กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
พ่อผัวในความลับ
กรุงเทพฯ มหานคร
ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปฉันลงแดงตายแน่ๆ… ไม่ไหวแล้วนะยัยเกด ฉันเบื่อผู้ชายที่ลีลาบนเตียงจืดชืดสุดจะทน”
‘ยูมิ’ ลูกสะใภ้ของเพลิง ระบายความในใจกับเกดสุดาที่อยู่ปลายสาย
“เฮ้ย… ใจเย็นๆ ยูมิ… เรื่องแบบนี้แกกับพายน์ต้องเปิดใจคุยกันตรงๆ… ไม่งั้นชีวิตคู่แกล่มแน่ๆ”
เกดสุดาบอกให้เพื่อนรักใจเย็น ‘พายน์’ คือลูกชายของเพลิง สามีของยูมิ
“ไอ้พายน์มันบ้างานจนไม่มีเวลาทำการบ้านใช่ไหม”
เกดสุดาเข้าใจว่าอย่างนั้น
“โอ๊ย… ไม่ใช่แค่เรื่องทำการบ้าน อันที่จริงปัญหามันเยอะกว่านั้น… ”
กล่าวอย่างเสียอารมณ์ ยูมิกำลังจะบอกในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่เคยรู้
“เยอะ… ยังไงอ่ะยูมิ… ฉันไม่เข้าใจ”
เกดสุดานึกสงสัย
“บอกตรงๆ ว่าตั้งแต่มาอยู่กับพายน์ที่เมืองไทย ไม่มีสักครั้งที่ฉันจะมีความสุขกับเรื่องบนเตียงอย่างเต็มที่ นอกจากลีลาจะจืดชืดไร้รสชาติ… พายน์ยังเล็กและสั้นโคตรๆ… แล้วยังหลั่งเร็วสุดๆ… ”
ความอัดอั้นของยูมิพรั่งพรูออกมาจนสิ้น เรื่อง ‘เล็ก’ และ ‘สั้น’ อันที่จริงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่ายูมิชอบให้เบิร์น หล่อนมีความสุขกับการเสร็จสมคาลิ้น แต่ทว่าพายน์ก็ไม่ใช่สายเบิร์นอย่างที่ยูมิต้องการ
“โห… ขนาดนั้นเลยหรือวะ”
เกดสุดาตกใจ
“ก็เออสิวะ”
ยูมิตอบ ถึงขนาดนี้คงไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอีกแล้ว
“ใจเย็นๆ ยูมิ… ทุกอย่างย่อมมีทางออก”
เกดสุดาให้กำลังใจเพื่อนรัก
“ฉันไม่รู้ว่าจะอดทนได้อีกกี่วัน… นี่ฉันตัดสินใจแล้วนะ… ว่าจะกลับไปอยู่กับแม่ที่ญี่ปุ่น”
ยูมิเป็นลูกครึ่งที่เกิดจากแม่ญี่ปุ่นและพ่อคนไทย
“ใจเย็นๆ เพื่อน… ”
เกดสุดาคุยกับยูมิต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ ก็ตัดสาย เพลิงรีบเดินออกไปจากหลังประตูห้องรับแขก ก่อนที่ลูกสะใภ้จะรู้ว่ามีคนแอบฟังเสียงสนทนาทางโทรศัพท์
อีกสัปดาห์ต่อมา
“อย่าไปนะพายน์… ถ้าพายไปเราเลิกกัน”
ยูมิยื่นคำขาด ในวันที่พายน์ตัดสินใจจะต้องเดินทางไปดูงานที่เวียดนามหนึ่งสัปดาห์ หลังจากบริษัทผลิตรถยนต์แบรนด์ดังของญี่ปุ่นเลื่อนตำแหน่งให้พายน์ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมขายของเมืองไทย
“อย่าบ้าน่ะยูมิ… นี่เป็นโอกาสดีของผม โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ คุณรู้ไหมว่าผมต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหน ต้องบริหารทีมเซลล์อย่างเหนื่อยหนักขนาดไหนจนทำยอดขายแซงทีมอื่น จนผมได้รับการโปรโมทขึ้นเป็นผู้จัดการทีมขาย”
พายน์อธิบายถึงเหตุผลที่เขาจะต้องเดินทางไปดูงานที่เวียดนาม และยืนยันว่าเขาจะไม่ปฏิเสธตำแหน่งผู้จัดการเด็ดขาด
“ตอนนี้ชีวิตคุณมีแต่งานกับงาน แล้วยูมิล่ะ? ตอนนี้ยูมิแทบไม่มีค่าอะไรในสายตาของคุณ… ถ้ารู้ว่ามาอยู่กับคุณที่เมืองไทยแล้วเป็นแบบนี้… ยูมิจะไม่มาเด็ดขาด”
ยูมิร้องไห้ น้ำตาไหลพราก พายน์นึกตอบในใจว่าถ้ารู้ว่ายูมิจะเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้ เขาจะไม่ชวนหล่อนมาด้วยอย่างเด็ดขาด ตอนแรกที่เจอกันนั้นยูมิอยู่ญี่ปุ่น ได้เจอกับพายน์ก็เพราะว่าพายน์ไปทำงานที่นั่น หลังจากคบหาดูใจกันได้ไม่นาน พายน์ก็ชวนยูมิกลับมาอยู่เมืองไทย ใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่ได้แต่งงาน
“พายน์… หนูยูมิ… มีอะไรกัน”
เพลิงผ่านมาได้ยินเสียงดังในห้องคล้ายคนกำลังทุ่มเถียงกัน จึงเข้ามาถามด้วยความห่วงใย
“ก็พี่พายน์น่ะสิคะคุณพ่อ… ฮือๆ พี่พายจะหนียูมิไปเที่ยวเวียดนาม… ไปนานเป็นอาทิตย์เลยค่ะ”
สะใภ้รีบฟ้องพ่อผัวเมื่อได้โอกาส
“อ๋อ… เรื่องนั้นน่ะเอง เจ้าพายน์มันไม่ได้ไปเที่ยวหรอกนะ มันไปดูงานน่ะ”
เพลิงรู้เรื่องนี้มาหลายวันแล้ว จากปากของพายน์
“ดูสิ… พ่อเพลิงเข้าข้างลูกชาย”
ยูมิทำหน้าง้ำ
“พ่อไม่ได้เข้าข้าง… แต่มันเป็นความจริง ใจเย็นๆ นะหนู… ค่อยๆ พูดกัน”
“โธ่… แล้วตอนที่พายน์ไม่อยู่ ยูมิจะอยู่ยังไงคะ”
ยูมิทำท่าเหมือนเด็กๆ จ้องมองพ่อสามีด้วยแววตาตั้งคำถาม
“ก็อยู่กับพ่อไง… ในระหว่างที่เจ้าพายน์ไม่อยู่ พ่อจะดูแลหนูเอง”
เพลิงปลอบเท่าที่จะคิดได้ ยูมิยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา ร่ำๆ ว่าจะกลับญี่ปุ่นแล้วไม่กลับมาอีก
“ใจเย็นๆ นะยูมิ”
เพลิงมองตามเรือนร่างเอิบอิ่มที่ก้าวยาวๆ หนีเข้าห้องไปด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด
“นี่ถ้ารู้ว่าแต่แรกว่ายูมิจะเป็นแบบนี้… ผมจะไม่ชวนมาเด็ดขาด”
พายน์เอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด นึกย้อนไปถึงวันที่เขาตัดสินใจชักชวนหล่อนมาอยู่ด้วย
“เอ็งก็ใจเย็นๆ… ตอนอยู่ญี่ปุ่นหนูยูมิถูกเลี้ยงดูมาอย่างคุณหนูที่ถูกตามใจจนเคยชิน คงต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวเข้าหากัน”
เพลิงว่า
“ผมคิดว่าผมได้พยายามปรับตัวแล้วนะครับคุณพ่อ… ตอนนี้ผมรู้แล้ว… ว่าเรามีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ากันไม่ได้”
พายน์ไม่ได้บอกออกมาตรงๆ ว่าเรื่องที่ ‘เข้า’ กันไม่ได้นั้นคือเรื่องอะไรกันแน่ แต่เพลิงรู้… เพราะว่าเคยแอบได้ยินที่ยูมิคุยกับเพื่อนสาวเมื่อหลายวันก่อน
อีกสัปดาห์ต่อมา
เพลิงเดินทางไปดูงานที่เวียดนามได้สองวันแล้ว ทิ้งให้ยูมิต้องเหงาอยู่บ้านเพียงลำพัง หล่อนพยายามหาอะไรทำเพื่อฆ่าเวลาในแต่ละวันที่ผ่านไปอย่างเชื่อช้าน่าเบื่อหน่าย เพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง แต่ก็ยังไม่หายจากอาการเหงาแปลกๆ ที่เกาะกุมรุมเร้าอยู่ลึกๆ ในอารมณ์จนกลายเป็นความหงุดหงิดเงี่ยนหงี่ไปโดยไม่รู้ตัว
“จะไปไหนแต่เช้าจ๊ะยูมิ”
เพลิงที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่เทอเรสหน้าบ้าน ตะโกนถามสะใภ้ด้วยความสงสัย ที่วันนี้เห็นยูมิทำท่าว่าจะออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า ทั้งที่ปกติมักจะออกไปตอนบ่าย
“ยูมิรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวค่ะคุณพ่อ… เมื๊อยเมื่อยค่ะ ว่าจะไปนวดผ่อนคลายที่สปา”
สะใภ้หันมาบอกพ่อผัว
“วันนี้พ่อก็อยู่ว่างๆ… หนูยูมิอยากจะลองให้พ่อนวดดูบ้างไหมล่ะ… เมื่อก่อนพ่อเคยศึกษาเกี่ยวกับการนวดแผนโบราณมาบ้าง”
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
“ซี้ด... เสียวเหลือเกิน... อ๊า... ” ปั้นหยาทรมาน ใบหน้าบิดเบะเหมือนจะขาดใจ แต่ก็ไม่อยากให้เขาหยุด ไทเกอร์เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าซ่านเสียว ขณะเสียบลิ้นลงในรอยแยก กระตุ้นความเสียวซ่านทะยานขึ้นตามระดับของอารมณ์โลดแรง หล่อนยิ่งร้องคราง เขาก็ยิ่งกระดกลิ้นรัวๆ
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
© 2018-now MeghaBook
บนสุด