เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
“ฉันให้สิบล้าน ตกลงไหม!”
อิงดาวนางเอกละครชื่อดังในปัจจุบัน ด้วยใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต แพขนตางอน จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางระเรื่อสีชมพูด ผิวขาวนวล ทำให้เธอกลายเป็นที่พูดถึงได้ไม่ยาก ที่สำคัญบทละครส่งให้เธอนั้นกลายเป็นขวัญใจชั่วข้ามคืน
“แน่ใจเหรอคะที่จะให้ฉันขนาดนี้ แค่เรื่องแย่งผู้ชายคนหนึ่งมา” ต่อให้ไม่อยากทำ แต่เธอจำต้องรับงานนี้ไว้ เพราะน้องชายกำลังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต้องทำการรักษาตัว
เงินที่ได้มา ก็แทบไม่ได้ใช้จ่ายอะไรนอกจากให้น้องได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
“ใช่ แค่แย่งผู้ชายคนนี้มาเท่านั้นเอง” ผู้ว่าจ้างยืนยันหนักแน่น
อิงดาวมองใบหน้าชายในมือถือ เขาเป็นคนหน้าตาค่อนข้างดี ดูสุภาพมีหรือจะมาชอบคนอย่างเธอ ที่สำคัญการแย่งคนรักคนอื่น ไม่ใช่ทางเลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่ามูลค่าที่ได้นั้นมหาศาลทำให้เธอต้องยื่นมือมารับไว้อย่างเสียไม่ได้ อย่างไรชีวิตเธอน้องก็สำคัญที่สุด
คนถูกว่าจ้างเม้มริมฝีปากครุ่นคิดหนัก ยังไม่ได้แต่งงานกันคงไม่มีปัญหาอะไร
“ก็ได้ค่ะ ฉันรับงานนี้!”
“ฉันจะจ่ายให้ก่อนห้าล้าน งานเสร็จรับอีกห้าล้าน เป็นอันตกลงตามนี้นะ” ผู้ว่าจ้างบอก
“ตกลงค่ะ”
สาวิตรีหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ แล้วเดินออกนอกร้านกาแฟ อิงดาวมองตามแล้วระบายลมหายใจ เธอไม่ได้ตั้งใจเลย ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ คงเลือกทางที่ถูกที่ควรมากกว่านี้
รถยนต์จอดเทียบหน้าโรงพยาบาล พยาบาลสาวก้าวออกมาแล้วระบายยิ้ม เธอเป็นสาวผิวน้ำผึ้ง รูปร่างบอบบาง วงหน้าคมเหมือนแขก ดวงตากลมโต เธอเปิดประตูขึ้นนั่ง ตรงคนขับมีชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าตาสุภาพส่งยิ้มให้แล้วเคลื่อนรถออก
ศิรินภาเหลือบมองไปยังหน้ารถ เห็นรูปดาราสาวกำลังโด่งดังติดอยู่ เธออมยิ้มแล้วแกล้งช้อนสายตามอง
“ไม่ว่าที่ไหนก็มีรูปดาราคนนี้เต็มไปหมดเลยนะคะ ดูท่าคุณจะชอบมากเลย” ศิรินภาแกล้งแซว
“ก็เหมือนชอบดาราทั่วไปนั่นแหละครับนภา” เขาหัวเราะแผ่ว
เธอยิ้มบางๆ “ค่า นภาเข้าใจ”
อัครวุฒิยิ้มให้คนรัก แล้วขับเคลื่อนรถออกเพื่อเดินทางกลับบ้าน รถแล่นมาจนถึงหน้าบ้าน อัครวุฒิจอดรถแล้วเดินไปเปิดประตูรั้ว ก่อนขับรถเข้าสู่ด้านใน สองร่างเดินเคียงกันเข้าด้านใน ศิรินภารีบเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารสำหรับค่ำคืนนี้ ระหว่างทำร่างบางถูกโอบกอดจากด้านหลัง หญิงสาวหันมายิ้มกว้าง รู้สึกมีความสุขที่มีแฟนที่รักและเอาใจใส่ขนาดนี้
“อยากให้ถึงเดือนหน้าเร็วๆ จังเลยนภา” เขาบอกแฟนสาว แล้วจับให้เธอหันมาสบตา
“ทำไมคะ”
“ผมอยากแต่งงานกับคุณเร็วๆ น่ะสิ”
คนฟังหัวเราะแผ่ว “จะบ้าเหรอคะ แต่งเร็วจะไปเตรียมงานทันได้ยังไง”
ติ๊งต่อง!
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำเอาสองคนชะงัก เขาคลายอ้อมกอดแล้วเดินออกมา เปิดประตูรั้ว เห็นหน้าคนมาเยือนชายหนุ่มชะงักอ้าปากค้าง สีหน้าตื่นตะลึง
“อิงดาว..” เขาละเมอ
เธอเสยผมแล้วยิ้มยั่ว จนทำเอาอีกฝ่ายละสายตาไม่ได้ เหงื่อผุดซึมใบหน้ายิ่งส่งให้ดาราสาวดูผุดผาดงดงามจนใจสั่น
“เอ่อ.. ขอโทษนะคะ ใช่บ้านคุณมัลลิการ์ไหม” เธอแสร้งถาม แล้วขมวดคิ้ว
คนถูกถามส่ายหน้าเหมือนคนละเมอ เธออมยิ้ม
“ถ้างั้นขอบคุณมากนะคะ” อิงดาวบอก แล้วหันกายเดินออกมา ก่อนหันกลับไปมอง แล้วยิ้มกว้าง เดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง “คุณชื่ออะไรคะ”
“ผมอัครวุฒิครับ เรียกวุฒิเฉยๆ ก็ได้”
“ฉันอิงดาวนะคะ” ยื่นมือออกมาให้เขาจับ อัครวุฒิมองมือก่อนเอื้อมจับ
อิงดาวรับรู้ได้ถึงอาการสั่น มือนั่นเย็นเฉียบราวกับแช่น้ำแข็งมา
“เอาไว้เจอกันนะคะ” หญิงสาวก้าวออกมาแล้วขึ้นรถขับเคลื่อนออกไป
อัครวุฒิเดินละเมอเข้าบ้าน จนแฟนสาวต้องสะกิดมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“ใครมาเหรอคะ”
“อิงดาว”
คนฟังชะงัก จ้องมองด้วยความสงสัย อิงดาวงั้นเหรอ ทำไมต้องมาที่บ้านด้วย ว่าที่เจ้าบ่าวเธอกำลังละเมออะไรหรือเปล่า คนตัวเล็กยิ้มบางๆ แล้วตบไหล่หนา
“ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ ฉันอนุญาตให้แค่ฝันถึงนะคะ แต่อย่าฝันนานต้องอยู่กับความเป็นจริงบ้าง” พูดจบเธอกลับเข้าครัวแล้วจัดเตรียมอาหารไว้ทานทันที
อัครวุฒิจอดรถริมบาทวิถี มองดูแฟนเดินเข้าโรงพยาบาล เขาขับรถออกจากบริเวณนั้นเพื่อเดินทางไปทำงานที่ระยองต่อ ชายหนุ่มมองนาฬิกาใกล้เวลานัดแล้ว เขามีอาชีพเป็นช่างถ่ายภาพนิตยสารชื่อดัง พบนักแสดงนางแบบมากหน้าหลายตา แต่ไม่เคยรู้สึกชอบพอใครเท่าอิงดาวมาก่อน เขาเคยเห็นผลงานเพื่อนๆ แต่ไม่เคยสัมผัสพูดคุยกับเธอเลย
รถจอดลงเมื่อถึงสถานที่ถ่ายภาพ ทีมงานเคลียร์ทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว อัครวุฒิหยิบกล้องออกมาแล้วเดินตรงไปยังชายหาด นางแบบในชุดว่ายน้ำบิกินี่สวมผ้าคลุมตาข่ายสีขาวทับหันมาสบตา ชายหนุ่มชะงักดวงตาจดจ้องภาพนั้นราวกับต้องมนต์สะกด ไม่คิดว่าวันนี้จะได้พบกันอีก สองเท้าก้าวเดินอย่างระมัดระวังภายในสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะความปลาบปลื้มภายใน
“นี่อัครวุฒิครับ ที่จะมาถ่ายภาพให้คุณอิงดาว” ผู้กำกับแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” เธอระบายยิ้ม “เจอกันอีกแล้วนะคะ”
ชายหนุ่มชะงัก ไม่คิดว่าคนสวยจะจำตนได้ด้วย
“จำผมได้ด้วยเหรอครับ”
“จำได้สิคะ วันนั้นฉันหลงทางไปเจอคุณที่บ้านไงคะ”
อัครวุฒิยิ้มเขิน ก่อนทีมงานจะพากันมาตามให้ถ่ายแบบ เพราะดวงอาทิตย์กำลังให้แสงสวย ช่างภาพรัวถ่ายเมื่อนางเอกสาวโพสต์ท่า แสงสะท้อนผ่านเรือนร่าง เผยให้เห็นทรวดทรงน่ามอง อัครวุฒิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หนึ่งชั่วโมงต่อมาการถ่ายภาพจบลง อิงดาวเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า มือถือของเธอดังขึ้น
“ค่ะคุณสาวิตรี” เธอกรอกเสียง
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“เรียบร้อยดีค่ะ อีกไม่นานเกินรอแน่นอน”
สาวิตรียกยิ้มพึงพอใจ “ขอบคุณมาก ฉันวางสายก่อนนะคะ” ตัดสายออกแล้วมองมือถือแววตาแข็งกร้าว ความเจ็บแค้นในอกอีกไม่นานจะได้รับการชำระ
อิงดาวมองตนเองในกระจก แล้วหยิบเสื้อผ้าจัดการเปลี่ยนชุด ออกมานอกห้องแต่งตัวเห็นร่างสูงยืนอยู่ เธอก้าวมาหาแล้วหยุดมอง เขาหันมาสบตาพอดี สีหน้าคนมองแดงขึ้น หญิงสาวยิ้มทักทาย
“อ้าวคุณอัครวุฒิ!”
เขายกมือเกาศีรษะ “เรียกผมวุฒิเฉยๆ ก็ได้ครับ”
“อ๋อค่ะคุณวุฒิ มายืนรอใครเหรอคะ” พูดจบ เธอแสร้งกวาดตามองรอบๆ
“ผมมารอคุณอิงดาวน่ะครับ”
เธอกระตุกยิ้มมุมปาก “เรียกดาวเฉยๆ ก็ได้นะคะ”
“ครับคุณดาว”
“ว่าแต่มารอดาวมีอะไรหรือเปล่าคะ”
อัครวุฒิอึกอักเล็กน้อย “ผมขอแลกไลน์กับคุณดาวได้ไหม”
อิงดาวชะงักเล็กน้อย แล้วฉีกยิ้มกว้าง
“ได้สิคะ” เธอบอกเบอร์โทรให้กับเขา พร้อมกับเมมเบอร์ของอัครวุฒิไว้
“ขอบคุณมากนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นดาวขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีงานอีกที่หนึ่ง”
“ได้ครับ”
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
ไม่รู้ว่าเป็นคราวซวยหรือสวรรค์กลั่นแกล้งกันแน่ เมื่อไฮโซสาวสร้างข่าวฉาวไม่เว้นแต่ละวันอย่างเมริยา สิทธิศักดิ์โสภณ ต้องตกกระไดพลอยโจน ถูกจับแต่งงานกับหนุ่มรูปกายภายนอกดูสุภาพบุรุษ ท่าทางสุขุมนุ่มลึก อย่างด็อกเตอร์ กันตธร วัชรเดชานนท์ เพียงเพราะสองคนถูกแอบถ่ายขณะเข้าโรงแรมด้วยกัน ทว่าเมริยาไม่เคยคิดเลยว่า ภาพลักษณ์ของชายคนนี้แท้จริงเป็นแค่ภาพลวงตากันตธรเองก็ไม่คิดเช่นกันว่าภาพลักษณ์ของเธอแท้จริงคือสิ่งหลอกลวง เมื่อเขาไม่ใช่อย่างที่เธอคิด และเธอไม่ใช่อย่างที่เขาคิด การอยู่ร่วมบ้านจึงกลายเป็นเรื่องวุ่นปั่นป่วน ********************************* “ชุดคุณเลือกเอาเองก็แล้วกัน เผื่ออยากใส่แบบวาบหวิวโชว์เยอะๆ แบบที่คุณชอบไง” ชายหนุ่มประชดแล้วยักไหล่ คนถูกเยาะเย้ยสุดทน อารมณ์เริ่มขุ่นมัวอีกครั้ง เมริยากัดริมฝีปากแล้วจ้องมองว่าที่เจ้าบ่าว “ใช่! อย่างฉันมันต้องแหวกมันต้องเว้าเอาให้เห็นถึงข้างในนั้นล่ะถึงจะเป็นสไตล์ของฉัน!” คนสวยย้อนจ้องหน้าเขาไม่วางตา “เชิญตามสบาย อยากจะแหวกขนาดไหนก็เชิญผมไม่ว่าอะไรหรอก” เมริยาจ้องมองแผ่นหลังเขาที่หายเข้าไปในห้องลองเสื้อ มือบางกำแน่นด้วยความเดือดดาล โอ้ย! เธอโมโหจนแทบจะกระอักออกมาอยู่แล้ว ไอ้หมอนี่ต้องตายด้วยมือเธอสักวัน *********************************** เมริยาเห็นสันกรามอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขากำลังทรมาน ค่อยๆ ใช้แขนชันกายขึ้นโน้มใบหน้าใกล้ใบหูกระซิบแผ่ว “หลับแล้วเหรอคะ คุณสามี...”คนฟังขนลุกซู่ รีบลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ “เฮ้ย! คุณทำอะไร!”เขาร้องลั่น คนตัวเล็กลุกนั่งแสร้งยิ้มหวานยั่วยวน กันตธรอ้าปากค้างเห็นชุดที่สาวเจ้าใส่เล่นเอาใจสั่น สติแทบคงไว้ไม่อยู่ สะบัดไล่ความคิดด้านมืดออก จะตกหลุมพรางของเธอไม่ได้ “ถะ...ถอยออกไปเลยนะ ผมขอเตือนวันนี้คุณไม่ได้แอ้มผมหรอก”ชายหนุ่มบอกเสียงสั่น “แน่ใจเหรอคะที่รักขา...”หญิงสาวแสร้งลากเสียงหวานก่อนเขยิบกายเข้ามาใกล้ “ออกไปเลยคุณ ผมไม่มีวันทำอะไรคุณหรอก อย่ามาหื่นขอร้อง”กันตธรกระถดกายหนี *********************************************
เพราะประกาศิตจากแม่และยายให้เธอกลับไปแต่งงานกับคนที่หาไว้ ทางรอดสุดท้ายคือเธอต้องหาผู้ชายที่เพียบพร้อมกว่ากลับไปฝาก แต่ทุกอย่างก็ดันผิดแผนไปหมด เมื่อเธอดันสะเพร่าเข้าผิดห้อง สุดท้ายใครจะคิดว่าชีวิตของ แวววิวาห์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคีย์การ์ดใบเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันถูกภาคิน ประธานบริษัทจอมเผด็จการและเอาแต่ใจที่สุดในสามโลกคอยกดขี่ข่มเหง ใช่! เขาทั้งกด ขี่ แล้วก็ขย่ม เอ๊ย! ข่มเหงจนเธอแทบไม่ได้ลงจากเตียง “จูบห้าพัน แต่ถ้าจูบดูดดื่มรุกล้ำหมื่นนึง” “กอดห้าพัน แต่ถ้ากอดลูบไล้ล้วงลึกก็หมื่นนึง ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันจะถือว่าคุณหลงเสน่ห์ฉัน และเราต้องแต่งงานกัน” “แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ” เสียงเขากระเส่าพลางโน้มใบหน้าลงไปถามใกล้ๆ
กาย กันต์ธีร์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ฉายาราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกคอมพิวเตอร์ ปี 4 เขาหล่อ เขาเฟียร์ส เขาเฟี้ยว เขาซ่าส์ แต่โคตรทะลึ่ง และสุดแสนจะทะเล้น จีบหญิงไม่เก่ง แต่ผมเยเก่งนะครับที่สำคัญผมโสดสนิท!!แต่อยู่ดีๆดันมาเสียหัวใจให้กับยัยตัวร้ายแบบเธอ!!!อลิส อังสุมาลิน "รักนะไอ้ต้าวลิส" อลิส อังสุมาลิน ฐิศานันตกุล นิเทศศาสตร์ ปี 2 เธอสวย เธอเซ็กซี่ เจ้าแม่แห่ง Sex appeal ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอตบ!!หลงรักกายหนุ่มหล่อแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ๆก็มาจูบปากเธอ แถมเล่นเกินเบอร์เรียกเธอว่าเมีย!! น่ารักเบอร์นี้อลิสยินดีตกหลุมรักจ้ะพี่จ๋า ชาตินี้ไม่ได้พี่กายเป็นผัว อลิสจะโสดคอยดู!!ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก🥰มารยาหญิงร้อยเก้าเล่มเกวียนงัดมาให้หมด ☺️☺️ "รักนะน้อนพี่กาย"
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด