ก็จอดรถแล้วกลับเดินไปอีกฟาก
ท่านเปิดประตูให้หญิงสาววัยสามสิบต้นๆก้าวลงมา เธอส่งยิ้มให้เจนสุดาด้วยสายตาที่เป็นมิตร
"เจน ไหว้แม่วาสิลูก เธอชื่อวาเลรีนจะมาอยู่กับเรานะ" คุณพ่อหันมายิ้มบอก
สาวน้อยหน้าเปลี่ยนสีทันที ใบหน้าที่ขาวอมชมพูระเรื่อเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ
หัวใจดวงน้อยเต้นแรง เลือดในกายฉีดพล่าน เจนสุดากัดฟันดังกร่อด
เธอโกรธพ่อสุดขีดที่ท่านกำลังจะมีคนรักใหม่หลังจากที่แม่ของเธอเพิ่งเสียไปไม่กี่ปี
ไม่! เจนตวาดลั่น
ตุบ! ๆ ๆ ๆ สาวน้อยวิ่งกลับเข้าบ้านหลังใหญ่ด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาพาดผ่านแก้มเป็นทาง
ติ๋ง! ๆ ๆ หยาดใสโปรยปรายลงบนพื้นขณะที่หัวใจกำลังแตกสลาย
หลังจากที่เสียคุณแม่ไปสาวน้อยคิดว่าจะมีเพียงแต่เธอกับคุณพ่อที่แสนดี แต่มาวันนี้เธอเพิ่งรู้ว่ามันไม่ใช่อีกแล้ว
ฟุ่บ! ฮือ! ๆ ๆ ๆ เจนกระโจนขึ้นมานอนคว่ำบนเตียงและร้องไห้สะอึกสะอื้น
ริมฝีปากสีชมพูสั่นเทา ลมหายใจร้อนผ่าว น้ำตาเปียกโชกหมอน
คุณพ่อเดินเข้ามาในห้องนอนและนั่งลงข้างๆเตียง ท่านลูบหัวปลอบเจน
" ถ้าหนูไม่ชอบคุณวาหนูก็ไม่ต้องเรียกว่าแม่" คุณพ่อบอกขณะที่เจนยังร้องไห้
"พ่อรักแม่หนูมากที่สุด แต่เรายังต้องก้าวต่อไป พ่อรักและเคารพคุณแม่นะ ไม่มีใครเหนือกว่าแม่และหนู" คุณพ่อปลอบและลูบหัวสาวน้อย
"ให้โอกาสน้าเค้าดูแลพวกเราได้ไหม ถือว่าพ่อขอร้อง"
เจนสุดาค่อยๆคลายความเจ็บปวดลงช้าๆเมื่อได้รับคำปลอบจากคุณพ่อที่มีวาทะศิลป์เป็นเลิศ
เธอพลิกตัวขึ้นมานอนหงายและเช็ดน้ำตาที่แก้มสวยอิ่ม
"ไปทานข้าวกันนะ" คุณพ่อเอ่ย
"ไม่ค่ะ หนูกินแล้ว" เจนโกหกเพราะว่าไม่อยากเจอแม่เลี้ยงคนใหม่
เธอยังนึกภาพติดตาในหัวได้อยู่เลย หญิงสาววัยสามสิบ ผิวสีน้ำผึ้งค่อยๆก้าวลงมาจากรถแล้วส่งยิ้มหวานมา
เธอมีใบหน้าที่สวยคม จมูกโด่งปลายเชิ่ดขึ้นและมีดวงตาสีดำขลับน่ากลัว
หุ่นของเธอเพรียวบางสูงขายาวอย่างกับนางแบบ
"ชิ เราสวยกว่าอีก" เจนสุดานอนนึกด่าแม่เลี้ยงอยู่ในใจ
สาวน้อยวัยสิบเก้าปี เธอมีใบหน้าโค้งมนอูมอิ่ม จมูกจิ้มลิ้ม ปากเรียวเล็กสีชมพู
เธอสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบแต่มีเนื้อหนังที่อวบอิ่มเกินวัย หน้าอกใหญ่ตูดงอน ผิวขาวอมชมพูตาโต
เจนนอนกลิ้งไปกลิ้งมา เธอปวดท้องเพราะหิวข้าวจนทรมาน
"รอพวกเขากินเสร็จแล้วค่อยไปกินก็ได้เนอะ" เจนพูดกับตัวเอง
คุณพ่อนั่งกินข้าวกับคุณวาเลรีนเสร็จทั้งคู่ก็ไปอาบน้ำ พอคุณพ่อออกมานั่งทำงานในห้องส่วนตัวคุณวาเลรีนก็เข้าครัว
ก๊อก! ๆ ๆ เสียงเคาะประตูห้องนอนของเจนดังขึ้น
"ไม่ได้ล็อคค่ะ" เจนตอบ
มาง้อเราจนได้ ฮิ! ๆ เจนคิดในใจว่าคุณพ่อจะมาขอโทษเธออีก
แอ๊ดดด! ประตูเปิดออก สาวน้อยตาโตเมื่อเห็นสาวสวยในชุดนอนสีชมพูวาววับเดินเข้ามา
พรึ่บ! เจนสุดาสปริงตัวลุกนั่งแล้วอ้าปากกำลังจะไล่ตะเพิ่ดแม่เลี้ยงด้วยความโมโห
ทว่ากลิ่นโจ๊กอันหอมหวลลอยเข้ามาเตะจมูกสาวน้อยจนเธอท้องร้อง
แม่เลี้ยงสุดสวยนั่งลงที่ขอบเตียงและจ้องแววตาคมวาวมองมาราวกับจะสะกดให้หยุดเคลื่อนไหว
รอยยิ้มหวานละมุนบนใบหน้าเรียวสวยช่างน่าประทับใจเมื่อได้เผลอมอง
"มาทำไม" สาวน้อยถามเสียงอ่อนลงอย่างผิดคาด
"กินข้าวนะจ๊ะ" วาเลรีนยื่นชามโจ๊กที่หอมกรุ่นให้เจนสุดา
"ไม่ กินแล้ว" เจนตอบห้วนๆ
"ไม่เห็นกินเลยตั้งแต่เข้ามา" วาเลรีนเอ่ยขึ้น
"ก็ไม่หิว" เจนสุดาตอบ
"กินหน่อยนะจ๊ะ" วาเลรีนบอก
"ไม่ต้องมาเอาใจ" เจนดุ
ฮิ! ๆ ๆ วาเลรีนกลับยิ้มและแอบสำรวจความงามของสาวน้อย เธอช่างไม่มีพิษไม่มีภัย แถมเวลางอนยังดูน่ารักน่าชังเป็นที่สุด
"ไม่กินก็จะนั่งอยู่แบบนี้แหละนะ" วาเลรีนนึกสนุก
"ตามใจ" เจนสุดาเอ่ย
สองสาวนั่งมองหน้ากันอยู่นานสองนาน ตาประสานตาพลันใดเจนสุดาก็รู้สึกเสียวใจหวามๆอย่างชอบกล
เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไม่ว่ากับใครทั้งนั้น
วาเลรีนเอาช้อนตักโจ๊กร้อนๆจนไอหอมฟุ้งลอยเข้าจมูกเจน
จ๊อก! ๆ ๆ ท้องของสาวน้อยร้องดัง
"กินก็ได้" เจนสุดาแย่งชามมาก้มหน้าตักกินโจ๊กอย่างมุมมาม
ฮิ! ๆ ๆ วาเลรีนยิ้มชอบใจที่เจนได้ลิ้มลองฝีมือทำอาหารของเธอ
"เอาไปเก็บซะ หิ! ๆ ๆ " เจนสุดากินเสร็จก็ยื่นชามเปล่าใส่มือแม่เลี้ยง
เธอเพิ่งนึกแผนขึ้นได้ว่าจะแกล้งให้วาเลรีนอยู่ไม่ได้จนต้องหนีออกจากบ้านนี้เอง
สาวน้อยหันมายิ้มเยาะแม่เลี้ยงอย่างสะใจที่เห็นเธอกำลังเก็บชามช้อน
หมับ! มือเรียวขาวเตะมาที่ริมฝีปากของเจน
วาเลรีนเอานิ้วป้ายเศษข้าวที่ติดตรงริมฝีปากสีชมพูแล้วเอานิ้วกลับไปดูดกินเศษอาหารจากปากของเจนสุดา
จุ๊บ! ๆ ๆ เจนใจหายว่าบราวกับโดนฟ้าผ่า หัวใจของเธอเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ
ใบหน้าของเธอชาและร้อนผ่าว เลือดสาวฉีดพล่านจนร้อนรุ่มไปทั่วกาย
"ฝันดีนะจ๊ะคนสวย" วาเลรีนลุกยืนแล้วโบกมือก่อนจะเดินออกไป
เจนสุดารู้สึกมึนๆจนหน้ามืดเหมือนเธอจะเป็นลม
นี่เราเป็นอะไรของเรานะ!
เธอแค่แสดง อยากให้เรารักล่ะซิ!
ฉันจะแกล้งให้เธออยู่ไม่ได้!
เจนสุดานอนไม่หลับทั้งคืนเมื่อภาพแม่เลียงสุดสวยอัดแน่นอยู่เต็มหัว
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"