⚜️อารัมภบท⚜️
หลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างเมืองพนาราพณ์กับเมืองยักษ์หลายเมืองสิ้นสุดลง พระสุวรรณเมฆากษัตริย์เมืองของพนาราพณ์ ก็ได้สถาปนา พนาสูรย์ ผู้เป็นพี่ชายต่างมารดา ขึ้นเป็นกษัตริย์ เพื่อปกครอง นครกัณฑ์กาศ หนึ่งในเมืองที่ถูกยึดครองมา
หลังจากครองราชเมื่อกษัตริย์พนาสูรย์ ได้พบกับเชลยศึกสำคัญ เขาก็เกิดต้องตาต้องใจนางตั้งแต่แรกเห็น นางคือพระราชธิดากรรณา ธิดาของกษัตริย์องค์ก่อนที่ได้ตัดสินพระทัยปลิดชีพตัวเองเพื่อหนีความอัปยศ
ทว่า! กรรณากลับประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา นางปฏิเสธที่จะก้มหัวให้กับกษัตริย์พนาสูรย์ แม้นางจะอยู่ในฐานะเชลยก็ตาม
แต่ความพยศและดื้อรั้นของนาง กลับทำให้กษัตริย์พนาสูรย์ยิ่งปรารถนาอยากได้นางมาครอบครอง เขาจะปราบความพยศของธิดายักษ์ตัวน้อยนี้ให้ได้...
____________________________________________________________________________________________________
⚜️ บทนำ ⚜️
“ นี่ข้าพึ่งจักรู้..ว่าธรรมเนียมของนครกัณฑ์กาศ เคารพกษัตริย์กันเฉกเช่นนี้? ”
กษัตริย์พนาสูรย์พูดขึ้นแววตาดุดัน เมื่อเห็นท่าทีที่ดื้อรั้นของอสุรีตัวน้อยตรงหน้า
“ ท่านมิใช่กษัตริย์ของนครกัณฑ์กาศ..” กรรณาตอบกลับไปทันทีเช่นกันอย่างมิได้เกรงกลัว
“ แล้วผู้ใดเล่าที่คือกษัตริย์ ..บิดาของเจ้างั้นหรือ ”
“.......”
ใบหน้าสวยดวงตาแดงก่ำหันขวับมาจ้องสบตาอีกฝ่ายอย่างไม่พึงพอใจ ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง
แต่นั่นก็พอจะทำให้กษัตริย์พนาสูรย์รู้ตัว ว่าเขาคงพูดแรงเกินไป พระบิดาของนางทรงสิ้นพระชนไปแล้ว ด้วยการปลิดชีพตัวเอง เขาไม่ควรตอกย้ำนาง แต่ก็พูดไปแล้ว
“ เจ้าควรรู้ ว่าตอนนี้ข้าคือกษัตริย์องค์ใหม่ของนครกัณฑ์กาศ ส่วนเจ้าคือเชลยศึกของข้า กรรณา..”
“.......”
อสุรีน้อยกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะหันหน้าไปจดจ้องใบหน้าอันหล่อเหลาของกษัตริย์พนาสูรย์ตรงหน้าด้วยความโกรธ
ดวงตาคู่สวยจับจ้องกษัตริย์อสุราอย่างเอาเรื่อง ทว่าภายในใจกรรณากลับปฏิเสธไม่ได้เลย ว่ากษัตริย์อสุราตนนี้ นั้น ช่างรูปงามนัก
ราวกับว่าเวลานั้นหยุดนิ่ง เมื่อดวงตาคู่งามสบกับดวงตาสีเข้ม เหมือนมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ไม่อาจจะอธิบายได้ระหว่างทั้งคู่
สุดท้ายแล้วก็เป็นกรรณาตัวน้อยที่ต้องเบนสายตาหลบดวงตาเฉียบคมของกษัตริย์พนาสูรย์ก่อน เมื่อไม่อาจทนสบกับแววตาดุดันนั้นได้
“ ข้าจักให้เจ้าได้ตัดสินใจใหม่ ว่าจักยอมสวามิภักดิ์ต่อข้าหรือไม่ หากว่าเจ้ามิยอมสวามิภักดิ์แต่โดยดี เจ้าก็จักต้องถูกคุมขังอยู่ภายในคุกหลวงของนครกัณฑ์กาศ ไปตลอดชีวิตหนา กรรณา..”
“ ข้ายินดี! ที่จักถูกคุมขังในคุกหลวงไปตลอดชีวิต! เพราะข้าจักมิมีวันยอมสวามิภักดิ์ต่อท่านเป็นอันขาด!! ”
ทำเอากษัตริย์พนาสูรย์ถึงกับชะงักนิ่ง เมื่อกรรณาตอบกลับมาทันทีชนิดที่ไม่ต้องใช้เวลาคิด! ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น พร้อมกับนัยน์ตาแน่วแน่ที่จ้องสบตากษัตริย์พนาสูรย์อย่างไม่ลดละ
ดวงตาคู่สวยแข็งกร้าว ในแววตาสะท้อนถึงแรงต่อต้านได้อย่างชัดเจน นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องอสุรีตัวน้อยกลับเขม็งด้วยความคับข้องใจ
กษัตริย์พนาสูรย์จ้องอสุรีตัวน้อยนิ่ง อย่างใช้ความคิด และก็พอจะเข้าใจ ว่ากรรณาเพิ่งจะสูญเสียพระบิดาและพี่สาวไปในเวลาไล่เลี่ยกัน นางคงต้องใช้เวลา
นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องใบหน้างามนิ่ง ก่อนจะเอ่ยบางอย่างกับกรรณาตัวน้อยตรงหน้าน้ำเสียงเรียบ
“ หากเจ้าไม่ยอมสวามิภักดิ์.. ข้ารับใช้แลเหล่าทหารองครักษ์ของเจ้าก็จักต้องถูกคุมขัง จักมิได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน แลมิได้พบลูกเมียไปตลอดชีวิตเช่นกัน..”
“.......”
“ เช่นนี้แล้ว เจ้าจักทนเห็นผู้ที่จงรักภักดีกับเจ้า ต้องถูกคุมขังในคุกหลวงไปตลอดชีวิตได้อย่างนั้นหรือกรรณา? ”
“......”
ทันทีที่ได้ยิน กรรณาก็ชะงักนิ่งไป ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น แววตาที่แข็งกร้าวอ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัด กษัตริย์พนาสูรย์กระตุกยิ้มมุมปาก เมื่อเห็นท่าทีของอสุรีตัวน้อย ก่อนจะพูดประโยคต่อมา
“ เจ้ายังมิต้องรีบร้อนตัดสินใจดอกหนากรรณา ข้าจักให้เจ้าได้กลับไปคิดทบทวนใหม่ ข้าจักให้โอกาสเจ้าได้ยืนยันคำตอบอีกหน ”
⚜️⚜️⚜️
1 คอมเม้นท์ + เพิ่มเข้าชั้น + ถูกใจ = กำลังใจนะคะ