เพราะวันนี้มีนัดกับคนสำคัญ เภตราจึงแต่งตัวสวยเป็นพิเศษกระทั่งถึงเวลานัดหมายรถยุโรปคันสวยมูลค่าหลายล้านก็แล่นเข้ามาจอดรอที่หน้าบ้าน ก่อนที่ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาจะเปิดประตูรถลงมายืนเต็มความสูงเพื่อรออีกฝ่ายที่เวลานี้กำลังเดินออกมาจากตัวบ้านพร้อมมารดา
ร้อยแก้วพยายามถามว่าที่ลูกเขย เพราะเธอถามลูกสาวแล้วแต่เภตรากลับส่ายหน้าแล้วอธิบายว่าตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าณดลจะพาไปไหน เมื่อส่งทั้งคู่เสร็จเธอก็เดินกลับเข้าบ้านตรงไปสมทบกับสามีที่เวลานี้อยู่ในห้องนั่งเล่น
“ดลมารับขิมไปแล้วเหรอ” พฤกษ์เอ่ยถามภรรยาขึ้น
“ค่ะ ฉันถามว่าจะพากันไปไหนก็ไม่ยอมบอก”
“ลูกกลับมาก็คงเล่าให้ฟังเอง” ร้อยแก้วพยักหน้ารับเห็นด้วยแม้จะอยากรู้แต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ ก่อนเข้าไปนั่งข้างๆ สามีแล้วพูดคุยกันถึงเรื่องงานแต่งงานของลูกสาวคนเล็กที่น่าจะใกล้เข้ามาเต็มที
นั่นเพราะตอนนี้เภตราและณดลหมั้นหมายกันมาได้เกือบปีแล้ว ผู้ใหญ่ฝ่ายชายก็เกริ่นถึงเรื่องแต่งงานอยู่เนืองๆ เห็นว่าแต่งงานกันเมื่อไหร่ณดลอาจต้องย้ายไปคุมงานที่สาขาต่างประเทศซึ่งเภตราในฐานะภรรยาก็น่าจะต้องเดินทางไปด้วย
โดยขณะนั้นว่าที่บ่าวสาวก็กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ในรถ ก่อนที่เภตราจะกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสนใจกระทั่งเห็นณดลเลี้ยวเข้าโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง หัวใจของเธอก็เต้นโครมครามขึ้นมาทันทีเพราะสมองจินตนาการไปถึงบางเรื่องแล้วนั่นเอง
“เรามาทำอะไรที่นี่กันหรือคะ”
“ดูเรือนหอครับ ผมขอโทษที่ถือวิสาสะพาคุณขิมมาทั้งๆ ที่ไม่ได้ถาม” นั่นเพราะณดลใจร้อนอยากเซอร์ไพรส์เภตรา อีกอย่างจำนวนบ้านในโครงการที่เขาสนใจก็ลดน้อยลงไปทุกวัน แม้ราคาของบ้านแต่ละหลังจะหลายสิบล้านทว่ากลับมีคนสนใจมากกว่าที่คิดรวมไปถึงเขาที่มองว่ามันคุ้มค่าที่จะซื้อ
“ไม่ค่ะ”
“หลังจากที่เราแต่งงานกันผมอาจต้องเดินทางไปดูงานที่สาขาต่างประเทศ แต่ยังไงผมก็อยากมีบ้าน บ้านที่เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน”
“ค่ะ” เภตราพยักหน้ารับอย่างเขินอาย ยิ่งได้รู้จักเธอก็ยิ่งรักในตัวของณดล ชายหนุ่มเป็นนักวางแผนที่ดีที่ทำให้เธอมองเห็นอนาคตร่วมกันกับเขาได้ไม่ยากและเขาก็ค่อนข้างตรงไปตรงมากับความรู้สึก แม้บางครั้งจะทำเธออึ้งก็ตาม
ณดลเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังลานจอดหน้าคลับเฮาส์ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ลงมาต้อนรับพร้อมกางร่มให้ เมื่อเข้าไปนั่งในห้องแอร์เย็นๆ เจ้าหน้าที่อีกคนก็นำน้ำแร่รวมถึงมาการองจากร้านดังมาเสิร์ฟให้ลูกค้าคนสำคัญ
จากนั้นก็อธิบายถึงคอนเซ็ปต์ของโครงการแล้วจึงพาไปชมบ้านตัวอย่างที่อยู่ไม่ไกลนัก ที่นี่ค่อนข้างเน้นเรื่องสังคมคุณภาพและความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านเพราะทั้งโครงการมีเพียงแค่ 50 หลังเท่านั้น แต่ยิ่งเภตราเห็นแบบบ้าน ผังการตกแต่งหรือแม้แต่ของตกแต่งบางชิ้น จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัว
“เป็นไปไม่ได้” เภตราพึมพำออกมาเพราะเวลานี้เขาคนนั้นไม่น่าจะอยู่กรุงเทพฯ แต่ท่าทางไม่ปกติของเธอทำให้ณดลที่อยู่ใกล้สังเกตเห็นจึงเอ่ยถามขึ้น
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร” หญิงสาวส่ายหน้าให้เขาแล้วสลัดเรื่องในหัวทิ้งเพื่อสนใจกับบ้านตัวอย่างต่อ แต่เภตราก็ทำได้เพียงไม่นานเนื่องจากสมองมันไม่ยอมทำตามที่เธอสั่งเสียแล้ว
‘ถ้ามีบ้าน ขิมอยากมีบ้านแบบไหน’
‘แบบนี้ค่ะ’
แบบบ้านถูกส่งไปให้อีกฝ่ายได้ดู ซึ่งมันคือบ้านที่เธอออกแบบด้วยตัวเอง
‘แบบนี้เหรอ’
‘ค่ะ’
‘ผมจะสร้างให้’
‘จริงๆ นะ’
‘ครับ ผมสัญญา’