ปล่อยตรงอกนิแหละจะได้มีคราบ หึหึหึ แม่งผมไม่รอช้าดูดทำรอยให้เต็มเลยแสบนัก.. เฮ้อทำไมปวดหัวจังหวะหนักๆๆไปหมดฉันมองเพดานฝ้าส่ายหัวไปมา เฮ้ยยๆๆใครวะโอ้ววแม่เจ้า “ตื่นแล้วเหรอด้าด้าของผม” “เออๆๆคุณมาร์ตินค่ะคือเรา”
ปล่อยตรงอกนิแหละจะได้มีคราบ หึหึหึ แม่งผมไม่รอช้าดูดทำรอยให้เต็มเลยแสบนัก.. เฮ้อทำไมปวดหัวจังหวะหนักๆๆไปหมดฉันมองเพดานฝ้าส่ายหัวไปมา เฮ้ยยๆๆใครวะโอ้ววแม่เจ้า “ตื่นแล้วเหรอด้าด้าของผม” “เออๆๆคุณมาร์ตินค่ะคือเรา”
1.แนะนำตัวละคร
มาร์ติน วิลเดอร์ ชื่อเล่น ติน
เป็นหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส-อิตาลี-เวียดนาม(พ่อมาร์ตินเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสอิตาลี)รูปร่างสูงหน้าตาเหมือนนายแบบปกนิตยสารเขาเป็นผู้ชายอารมณ์ดีขี้เล่นแต่นั้นคือนิสัยแค่ส่วนหนึ่งมาร์ตินเป็นคนหลายบุคคลิกรักเพื่อนสุดหัวใจและเป็นเพื่อนกับมาร์ค (มาร์ค จากเรื่องรักออนไลน์)
นิดา วิจิตรกุล ดา/นิด้า/ด้าด้า
นิดาเป็นสาวขยันและทำงานสารพัดไม่เกี่ยงงานและเป็นคนอ่อนนอกแข็งในเป็นลูกสาวคนเล็กพ่อแม่สมัยใหม่เป็นเด็กพัทยาแต่โดยพื้นฐานครอบครัวเป็นคนอุดรและย้ายมาอยู่พัทยาเพราะพ่อเป็นคนพัทยานิดาสนิทกับนา(นา จากเรื่องรักออนไลน์)
บริษัท WinderGroup ให้บริการด้านขนส่งที่ใหญ่ที่สุดมีเครือข่ายและสาขามากมายทั้งยุโรปและเอเชียและทรงอิธพลซึ่งมีเจ้าของชื่อมิสเตอร์.มาร์คัส วิลเดอร์ ผู้กุมอำนาจรายใหญ่และมีลูกชายสามคนและเป็นผู้สืบทอดธุรกิจ
ลูกชายคนโต มาร์เวล์ วิลเดอร์
ลูกชายคนรองมาร์วิล วิลเดอร์
ลูกชายคนเล็ก มาร์ติน วิลเดอร์
ประเทศฝรั่งเศส
ติน>ฮัลโหลว่าไงไอ้คุณมาร์คร้อยวันพันปีไม่เห็นโทรมา
มาร์ค>นายว่างไหมไอ้คุณมาร์ติน
ติน>ว่างตลอดมีไรว่ามา
มาร์ค>นัดดื่มหน่อยดิวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง
ติน>เอ้อจัดไปแค่นี้ละ
ผมวางสายจากไอ้มาร์คก็นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อย ตี๊ดๆๆตี๊ดๆ ใครวะอ้าวป๊า
ติน>ว่าไงครับป๊า” ผมก็รอฟังป๊าพูดสงสัยโดนบ่น
ป๊า>มาร์ตินแกทำอะไรอยู่ป๊าบอกให้แกมาช่วยงานมาร์วิลหน่อย
ติน>ฮื้มม! ผมขอเคลียงานทางนี้ให้เสร็จก่อนเดี๋ยวผมก็ไป
ป๊า>ไม่ใช่แกมัวแต่ทำตัวลอยไปลอยมาไง
ติน>โอ้ยย!ป๊ามันก็มีบ้างแหละอีกสองวันผมไป
ป๊า>เออๆ แค่นี้แหละอย่าให้ฉันได้ตามแกอีกนะมาร์ติน
ติน>ครับๆๆ เฮ้อๆทำไมชีวิตมันยุ่งยากไปหมดเลยวะ
เมื่อถึงเวลานัดกับไอ้มาร์ค
“อ้าวเฮ้ยไอ้มาร์คเป็นไงมั้งวะเห็นหายเงียบไปนานแสนนานนึกว่าจะลืมเพื่อนที่แสนดีอย่างฉันร้อยวันพันปีไม่เห็นอยากคุยกับเพื่อนอย่างฉันเลยว่ามามีอะไรจะคุย”
“ไอ้ตินฉันเคยได้ยินนายบ่นๆอยากไปเที่ยวไทยพอดีฉันอยากไปด้วย”
“ใช่แต่ยังไม่แน่ใจวะเพราะช่วงนี้งานเยอะมากงบประมาณไม่ลงตัวโดนป๊าบ่นวะว่าทำตัวลอยไป ลอยมา ไม่มีความรับผิดชอบเลยต้องเข้าไปจัดการหลายๆอย่างถ้าไงฉันจะให้คำตอบนายอีกทีถ้าแก้ไขปัญหาลงตัวไม่มีอะไรติดขัดจะบอกนายอีกทีว่าจะเที่ยววันไหนช่วงไหนได้ไหม แล้วนายเป็นยังไงมาร์คกับเทียร์น่าและงานนายละ”
"ก็เหนื่อยนะงานแต่ก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรแต่เทียร์น่าหน้าจะงอลวะเพราะทำแต่งานไม่มีเวลาให้เลย”
“ระวังนะไอ้มาร์คปล่อยปละละเลยเดี๋ยวผู้หญิงก็เทนายทิ้งหรอก”
“ไม่หรอกเทียร์น่าไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ของแบบนี้มันก็ไม่แน่นะโว้ยไอ้มาร์คไอ้มาร์คเกือบลืมพี่มาร์เวล์ชวนลงทุนซื้อหุ้นโรงแรมญาติแม่พี่มาร์เวล์มันจะเจ้งมั้งจริงๆมันต้องเป็นของพี่มาร์เวล์ญาติๆๆโกงกันมั้งฉันเลยชวนนายไปเทคโอเวอร์หุ้นคนละยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
“ฮื้ม!ก็ได้ไอ้ตินป๊าฉันก็ไม่หน้ามีปัญหานายก็หน้าจะรู้ฉันลูกคนเดียว”
“ตามนั้นไอ้คุณมาร์คงั้นฉันขอตัวก่อนนะโว้ยต้องรีบไปเคลียร์งานต้องไปอิตาลีป๊าเรียกตัวด่วน”
“ว่างๆๆก็เจอะกันไอ้ติน”
เมื่อผมแยกตัวจากไอ้มาร์คผมก็กลับมาที่บริษัทเพื่อจะมาเคลียร์งานต่างๆๆเพื่อเตรียมตัวไปที่อิตาลีตามคำสั่งป๊า..เฮ้อเสร็จสักที่ผมกลับไปพัก..เช้าผมก็เดินทางไปอิตาลี..
“สวัสดีครับนายน้อยนายใหญ่ให้มารับ”
“ฮื้มมป๊าให้ไปไหน”
“ไปพักก่อนครับ”
“ตามนั้น”
เมื่อถึงอพาร์ทเม้นผมก็ทิ้งตัวลงนอน จนเลยเวลาหลับตื่นมาเช้าอีกวัน ผมออกไปก็เจอะลูกน้องพ่อ
“นายน้อยนายใหญ่ให้ไปบริษัทเลย”
“ฮื้มได้ซิ”
เมื่อถึงบริษัท
“อ้าวมาถึงแล้วเหรอ”
“ครับป๊า”
“ที่ฉันเรียกแกมาเพราะไอ้มาร์วิลมันโดนยิง”
“อะไรนะป๊ามันเกิดอะไรขึ้นครับ”
“พวกเสียผลประโยนช์ฉันไม่ปล่อยไว้แน่ๆฉันจะเรียกไอ้มาร์เวลกลับทางไทยก็ยังเคลียร์ปัญหายังไม่เรียบร้อยฉันเลยต้องเรียกแกมา”
“ป๊าสั่งมาเลยว่าจะให้ผมทำอะไร”
“ฉันจะให้แกไปคุยงานแทนไอ้มาร์วิลเพราะนักลงทุนมาจากอเมริกาส่วนเรื่องนั้นที่มีคนกะตุ๊กหนวดฉัน ฉันจะจัดการเอง”
“ครับป๊า” ป๊าผมอายุเยอะแต่เหมือนวัยรุ่นและจะโหดมากๆรองลงมาก็พี่มาร์เวล์และพี่มาร์วิลส่วนผมขี้เล็บของสามคนนี้เป็นลูกแง่เมื่อเสร็จธุระกับป๊าผมก็ไปนั่งห้องรองประธานบริษัทและดูเอกสารของคู่ค้าที่เลขาเตรียมไว้ให้หรือมือขวาของป๊าผมนั่งเช็คจนปวดไปหมด
“นายน้อยครับนายใหญ่จะให้เลขาคนใหม่มาดูแลนายน้อยครับ”
“อ้าวแล้วนายละเชฟ”
“ผมต้องไปกับนายใหญ่ครับ”
“ใครจะมาละ”
“น้องชายผมครับนายน้อยไม่ติดปัญหาอะไรใช่ไหมครับ” “ไม่อะเชฟจัดตามป๊าสั่งเลย”
“ครับนายน้อย”
พักใหญ่ๆๆผมนั่งเช็คเอกสารเสียงเคาะประตู..ก๊อกๆๆ “เชิญครับ”
“นายน้อยครับนี้มือขวาและเลขาคนใหม่”
“สวัสดีครับนายน้อยผมชื่อเจฟครับ”
“ยินดีต้อนรับเจฟ”
“ถ้านายน้อยสงสัยอะไรนายน้อยถามไอ้เจฟได้เลยนะครับเพราะผมสอนงานมันมาแล้วส่วนผมก็ต้องขอตัวไปพบนายใหญ่แล้ว”
“ฮื้มม!ตามนั้นเชฟ”
“ส่วนเจฟนายก็ทำตามที่นายได้เรียนมานั้นแหละถ้าฉันมีอะไรฉันจะเรียก”
“ครับนายน้อย”
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ซ่งเซียงทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต คือการเป็น "เลขานุการส่วนตัว" ให้กับเหยียนลี่หานนานถึงห้าปี เธอมอบทุกสิ่งให้เขา แต่ผู้ชายที่น่ารังเกียจกลับบอกว่าเบื่อ แล้วส่งเธอไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลไม่มีใครสนใจ ชีวิตที่ถูกส่งไปอยู่ที่ห่างไกลนั้นไม่ง่าย แต่โชคดีที่เคราะห์ร้ายได้ผ่านพ้นไป เมื่อซ่งเซียงมาถึงระดับล่าง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปวดหลังปวดขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงอดทนทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ มีหนุ่มน้อยมาไล่ตาม ผู้ใหญ่ใจดีมอบผลงานให้ พ่อที่ไม่เคยพบหน้าเป็นมหาเศรษฐีใกล้ตาย พยักหน้าก็ได้รับมรดก ชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหยียนลี่หานคนโชคร้ายแน่ๆ! ในงานเลี้ยงเหยียนลี่หานถือแก้วไวน์ มองไปที่อดีตเลขานุการที่ไม่ได้เจอหลายวันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "ยังคิดถึงฉันจนต้องมาที่งานเลี้ยงนี้ใช่ไหม?" ซ่งเซียงยิ้มเยาะ "คุณเหยียน ฉันไม่ได้เชิญคุณนะ" เหยียนลี่หานตอบ "เธอคิดอะไรอยู่?"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY