เมื่อลูกสาวคนเดียวอยากได้ลายเซ็นบนโปสเตอร์ศิลปินที่ชื่นชอบ นายหัวหนุ่มพ่อลูกหนึ่งเช่นมัดไม้ เลยต้องจัดการให้ลูกสาวตัวน้อยได้สมใจ เขาต้องการแค่ลายเซ็น แต่ไหงกลับได้แม่ของลูกติดมือมาด้วย!
เมื่อลูกสาวคนเดียวอยากได้ลายเซ็นบนโปสเตอร์ศิลปินที่ชื่นชอบ นายหัวหนุ่มพ่อลูกหนึ่งเช่นมัดไม้ เลยต้องจัดการให้ลูกสาวตัวน้อยได้สมใจ เขาต้องการแค่ลายเซ็น แต่ไหงกลับได้แม่ของลูกติดมือมาด้วย!
“อาการเป็นยังไงบ้างครับคนดี” นายหัวมัดไม้ลูบผมนุ่มสลวยของลูกสาวตัวน้อยไปมาด้วยความเอ็นดู
เขารักบุตรสาวมาก เพราะบุตรสาวคือลูกสาวเพียงคนเดียวของน้องชายที่ตายจาก
น้องชายกับน้องสะใภ้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต วันนั้นมาหยาอยู่กับเขา จึงรอดชีวิตมาได้ เขาจึงรับมาหยาในวัยแบเบาะมาเป็นลูกบุญธรรมของตัวเอง
มีอย่างเดียวที่เขายังให้ลูกไม่ได้คือการหาแม่ให้เจ้าหนูน้อย
“หนูดีขึ้นแล้วค่ะ” มาหยาเอ่ยบอกเสียงแหบแห้ง ไม่อยากให้คนเป็นพ่อต้องเป็นกังวลใจ
“มีคนบอกพ่อว่า หนูมีความปรารถนาอย่างหนึ่งก่อนวันเกิด หนูอยากได้อะไรบอกพ่อสิคะ” นายหัวหนุ่มเอ่ยถามบุตรสาว พลางพูดคะขาน่ารักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“หนูเกรงใจคุณพ่อค่ะ คุณพ่องานยุ่ง คงไม่มีเวลาหรอกค่ะ” เด็กน้อยพูดอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว จริงๆ ผู้เป็นบิดาไม่เคยงานยุ่งจนลืมเธอ ท่านมีเวลาทำอาหารเช้าให้กิน ช่วยแต่งตัวไปโรงเรียน หวีผม ถักเปียให้เสมอในทุกเช้า และก่อนนอนก็ยังเล่านิทานให้ฟังตั้งแต่เด็ก บางทีก็พาออกไปดูดาวแล้วก็เล่าเรื่องดวงดาวต่างๆ ให้ฟังจนหลับไป
“ไหนคนดีของพ่อบอกมาสิคะว่าอยากได้อะไร” มัดไม้เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น เขาสัญญาหน้าหลุมฝังศพของน้องชายและน้องสะใภ้แล้วว่าจะรักและดูแลมาหยาให้ดี สิ่งไหนที่เด็กน้อยอยากได้ เขาจะหามาให้แม้จะลำบากแค่ไหนก็ตามที
“คุณพ่อทำได้เหรอคะ” หนูน้อยพูดอย่างมีความหวัง
“ได้สิครับ ไหนบอกพ่อมา”
“คือหนูอยากเจอพี่อลิซค่ะ”
“อลิซไหนครับ” คนเป็นพ่อถึงกับต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ไม่ต้องเจอก็ได้ค่ะ พี่เขาคงงานยุ่ง” มาหยาหน้าหมองลงไปถนัดตาเมื่อคิดได้ว่าคนที่อยากเจอคงทำงานยุ่ง
“เดี๋ยวก่อนครับ อลิซไหนครับ”
“ก็พี่อลิซที่เป็นดาราไงคะ พี่เขาเป็นดารานางแบบแล้วก็สวยมากด้วยนะคะ แถมยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย คุณพ่อนึกออกแล้วใช่ไหมคะ” หนูน้อยวัยสิบขวบเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“นึกไม่ออกครับ” คนไม่เคยดูละคร ไม่รู้จักดารานักร้องหรือนางแบบเลยสักคน ชีวิตไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เสียด้วยซ้ำ นอกจากทำงาน
“ไม่รู้จักจริงๆ เหรอคะ” มาหยาเอ่ยถามบิดาด้วยใบหน้าหมองเศร้า
“ไม่รู้จักเลยครับ แต่ถ้าหนูอยากเจอเขา พ่อจะไปพาเขามาหานะครับ”
“หนูปลื้มเขามากค่ะ พี่เขาคงงานยุ่งมาก ถึงไม่ได้เจอขอแค่ลายเซ็นกับโปสเตอร์สวยๆ ของพี่เขาก็ได้นะคะ”
“เอางั้นก็ได้ครับ” เขาลูบผมนุ่มสลวยของบุตรสาวไปมาเบาๆ
“คุณพ่อรับปากแล้วนะคะ”
“ครับ พ่อรับปาก” มัดไม้รับคำบุตรสาว ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องหาประวัติของอลิซ ดารานางแบบดาวรุ่งมาให้เขา
“คนนี้เหรออลิซ” สาวน้อยตัดผมสั้นไว้ผมหน้าม้าทำให้เขารู้สึกสะดุดตาและสะดุดใจยิ่งนัก เหมือนเคยเห็นเธอที่ไหน
“คนนี้แหละครับ เป็นลูกสาวคนเดียวของนายหัวภูมิครับ ดังมากนะครับ”
“นายหัวภูมิเจ้าของฟาร์มมุกที่ภูเก็ตน่ะเหรอ” เขาถึงบางอ้อ เพราะเคยเจอเด็กสาวมาแล้ว
“ใช่ครับนายหัว” ขจรรับคำ
“นายหัวภูมิแต่งงานใหม่กับคุณจินตหราน่ะครับ หลังจากที่คุณกนกทิพย์เสียชีวิต และมีลูกอีกสองคนเป็นลูกชายฝาแฝดน่ะครับ”
“อืม...” นายหัวหนุ่มรับคำ ตั้งแต่น้องชายกับน้องสะใภ้เสียชีวิตเขาก็เก็บตัวไม่ค่อยออกงาน เพราะอยากดูแลมาหยาให้ดีที่สุด ภูมิเองก็เช่นกัน ฝ่ายนั้นพอสูญเสียภรรยาไปก็เก็บตัว มารู้ข่าวอีกทีก็ตอนที่แต่งงานใหม่นั่นแหละ
“คุณอลิซเธอเป็นดาราดาวรุ่งน่ะครับ อายุยังน้อยแต่ประสบความสำเร็จมาก ๆ คุณมาหยาก็คงจะนึกชื่นชมน่ะครับ”
“ฉันต้องการเจอเขาหน่อย อาจจะต้องไปที่บ้านนายหัวภูมิ” มัดไม้เอ่ยกับลูกน้อง
“คุณอลิซไม่ได้อยู่บ้านครับ เดี๋ยวผมจะนัดคุณอลิซให้นายหัวนะครับ ผมได้ติดต่อผู้จัดการส่วนตัวของคุณอลิซแล้วน่ะครับ เห็นว่าจะมาถ่ายหนังกันที่กระบี่ และมาพักอยู่ที่โรงแรมของเราน่ะครับ”
“เอาอย่างนั้นก็แล้วกัน แค่ให้เธอเซ็นลงบนโปสเตอร์ที่มาหยาอยากได้ แค่นี้ก็พอแล้ว” มาหยาร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแต่เด็ก มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทำให้เขาอยากดูแลให้ดีที่สุด การทำให้มาหยามีความสุข จะทำให้เด็กน้อยมีอายุยืนยาว
“เป็นโชคดีของเราด้วยครับ เพราะคุณอลิซเธอจะบินมาถ่ายหนังที่นี่น่ะครับ”
“ตามนั้น” มัดไม้พยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิท ก่อนจะทอดสายตามองใบหน้าสวยเก๋น่ารักของสาวน้อยอลิซ
หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างแปลกประหลาด
บ้าน่า! คนในรูปอายุแค่ยี่สิบ เขาสี่สิบสองย่างสี่สิบสามเข้าไปแล้ว
เขาจะไปชอบเด็กสาวแรกรุ่นแบบนั้นได้ยังไง จะโดนหาว่าตาแก่ลามกน่ะสิ
เขาสลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นทิ้งไป เธอสวยขนาดนี้คงมีหวานใจคบหาแล้วกระมัง ทั้งสวย รวย ฐานะ การศึกษา ชื่อเสียงมีพร้อม หนุ่มที่คบหาก็คง
เป็นคนหนุ่มวัยไล่เลี่ยกันหรือวัยเดียวกัน แก่อ่อนกว่ากันไม่มาก
มัดไม้ทอดสายตามองท้องทะเลกว้าง เขาพักอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวของตนเอง ครอบครัวไม่เหลือใครอีกแล้ว บิดามารดาและน้องชายรวมถึง
น้องสะใภ้เสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือแค่มาหยาที่เป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวที่เขารักมากที่สุด
รัชวินทร์รู้ดีว่า ถึงจะมีหรือไม่มีแผนการของญาติผู้ใหญ่ เขาก็บังเกิดความรู้สึกพิเศษกับแก้วกัลยา เด็กสาวในอุปการะของคุณตาคุณยาย และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เขาอยากสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด