“จูบอีกครั้งเดียว ครั้งเดียวนะคะ”
“จูบอีกครั้งเดียว ครั้งเดียวนะคะ”
“พี่ซาน!”
“…”
“ไม่ตกใจเหรอคะ” ร่างเล็กเดินตรงไปทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นถนนคอนกรีตข้างมาเฟียหนุ่มที่กำลังจดจ้องไปยังเหล่าลูกน้องที่กำลังขนศพของผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับศัตรูเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
“มาทำไม”
“มือพี่…” ไม่สนใจคำถามของเขาเพียงแต่จับมือหนาข้างที่มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณหลังมือที่มีบาดแผลจากการถูกของมีคมเฉือนเป็นแนวยาว
“ไม่เป็นไร” เขาบอกพลางดึงมือตัวเองกลับไป ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังรถตู้ของเขาค้นหาสิ่งที่ต้องการอย่างอุปกรณ์ทำแผลแล้วเดินกลับมานั่งข้างเขา
“หนูทำแผลให้”
“ทำเป็น?” แม้จะถามแบบนั้นแต่ก็ยอมยื่นมือให้แฟนเพื่อนที่กำลังหยิบอุปกรณ์สำหรับทำแผลออกมาจากกล่อง
“แค่ล้างแผลกับพันผ้าก๊อชไว้ค่อยให้พี่ไปหาหมออีกที”
“มาที่นี่ทำไม” ถามอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
“ไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่ แต่ตั้งใจมาหาพี่ค่ะรู้ว่าอยู่ที่นี่เลยต้องมาที่นี่”
“…”
“พี่เลย์ให้เอาของมาให้ แต่เดี๋ยวทำแผลให้เสร็จก่อนนะคะ”
“เธอไม่กลัวบ้างเหรอ”
“กลัวอะไรคะ มีพี่ทั้งคน” บอกด้วยรอยยิ้มขณะที่สายตากำลังจดจ้องอยู่กับบาดแผลของเขา
“คนตาย”
“ก็กลัว แต่ตายไปแล้วนี่คะ”
“…”
“ทำไมถึงมีบาดแผลได้ล่ะคะ แล้วมานั่งทำไมตรงนี้ทำไมไม่ไปหาหมอก่อนคะ” ถามอย่างสงสัยกับการที่เขามานั่งให้เลือดไหลอยู่ตรงนี้ทั้งที่ควรจะไปหาหมอก่อน
“เพิ่งจบเรื่องก่อนเธอจะมา”
“อ่อ พวกเขาจะมาทำร้ายพี่เหรอคะ” หันไปมองยังสนามหญ้าหน้าโกดังร้างที่มีลูกน้องของเขากำลังขนย้ายศพไปทางด้านหลังเพื่อทำการฝังศพ
“อืม”
“พอๆ กับพี่เลย์เลยนะ” เลเจนแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบสามปีและกำลังจะเข้าประตูวิวาห์ในเดือนหน้า ส่วนโรซานเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเลเจนที่เธอสนิทที่สุดกว่าใคร
“อะไร”
“มีศัตรูเยอะ ต้องหนีตายอยู่บ่อยครั้ง พี่ซาน…”
“หืม?”
“เดือนหน้าหนูจะแต่งงานกับเขาแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมหนูถึงไม่ดีใจเลย กลับกันหนูรู้สึกว่าไม่อยากแต่งงานแล้ว”
“ทำไม”
“หนูอธิบายไม่ถูก หนูรักเขานะรักมากจริงๆ”
“ถ้ารักแล้วยังมีเหตุผลที่ไม่อยากแต่งงานกับมันอีกเหรอ” ถามพลางมองหน้าคนข้างกายที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพียงแต่สามปีมานี้เขาได้มารู้จักเธอใหม่ในฐานะแฟนเพื่อน
“มีสิ ถ้าหนูบอกว่าเขาไม่ใช่ความสบายใจของหนูล่ะ มันเป็นเหตุผลได้มั้ย”
“ก็คงได้ แต่เพราะอะไรมันถึงไม่ใช่ความสบายใจของเธอล่ะ”
“เขารักหนูมากเกินไป และยังมีอีกหลายๆ เรื่อง”
“มันรักเธอ แล้วไม่ดีเหรอ?”
“ก็คงดีสำหรับคนอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับหนู” สโนว์ตอบพร้อมถอนหายใจออกมา เธอหันไปมองหน้าคนข้างกายที่กำลังจ้องเธออยู่และเขาก็ไม่ได้หลบสายตาของเธอ
“แล้วเธอสบายใจเวลาอยู่กับใครล่ะ?”
“พี่”
“หืม?”
“หนูสบายใจเวลาอยู่กับพี่”
“เธอชอบคนดุ?” หากเทียบเขากับเลเจนเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างดุและเย็นชากับเธอ ส่วนเลเจนจะอ่อนโยนพูดจาไพเราะและให้เกียรติเธอในหลายๆ เรื่อง
“หนูไม่ชอบคนดุ และพี่ไม่ได้ดุหนูสักหน่อย” แค่เอ็ดเวลาเธอดื้อเท่านั้น แถมไม่ได้เอ็ดเหมือนเลเจนที่หากได้รับบทคนโหดจะตะคอกเธอเสียงดังเลยล่ะ
“ยังไงซะก็จะแต่งงานกับมันแล้วก็ควรจะเปิดใจคุยกันให้ดีนะ”
“พี่ซาน”
“…”
“อืม ถ้าหนูแต่งงานกับเขาแล้วพี่จะยังมาเที่ยวหาพี่เลย์กับหนูอยู่มั้ย หรือว่าจะห่างกันออกไปเลย” ถามพลางจับมือหนาข้างที่ไม่เจ็บมาวางบนหน้าตักตัวเองโดยที่มาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้ดึงมันกลับ
“ว่างก็จะไปหา”
“อ่อ แล้วเมื่อไหร่พี่จะมีแฟนคะ?” โรซานเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเลเจน เขามีอายุมากกว่าแฟนเธอถึงห้าปี เลเจนอายุ29ปี ส่วนโรซานนั้น34ปี และตัวเธอเพียงแค่23ปี ทว่าเธอยังไม่เคยเห็นแฟนของโรซานเลยสักคน
“ไม่รู้สิ”
“พี่เคยมีแฟนมั้ยคะ” คิดว่าเขาก็คงมีแหละ แต่อาจจะไม่ได้เปิดตัวกับใครก็ได้
“ไม่เคย”
“หนูไม่เชื่อ คนหล่อๆ แบบพี่เนี่ยน่ะเหรอไม่เคยมีแฟน”
“ในชีวิตเธอ เคยรออะไรสักอย่างมั้ย?”
“เคยสิคะ หนูเคยรอว่าสักวันหนูจะเก่งมากกว่านี้ คิกคิก~”
“…”
“แล้วพี่ล่ะคะ รออะไร?”
“รอคนคนนึง”
“ใครคะ?” ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างกับรอว่าคำตอบนั้นของเขาจะเป็นเธอไปได้ “หนูรู้จักหรือเปล่า” ถามต่อเมื่อถูกเขาจ้องหน้าด้วยแววตานิ่งๆ
“เธอไม่รู้จัก”
“อ่อ…” ความหวังลมๆ แล้งๆ เมื่อสักครู่หดหายไปในทันที สโนว์หยัดกายลุกขึ้นยืนบิดตัวก่อนจะยื่นมือไปให้โรซานที่ก็ยอมจับมือเธอลุกขึ้นยืน
“หวังอะไรอยู่เหรอ?” เขาถามเสียงราบเรียบ สายตายังไม่ละจากใบหน้าเรียวสวยที่ก่อนหน้านี้แวตาเธอเต็มไปด้วยความหวังและผิดหวังในเวลาต่อมา
“พี่รู้อยู่แล้วนี่”
“…”
‘ผู้หญิงที่คาถาเลือก คือผู้หญิงที่ถูกกลั่นกรองมาแล้วว่าเป็นผู้หญิงที่สวยสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นเธอควรดีใจที่ตัวเองไม่มีจุดบกพร่องและควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี’
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เจ้าสาวหมาดๆ อย่างบัวบูชาตื่นมาบนเตียงชายอื่นในวันรุ่งขึ้นของการแต่งงาน เป็นคล้ายฝันร้ายที่กลายเป็นจริง เขาทำราวกับเธอเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานมนาน เขาลักพาตัวเธอมาจากหน้าเรือนหอในคืนวิวาห์ เพราะเข้าใจว่าเธอคือบุษบงกชคนรักเก่าที่หนีตามชายอื่นไป บัวบูชาอยากหนีไปจากเขา หรือบอกความจริงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น แต่เพราะ คนรักเก่าที่เขาเกลียดชัง เคียดแค้น คือพี่สาวฝาแฝดของเธอที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำไปก่อนหน้า หญิงสาวตัดสินใจสวมรอยเป็นบุษบงกช เพื่อสืบหาความจริง โดยไม่รู้เลยว่าเดิมพันครั้งนี้สูงนัก เพราะมันหมายถึงทั้งชีวิต...และหัวใจ!
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
© 2018-now MeghaBook
บนสุด