เขาตั้งใจกักขังเธอเอาไว้..ด้วยคำว่าบุญคุณ ที่ตอบแทนทั้งชีวิต..ก็ไม่มีวันหมด
เสียงลมหายใจหอบกระชั้นดังฝ่าความมืดมิดจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใดในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ อวัยวะเบื้องต่ำกระทบผืนดินแตกระแหงในจังหวะถี่รัว
เด็กสาวอายุเพียง 18 ปี ผมเผ้ารุงรัง เหงื่อกาฬไหลท่วมตัวผสมกับหยาดน้ำตาที่เอ่อนองเต็มใบหน้าเปรอะเปื้อนมอมแมมแทบดูไม่ได้
เธอเม้มปากแน่นกลั้นเสียงสะอื้นจากความเจ็บปวดที่ได้รับบริเวณฝ่าเท้าเปลือยเปล่าที่แตกยับจากการวิ่งหนีใครบางคนอย่างไม่คิดชีวิต
แสงสว่างเป็นดวงๆ ลอยอยู่ด้านหน้าไม่ไกลจากจุดที่เธออยู่นัก จึงกลั้นใจฝืนทนต่อความเจ็บแสบปวดแปลบแล้วใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งทะยานไปข้างหน้าตามแสงไฟที่ลอดผ่านแนวพุ่มไม้นั้น
อีกนิด อีกเพียงนิด ในที่สุด..เธอพุ่งตัวพ้นแนวพุ่มไม้ขนาดใหญ่ แสงไฟบนท้องถนนสว่างวาบขึ้นตรงหน้าพร้อมกับเสียงห้ามล้อดังสนั่น
คนตัวบางที่น้ำตาไหลอาบแก้มเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ขาเรียวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะขยับไปไหนอีกแล้ว จึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาบังแสงไฟ ก่อนความสว่างวาบนั้นจะถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดราวกับเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ไม่มีผิดพร้อมๆ กับสติสัมปชัญญะสุดท้ายของสาวน้อยผู้แสนโชคร้ายนี้จะวูบดับลงไป
“เห้ยยยยย”
ชายหนุ่มหล่อเหลาเรือนร่างใหญ่โตที่อยู่เบื้องหลังพวงมาลัยรถยนต์คันหรูราคาแพงที่การันตีสมรรถนะในการขับขี่ร้องลั่น เมื่ออยู่ๆ ก็มีผู้หญิงตัวบางๆ วิ่งทะเล่อทะล่าออกมายืนขวางหน้ารถของเขาในระยะไม่ไกลนัก
เขาเหยียบเบรกและประคองพวงมาลัยเพื่อหักหลบไปอีกเลนหนึ่งของถนนขนาดเล็กนอกเมือง โชคดีเหลือเกินที่เวลานี้ไม่มีการสัญจรขวักไขว่เหมือนช่วงหัวค่ำจึงไม่มีรถสวนมาให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ
รถยนต์สัญชาติยุโรปสมรรถนะดีเยี่ยมหยุดตัวเองลงได้หลังจากต้องไถลเปลี่ยนเลนไปไกล ผู้ชายที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วรีบมองกระจกหลังเพื่อดูว่าผู้หญิงที่เห็นเมื่อครู่ยังมีตัวตนอยู่ไหม ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน จึงรีบขับรถกลับมาอยู่ในเลนปกติของตัวเองแล้วขยับเข้าจอดชิดริมขอบทาง ก่อนจะรีบวิ่งไปดูคนที่นอนอยู่กับพื้นถนนนั้นอย่างรวดเร็ว
“คุณ คุณครับ คุณ”
เขากวาดสายตามองหาร่องรอยบาดแผลแล้วคลำหาชีพจรก็พบว่าเธอยังมีสัญญาณชีพปกติ และไม่มีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชน คาดว่าน่าจะตกใจจนเป็นลมเสียมากกว่า
ดวงตาคมกริบกวาดมองโดยรอบบริเวณอีกครั้ง ก็ไม่อาจทำใจเย็นโทรเรียกรถโรงพยาบาลมารับผู้หญิงคนนี้ได้ เพราะบริเวณนี้คือถนนเลี่ยงเมืองที่ค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีบ้านผู้คน จึงไม่ใช่เรื่องปกติเลยที่จะมีผู้หญิงไม่ใส่รองเท้าวิ่งทะเล่อทะล่าออกมาจากชายป่าข้างทางจนเกือบจะโดนรถชนแบบนี้
เมื่อประเมินจากสถานการณ์แล้วว่าน่าจะมีอันตรายมากกว่าปลอดภัย จึงรีบอุ้มผู้หญิงตัวบางที่ร่างกายเบาดุจปุยนุ่นเข้าไปในรถของตัวเองแล้วรีบขับออกจากบริเวณนี้ด้วยความรวดเร็วทันที
ดวงตากลมโตค่อยๆ เปิดปรือขึ้นมาทีละนิด จนเบิกกว้างแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจสุดขีด
“กรี๊ดดดดดดด”
นี่คือเสียงแรกที่เล็ดลอดออกมาหลังจากเหตุการณ์เฉียดตายที่ผ่านมาทั้งหมด
คนตัวบางหลับหูหลับตากรีดร้องและนั่งกอดเข่าตัวสั่นสะท้าน ประตูห้องพักถูกเปิดเข้ามาพร้อมด้วยชายหนุ่มในชุดกาวน์พุ่งตัวมากอดกระชับเธอเอาไว้
“ไม่ต้องร้อง ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว”
สาวน้อยที่ดูแสนเปราะบางราวตุ๊กตากระเบื้องค่อยๆ ขยับตัวออกมาจากอ้อมกอด มองเขาด้วยดวงตาสั่นระริกดั่งนกน้อยหลงทางดูน่าสงสารจนใจแกร่งกระตุกวูบ
“ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว จำเบอร์โทรของครอบครัวได้ไหม ฉันจะโทรให้มารับเธอกลับบ้าน”
“มะ ไม่ค่ะ คุณหมออย่าบอกใครนะคะ หนูขอร้อง”
คนตัวบางละล่ำละลักปฏิเสธความหวังดีของหมอหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร โชคดีเหลือเกินที่เธอไม่มีเอกสารแสดงตัวใดๆ ติดอยู่กับตัวเลย ไม่อย่างนั้น ป่านนี้คนใจร้ายนั่น ต้องมาลากเธอกลับไปขายชายแดนอีกรอบแน่ๆ
“ทำไม มีอะไร บอกฉันได้นะ ฉันเป็นคนที่เธอวิ่งมาตัดหน้ารถเมื่อคืนนี้และเป็นคนพาเธอมารักษาเอง เธอไว้ใจฉันได้ ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ หรืออยากให้ฉันแจ้งความเรียกตำรวจมาร่วมรับฟังปัญหาของเธอด้วยก็ได้”
“มะ ไม่ต้องค่ะคุณหมอ หนะ หนู หนูไม่ต้องการกลับไปอยู่ที่บ้านอีก ขอร้อง อย่าบอกคนที่บ้านหนูเลยนะคะว่าหนูอยู่ที่นี่”
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
คนตัวบางห่อไหล่ลู่ลงจนน่าสงสาร เธอมองเขาด้วยแววตาลังเล ไม่แน่ใจว่าจะไว้ใจชายแปลกหน้าคนนี้ได้หรือเปล่า แม้ว่าเขาจะคือคนที่ช่วยชีวิตของเธอก็ตามที
“บอกฉันได้ แล้วเธอจะปลอดภัย ฉันสัญญา”
เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ แล้วพรั่งพรูเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของเธอฟัง
“หนูหนีออกมา น้าจิน แม่เลี้ยงของหนู ขายหนูให้กับเจ้าของบ่อนที่น้าจินติดหนี้ มันกำลังจะเอาหนูไปขายที่ชายแดน แต่หนูหนีออกมาจากรถตอนที่พวกมันลงไปฉี่ข้างทาง”
“ถึงว่า เธอวิ่งออกมาที่ถนนทั้งๆ ที่ไม่มีรองเท้า รู้ไหมเท้าเธอแตกยับเลย แล้วพ่อของเธอล่ะ เขาอาจจะไปแจ้งความแล้วก็ได้นะ”
“พ่อหนูเสียไปหลายเดือนแล้วค่ะ พอพ่อเสีย แม่เลี้ยงก็ติดการพนัน”
“แจ้งความไหม ฉันจัดการให้”
“ไม่ค่ะ คุณหมอไม่รู้หรอก ว่าเจ้าของบ่อนนั่นมีอิทธิพลขนาดไหน ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นหน้าหนู แต่ถ้าเขารู้ว่าหนูแจ้งความ เขาต้องตามมาฆ่าหนูแน่ๆ หนูต้องการให้คนพวกนั้นคิดว่าหนูตายหรือหายสาบสูญไปแล้ว หนูจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ ไม่กลับไปเจอหน้าคนพวกนั้นอีก”
“แล้วเธอจะทำอะไร มีญาติพี่น้องคนอื่นอีกหรอ”
“มะ ไม่มีค่ะ หนูไม่มีใครแล้ว”
คนตัวบางก้มหน้าลง ความสะเทือนใจกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตาใสๆ ไหลอาบใบหน้านวลที่ต่างจากเด็กมอมแมมเมื่อคืนราวฟ้ากับดิน
หมอหนุ่มรูปหล่อถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความสงสารคนตัวบางที่มีชะตาแสนอาภัพ มือใหญ่ทั้งสองข้างจับใบหน้าเรียวๆ นั้นให้เงยหน้าขึ้นมามองเขา แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยหยาดน้ำตานั้นจนแห้งสนิท
ดวงตาคมกริบกวาดมองใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตากลมโตหวานฉ่ำ คิ้วถูกกันแต่งเป็นทรงสวย จมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงเรื่อ ผิวพรรณขาวผ่องราวน้ำนม เรือนร่างบอบบางแต่อวบอิ่มไปด้วยวัยสาวที่เขาได้เห็นมาแล้วเพียงชั่ววินาที เมื่อคืนตอนที่เหล่านางพยาบาลตรวจร่างกายของเธออย่างรีบเร่งก่อนที่หมอผู้หญิงที่ถูกตามตัวอย่างเร่งด่วนจะมาถึง จึงหมดหน้าที่ของหมอผู้ชายอย่างเขา
เขายืนรอหมอผู้หญิงตรวจร่างกายของเธออย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมอยู่ด้านหลังผ้าม่าน ใจแกร่งเต้นระทึกระหว่างรอลุ้นผลการตรวจร่างกายบอบบางขาวโพลนนั้น
แล้วก็ต้องลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อหมอที่ทำการรักษาเดินออกมารายงานผลว่าเธอตกใจจนช็อกและเป็นลมหมดสติไป แถมร่างกายยังอ่อนเพลีย มีแผลแตกที่เท้า ส่วนร่างกายส่วนอื่นๆ ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไรและที่สำคัญไม่มีร่องรอยการถูกล่วงละเมิด
“ไม่มีใคร ก็อยู่กับฉัน ฉันจะดูแลเธอเอง”
“คุณหมอ..”
“ฉันชื่อน่านฟ้า เรียกหมอน่านก็ได้ แล้วเธอล่ะชื่ออะไร อายุเท่าไหร่”
น่านฟ้า อธิพัฒน์โภคิน หมอหนุ่มวัย 30 ปี เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนี้ส่งยิ้มอบอุ่นให้ลูกนกปีกหักตรงหน้า
คนตัวบางมองสบตากับชายหนุ่มรูปหล่อที่กำลังส่งยิ้มอ่อนให้กับเธอด้วยหัวใจเต้นระรัว ใบหน้าขาวสะอาด ดวงตาคมกริบสีดำขลับ คิ้วเข้มดกดำ จมูกโด่งจัด ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดราวกับผลเชอร์รี่ คางเหลี่ยมกำลังดีรับกับสันกรามโค้งมน ผมรองทรงไถข้างสั้นแสกกลางปล่อยปลายผมลงมาปรกหน้าผาก ภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวสะอาด เขามีรูปร่างสูงใหญ่ผิวพรรณขาวจัดเนียนละเอียดราวผิวเด็กยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลากร้าวใจ
“หนูชื่อมะลิ อายุ 18 ปีค่ะ”
มะลิ ชื่อช่างเหมาะสมกับตัว ผิวพรรณที่ขาวผ่องหอมกรุ่นด้วยวัยสาวของเธอ แถมท่าทางบอบบางราวกับกลีบของดอกมะลินั่นช่างเหมาะสมกับเจ้าของชื่อจริงๆ
“ว่าไง ตกลงจะไปอยู่กับฉันไหม มะลิ ฉันจะส่งเธอเรียนเอง”
“แล้วครอบครัวหมอน่านไม่ว่าเอาหรอคะ หนู..”
“คิดมาก ไม่มีใครว่าอะไรหรอก พ่อกับแม่ฉันใจดี”
สาวน้อยครุ่นคิดอีกครั้ง เพราะไม่อยากที่จะเป็นภาระของใคร แต่จะให้เด็กอายุ 18 อย่างเธอที่ไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้วมีชีวิตรอดในสังคมต่อไป มันเป็นไปไม่ได้เลย
“ก็ได้ค่ะ หนูจะไปอยู่บ้านหมอ ขอบคุณมากนะคะ ถ้ามีอะไรที่หนูตอบแทนหมอได้ขอให้หมอรีบบอกมาเลยค่ะ หนูยอมทำทุกอย่าง”
“ทุกอย่างเลยหรอ”
คนหล่อเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ดวงตาที่มองสบกับสาวน้อยสว่างวาบขึ้นชั่ววินาที ก่อนจะมอดดับลงเป็นปกติดังเดิมโดยที่เธอไม่ทันได้เห็น
“ค่ะ ทุกอย่าง เพราะหมอช่วยชีวิตหนูเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหนูอาจจะถูกพวกมันฆ่าตาย หรือไม่ก็ถูกส่งไปขายกลายเป็นโสเภณีที่ชายแดน หนูติดหนี้บุญคุณหมอ ต่อให้ยากเย็นแค่ไหน ถ้าหมอต้องการ หนูก็จะทำให้ค่ะ”
“หึหึ เอาไว้ก่อนแล้วกัน ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออกว่าต้องการอะไร ไว้ถ้านึกได้ จะบอกเธอแล้วกันนะ”
“ค่ะ ขอบคุณหมอมากค่ะ”
สาวน้อยตัวบางยิ้มหวาน ก่อนจะพนมมือก้มลงไหว้ผู้มีพระคุณอย่างนอบน้อมสวยงามตามที่คนเป็นพ่อได้สั่งสอนมา มันน่าเอ็นดูจนหมอหนุ่มต้องส่งมือไปลูบศีรษะทุยนั้นเบาๆ
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าหมอจะอยู่ในห้อง”
นางพยาบาลสาวสวยเดินเข้าห้องมาพร้อมเสื้อผ้าคนไข้ชุดใหม่และรถเข็นใส่อาหาร
“อืม พอดีผมมาดูคนไข้น่ะ ยังไงฝากด้วยแล้วกันนะครับ ผมมีไปดูคนไข้ห้องอื่นอีก ฉันไปก่อนนะมะลิ เดี๋ยวค่ำๆ จะแวะมาดูอีกรอบ”
“ขอบคุณมากค่ะ หมอน่าน”
จำเอาไว้ว่าผัวของเธอชื่อ “เหนือเมฆ” หลังจากนี้ ถ้าเธอไปอ่อยผู้ชายหน้าไหนอีก..ฉันเอาเธอตายแน่
เธอ..เป็นของต้องห้ามสำหรับเขา..คุณหนูผู้เอาแต่ใจ ลูกสาวเจ้านายผู้มีพระคุณ เขา..เป็นของร้อนสำหรับเธอ อยู่ใกล้แล้วมันร้อนรุ่ม บอดี้การ์ดหน้าโหดที่ขัดใจเธอไปเสียทุกอย่าง และแม้ว่าบอดี้การ์ดอย่างเขา จะอยากขย้ำเธอให้จมเขี้ยวสักเท่าไร แต่ก็ทำได้เพียงอดทน..จนกว่าจะถึงวันที่เขา..คู่ควร
ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!