เสิ่นเนี่ยนอันเปิดดูหน้าแรกเวยป๋อของซูถังถัง เปิดดูวิดีโอทุกรายการอย่างจริงจังมาก
【เขามักจะให้ฉันกินตรงกลางของแตงโมเสมอ 】
【ไม่ว่าจะกลับมาจากเลิกงานช้าแค่ไหน เขาก็จะเอาของขวัญกลับมาให้ฉันอย่างหนึ่งเสมอ 】
【เครื่องรางเรื่องความแคล้วคลาดที่เขาขอจากท่านอาจารย์มา ก็เพื่อขอให้ฉันปลอดภัย 】
……
หญิงสาวในวิดีโอดูน่ารักและอ่อนโยนอย่างมาก เธอสวมชุดกระโปรงสีขาวตัวหนึ่ง หน้าตาของเธอไม่ได้สะสวยอะไร แต่กลับดูบริสุทธิ์อย่างไร้ที่ติ รอยยิ้มของเธอก็ดูน่ารักน่าเอ็นดู
เสิ่นเนี่ยนอันเป็นเหมือนพวกถ้ำมองคนหนึ่ง เธอพยายามค้นหาใบหน้าของผู้ชายที่เป็นตัวเอกในวิดีโออย่างเมามัน
แต่บทพูดของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสุขและความหวานชื่นในวิดีโอ รวมถึงชีวิตประจำวันที่เรียบง่ายสุด ๆ ของแฟนหนุ่มของเธอ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เสิ่นเนี่ยนอันสิ้นหวังได้โดยปริยายแล้ว
ปรากฎว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันในวันที่สิบห้าของทุกเดือน วันคริสต์มาสอีฟ วันวาเลนไทน์ หรือแม้แต่วันเกิดของเสิ่นเนี่ยนอันก็ตาม
แต่ฮั่วอวิ๋นโจวผู้เป็นสามีของเธอ กลับไม่เคยอยู่เคียงข้างเธอเลยในวันสำคัญต่าง ๆ ตลอดสามปีที่ผ่านมา
ชื่อเจ้าของเวยป๋อคือ:นับถอยหลังสู่ความตาย
แล้วก็เป็นคนเดียวที่เสิ่นเนี่ยนอันติดตามด้วย
เธอยังไม่ทันจะได้คิดเลยว่าทำไมถึงต้องเป็นชื่อนี้ จู่ ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกเสียก่อน
จากการมองแสงและเงา เธอเห็นไหล่กว้าง ๆ และเอวคอด ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งสะท้อนมา เขาเดินออกมาโดยพันผ้าเช็ดตัวเอาไว้ ผมสีดำเข้มของเขายังคงมีน้ำหยดอยู่
แม้ว่าแสงไฟจะสลัว แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความหล่อเหลาของเขาลงไปเลย
เสิ่นเนี่ยนอันปิดโทรศัพท์ของเธอโดยสัญชาตญาณ เธอมองเหม่อไปที่ผู้ชายคนนั้น เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ครั้งสุดท้ายที่เธอเจอฮั่วอวิ๋นโจว มันคือเมื่อไหร่
คืนนี้ เขาไม่ได้กลับมาโดยสมัครใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าช่วงนี้คุณย่าป่วยหนักและร้อนใจอยากจะอุ้มหลานจนสั่งให้เขากลับบ้าน ฮั่วอวิ๋นโจวก็อาจจะไม่มาเหยียบที่นี่แม้แต่ก้าวเดียวเลยด้วยซ้ำ
หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วอวิ๋นโจวเคยกลับบ้านแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ส่วนใหญ่เขาจะไปอาศัยอยู่ที่วิลล่าไห่วานอี
ตั้งแต่เริ่มต้นการแต่งงานครั้งนี้ ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาไม่รักเธอ
เธอทำหน้าที่เป็นคุณนายฮั่วแต่ในนามอย่างสิ้นหวัง
“ผมจะให้โอกาสคุณแค่ครั้งเดียว คุณจะท้องรึเปล่า คงต้องดูแล้วล่ะว่าคุณมีโชคชะตานั้นไหม!” ฮั่วอวิ๋นโจวพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ
เขาหมายความว่ายังไงกัน?
ก่อนที่เธอจะทันโต้ตอบ ฮั่วอวิ๋นโจวก็คว้าข้อเท้าของเธอไปและลากเธอไปข้างหน้าเขา จากนั้นเงามืดก็ค่อย ๆ ปกคลุมร่างกายเล็ก ๆ ของเสิ่นเนี่ยนอันอย่างช้า ๆ
ชายคนนั้นดึงผ้าเช็ดตัวออก แล้วก็ใช้หัวเข่าที่แข็งแรงของเขากางขาของทั้งสองข้างของเธอออก
เสียง “แกร๊ก” ดังขึ้น
เขาฉีกกระโปรงออกอย่างง่ายดาย หน้าอกที่ดูเอิบอิ่มของเธอเผยออกมา มันช่างเป็นวิธีที่น่าอัปยศอดสูซะเหลือเกิน
การกระทำที่หยาบคายแบบนี้ ทำให้สีหน้าของเสิ่นเนี่ยนอันซีดเผือดลง เธอพยายามดิ้นไปมาด้วยความกลัว
“ฮั่วอวิ๋นโจว! หยุดเถอะ ฉันไม่อยาก......”
เสิ่นเนี่ยนอันพยายามดิ้นรนอย่างแรง เธอไม่ต้องการทำกับผู้ชายที่เธอรักในสถานการณ์เช่นนี้ มันทำให้เธอรู้สึกอับอายและหวาดกลัวไปหมด
ฮั่วอวิ๋นโจวหัวเราะเยาะเย้ยออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อตอนนั้นกล้าวางยาผม ก็แสดงว่าคาดหวังถึงวันนี้เอาไว้แล้ว เจ็บก็ต้องทนเอาไว้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ขนตาของเสิ่นเนี่ยนอันก็สั่นไปมา หัวใจของเธอเจ็บจี๊ดราวกับถูกมีดทิ่มแทง เธอเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขาและพูดว่า “ตอนนั้นฉันดื่มมากเกินไป ไม่ใช่ว่า..... โอ๊ย!”
โน้ตตัวสุดท้ายเปลี่ยนเสียงไปทันที เธอกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น
จากนั้น ข้อมืออันเรียวยาวของเธอก็ถูกดึงขึ้นเหนือศีรษะ ตัวของผู้ชายกดทับลงมา เขาเริ่มขยับร่างกายไปมาด้วยสีหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึก
แล้วก็เข้ามาครอบครองส่วนที่ลึกที่สุดของเธอ
การกระทำของเขาป่าเถื่อนอย่างมาก เสิ่นเนี่ยนอันเจ็บจนขมวดคิ้วแน่น
ความเจ็บปวดจากการฉีกขาดของส่วนล่างของเธอ มันเปลี่ยนจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในช่วงแรกไปสู่อาการชา แล้วสุดท้ายเธอก็ตัวอ่อนลงอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
เสิ่นเนี่ยนอันยอมแพ้และหยุดดิ้นแล้ว เวลานี้ เธอรู้สึกว่ายอมตายไปซะยังจะดีกว่า
หลังจากที่ทำเรื่องบนเตียงกันเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นไปจากตัวของเธอ แล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวบนพื้นขึ้นมาพันรอบตัวใหม่อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “ครั้งนี้เรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้นแล้วหนิ ทำเป็นใช้กลอุบายแสร้งปล่อยเพื่อจับ อันที่จริงน่าสนใจยิ่งกว่าการเสแสร้งทำตัวไร้เดียงสาซะอีก”
เสียงที่แหบแห้งของเขาหลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้น เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท