/0/19208/coverbig.jpg?v=c9c44544cc2b12ad5afb63ce1f52d6c1)
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
“นังสารเลว! ปกติเจ้าก็ชอบที่จะใช้หน้าตาของตัวเองในการหลอกล่อผู้ชายอยู่แล้วไม่ใช่หรือไร? พอดีเลยหากเจ้าได้เข้าไปอยู่ในซ่องฉินโหลวฉู่แห่งนี้แล้ว ต่อไปเจ้าจะได้มีผู้ชายให้คอยบริการ มีลูกค้าให้คอยดูแลไม่รู้จบเลยอย่างไรเล่า.....”
แส้ถูกฟาดลงมาบนตัวอย่างรุนแรงมาก นอกจากนี้ ที่ข้างหูยังมีเสียงที่คุ้นหูและไม่คุ้นหูที่กำลังหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างได้ใจขึ้นมาด้วย เส้าหยวนหยวนเจ็บจนเหงื่อเย็นอออกท่วมตัวไปหมดแล้ว ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา
แต่หลังจากที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว นางก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย
สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือเตียงไม้จริง ๆ ที่แกะสลักลายดอกแบบโบราณ แล้วก็ผ้าม่านคลุมเตียงผ้าตาข่ายเบาบางที่เป็นสีชมพูฉูดฉาด นอกจากนี้ยังได้กลิ่นหอมแบบหวาน ๆ ของควันที่พวยพุ่งออกมาจากกระถางธูปหอมด้วย......
ที่นี่คือที่ไหนกันเนี่ย?
นางไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะไปเข้าร่วมการประชุมทางการแพทย์ระดับนานาชาติหรอกเหรอ?
ขณะที่นางยังไม่ทันได้โต้ตอบ แส้ก็ถูกฟาดลงมาอย่างรุนแรงราวกับฝนที่เทกระหน่ำลงมาอีกครั้ง
ไม่ไกลนัก ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดสีชมพูอ่อนกำลังหัวเราะคิกคักอย่างได้ใจ หลังจากสะบัดแส้ขึ้นก็ทำการฟาดแส้ลงไปที่นางอย่างรุนแรง
“จะมาหาว่าข้าเป็นน้องสาวที่ใจร้ายคงไม่ได้หรอกนะ หากจะโทษใครก็คงต้องโทษที่ตัวของเจ้าเองนั่นแหละที่มันไร้ค่า เป็นแค่คนที่ไร้ความสามารถและไร้ประโยชน์ แต่กลับครองตำแหน่งบุตรีของฮูหยินเอกมาได้ตั้งหลายปี สมควรแล้วล่ะที่เจ้าจะถูกผู้ชายหลอกไปขายที่ซ่องเช่นนั้น!”
เส้าหยวนหยวนรู้สึกปวดหัวจนหัวแทบจะระเบิดอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าแส้กำลังจะฟาดลงมา แววตาของนางก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
นางคว้าแส้เอาไว้ แล้วก็ดึงอย่างแรงด้วยความฉลาดเฉลียว ทำให้อีกฝ่ายถูกนางดึงจนล้มลงมากับพื้น
“โอ๊ย!”
ผู้หญิงชุดสีชมพูคนนั้นล้มลงมากับพื้นพลางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
เส้าหยวนหยวนหัวเราะเยาะเย้ยออกมา จากนั้นก็พลิกข้อมือดึงแส้มาไว้ในมือของตัวเองแทน
สีหน้าของนางดูอาฆาตแค้นอย่างมาก นางตะโกนออกมาด้วยความโมโหว่า “นังสารเลว! เจ้ากล้าทำร้ายข้ารึ——โอ๊ย!”
เส้าหยวนหยวนไม่พูดพร่ำทำเพลง ทำการฟาดแส้ลงไปโดยมิได้มีความลังเลใด ๆ ซึ่งตีไปโดนปากของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำมาก
“ถ้าแม่ของเจ้าไม่เคยสอนให้เจ้าพูดจาดี ๆ งั้นวันนี้ข้าก็จะสอนเจ้าเอง!”
“เพี๊ยะ ๆ ๆ!”
นางทำการฟาดแส้ลงไปอีกหลายครั้ง ฟาดจนผิวหนังของอีกฝ่ายฉีดขาดเลยทีเดียว
ผู้หญิงคนนั้นเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นไม่หยุด ภายในเวลาเพียงชั่วครู่หนึ่ง ใบหน้าและร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยรอยแส้ที่ดูน่าตกใจ แต่เส้าหยวนหยวนกลับไม่ได้มีทีท่าที่จะหยุดแต่อย่างใด
ประการแรกเป็นเพราะต้องการจะระบายความโกรธแค้นในใจออกไป ประการที่สองเป็นเพราะต้องการจะระบายความโกรธให้กับเจ้าของร่างเดิม
เมื่อกี้นี้ นางได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมมาแล้ว ทำให้ตอนนี้นางได้รู้แล้วว่าตัวเองข้ามภพมาเป็นบุตรีของฮูหยินเอกที่ไม่ได้รับความโปรดปรานในจวนรองเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการแห่งราชวงศ์หวู่
เนื่องจากแม่ผู้ให้กำเนิดของนางเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร พ่อของนางก็เป็นคนไม่แยแสอะไร นางสนมของพ่อก็โหดเหี้ยมอำมหิต นางจึงต้องทนทุกข์ทรมานมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ใช้ชีวิตอยู่ในจวนแย่ยิ่งกว่าสุนัขตัวหนึ่งเสียอีก
หลังจากที่นางโตขึ้นมา พ่อของนางก็ให้นางไปแต่งงานกับนายพลผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่จะตายมิตายแหล่อยู่แล้ว โดยหวังว่างานมงคลนี้จะขจัดเสนียดจัญไรได้
ด้วยความที่เจ้าของร่างเดิมเกิดความสิ้นหวังกับเรื่องนี้ จนไปหลงเชื่อคำโกหกของผู้ไม่หวังดีเข้า นางจึงหนีไปกับผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกจับไปขายให้ซ่องแทน
จากนั้นก็เพิ่งจะมารู้ในตอนท้ายว่า ทั้งหมดนี้เป็นกับดักที่เส้าเจียอี๋ที่เป็นน้องสาวต่างแม่ของนางกับผู้ชายคนนั้นสมรู้ร่วมคิดกันแล้วสร้างขึ้นมาเอง
นอกจากจะเอานางไปขายที่ซ่องยังไม่พอ ยังจะทำให้นางรู้สึกอัปยศอดสูและข่มเหงนางอีกด้วย
อารมณ์สิ้นหวังของคนที่หมดหนทางสู้ของเจ้าของร่างเดิมก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้นางรู้สึกหนักใจและเป็นทุกข์ใจตามไปด้วย
“ใครก็ได้! มานี่ที!”
“จับผู้หญิงสารเลวคนนี้มัดเอาไว้ซะ ข้าจะสับมันให้เป็นท่อน ๆ ไปเลย!”
เส้าเจียอี๋ที่กำลังนอนอยู่บนพื้นกรีดร้องอย่างน่าอนาถ นางตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
ในที่สุดองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงดังกล่าว จึงรีบบุกเข้ามาทันที
แววตาของเส้าหยวนหยวนดูเคร่งขรึม นางโยนแส้ทิ้งและกระชากผมของเส้าเจียอี๋ไป จากนั้นก็ลากไปที่หน้าต่าง
“อร๊าย! เจ้าจะทำอะไรข้า! ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้นะ!” เส้าเจียอี๋ดิ้นรนด้วยความตื่นตระหนกหวาดผวา
เส้าหยวนหยวนทำการผลักหน้าต่างให้เปิดออก ฉากหลังเป็นทะเลสาบสีเขียวมรกต ทันใดนั้นนางก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาก่อนจะพูดว่า “ทำอะไรน่ะหรือ? ก็ทำการเรียกสติเจ้ายังไงล่ะ!”
ไม่ทันได้รอให้เส้าเจียอี๋โต้ตอบ นางก็จับตัวเส้าเจียอี๋โยนออกไปนอกหน้าต่างทันที
“อร๊าย! ช่วยด้วย!”
“ตู้ม——”
องครักษ์ที่แต่เดิมกำลังวิ่งปรี่เข้ามาถึงกับตื่นตระหนกกันขึ้นมาทันที “รีบไปช่วยเร็วเข้า!”
เส้าหยวนหยวนจึงใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายนี้หลบหนีออกไป โดยด้านหลังของนางมีเสียงกรีดร้องเหมือนหมูโดนฆ่าของเส้าเจียอี๋ดังขึ้นมา “นังสารเลว! ไปจับมันมาให้ข้าให้ได้ ข้าจะหั่นมันให้เป็นชิ้น ๆ ซะ!”
ก่อนที่เส้าหยวนหยวนจะออกจากเรือนอี๋หงไปได้ นางก็ถูกคนเข้ามาดักทางออกเอาไว้เสียก่อน
เพื่อช่วยชีวิตแฟนสาวของเขา มือขวาของหลินเทียนจึงพิการ แต่คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ได้มาคือการทรยศของแฟนสาวและเพื่อนสนิทของเขา ขณะที่หลินเทียนกำลังรู้สึกสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับคนคนหนึ่งซึ่งทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คนนั้นมีชื่อว่าหลิวอีเตา เป็นหมอในตำนาน หลินเทียนไม่เพียงแต่ได้กลายเป็นศิษย์ของแพทย์ผู้ไร้เทียมทานผู้นี้ แต่ยังได้รับมรดกอันมหาศาลจากดร.หลิวอีกด้วย จากนั้นเป็นต้นมา หลินเทียนโต้กลับทุกทาง กำจัดอุปสรรคต่าง ๆ จะกระทั่งไปถึงจุดสุดยอดของชีวิต
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป