โจชัวเห็นดังนั้นจึงรีบถอยให้เจ้านายหนุ่มของเขาออกไปแต่โดยดี เพราะเห็นท่าเจ้านายตนมาแบบนี้แล้วเขาคงจะขัดอะไรไม่ได้ที่ผ่อนคลายของเจ้านายนั้นเขาพอจะรู้อยู่ว่าจะไปที่ไหน
เบนจามินเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลลอเปอร์เป็นลูกครึ่งไทยอิตาลีถูกเลี้ยงโดยคุณย่าของเขามาตั้งแต่เด็กๆ เป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจเพราะถูกตามใจอยู่บ่อยๆ หากแต่ชายหนุ่มเป็นคนที่เก่งในสายงานแทบจะทุกอย่างแถมยังเข้ามาบริหารงานแทนพ่อของเขาแทบจะทุกอย่างได้ดีอีกด้วย ประวัติเสียแทบจะไม่มีนอกเสียจากเรื่องผู้หญิงที่ทำให้ต้องเขม่นกับคู่ค้าธุรกิจอยู่บ่อยๆ เรื่องชู้สาวที่ผู้หญิงของอีกฝ่ายจะวิ่งโล่มาหาเขาเอง เพราะทั้งหนุ่มกว่าเก่งกว่ารวยกว่า
โรงพยาบาล
“บิลค่ารักษาของแม่เดือนนี้มาแล้วนะหลิว”
ต้นรักนั่งคุยกับต้นหลิวแฝดพี่ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวล เพราะเธอและพี่สาวของเธอต่างก็ช่วยกันทำงานเงินที่ได้มาส่วนใหญ่ก็ต้องมาใช้รักษาแม่เธอจนเกือบหมด แถมตอนนี้ที่เธอเครียดหนักก็เห็นจะเป็นพี่สาวของเธอก็พึ่งจะมาตกงานเพราะมีปัญหากับคนที่ทำงาน ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยยอมคนนั่นเอง
“อ่อ อืมเรื่องนี้เดี๋ยวหลิวจัดการเองรักไม่ต้องห่วง คืนนี้รักอยู่เฝ้าแม่ไปก่อนนะ”
ต้นหลิวดูบิลค่ารักษาเธอก็ต้องปั้นหน้าให้ยิ้มแย้มไว้ก่อนเพื่อที่น้องสาวของเธอนั้นจะได้ไม่กังวล พร้อมบอกให้ต้นรักนั้นเฝ้าแม่แทนเธอในคืนนี้ไปก่อน ด้วยมีธุระที่จะต้องไปทำ
“แล้วหลิวจะไปไหน”
ต้นรักถามคนเป็นพี่ด้วยสีหน้าสงสัย นี่ก็ดึกแล้วเธอไม่รู้ว่าพี่สาวเธอจะไปไหนอีก
“เค้าจะไปทำงานพิเศษน่ะ”
ต้นหลิวเลี่ยงที่จะตอบความจริง เพราะถ้าหากเธอบอกกับน้องเธอไปว่าเธอจะไปทำอะไรคงจะไม่ได้ไปเป็นแน่
“งานอะไรเหรอ”
ต้นรักก็ยังอยากจะรู้ว่าไอ้งานที่พี่สาวเธอจะไปทำมันเป็นงานอะไร ถ้าหากมันอันตรายเธอจะไม่ยอมให้พี่สาวเธอไปแน่นอน
“มันเป็นงานแถวๆคลับใกล้ๆนี่เองหลิวทำพวกเสริฟอาหารอะไรแบบนี้ เดี๋ยวขอตัวไปก่อนนะ”
ต้นหลิวเห็นว่าถ้าเธออยู่นานกว่านี้น้องเธอได้รู้แน่ว่าเธอจะไปทำอะไร จึงรีบปลีกตัวออกไปก่อนจะดีกว่าและปล่อยทิ้งให้ต้นรักสงสัยมีสีหน้าฉงนอยู่คนเดียว
ห้องตรวจ
“หมอครับ เคสคนไข้ที่หมอรับรักษา”
“ขอบคุณครับ”
คาวีหมอหนุ่มดีกรีลูกเจ้าของโรงพยาบาลที่พึ่งกลับมาจากการหาความรู้จากเมืองนอกจนจบปริญญาเอก ทำงานที่ต่างประเทศได้พักใหญ่มีฝีมือมากเมื่อชำนาญในเรื่องสายงานดีแล้วจึงกลับมาช่วยที่บ้านบริหารงานที่โรงพยาบาล เขาเป็นคนที่รักความสงบไม่ค่อยออกงานสังคมเท่าไหร่ มีแต่คนในเท่านั้นที่จะรู้ว่าเขาเป็นใคร
ตอนกลับมาเคสแรกที่เขาช่วยคนของเพื่อนที่เป็นหมอด้วยกันหายดีไปแล้ว เคสต่อมาเขาก็อยากจะช่วยอีกเหมือนกันเพราะรู้ประวัติคร่าวๆมาว่านอนที่โรงพยาบาลหลายเดือนแล้ว
ได้ยินจากปากหมอท่านอื่นมาว่าคนไข้ป่วยมานานมีเพียงลูกแฝดสองคนที่คอยผลัดกันมาดูแลเท่านั้น แถมค่าใช้จ่ายก็ผ่อนจ่ายกับโรงพยาบาลอีก หากเขาสามารถช่วยให้คนป่วยคนนี้กลับมาหายโดยเร็วก็เท่ากับเขานั้นช่วยทั้งสามชีวิต
แกร๊กกก
“สวัสดีครับ ผมหมอคาวีที่พึ่งรับเคสต่อมาจากคุณหมอท่านเดิมครับ”
ก่อนกลับคาวีถือโอกาสมาดูคนไข้ของเขาก่อนจะกลับเมื่อเห็นหญิงสาวเขาค่อนข้างประหม่าเล็กน้อย ก็แม่สาวเจ้าเล่นสวยหยาดเยิ้มเสียขนาดนั้น รอยยิ้มอย่างเป็นกันเองที่ส่งมาให้นั่นอีก ทำให้เขาต้องหลบสายตาไปมองคนที่นอนป่วยอยู่อย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะคุณหมอ ฉันต้นรักค่ะ”
ต้นรักรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครก็รีบยกมือไหว้ทักทายอย่างมีมารยาทตามวิสัยของเธอ หญิงสาวได้ยินจากพยาบาลที่ดูแลแม่เธอบอกว่าหมอคนใหม่ที่จะรับเคสของแม่มารักษาต่อนั้นเก่งมาก ขนาดคนไข้ที่พึ่งรักษาไปนอนหลับไปเป็นเดือนพอถึงมือหมอคนนี้ไม่นานก็ฟื้นแถมยังเป็นปกติอย่างรวดเร็วอีกด้วย เธอหวังว่าจะฝากความหวังกับหมอหนุ่มช่วยให้แม่เธอหายวันหายคืนได้
“ผมดูประวัติของคุณแม่คุณคร่าวๆแล้ว ผมว่าผมมีทางรักษาให้คุณแม่คุณกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้งอย่างรวดเร็วจะได้เซฟค่ารักษาของพวกคุณด้วย”
คาวีดูการรักษาในระยะเวลาที่ผ่านมา บวกกับอาการที่คนป่วยเป็นเขาว่าเขาสามารถหาวิธีรักษาแม่ของหญิงสาวให้กลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน
“จริงเหรอคะคุณหมอ ขอบคุณจริงๆนะคะ”
ต้นรักรู้สึกมีความหวังอีกครั้ง จากครั้งก่อนๆที่เหมือนหมอท่านเดิมรักษาไปตามอาการก็เท่านั้น
“ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ หน้าที่ของหมอคือรักษาคนไข้ให้หายจากโรคที่เป็นอยู่อยู่แล้วครับ”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
คาวียิ้มตามหญิงสาวอย่างไม่รู้ตัวรู้สึกประหม่าแปลกๆเวลาอยู่ใกล้กับเธอ ดังนั้นเขาคิดว่าเขาควรจะออกไปจากตรงนี้จะดีกว่า
อืด..อืด..
“อ้าวมือถือหลิวนี่นา ว่าไงพริกแกงพอดีหลิวลืมมือถือ”
ต้นรักรีบบอกปลายสายว่าพี่สาวเธอนั้นลืมมือถือไว้ที่เธอ
“เอ้า!!..มาลืมอะไรตอนนี้ยิ่งมีธุระสำคัญอยู่ด้วย”
“ฉันอยู่ไม่ไกลจากหลิวเท่าไหร่ เดี๋ยวนั่งวินเอาไปให้ก็ได้แค่นี้นะ”
ต้นรักเห็นว่าพริกแกงน่าจะมีธุระสำคัญไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเสียงตกใจแบบนั้น เมื่อรู้ว่าต้นหลิวนั้นลืมมือถือหญิงสาวคิดว่าคลับที่ต้นหลิวบอกว่าไปทำงานน่าจะเป็นคลับเดียวกับที่เธอคิด หากนั่งวินเอามือถือไปให้ต้นหลิวก็คงใช้เวลาไม่นานมากนัก เธอจึงรีบถือกระเป๋าแล้วออกไปทันทีจะได้รีบไปรีบกลับ
“คุณจะไปไหนเหรอครับ”
คาวีกำลังเดินจะไปที่ลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลเขาเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าดูรีบร้อนจึงร้องทักเอาไว้ก่อน
“พอดีต้นหลิวพี่สาวฉันลืมมือถือไว้น่ะค่ะ เธอบอกว่าไปเป็นเด็กเสริฟที่คลับใกล้ๆ ฉันเลยจะเอามือถือไปให้ค่ะคุณหมอ”
“ไปพร้อมผมก็ได้ครับ ผมกำลังจะกลับบ้านผ่านตรงนั้นพอดี ตอนนี้วินหน้าโรงพยาบาลก็คิวค่อนข้างแน่นด้วย”
คาวีเห็นว่าเดี๋ยวเขาก็ต้องขับผ่านตรงนั้นอยู่ดีแต่ก็แอบตกใจนิดหน่อยที่พี่สาวของหญิงสาวไปเป็นเด็กเสริฟที่นั่น เพราะที่คลับนั้นมีแต่พวกคนมีอิทธิพล แล้วก็พวกที่มาหาความสุขชั่วคราวทั้งนั้น
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
“ตามผมมาเลยครับ”
ต้นรักเห็นจะเป็นดั่งที่หมอหนุ่มว่า เธอนั่งรถไปกับเขาเลยจะไวกว่า