“จูบอีกครั้งเดียว ครั้งเดียวนะคะ”
“พี่ซาน!”
“…”
“ไม่ตกใจเหรอคะ” ร่างเล็กเดินตรงไปทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นถนนคอนกรีตข้างมาเฟียหนุ่มที่กำลังจดจ้องไปยังเหล่าลูกน้องที่กำลังขนศพของผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับศัตรูเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
“มาทำไม”
“มือพี่…” ไม่สนใจคำถามของเขาเพียงแต่จับมือหนาข้างที่มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณหลังมือที่มีบาดแผลจากการถูกของมีคมเฉือนเป็นแนวยาว
“ไม่เป็นไร” เขาบอกพลางดึงมือตัวเองกลับไป ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังรถตู้ของเขาค้นหาสิ่งที่ต้องการอย่างอุปกรณ์ทำแผลแล้วเดินกลับมานั่งข้างเขา
“หนูทำแผลให้”
“ทำเป็น?” แม้จะถามแบบนั้นแต่ก็ยอมยื่นมือให้แฟนเพื่อนที่กำลังหยิบอุปกรณ์สำหรับทำแผลออกมาจากกล่อง
“แค่ล้างแผลกับพันผ้าก๊อชไว้ค่อยให้พี่ไปหาหมออีกที”
“มาที่นี่ทำไม” ถามอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
“ไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่ แต่ตั้งใจมาหาพี่ค่ะรู้ว่าอยู่ที่นี่เลยต้องมาที่นี่”
“…”
“พี่เลย์ให้เอาของมาให้ แต่เดี๋ยวทำแผลให้เสร็จก่อนนะคะ”
“เธอไม่กลัวบ้างเหรอ”
“กลัวอะไรคะ มีพี่ทั้งคน” บอกด้วยรอยยิ้มขณะที่สายตากำลังจดจ้องอยู่กับบาดแผลของเขา
“คนตาย”
“ก็กลัว แต่ตายไปแล้วนี่คะ”
“…”
“ทำไมถึงมีบาดแผลได้ล่ะคะ แล้วมานั่งทำไมตรงนี้ทำไมไม่ไปหาหมอก่อนคะ” ถามอย่างสงสัยกับการที่เขามานั่งให้เลือดไหลอยู่ตรงนี้ทั้งที่ควรจะไปหาหมอก่อน
“เพิ่งจบเรื่องก่อนเธอจะมา”
“อ่อ พวกเขาจะมาทำร้ายพี่เหรอคะ” หันไปมองยังสนามหญ้าหน้าโกดังร้างที่มีลูกน้องของเขากำลังขนย้ายศพไปทางด้านหลังเพื่อทำการฝังศพ
“อืม”
“พอๆ กับพี่เลย์เลยนะ” เลเจนแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบสามปีและกำลังจะเข้าประตูวิวาห์ในเดือนหน้า ส่วนโรซานเขาเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเลเจนที่เธอสนิทที่สุดกว่าใคร
“อะไร”
“มีศัตรูเยอะ ต้องหนีตายอยู่บ่อยครั้ง พี่ซาน…”
“หืม?”
“เดือนหน้าหนูจะแต่งงานกับเขาแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมหนูถึงไม่ดีใจเลย กลับกันหนูรู้สึกว่าไม่อยากแต่งงานแล้ว”
“ทำไม”
“หนูอธิบายไม่ถูก หนูรักเขานะรักมากจริงๆ”
“ถ้ารักแล้วยังมีเหตุผลที่ไม่อยากแต่งงานกับมันอีกเหรอ” ถามพลางมองหน้าคนข้างกายที่รู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว เพียงแต่สามปีมานี้เขาได้มารู้จักเธอใหม่ในฐานะแฟนเพื่อน
“มีสิ ถ้าหนูบอกว่าเขาไม่ใช่ความสบายใจของหนูล่ะ มันเป็นเหตุผลได้มั้ย”
“ก็คงได้ แต่เพราะอะไรมันถึงไม่ใช่ความสบายใจของเธอล่ะ”
“เขารักหนูมากเกินไป และยังมีอีกหลายๆ เรื่อง”
“มันรักเธอ แล้วไม่ดีเหรอ?”
“ก็คงดีสำหรับคนอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับหนู” สโนว์ตอบพร้อมถอนหายใจออกมา เธอหันไปมองหน้าคนข้างกายที่กำลังจ้องเธออยู่และเขาก็ไม่ได้หลบสายตาของเธอ
“แล้วเธอสบายใจเวลาอยู่กับใครล่ะ?”
“พี่”
“หืม?”
“หนูสบายใจเวลาอยู่กับพี่”
“เธอชอบคนดุ?” หากเทียบเขากับเลเจนเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างดุและเย็นชากับเธอ ส่วนเลเจนจะอ่อนโยนพูดจาไพเราะและให้เกียรติเธอในหลายๆ เรื่อง
“หนูไม่ชอบคนดุ และพี่ไม่ได้ดุหนูสักหน่อย” แค่เอ็ดเวลาเธอดื้อเท่านั้น แถมไม่ได้เอ็ดเหมือนเลเจนที่หากได้รับบทคนโหดจะตะคอกเธอเสียงดังเลยล่ะ
“ยังไงซะก็จะแต่งงานกับมันแล้วก็ควรจะเปิดใจคุยกันให้ดีนะ”
“พี่ซาน”
“…”
“อืม ถ้าหนูแต่งงานกับเขาแล้วพี่จะยังมาเที่ยวหาพี่เลย์กับหนูอยู่มั้ย หรือว่าจะห่างกันออกไปเลย” ถามพลางจับมือหนาข้างที่ไม่เจ็บมาวางบนหน้าตักตัวเองโดยที่มาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้ดึงมันกลับ
“ว่างก็จะไปหา”
“อ่อ แล้วเมื่อไหร่พี่จะมีแฟนคะ?” โรซานเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเลเจน เขามีอายุมากกว่าแฟนเธอถึงห้าปี เลเจนอายุ29ปี ส่วนโรซานนั้น34ปี และตัวเธอเพียงแค่23ปี ทว่าเธอยังไม่เคยเห็นแฟนของโรซานเลยสักคน
“ไม่รู้สิ”
“พี่เคยมีแฟนมั้ยคะ” คิดว่าเขาก็คงมีแหละ แต่อาจจะไม่ได้เปิดตัวกับใครก็ได้
“ไม่เคย”
“หนูไม่เชื่อ คนหล่อๆ แบบพี่เนี่ยน่ะเหรอไม่เคยมีแฟน”
“ในชีวิตเธอ เคยรออะไรสักอย่างมั้ย?”
“เคยสิคะ หนูเคยรอว่าสักวันหนูจะเก่งมากกว่านี้ คิกคิก~”
“…”
“แล้วพี่ล่ะคะ รออะไร?”
“รอคนคนนึง”
“ใครคะ?” ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างกับรอว่าคำตอบนั้นของเขาจะเป็นเธอไปได้ “หนูรู้จักหรือเปล่า” ถามต่อเมื่อถูกเขาจ้องหน้าด้วยแววตานิ่งๆ
“เธอไม่รู้จัก”
“อ่อ…” ความหวังลมๆ แล้งๆ เมื่อสักครู่หดหายไปในทันที สโนว์หยัดกายลุกขึ้นยืนบิดตัวก่อนจะยื่นมือไปให้โรซานที่ก็ยอมจับมือเธอลุกขึ้นยืน
“หวังอะไรอยู่เหรอ?” เขาถามเสียงราบเรียบ สายตายังไม่ละจากใบหน้าเรียวสวยที่ก่อนหน้านี้แวตาเธอเต็มไปด้วยความหวังและผิดหวังในเวลาต่อมา
“พี่รู้อยู่แล้วนี่”
“…”
‘ผู้หญิงที่คาถาเลือก คือผู้หญิงที่ถูกกลั่นกรองมาแล้วว่าเป็นผู้หญิงที่สวยสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นเธอควรดีใจที่ตัวเองไม่มีจุดบกพร่องและควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี’
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น