นายกวิน ศศิจาวาวัตร์ อายุสามสิบปี ผิวขาวจมูกโด่งตาคมนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ลุคของกวินออกไปทางลูกครึ่งนิด ๆ เพราะเขาเป็นลูกผสมหรือจะเรียกว่าลูกเสี้ยวจากรุ่นปู่ย่าตายาย จึงทำให้สาว ๆ นั้น สนใจเขาไม่น้อยและแน่นอนสาวคนไหนได้หลงเข้ามาใกล้ ก็มักจะเสร็จเขาทุกราย กวินเป็นเสือผู้หญิงซุ่มกินเงียบ แต่แล้ววันหนึ่ง ชายหนุ่มถูกบังคับให้แต่งงาน เมื่อเขานั้นมีอายุที่มากขึ้น แต่ความรับผิดชอบนั้นแทบจะไม่มี จนทำให้บิดาและมารดาตัดสินใจ ยื่นคำขาดหากเขายังทำตัวเสเพลเที่ยวเตร่ไปวันๆ ก็จะต้องแต่งงานกับนาตาชาสาวลูกครึ่งไทยอเมริกัน ที่สวยเซ็กซี่ไม่แพ้หญิงใด แต่ภายในใจของกวินกลับมีใครอีกคน อยู่เต็มหัวใจ ที่เขานั้นไม่อาจแบ่งมันไปให้กับใครได้อีกแล้ว นางสาวมารียา แมคนัลด์ ชื่อเล่นว่ามะลิ อายุยี่สิบห้าปี ใบหน้าคม ในลุคของสาวลูกครึ่ง สวยสะกดทุกสายตา เมื่อใครต่างมองมาก็ต้องชื่นชมและลุ่มหลง ในความงามของเธอ มารียาเป็นสาวสวยลูกครึ่งไทยอังกฤษ แต่ชีวิตกลับผกผัน เมื่อบิดาและมารดาเสียชีวิตไปพร้อมกันอย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอโตมาเพราะยายเป็นคนเลี้ยงดู ซึ่งยายเป็นคนอีสาน และการเดินทางมากรุงเทพฯ ในครั้งนี้ก็เพื่อหางานทำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตานำพาหรืออย่างไร ในขณะที่เธอเดินผ่านห้างสรรพสินค้าชื่อดัง มีแมวมองสนใจและได้ชักนำพาเธอเข้าไปทำงานในวงการบันเทิง ปัจจุบันมารียาเป็นดาราแนวหน้าของเมืองไทย ที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก แต่เธอกลับปิดกั้นเรื่องความรัก และนั่นยิ่งทำให้ทุกคนชอบ เมื่อเธอนั้นไม่เคยมีข่าวเสียหายกับชายใดมาก่อน แต่ในเวลานี้เรื่องวุ่นๆ ในชีวิตของเธอกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อชายหนุ่มที่เธอนั้นไม่ได้รู้จักมักคุ้น เขาคอยตามเธอเป็นเงามาเป็นปี ในที่สุดความรู้สึกที่เธอมีนั้นก็ค่อย ๆ รับเขาเข้ามาในหัวใจอย่างไม่รู้ตัว ฝากเอ็นดูกวินกับมารียาด้วยนะคะ (เรื่องนี้ต่อจากความลับของท่านประธานนะคะ)
ณ บ้านของแบงก์ ซึ่งเป็นจุดรวมพลของแก๊งเสือหนุ่ม ทุกคนต่างจับจ้องมาที่ใบหน้าของกวิน เมื่อเขานั้นกำลังนั่งหมดอาลัยตายอยากให้กับชีวิตที่กำลังจะผกผันในไม่ช้า
"สรุปมึงจะมานั่งอมทุกข์ ให้พวกกูดูว่างั้น มึงจะเอายังไงก็รีบพูดมา กูคิดถึงพระอาทิตย์กับพระจันทร์จะแย่แล้ว" เก้าพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแฉ่ง เมื่อเขานั้นกำลังพูดถึงลูกรักแฝดชายหญิงวัยเตาะแตะกำลังซน
"กูยอมจริงๆ เลย ชื่อของลูกมึงเนี่ย กูว่านะ มึงรีบผลิตออกมาอีกเยอะๆ แล้วใช้ชื่อให้ครบจักรวาลไปเลย ชื่อลูกโลกก็ได้นะ กูว่ามันครอบคลุมดี" แบงก์พูดออกมาอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่สายตาของเก้ามองมาที่เพื่อนรักอย่างขัดใจ
"ลูกโลกชื่อเพราะดีวะ เอาไว้ตั้งให้ลูกมึงคนต่อไปนะแบงก์ เบลล่ากับลูกโลกคล้องจองกันจะตายเชื่อกู" เก้าพูดออกมาในขณะที่ แบงก์เริ่มมีสีหน้าสงสัย
"คล้องจองกันตรงไหนวะ ไอ้นี่ตกภาษาไทย" แบงก์พูดออกมาในขณะที่เพื่อนๆ นั่งส่ายหัว ให้กับความซื่อหรือโง่ของเขาก็ไม่รู้
"ไอ้พายุบอกกูมาหน่อยซิ มึงจัดการกับแพรยังไงวะ กูอยากเอาไปใช้บ้าง แม่ง! แม่ดารามารียาของกู ตามตื๊อมาเป็นปีแค่ขี้เล็บยังไม่ได้สัมผัสเลย" กวินพูดออกมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ทั้งที่เสือหนุ่มอย่างเขามีผู้หญิงมากมายที่วิ่งเข้าหา แต่เขากลับเลือกมารียาที่เย็นชาใส่ราวว่าชายหนุ่มไม่มีตัวตน บางทีเขาก็แอบสงสัยว่าเธอไม่มีหัวใจเลยใช่ไหม ขนาดตามตื๊อมาเป็นปียังไม่เคยใจอ่อนให้เขาเลยสักที
"มานี่กูจะบอก แต่ห้ามเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟัง ไม่อย่างนั้นเมียกูเอาตายแน่!" พายุพูดพร้อมกับกระซิบลงไปที่ข้างหูของกวิน ถึงวิธีการที่เขานั้นเคยทำให้แพรไหม ต้องยอมพลีกายให้กับเขา อย่างไม่มีทางขัดขืนในสิ่งที่ประธานหนุ่มต้องการได้
"ไอ้เชี้ย! ไอ้เลว! แต่แผนมึงเจ๋งวะเพื่อน" กวินพูดออกมาเสียงดัง พร้อมกับดวงตาที่ฉายแววร้ายออกมา เมื่อเขานั้นไม่สามารถหาวิธีพิชิตใจมารียาได้ แม้เธอเองก็ไม่มีท่าทีจะชอบเขาเลยสักนิด แต่ถึงยังไงกวินก็จะเดินหน้าต่อ แน่นอนอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ย่อมไร้ค่าไร้ราคาเช่น เพราะนารีคนอื่นๆ ที่ยอมพลีกายให้กับเขาง่ายๆ เพียงเพราะเงินตรา จึงทำให้มารียาดูมีค่ากว่าใครๆ
"แผนอะไร เล่ามาเลยนะไอ้กวิน" แบงก์ถามออกมาเสียงดัง เมื่อเขาเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่ดูเหมือนมีแผนการผุดขึ้นมาจากมุมปากของกวิน
"ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากมีเมียจนตัวสั่น และกำลังคิดหาวิธี ที่จะได้เมียมาเป็นตัวเป็นตนก็เท่านั้นเอง" คำพูดของกวินทำให้แบงก์กับเก้ามองตากันปริบๆ เมื่อเขากำลังคิดว่าแผนการของกวิน จะต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน ภายใต้สายตาคมที่ฉายแววออกมามันดูมีเลศนัยแอบแฝงชอบกล
"มีอะไรค่อยคุยกันวันหลัง ได้เวลาไปรับลูกแล้ว ป่านนี้ยัยลูกหมู คงทำหน้างอที่คุณป๋าไปรับช้าขอตัวก่อนนะครับทุกคน" พายุพูดพร้อมกับเดินตรงไปที่รถ เมื่อลุงนนท์ลากลับบ้าน เขาจึงมีหน้าที่รับส่งใยไหมในขณะที่แพรไหมนั้นเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน เพราะสายฟ้ากำลังซน จึงทำให้ผู้ช่วยนักออกแบบ กลายเป็นคุณแม่ลูกอ่อนไปโดยปริยาย
"ท่านประธานไปแล้ว ขอตัวนะครับคุณกวิน ผมคิดถึงเด็กแฝดใจจะขาดแล้ว" เก้าพูดจบก็เดินออกไป ปล่อยให้แบงก์และกวินมองตามอย่างหมั่นไส้ ที่เสืออย่างเก้า โดยภรรยาอย่างขวัญดาวถอดเขี้ยวเล็บ
"สรุปแล้วมีแผนอะไร อย่าบอกนะว่าจะใช้วิธีสกปรกกับแม่ดาราสาวนั่น กูว่ามันเสี่ยงอยู่นะ ถ้าเธอมีใจให้ก็ดีไป แต่ถ้าหากเธอมีใครอยู่ในใจแล้ว มึงกำลังจะทำผิดมหันต์กับผู้หญิงคนหนึ่ง ชีวิตนี้คุณอาจจะไม่ได้รับการอภัยจากเธอก็ได้ คิดเอาเองนะครับคุณกวิน" คำพูดของแบงก์เริ่มทำให้กวินลำบากใจ เมื่อสิ่งที่กำลังคิดจะทำนั้น ผลของมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวังเอาไว้
"ขอบใจที่เตือน ขอตัวนะ ไม่กวนแล้ว" กวินพูดจบก็เดินจากไป ปล่อยให้แบงก์มองตามด้วยความแปลกใจ เมื่อเขานั้นแค่พูดออกไปเล่นๆ นึกไม่ถึงว่ากวิน จะคิดทำเรื่องแบบนั้นกับผู้หญิงได้
เมื่อกวินขับรถตรงมาจอดที่ข้างรั้วบ้านของอารียา แม้เธอจะเป็นดารา แต่หญิงสาวก็ไม่ชอบอยู่คอนโดหรูหราเหมือนกับคนอื่นเขา อารียาตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรหลังไม่เล็กไม่ใหญ่มาก เพราะเธอนั้นต้องอยู่คนเดียว ดาราสาวเคยชวนยายมาอยู่ด้วยหลายครั้ง แต่หญิงสูงวัยก็ปฏิเสธเธอทุกครั้ง เมื่อเมืองกรุงศรีวิไลไม่เหมาะกับหญิงแก่ๆ อย่างยายของเธอ เพราะอยู่บ้านนอกมีบรรยากาศสดชื่น ที่แสนจะร่มรื่นน่าอยู่น่าอาศัย ท่ามกลางต้นไม้และท้องทุ่ง
อารียานั่งอยู่ที่สวนหย่อมหน้าบ้าน วันนี้เธอไม่มีงานที่กองถ่าย เพราะเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดที่ดาราสาวจะงดรับงาน เพื่ออยู่บ้านคุยกับผู้เป็นยาย
"เป็นจั่งได๋ยายบ่ออยากมาหยามหลานเลยติ งานมะลิจั่งแม่นหลายคัก คิดฮอดยายเด้อ ให้อ้ายสิงห์พาขึ้นเครื่องบินมาบ่อได้ติยาย" (เป็นไงบ้างยายไม่อยากมาเยี่ยมหลานเลยเหรอ งานมะลิเยอะมาก คิดถึงยายจัง ให้พี่สิงห์พาขึ้นเครื่องมาไม่ได้เหรอคะยาย) ดาราสาวพูดจากออดอ้อนผู้เป็นยายออกไป ผ่านสมาร์ตโฟนเครื่องแพง
"โอ๊ย! บ่อเด้อ! ยายย้าน นั่งรถไฟกะพอแฮงแล้ว ให้ขึ้นเครื่องบินพะนะ บ่อเอาดอก ขาบ่อถึงดินจั่งได๋ จั่งได๋กะบ่ขึ้นเด็ดขาด มื่อได๋อีหล่าว่างกะจั่งมาหยามยายเด้อ" (โอ๊ย! ไม่นะยายกลัว นั่งรถไฟก็จะแย่แล้วให้นั่งเครื่องบินไม่เอาหรอก เท้าไม่ถึงพื้นดินยังไงก็ไม่ขึ้นเด็ดขาด เมื่อไหร่หนูว่างค่อยมาเยี่ยมยายก็ได้) คำพูดของผู้เป็นยายทำให้ดาราสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แน่นอนอารียานับวันตั้งตารอให้ถึงวันอาทิตย์ไวๆ เพราะมันเป็นวันเดียวที่เธอนั้นได้คุยกับผู้เป็นยายแบบเต็มอิ่ม หญิงสูงวัยที่เติมเต็มทุกสิ่งเข้ามาในเสียงสมาร์ตโฟน ส่งผลให้เธอนั้นมีพลังอยากสู้ทำงานต่อไป แม้ว่าเธอนั้นจะปลดหนี้ให้กับผู้เป็นยายไปได้หมดแล้วก็ตามที มารียาตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินอีกไม่กี่ปีก็จะลาออกจากวงการไปอยู่บ้านกับผู้เป็นยาย
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
น้ำเหนือ ธนาลักษณ์ (อายุ 32ปี) ชายหนุ่มผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังจากความรัก จนเขาคิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะรักใคร สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกที่จะหยุด แต่ไม่ใช่การยุติเรื่องบนเตียง เขาเลือกที่จะซื้อกินมากกว่า เพราะเขาเชื่อว่าผู้หญิงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์เลือกเงินมากกว่าความรัก เฉกเช่นอดีตคนรักของเขาที่หนีไปแต่งงานกับเศรษฐีดูไบ จนทำให้เขากลายเป็นผู้ชายไร้หัวใจมาจนถึงทุกวันนี้ ทานตะวัน ประสบโชคดี(อายุ 20ปี) ชื่อนี้มาจากดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียว ใจเดียว แต่ชีวิตของเธอกลับพบเจอแต่ปัญหา หลังจากบิดาติดการพนันอย่างหนัก ดาวเรืองผู้เป็นมารดาจึงคิดหาทางออก โดยการนำลูกสาวไปฝากไว้กับคุณนายจันทร์ฉาย (ทวดเล็ก) เพราะกลัวมารุตจะขายลูกสาวให้กับเจ้าหนี้ของเขา ซึ่งล้วนมากด้วยอิทธิพลในธุรกิจสีเทา
นารา หญิงสาวต่างจังหวัดอายุยี่สิบปี รูปร่างผอมเพรียวแลดูสมส่วน เธอเป็นหญิงสาวน่ารัก มองโลกในแง่ดี บ๊องแบ๊ว ใครเห็นต่างก็ชอบในความสดใสน่ารักของเธอ แต่ใครเล่าจะรู้ลึกๆ แล้ว หญิงสาวแค่สร้างมันขึ้นมา เพื่อเป็นกำแพงในใจที่ปวดร้าว เมื่อบิดากับมารดาต้องหย่ากัน เธอเจ็บลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจ แต่ยังทำตัวสดใสร่าเริง เพื่อให้มารดากับน้องชายรับรู้ว่าเธอสามารถ ที่จะเป็นเสาหลักที่ดีและแข็งแรงให้กับครอบครัวได้ พอจบมัธยมปลาย เธอตัดสินใจเรียนต่อแค่อนุปริญญา เพราะหวังว่าเรียนจบมาแล้วจะได้หางานทำทันที เพื่อให้น้องชายเพียงคนเดียวที่อายุห่างกันกับเธอเพียงแค่สองปีได้เรียนต่อ และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่นาทีน้องชายคนเดียวของเธอสอบติดแพทย์ นาราไม่ลังเลเลย เมื่อเรียนจบเธอรีบเดินทางไปหาป้าที่กรุงเทพฯทันที ทั้งที่ขาดการติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว เธอหวังจะไปขออาศัยระหว่างที่หางานทำ ชีวิตของเธอจะผกผันแปรเปลี่ยนหักเหเพียงใด เมื่อเดินทางมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ ภูตะวัน พ่อเลี้ยงหนุ่ม หล่อล่ำสูงขาวกล้ามโต หุ่นนายแบบ อายุสามสิบห้าปี ที่มีไร่องุ่นส่งออกรายใหญ่ของประเทศ ไร่ของเขาอยู่ทางภาคเหนือ แต่ทว่าโรงงานผลิตไวน์อยู่แถวชานเมือง เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างหมายตา แต่เขากลับไม่เคยประกาศหรือควงผู้หญิงคนใดให้เห็นเลยสักราย สถานะของเขาคือโสด ชายหนุ่มเคยมีแฟน แต่รักครั้งนั้นมันยังฝังใจ เมื่อแฟนสาวอันเป็นที่รักนอกใจ หนีไปแต่งงานกับหนุ่มลูกครึ่ง เมื่อครั้งที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ความสนิทชิดใกล้หรือที่เขาเรียกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด มันเลยทำให้ความรักของเขาและเธอขาดสะบั้นลงไม่เป็นท่า แต่ตอนนี้เรื่องวุ่นๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา แน่นอนมันอาจจะไม่สงบอีกต่อไป และชีวิตของเขาต้องกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อเธอคนนั้นเดินเข้ามาในบ้านของชายหนุ่ม
นายนิโคลัส เคลดัลซ่าร์ คนสนิทมักเรียกเขาว่านิค อายุ 32 ปี เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์น่าค้นหา ด้วยหน้าตาที่เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ ยิ่งทำให้น่าหลงใหล เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ จมูกโด่งเป็นสันนัยน์ตาสีฟ้า สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง เขามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อนิโคล เมื่อบิดาเสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย เขาจึงกลับมาดูแลและสานต่อธุรกิจที่เมืองไทย ครอบครัวของเขาทำเกี่ยวกับผลไม้แปรรูปหลายชนิด เขาเป็นชายหนุ่มที่สาวๆ ต่างก็หมายตา แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่เคยมองใคร นอกจากเธอผู้หญิงคนนั้น หล่อนขอให้เขาช่วยเป็นแฟนเธอแค่คืนเดียว โดยที่เขานั้นได้เสนอข้อแลกเปลี่ยน ด้วยการมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอ ภายใต้เงื่อนไขแค่วันไนท์สแตนด์ จบแล้วแยกทางไม่มีอะไรค้างคาใจ และที่เขานั้นต้องแปลกใจคือเธอยอมตกลงอย่างง่ายดาย ที่สำคัญกว่านั้นนิโคลัสยังได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ นางสาวพริมโรส มารยาทงามเลิศ ทุกคนมักจะเรียกเธอว่าพิมพ์ เธออายุ 23 ปี เรียนมหา'ลัยปีสุดท้าย อีกไม่นานเดือนกว่าก็จะจบแล้ว เธอเป็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ ลูกครึ่งไทยเยอร เธอถูกอบรมเลี้ยงดูแบบไทยแท้ มารดาของเธอสอนให้รักนวลสงวนตัว เมื่อนางเคยพลาดพลั้งมีอะไรกับบิดาของพริมโรสจนตั้งครรภ์ เพราะความรักทำให้คนตาบอด เมื่อมารดาของเธอได้รู้ความจริงว่าชายอันเป็นที่รักนั้น เขาแค่หลอกลวงหวังแค่เสพสมจากกายของเธอ เขาไม่ยอมรับทารกน้อยในครรภ์ แต่นางก็อดทนกล้ำกลืนเลี้ยงดูพริมโรสจนเติบใหญ่ ได้อย่างสง่างามเธอสวยอย่างมีคุณภาพและทรงคุณค่าในตัว แต่ทว่าทุกอย่างกลับซ้ำรอยเดิม เมื่อพริมโรสเสียใจที่แฟนหนุ่มคบหาดูใจกันมานานถึงเจ็ดปี ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจวบจนจะจบปริญญาตรี แค่เธอไม่ยอมชิงสุกก่อนห่าม เขากลับประชดด้วยการนอกกายนอกใจเธอ มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนสนิทของพริมโรส หญิงสาวเสียใจจนแทบเสียสติ และแล้วเธอก็ประชดแฟนเก่าด้วยการหาใครสักคนมาเป็นแฟน เธอหวังเพียงแค่อยากแสดงให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นไม่แคร์ จนกระทั่งเธอยอมตกปากรับคำ มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนิโคลัสผู้ชายที่พบกันในผับ ที่สำคัญเธอนั้นไม่รู้จักกับเขามาก่อน.. ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ
เหมราช ชาติดำรงกุลชัย ชายหนุ่มรูปงามที่สาวๆ ต่างก็หมายตา หนึ่งในนั้นชื่อว่าคาเรนสาวลูกครึ่ง ที่สวยหุ่นเซ็กซี่ หล่อนมาฝึกงานที่บริษัทเขา จากนั้นหญิงสาวก็ทำความคุ้นเคย จนกระทั่งสนิทกัน เหมราชไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอนั้น อยู่ในสถานะไหน แต่เธอก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขานั้นควงไปไหนมาไหนบ่อยที่สุด แต่ทว่าวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นกับครอบครัวของเขา เมื่อบิดาล้มป่วยแล้วเสียชีวิตลงกะทันหัน การเงินที่บริษัทเริ่มมีปัญหา แต่ก็มีเพื่อนสนิทของบิดายินดีที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา โดยมีข้อแลกเปลี่ยน ให้เหมราชแต่งงานกับพิ้งค์พลอยลูกสาวของเพื่อนบิดา ที่เธอนั้นมีอายุห่างมากกว่าชายหนุ่มถึงสิบสองปี เมื่อเขาไม่มีทางเลือก และดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่ได้รักเขา เหมราชจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่แล้วเขากลับตกหลุมรักภรรยาของตัวเอง ขณะที่เธอนั้นเฉยชาและหมางเมินใส่เขา เหมือนกับว่าเธอนั้นไร้หัวใจ ซึ่งซึ่งภายในใจของเธอนั้นมีชายอีกคนอยู่ตลอดเวลา ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
นายอามันต์โด้ เดฟวารา มีชื่อไทยว่านักรบหนุ่ม นักธุรกิจเนื้อหอมลูกครึ่งไทยอังกฤษ อายุสามสิบปี สูงใหญ่หล่อล่ำเป็นที่หมายตาของสาวน้อยสาวใหญ่ เมื่อเขาเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนทุกคนมักจะหลงใหลในเสน่ห์ของอาร์มันโด้ ที่มีความเป็นชายเนื้อแน่นกำยำกล้ามเป็นมัดๆ การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ เพราะปมในอดีต ที่ทำให้เขามีความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายมาหลายสิบปี ซึ่งปมแค้นครั้งนี้ อาร์มันโด้จะไม่มีวันให้ครอบครัวของเธอนั้นมีความสุข อยู่บนกองเงินกองทองที่บิดาของเธอ เคยคดโกงตระกูลบิดาและมารดาของเขาไป จนบุพการีต้องฆ่าตัวตาย ก่อนจะทิ้งจดหมายผูกปมแค้นนี้เอาไว้ เพื่อรอวันให้ลูกชายได้ล้างแค้นทวงทุกอย่างคืนกลับมา นางสาวนารี กศิเทพพาณิชย์ อายุยี่สิบหกปี ลูกสาวคนเล็กของตระกูลกสิเทพพาณิชย์ ใครเล่าจะรู้ว่าเธอขมขื่นเพียงใด กับความทุกข์ตรม เมื่อบิดามารดารักลูกไม่เท่ากัน ทุกคนปฏิบัติกับเธอราวกับนารีเป็นทาสรับใช้ ทั้งที่เธอนั้นเป็นลูกในไส้ของแม่พิกุลกับพ่อศรเทพ แต่บิดากับมารดากลับรักลูกสาวคนรองกับพี่ชายคนโตมากกว่าเธอ ส่งเสียให้เรียน โรงเรียนดีๆ มหาวิทยาลัยดังๆ ไกลถึงเมืองนอกเมืองนา ส่วนนารีนั้น ตั้งแต่ประถม มัธยม จวบจนเข้ามหาวิทยาลัย โชคดีแค่ไหนที่ไม่ได้กู้ทุนรัฐบาลเรียน แม้จะได้เข้าศึกษา แต่บิดามารดาก็ได้ส่งเสียให้เรียนแค่โรงเรียนของรัฐ จวบจนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยที่เรียนก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่นารีกลับเรียนจบด้วยการคว้าเอาเกรดนิยมอันดับหนึ่งมาครองจนได้ แต่นั่นกลับไม่ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวเลยแม้แต่น้อย วันเกิดของรวีพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากวันนี้ มีแขกคนสำคัญมาร่วมงานด้วย เขานั้นคืออาร์มันโด้นักธุรกิจหนุ่มที่รวีนั้นหมายมั่นปั้นมือจะเอาชายหนุ่มมาเป็นคู่นอนให้ได้ แขกที่มาร่วมงานต่างก็แต่งองค์ทรงเครื่องประชันโฉมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะเจ้าของวันเกิด ที่ใส่ชุดราตรีเกาะอกสีแดงโชว์เต้าขาวอวบ เปิดแผ่นหลังโชว์เนื้อหนังมังสา จนใครต่อใครต่างก็ชื่นชมในความงามและเซ็กซี่ของรวี
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!