เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
“ต้วนชิงฉือ เรารับแกมาเลี้ยงนานหลายปีขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าแกจะทำเรื่องเนรคุณแบบนี้ ครั้งนี้ตระกูลต้วนไม่สามารถให้แกอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว แกไปซะเถอะ !”
ต่อหน้าต้วนชิงฉือมีคุณนายผู้ร่ำรวยคนหนึ่งกำลังมองเธอด้วยสายตาเกลียดชัง
“แม่คะ อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ หนูตกลงมาจากข้างบนโดยไม่ได้ตั้งใจเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่หรอกค่ะ”
ที่โซฟาใกล้ ๆ เด็กผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายกับคุณนายผู้ร่ำรวยขอร้องทั้งน้ำตา เข่าของเธอพันผ้าพันแผลอยู่ สภาพดูน่าสงสารมาก
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลต้วนตกลงมาจากบันได ตอนนั้นบนชั้นสองมีแค่ต้วนชิงฉือคนเดียว
เพราะงั้นทุกคนเลยเชื่อว่าเธอเป็นคนทำ...
ตอนนี้ใบหน้าเกลียดชังและรังเกียจของคนในบ้านตระกูลต้วนดูแตกต่างจากเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนที่พวกเขาบอกต่อหน้านักข่าวว่าไม่อยากให้เธอไปอย่างสิ้นเชิง
ต้วนชิงฉือก้มหน้าลง แววตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เธอยังเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลต้วนอยู่เลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความโปรด แต่อย่างน้อย ๆ ตระกูลต้วนก็ไม่เคยได้ทำให้เธออยู่อย่างอดอยาก
จนถึงวันนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นกับคุณต้วน ซึ่งต้องการถ่ายเลือด ทุกคนจึงไปตรวจกรุ๊ปเลือด ถึงได้พบว่าต้วนชิงฉือไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลต้วน คุณต้วนรีบใช้เส้นสายเพื่อทำการตรวจสอบทันที ไม่นานก็เจอต้วนเหมียนเหมียน ลูกสาวแท้ ๆ ของเขา
ตระกูลต้วนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองเจียง พอเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทุกคนต่างก็ต้องรู้ไปหมดแล้ว แต่ตระกูลต้วนที่กลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียงนั้นบอกกับสาธารณชนไปว่าไม่อยากให้ต้วนชิงฉือที่เลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ ๆ มาหลายปีจากไป เลยกะว่าจะเลี้ยงดูอีกสักพักก่อนแล้วค่อยส่งเธอกลับไป
จริง ๆ แล้วพวกเขาวางแผนไว้ว่ารอให้เรื่องซาลงก่อนแล้วค่อยแอบส่งต้วนชิงฉือกลับไปที่บ้านเดิมของเธอ
หลังจากที่พบลูกสาวแท้ ๆ แล้ว คนในตระกูลต้วนรู้สึกว่าการที่มีต้วนชิงฉืออยู่ด้วยนั้นทำให้ต้วนเหมียนเหมียนต้องทนลำบากมานานหลายปี เพราะงั้นพอรับต้วนเหมียนเหมียนกลับมาแล้ว ต้วนชิงฉือเลยโดนบังคับให้ย้ายออกจากห้องเดิมที่เคยอยู่และไปอยู่ที่ห้องเก็บของแทน
ตอนนี้ความเป็นอยู่ของต้วนชิงฉือเปลี่ยนไปมาก เธอไม่เพียงแต่ต้องทำความสะอาด ซักผ้า ทำกับข้าว ฐานะต่ำต้อยจนถึงขนาดสู้กับคนรับใช้ก็ไม่ได้เลยในบางครั้ง !
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ทว่าต้วนเหมียนเหมียนก็ไม่อยากให้ต้วนชิงฉืออยู่ที่นี่อีกต่อไป
หลายวันมานี้ เธอได้วางแผนใส่ร้ายต้วนชิงฉือหลายครั้ง
แต่พ่อแม่ของตระกูลต้วนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แถมยังทำท่าทางรังเกียจต้วนชิงฉืออีก
ด้วยเรื่องเหล่านี้ ต้วนชิงฉือจึงได้มองเห็นธาตุแท้ของคนตระกูลต้วน แน่นอนว่าเธอไม่มีทางยอมอดทนต่อไปเรื่อย ๆ
เธอเงยหน้าขึ้นมองต้วนเหมียนเหมียน “ฉันจะไป แต่ฉันจะไม่จากไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้แน่นอน ฉันทนแบกรับความผิดแทนเธอมานานมากพอแล้วนะต้วนเหมียนเหมียน !”
ต้วนเหมียนเหมียนรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาทันทีที่เห็นสายตาเย็นชาของเธอ
นี่ยังเป็นต้วนชิงฉือที่ยอมทำตามทุกอย่างอย่างว่าง่ายคนนั้นอยู่อีกเหรอ?
แววตาของเธอฉายแววชั่วร้ายขึ้นมาทันที
อีตัวนี่หนิ!
เธอต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลต้วน ต้วนชิงฉือมีสิทธิ์อะไรมาเสพสุขอยู่ในบ้านตระกูลต้วนแบบนี้ได้กัน!
เธอจะต้องไล่อีตัวปลอมนี่ออกไปให้ได้!
ต้วนเหมียนเหมียนพูดขึ้นมาอย่างไร้เดียงสาว่า “พี่คะ หนูไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไรอยู่ หนูรู้ว่าพี่ไม่ชอบขี้หน้าหนู และคิดว่าหนูแย่งความรักของพ่อกับแม่จากพี่ไป เพราะงั้นหนูเลยอดทนกับการกระทำของพี่มาตลอด แต่ขาของหนู... พี่ก็รู้ว่าหนูชอบเต้นมากขนาดไหน ทำไม่ถึงทำแบบนี้ได้กันหล่ะคะ... ถ้ารู้ว่าพี่ก็ชอบเหมือนกัน หนูคงไม่แย่งรายชื่อผู้เข้าแข่งขันกับพี่หรอก !”
เธอหมายความว่าที่ต้วนชิงฉือทำร้ายเธอนั้นก็เพื่อรายชื่อผู้เข้าแข่งขันงานประกวดเต้นระดับประเทศ
พอได้ยินแบบนี้ แววตาของคุณนายต้วนก็ยิ่งแสดงความเกลียดชังมากขึ้นไปอีก “เหมียนเหมียน ลูกมีพรสวรรค์ คนอย่างเธอจะมาเทียบได้ยังไงกัน? รายชื่อผู้เข้าแข่งขันนี้ต้องเป็นของลูกแน่นอน! ส่วนต้วนชิงฉือ แกเก็บของแล้วไสหัวไปซะ!”
ต้วนชิงฉือนี่...... ดีแต่ทำตัวน่ารังเรียจไปวัน ๆ ทำแบบนี้ให้ใครดูกันก็ไม่ทราบ
แต่ต้วนเหมียนเหมียนนั้นนิสัยอ่อนโยน เชื่อฟัง แถมยังมีพรสวรรค์ในการเต้นมาก คนที่เพอร์เฟคแบบนี้ต่างหากที่เป็นลูกสาวของเธอหน่ะ!
คุณต้วนที่เงียบมาโดยตลอดถอนหายใจขึ้นมาพลางพูดว่า “ชิงฉือ ตอนแรกเรากะว่าจะไว้รอให้เรื่องมันซาลงไปก่อนแล้วค่อยส่งเธอกลับไป แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีเจตนาร้ายกับเหมียนเหมียนได้ถึงขนาดนี้ ถ้างั้นเราจะส่งเธอกลับไปวันนี้เลย!”
แววตาของต้วนเหมียนเหมียนที่ได้ยินดังนั้นฉายแววมีความสุขขึ้นมาทันที
ต้วนชิงฉือกลับมีสีหน้านิ่งเรียบ เธอหันหลังเพื่อไปเก็บของอย่างไม่รอช้า
แต่ผ่านไปนานก็ไม่เห็นเธอลงมาสักที ต้วนเหมียนเหมียนเลยเริ่มกังวลขึ้นมา “พี่คงไม่ได้เอาของไปหมดทุกอย่างหรอกใช่ไหมคะ...”
ทุกอย่างในตระกูลต้วนเป็นของเธอ จะให้ตัวปลอมมาเอาไปได้ยังไงกัน!
พอคิดอยู่แบบนี้ ก็เห็นต้วนชิงฉือก็เดินลงมาชั้นล่างพอดี มีแค่กระเป๋าสีดำเพิ่มมาแค่ใบเดียวเท่านั้น มันดูขัดกับผิวขาวเนียนของเธอเป็นอย่างมาก สายตาคู่นั้นมองมาที่คุณต้วน ทำให้คุณต้วนไม่รู้ว่าจะแสดงท่าทางยังไงเลยต้องละสายตาไปอย่างใจหวิว
คุณนายต้วนมองกระเป๋าของต้วนชิงฉือพลางขมวดคิ้วขึ้นมา น้อยขนาดนี้เลยเหรอ? “แกเอาอะไรไปบ้าง ขอฉันดูหน่อยสิ?”
“ไม่ต้องหรอก ให้เธอเอาไปเถอะ” คุณต้วนออกปากห้ามไว้ เพราะคิดว่าอย่างมากก็แค่บัตรเอทีเอ็มที่เขาให้เธอแค่ใบเดียว ในบัตรมีเงินแค่ห้าแสนเท่านั้น
ต้วนชิงฉือกลับโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะพลางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้านิ่งเรียบว่า “ตรวจดูเถอะค่ะ”
“ใครจะไปรู้ว่าเธอเอาของมีค่าอะไรไปรึป่าว...” คุณนายต้วนสบถขึ้นมาพลางเปิดกระเป๋าออก แต่กลับเห็นว่าข้างในนั้นมีแค่โน๊ตบุ๊ค เมล็ดพันธุ์บางอย่าง และเงินสดเล็กน้อย แม้แต่บัตรสักใบก็ไม่เอาไปเลย จู่ ๆ เธอก็รู้สึกขายหน้าเลยนั่งตัวตรงอย่างสง่างาม “ให้คนขับรถไปส่งแกเถอะ”
คุณต้วนที่เห็นนั้นกลับรู้สึกไม่ค่อยดีนัก เลยหยิบบัตรขึ้นมาหนึ่งใบ “ชิงฉือ กลับไปแล้วก็เชื่อฟังพ่อแม่นะ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำไร่ทำนา... แต่ก็เป็นคนที่จิตใจดี เธอต้องช่วยพวกเขาเยอะ ๆ นะ”
ใบหน้าที่สวยงามของต้วนชิงฉือยังคงเรียบเฉย เธอไม่ได้รับบัตรเอทีเอ็ม “คนเรานั้นต่างก็มีชะตากรรมของตัวเอง แต่หนูบอกไปแล้วว่า หนูจะไม่ไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ ต้วนเหมียนเหมียน ฉันให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย บอกมาให้ชัดเจนว่าเธอตกลงมาจากบันไดยังไง”
สิ่งที่ต้วนเหมียนเหมียนเกลียดที่สุดก็คือการที่ต้วนชิงฉือทำตัวนิ่ง ๆ ไม่สะทกสะท้านกับเรื่องใด ๆ ราวกับว่าเกิดมาก็มีฐานะสูงส่งกว่าเธออย่างไรอย่างนั้น
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคุณหนูปลอม!
ลูกสาวของชาวนา!
“พี่หมายความว่าไงคะ จะบอกว่าหนูล้มลงมาเองงั้นเหรอคะ? นี่คือขาของหนูนะคะ ขาที่หนูหวงแหนมากที่สุด ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา จากนี้ไปจะเต้นได้อีกยังไงกันคะ !” ต้วนเหมียนเหมียนร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางโผเข้าไปในอ้อมกอดของแม่เธอ
“เพล๊ง !”
แจกันใบนึงเขวี้ยงมาทางเธอและขัดจังหวะการแสดงของต้วนเหมียนเหมียนไป เธอกลัวจนสะดุงโหยงและลุกขึ้นยืนทันที
ทุกคนต่างพากันมองมาที่เธอ แม้แต่คุณนายต้วนกับคุณต้วนก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน
ไหนเธอบอกว่าได้รับบาดเจ็บ ช่วงนี้ลุกขึ้นยืนไม่ได้ไม่ใช่รึไงกัน?
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"