เมื่อน้องสาวฝาแฝดแสนอ่อนแอต้องแต่งเข้ามาเป็นฮองเฮาเพื่อมาสืบเรื่องราวการตายของวงศ์ตระกูลที่แท้จริง และได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีปมฝังใจจนกลายเป็นคนขี้ระแวง แฝดผู้พี่จึงต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวเพื่อมาจัดการกับสนมที่ข่มเหงน้องสาวฝาแฝดของนางและต่อกรกับฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใยดีฮองเฮาของตนเอง แถมยังต้องตามสืบหาความจริง แต่นางจะสามารถทำได้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้จริงหรือ?
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ไทฮองไทเฮาให้ชิงกงกงมาเชิญเสด็จไปทอดพระเนตรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” เกากงกงขันทีรับใช้ของหนิงเฉิงฮ่องเต้พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะรู้ดีว่านายเหนือหัวของตนไม่อยากเสด็จไปเจอสวี่ฮองเฮา
“นางเป็นอันใดอีก” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อไม่ได้ยินคำตอบจากเกากงกงจึงได้เอ่ยต่อ
“เจ้าไปบอกชิงกงกงให้ไปทูลเสด็จย่าว่าหากฮองเฮาไม่ป่วยหนักใกล้ตายจริง ๆไม่ต้องให้คนมาเชิญเราอีก” หนิงเฉิงฮ่องเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปบอกชิงกงกงเดี๋ยวนี้”
เมื่อเกากงกงพูดจบก็ถอยหลังออกไปจากห้องทรงอักษรทันที เพราะเขารู้ดีว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้อารมณ์ไม่สู้ดีนัก ทุกคนในวังหลังล้วนรู้ดีว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้ไม่ได้ชอบพอสวี่ฮองเฮา บางทีอาจจะถึงขั้นเกลียดเลยก็ว่าได้ แต่หากอยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนางในงานเลี้ยงก็ยังรักษาหน้าของสวี่ฮองเฮาอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นเขตวังหลังที่ไม่มีผู้คนภายนอกเข้ามาวุ่นวายก็จะรู้กันดีว่าสวี่ฮองเฮาไม่ได้มีอำนาจอันใดเลย แม้แต่นางกำนัลอาวุโสก็ยังกล้ารังแกสวี่ฮองเฮาอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ไทฮองไทเฮาก็เสด็จมายังห้องทรงอักษรของหนิงเฉิงฮ่องเต้ด้วยตนเอง เกากงกงรีบเอ่ยบอกถึงการมาของไทฮองไทเฮาให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ได้รับรู้ หนิงเฉิงฮ่องเต้รีบลุกจากเก้าอี้ทรงอักษรไปรับเสด็จโดยทันที ถึงจะรู้ว่าเสด็จย่าของเขามาด้วยเรื่องอันใดก็ตาม
“เหตุใดเจ้าจึงได้ใจดำเช่นนี้ ย่ารู้ดีว่าเจ้าไม่ชอบนาง แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นฮองเฮาของเจ้า” ไทฮองไทเฮาต่อว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้ทันทีที่เห็นหน้าเขา
“เสด็จย่าก็รู้ว่าหลานแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮาตามเงื่อนไขที่รับปากเหลียนอ๋องเอาไว้ ในเมื่อนางได้เป็นฮองเฮาแล้วยังจะเอาอันใดอีก”
“เฉิงเอ๋อร์ ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอเท่านั้น นางเดินทางไกลมาแต่งเป็นฮองเฮาของเจ้า เจ้าจะเอาใจใส่นางเสียหน่อยเป็นไรไป ย่ารู้ว่าเจ้าถูกเหลียนอ๋องบังคับแต่ดีกับนางหน่อยเถอะ สุขภาพนางไม่สู้ดีนักอย่างไรเสียเจ้าก็ควรจะไปดูนางเสียหน่อย”
“เสด็จย่าใจจริงหลานก็อยากทำดีกับนาง ถึงจะแต่งกับนางเพื่อทำตามข้อตกลง แต่นางไม่ใช่สตรีที่แสนดีและอ่อนโยนอย่างที่ท่านเห็น”
ไทฮองไทเฮาเงยหน้ามองหลานชายด้วยความสงสัย และคิดไตร่ตรองถึงนิสัยที่ผ่านมาของสวี่ฮองเฮา สำหรับหญิงชราผู้นี้สวี่ฮองเฮาไม่ใช่สตรีที่มีพิษสงอันใดหนำซ้ำนางยังค่อนข้างขี้โรค นางอ่อนโยนพูดจาอ่อนหวาน นางไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับใครและมักให้อภัยกับคนง่ายๆเสมอ เพียงแค่พวกเขาขอโทษนางก็จะไม่ถือสา และไม่ติดใจคิดเล็กคิดน้อย แต่เหตุใดหลานชายตนจึงได้เอ่ยเช่นนี้
“เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนี้ เจ้าช่วยบอกยายแก่คนนี้ให้เข้าใจหน่อยได้หรือไม่”
เมื่อหนิงเฉิงฮ่องเต้ได้ยินเสด็จย่ากล่าวเช่นนี้จึงคิดได้ว่า เสด็จย่าอาจจะเข้าใจเขาผิด คิดว่าเขาว่าเสด็จย่าเป็นยายแก่เลอะเลือนที่ดูคนไม่ออก จนถูกสตรีอ่อนแอผู้หนึ่งหลอกได้
“เสด็จย่าหลานรู้ว่าท่านอยู่วังหลังพบเจอกลอุบายมากมายของสตรีมาไม่ถ้วน ตอนแรกหลานเองก็คิดจะครองคู่กับนาง ดูแลนางในฐานะฮองเฮาให้ดี แต่หลานเพิ่งปราบกบฏและขึ้นครองบัลลังก์ได้ไม่นานมัวแต่ยุ่งกับราชกิจและจัดการความวุ่นวายในท้องพระโรง อีกทั้งนางยังร่างกายไม่แข็งแรงหลานจึงได้แต่ให้หมอหลวงและนางกำนัลขันทีคอยดูแลนาง แต่กลับมีคนมารายงานว่านางแอบให้นางกำนัลคนสนิทที่ติดตามมาจ้างวานพ่อค้าให้ส่งจดหมายไปถึงเหลียนอ๋องก็ทำให้หลานแปลกใจ หลังจากนั้นหลานจึงให้คนคอยสอดส่องนาง นางส่งจดหมายให้เหลียนอ๋องอีกหลายครั้ง หลานจึงรู้ว่านางมีแผนการร้ายซ่อนอยู่”
หนิงเฉิงฮ่องเต้เงียบไม่พูดต่อ ไทฮองไทเฮาได้แต่มองหน้าหลานชายอยู่พักหนึ่งจึงระบายลมหายใจออกมายาวๆ นางรู้ดีว่าเหตุการณ์ต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นกับเขาในเวลาไม่ถึงแปดเดือนที่ผ่านมานี้ อาจทำให้หลานชายของเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายและขี้ระแวงมากขึ้น แต่เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้
ขณะพี่ชายที่เขาคิดว่าแสนดี อ่อนโยน ฉลาด เป็นบุรุษหนึ่งเดียวในใจที่เขาอย่างเดินตามรอยเอาเป็นแบบอย่าง อีกทั้งยังเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันมาก ถึงจะคนละมารดาแต่ก็รักใคร่กันราวกับมีมารดาคนเดียวกัน แต่ในที่สุดก็เป็นเขาเองที่ต้องลงมือสังหารพี่ชายที่เขารักและนับถือด้วยมือตนเอง นับประสาอะไรกับฮองเฮาที่แต่งเข้ามาเพราะข้อตกลง เขาย่อมสงสัยและระแวงไม่กล้าเปิดใจพูดคุยถามไถ่กับนางโดนตรงอยู่แล้ว
ในฐานะที่นางเป็นไทฮองไทเฮานางเองก็เข้าใจว่าการเป็นฮ่องเต้นั้นไม่ง่าย ถึงจะมีอำนาจอยู่ในมือแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะนอบน้อมอย่างเคารพด้วยใจจริง ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่อยากนั่งตำแหน่งนี้ ผู้คนรอบกายแม้แต่สตรีที่นอนเคียงข้างก็ใช่ว่าจะเชื่อใจได้ แต่ในฐานะย่านางเองก็ไม่อยากเห็นหลานชายไร้คนที่เคียงข้างคอยดูแลและไว้ใจได้ ในสายตาของนางที่พบเจอสตรีในวังหลังมามากกลับคิดว่าสวี่ฮองเฮา จะเป็นสตรีที่ดีที่อยู่เคียงข้างหลานชายของนางได้
“เช่นนั้นเจ้าบอกย่าได้หรือไม่ ว่านางเขียนจดหมายว่าอย่างไร จึงทำให้เจ้าหมางเมินนางเช่นนี้” หญิงชรามองหน้าหลานชายบ่งบอกถึงความใคร่อยากรู้
ตั้งแต่หนิงเฉิงฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ก็ไม่ค่อยไว้ใจใคร แต่เขารู้ดีว่าเขาสามารถเชื่อใจไทฮองไทเฮาได้อย่างแน่นอน เขาจึงเล่าเนื้อหาในจดหมายนั้นให้เสด็จย่าของเขาฟัง
“นางบอกกับเหลียนอ๋องว่านางคงทำให้พ่อบุญธรรมของนางต้องผิดหวังแล้ว เพราะนางคงไม่มีโอกาสได้ตั้งครรภ์กับหลาน เหลียนอ๋องคงไม่มีโอกาสได้เป็นท่านตาอย่างที่นางได้รับปากเหลียนอ๋องเอาไว้”
ไทฮองไทเฮาเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงเข้าใจในสิ่งที่หลานของตนคิด เขาคงกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกเป็นแน่ จึงได้ใจดำกับนางถึงจะให้หมอหลวงคอยดูแลแต่ไม่แม้แต่จะไปเยี่ยมเยียนนาง
หนิงเฉิงฮ่องเต้เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นย่าราวกับเข้าใจความรู้สึกและความคิดของเขา เขาจึงได้เอ่ยต่อ
“เสด็จย่าอย่าได้หวงเลยถึงอย่างไรนางก็เป็นฮองเฮาของหลาน หากนางไม่ลงมือทำอันใดที่จะทำให้บัลลังก์นี้สั่นคลอน หลานย่อมไม่ทำร้ายนางและอำนาจในวังหลังก็ยังเป็นของนางเพียงแต่หากนางยังแสร้งแกล้งทำเป็นผู้ถูกรังแก หลานก็คงทำได้เพียงนั่งดูละครเรื่องนี้ต่อไป”
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
คนรักของเธอหน้าคล้ายอาจารย์สุดเนิร์ด แต่เพราะเวลาอยู่ด้วยกันเขาเร่าร้อน จนเธอคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยทั้งสองคนจะเป็นคนเดียวกัน ******* "พี่รักพีชนะ" "พีชก็รักพี่ที่สุดรักทั้งพี่วรรธและอาจารย์สุดเนิร์ด" "วันนี้อาจารย์สุดเนิร์ดจะทำให้รู้ว่าฉายามันก็แค่ภาพลวงตา"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
อรอินทร์สาวโสดในโลกปัจจุบันเธออายุ 28 ปี เป็นเพราะตกงานมานานหลายปี ชีวิตเธอเลยอยู่ไปวันๆ อย่างไร้จุดหมาย วันๆ ก็เอาแต่อ่านนิยายอยู่ในห้อง แล้วอยู่ๆ เธอก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนั้นได้เข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องหนึ่งที่เธออ่าน กลายเป็นหญิงที่แต่งงานแล้วและกำลังจะขอหย่ากับสามี แล้วเธอจะเลือกหย่ากับเขาเพื่อเล่นไปตามบทในนิยายต่อไปหรือจะเลือกอยู่กับเขาต่อไปดี
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ปลายฟ้าอยากมีแฟนเแต่กลัวกระทบการเรียนเธอจึงเลือกที่จะมี ONS เพราะอยากรู้ว่าความสุขบนเตียงมันเป็นแบบไหน แต่คนที่เธอมีแต่คนที่เธอมีค่ำคืนพิเศษด้วยกับกลายเป็นกลายเป็นอาจารย์คนใหม่ที่เพิ่งย้ายมา