ความรู้สึกผิดกลายเป็นความอับอายดั่งเปลวไฟที่ลุกโชนจนเธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว
เวลาผ่านไป ความดุดันก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
จนกระทั่งผู้ประมูลเคาะราคาปิดประมูล “ห้าสิบล้าน!”
“ขอเสียงปรบมือให้กับคุณเซ่หลินโจวเลยครับ!”
ชื่อที่ถูกเอ่ยนั้นทำให้เวินซื่อแข็งทื่อไปทั้งร่างในทันที
ความเปลี่ยนแปลงนั้นชัดเจนมาก จนชายคนนั้นชะงักการเคลื่อนไหว เขาเปิดเปลือกตาขึ้นมองจอภาพอย่างเกียจคร้าน
กล้องจับหันไปภาพใบหน้าของเซ่หลินโจวพอดี
“คุณชายรองตระกูลเซ่ คนรู้จักเหรอ?” เขากดจูบที่ใบหูของเวินซื่อ พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
เวินซื่อขมวดคิ้ว เธอไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย
“การสอดรู้สอดเห็นเรื่องซุบซิบเป็นส่วนหนึ่งของบริการของคุณด้วยหรือไง?”
ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยิน
บริการ?
เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่ค่อย ๆ บีบเอวของเธอแน่นขึ้นอีก และเคลื่อนไหวด้วยความรุนแรงที่ไม่ทันตั้งตัว
รอบข้างมืดสลัว ความปรารถนาล้นทะลัก
เสียงที่แสนคลุมเคลือและเสียงหัวใจที่ว้าวุ่นสอดประสานกันอย่างเร่าร้อน
จนกระทั่งถึงจุดสุดยอด
……
หลังจากทุกอย่างสิ้นสุด เวินซื่อฉวยโอกาสตอนที่ชายคนนั้นเข้าห้องน้ำ หยิบเงินสดสิบกว่าใบจากกระเป๋าสตางค์ออกมาวางไว้
จากนั้นเธอก็เดินออกไปโดยใช้มือประคองเอว
เมื่อลี่ซือเหนียนออกมาและพบเงินที่วางอยู่บนเก้าอี้ เขาก็กระตุกมุมปาก
ชายหนุ่มจุดบุหรี่อย่างใจเย็น นั่งลงแล้วหยิบเงินขึ้นมาเล่นในมือ
ไม่นานนัก ผู้ช่วยของเขา ซ่งชวน ก็พรวดเข้ามาอย่างรีบร้อน
กลิ่นอายของความเหนื่อยล้ายังคงไม่จางหาย ทำให้ซ่งชวนรู้สึกชาหนึบที่หนังศีรษะขึ้นมาทันที “ขอโทษครับคุณลี่ ผมพลาดไปชั่วขณะ ขอเวลาอีกหน่อย ผมจะจับเธอกลับมาให้ได้”
พวกเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แม้จะคอยระวังทุกอย่าง แต่กลับไม่ทันระวังผู้หญิงคนเดียว
ลี่ซือเหนียนพ่นควันบุหรี่ออกมา ดวงตาเขาดูเฉยเมย
“ไม่ต้อง ฉันเต็มใจเอง”
ซ่งชวนอึ้งไป
เขามองรอยข่วนชวนคิดลึกที่หน้าอกของลี่ซือเหนียนอีกครั้ง สมองของเขากลับกลายเป็นว่างเปล่า
อยู่กับเขามานานขนาดนี้ ลี่ซือเหนียนไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย แม้แต่การสัมผัสกันก็ไม่มี
ถึงขนาดในโลกภายนอกต่างลือกันว่าเขามีปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
แต่ตอนนี้ ข่าวลือกลับถูกชี้แจงไปแล้วทั้งแบบนี้
ยังไม่ทันที่ซ่งชวนจะคิดอะไรมาก เสียงทุ้มลึกของลี่ซือเหนียนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ตรวจสอบชีวิตส่วนตัวของเซ่หลินโจวให้ละเอียด ภายในครึ่งชั่วโมงฉันต้องได้ข้อมูลทั้งหมดของเขา”
เมื่อคืนนี้เธอวิ่งเข้ามาอย่างสับสน ทั้งตัวร้อนเป็นไฟ
เห็นได้ชัดว่าเธอโดนวางยา
เขาที่อดทนมาเนิ่นนานก็ไม่อาจต้านทานการยั่วยวนอย่างซุ่มซ่ามของเธอได้
แต่ในตอนที่เขาครอบครองเธอนั้น เขากลับพบกับอุปสรรคที่ชัดเจน
นี่เป็นครั้งแรกของเธอ
แต่ว่าเธอแต่งงานกับเซ่หลินโจวมาสองปีแล้ว
ครั้งแรกอย่างนั้นหรือ?
ลี่ซือเหนียนนึกถึงรสชาติที่หอมหวานนั้น พลางยกยิ้มมุมปากอย่างลึกซึ้ง
เขาชอบความประหลาดใจนี้อย่างมาก
แต่ก็รู้สึกเสียดายอยู่บ้างที่เธอเหมือนจะไม่จำเขาได้
……
เมื่อเวินซื่อกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาเช้าแล้ว
เธอกัดฟันเล็กน้อย
ถึงสองสามรอบหลังจะเหนื่อยล้าจนเธอขยับตัวไม่ได้ แต่ชายคนนั้นก็ยังคงดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนและเอาเธอไม่หยุดหย่อน
ใครกันแน่ที่เป็นลูกค้า?
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ หลินไห่ถัง เพื่อนสนิทของเธอก็โทรมาหา
“ซื่อซื่อ!” เสียงแหลมสูงของเธอดังลั่นเข้ามาในสาย “เธอตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เวินซื่อถอนรองเท้าออกอย่างเหนื่อยล้า “ดีขึ้นมากแล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงอ่อนแรงของเธอ หลินไห่ถังก็ออกปากด่าอย่างอดไม่ได้ “เซ่หลินโจวไอ้คนน่ารังเกียจ เขาทำตัวน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยกันก็หย่าไปสิ ทำไมต้องใช้วิธีต่ำช้าแบบนี้เล่นงานเธอ เขายังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?”
หัวใจของเวินซื่อรู้สึกเจ็บแปลบ
เมื่อวานเป็นวันครบรอบสองปี เซ่หลินโจวส่งข้อความมาบอกว่าจะเลี้ยงฉลอง เธอก็แต่งตัวสวยไปพบเขา แต่กลับถูกทิ้งให้รอเก้อ น้ำเปล่าที่ถูกส่งมาให้ดื่มนั้นก็ทำให้เธอต้องพบกับค่ำคืนอันบ้าคลั่ง
เขาเป็นคนทำหรือเปล่านะ?
เวินซื่อกลั้นความขมขื่นและเสียดสีในใจไว้ แล้วเดินขึ้นบันไดไปช้า ๆ “ไม่เป็นไรหรอก ไห่ถัง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
หลินไห่ถังรู้ดีว่าเพื่อนของเธอเป็นคนยอมใจอ่อนง่าย “ถ้ามีอะไรเธอบอกฉันได้เลยนะ ฉันจะใส่ส้นสูงแหลม ๆ ไปเตะไข่เขาให้ระเบิดเอง!”
เวินซื่อยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“แต่เดี๋ยวก่อนนะ ซื่อซื่อ” หลินไห่ถังถามด้วยความสงสัย “ผู้ชายที่เธอไปหามาได้เมื่อคืนนี้คือใครเหรอ?”
เวินซื่อชะงัก ลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้น “ไม่ใช่ผู้ชายขายตัวที่เธอจ้างมาให้ฉันหรอกเหรอ?”
“ฉันจ้างแล้ว แต่เธอไม่ได้ไปหาเขา ผู้ชายคนนั้นโทรหาฉันแต่เช้า บอกว่ารอเธอทั้งคืนแต่ไม่เจอ ฉันเลยโทรมาถามเธอนี่แหละ”
เวินซื่อ “……”
ในขณะที่เธอกำลังสับสน จู่ ๆ ประตูห้องนอนตรงหน้าก็เปิดออกอย่างกะทันหัน
เธอเงยหน้าขึ้นมอง
เซ่หลินโจวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวหลุบตามองลงมาที่เธอจากมุมสูง
“ผู้ชายขายตัวอะไร?”