การแก้แค้นที่แท้จริง เหมือนประโยคที่ว่า... "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
การแก้แค้นที่แท้จริง เหมือนประโยคที่ว่า... "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
เรือนพักคนงานที่ซ่อนอยู่หลังคฤหาสน์ใหญ่ในค่ำคืนนั้น มืดสลัวด้วยแสงไฟเพียงดวงเดียว เสียงหัวเราะต่ำ ๆ ของชายหนุ่มหลายคนขับกล่อมบรรยากาศอย่างน่าหวาดหวั่น คุณหนูในชุดนอนบางเบาถูกประคองลากเข้ามาในห้อง สองขาเรียวแทบไร้เรี่ยวแรง ขนตาสั่นระริก ดวงตาเหม่อมึนงงเหมือนถูกคลื่นพิศวาสกลืนกิน
แม่เลี้ยงยืนพิงกรอบประตู สายตาเต็มไปด้วยความสะใจ
“ในที่สุด…ก็ไม่มีใครเรียกแกว่าคุณหนูอีกต่อไปแล้ว” เธอพึมพำ แววตาแหลมคมมองดูภาพลูกเลี้ยงกำลังถูกห้อมล้อมด้วยคนงานชายหุ่นล่ำกว่าเจ็ดแปดคน
มือหยาบกร้านของชายคนหนึ่งเลื่อนไปสัมผัสเรือนกายบอบบาง ขณะที่อีกคนไม่รอช้าโอบรัดเอวเธอเอาไว้แน่น ร่างหญิงสาวถูกผลัดกันชักนำเข้าสู่วงล้อม เพลิงพิศวาสลุกโชนระคนเสียงหอบกระเส่า
กล้ามเนื้อแข็งแรงบีบรัดเธอจากทุกทิศ มือหนาแต่ละคู่ไม่เคยว่างเว้น ปลุกเร้าความรู้สึกอย่างหิวกระหาย ใบหน้าหวานสะบัดไปมาด้วยความมึนงงแต่กลับเผยเสียงครางแผ่วพร่า เรียกร้องให้ชายหนุ่มแต่ละคนรุกล้ำมากกว่าขึ้นกว่าเดิม
หนึ่งคนกดจูบหนักหน่วงที่ต้นคอ อีกคนซุกไซร้ที่อกอิ่ม สลับกับเสียงหัวเราะต่ำที่เต็มไปด้วยความกระหาย ทั้งห้องอบอวลไปด้วยไอร้อนของกายและกลิ่นเหงื่อของชายหนุ่มล่ำบึก ร่างของคุณหนูถูกโยนไปมาระหว่างวงแขน ไม่ซ้ำหน้าสักคน
ความเร่าร้อนดำเนินอย่างต่อเนื่อง คนงานแต่ละคนผลัดกันครอบครองอย่างไม่รู้จักพอ จนกระทั่งเสียงครางแผ่วเบาลง ร่างสาวหมดแรงอ่อนระทวย ลมหายใจถี่รัวแผ่วเบาลงช้า ๆ ก่อนจะซบหน้าลงบนอกแกร่งของชายคนหนึ่ง หลับใหลไปด้วยความอ่อนล้า
แม่เลี้ยงที่ยืนมองอยู่ ถอนหายใจยาวด้วยความพอใจ สายตาสะใจฉายแววแห่งชัยชนะ นี่คือจุดเริ่มต้นของการล่มสลายที่เธอรอคอย
ค่ำคืนถัดมา แสงไฟในเรือนคนงานยังคงสลัวและร้อนระอุเหมือนเดิม ร่างบอบบางในชุดนอนหลวม ๆ ถูกพามาอีกครั้ง คราวนี้เธอไม่ได้ต่อต้านหรือสั่นไหวด้วยความมึนงงเหมือนก่อน แต่กลับก้าวเข้าไปในห้องอย่างยินยอม ริมฝีปากแดงเรื่อเผยอหอบหายใจราวกับร่างกายกำลังโหยหาความร้อนแรงนั้นอีกครั้ง
แม่เลี้ยงยืนซ่อนตัวอยู่ด้านนอก ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ
“ดี… แกกำลังจะเสียคนลงทุกวัน ยิ่งถ้าแกท้องขึ้นมาเมื่อไหร่ สมบัติทุกอย่างก็จะตกเป็นของฉันแน่”
ในห้อง... คนงานหุ่นล่ำมากกว่าครึ่งโหลกรูกันเข้ามา ร่างชายแต่ละคนโอบรัด ลูบไล้ และผลัดกันครอบครองความงามตรงหน้าไม่หยุดหย่อน เสียงครางของคุณหนูแว่วดังไปทั่วเรือนเล็ก
ร่างหญิงสาวถูกจับให้นั่งทับแผ่นอกกว้างของชายคนหนึ่ง ขณะที่อีกสองคนเข้าประชิดด้านข้าง มือหยาบกร้านเล้าโลมทุกสัดส่วนอย่างหิวกระหาย ก่อนที่อีกคนจะฉวยโอกาสจากด้านหลัง กดเอวเธอให้งอรับแรงกระแทกอย่างรุนแรง
เสียงครางสอดประสานกับเสียงหัวเราะต่ำ ๆ ความเร่าร้อนพุ่งขึ้นทวีคูณ เมื่อคนงานบางคนผลัดกันจับเธอพลิกไปมาบนฟูกเก่า ๆ ท่าที่ไม่เคยลองทำให้ร่างกายอ่อนแรง แต่กลับสั่นสะท้านด้วยความสุขที่มากเกินทน
ร่างเปลือยเปล่าถูกกดให้อยู่กลางห้อง คนงานแต่ละคนต่างไม่ปล่อยให้ว่างเว้นสักเสี้ยววินาที ทุกท่วงท่าร้อนแรงบีบเค้นจนเสียงหวานขาดห้วง เธอสะท้านไหวราวกับจะหลอมละลายไปกับความเร่าร้อนที่ถาโถม
เวลาผ่านไปจนร่างหญิงสาวชุ่มเหงื่อ อกกระเพื่อมแรง เส้นผมเปียกแนบแก้ม ดวงตาพร่าเลือนแต่เต็มไปด้วยความสุขล้น ก่อนที่เธอจะหมดแรงซบหน้าลงกับอกแกร่งเปียกชุ่มของอีกคน
แม่เลี้ยงยกยิ้มมุมปาก....
“ดี… ดีมาก… อีกไม่นานหรอก แกจะไม่เหลืออะไรเลย แม้กระทั่งศักดิ์ศรี”
ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา คฤหาสน์ใหญ่เหมือนซ่อนกลิ่นไอสวาทไว้ในเงามืดทุกคืน แม่เลี้ยงไม่เคยปล่อยให้โอกาสหลุดมือ ยามใดที่แสงไฟในห้องคุณหนูดับลง คือสัญญาณให้คนสนิทของเธอนำแก้วน้ำหรืออาหารที่แฝงกลิ่นบางอย่างมาส่งให้
เธอยังสาวยังสวย ในเมื่อสามีแก่ ซึ่งก็คือพ่อของพิณลดาสิ้นแล้ว เธอก็ยังมีชีวิตอีกยาวนาน เรื่องอะไรทรัพย์สมบัติจะยกให้ลูกเลี้ยง เธอต้องฮุบมาเป็นของตัวเองสิ แล้วก็เสวยสุขบนกองเงินกองทอง รวมถึงมีผัวใหม่ที่เร้าใจกว่า เธอไม่มีลูกกับบิดาของพิณลดา แต่มีใบทะเบียนสมรส แค่พิณลดาเสียผู้เสียคน หายไปจากโลกใบนี้ หรือเป็นบ้าไปก็ดี เธอจะได้ดูแลทรัพย์สมบัติมหาศาลและคฤหาสน์นี่
แม้คฤหาสน์จะอยู่ชานเมือง แต่การหาความสุขไม่ได้ยากอย่างที่คิด ขอแค่มีเงินก็เพียงพอแล้ว
ไม่นาน... ร่างบอบบางก็จะก้าวออกจากห้องด้วยแววตาพร่าเคลิ้ม แล้วถูกนำพาไปยังเรือนพักหลังเก่าของเหล่าคนงาน
ทุกค่ำคืนจึงกลายเป็นการร่วมรักอันเร่าร้อน
เสียงประตูปิดลงตามด้วยเสียงหัวเราะต่ำ ๆ ของชายหนุ่มนับสิบร่างที่รายล้อม แสงไฟสลัวเผยให้เห็นร่างคุณหนูที่ยินยอมเอนกายลงบนฟูกเก่า ๆ รอรับแรงปรารถนาที่กรูกันเข้ามา
เธอแทบไม่เคยได้พักหายใจ เมื่อชายแต่ละคนผลัดกันรุกล้ำ ทั้งกอดรัด บดเบียด พลิกเธอไปตามท่วงท่าที่คิดได้ใหม่ทุกคืน เสียงครางสะท้านเรือนเล็กคละคลุ้งกับเสียงเนื้อกระทบเนื้ออย่างดิบเถื่อน
บางคืนเธอถูกจับให้นั่งคร่อมบนอกกว้าง ขณะที่อีกหลายคู่มือหยาบยังเล้าโลมไม่หยุด
บางครั้งร่างนั้นถูกกดคว่ำจนแผ่นหลังโค้งงอ รับแรงปรารถนาหนักหน่วงจากหลายทิศทาง
และบางค่ำคืน…เธอถูกยกขึ้นกลางอากาศ ผลัดกันช้อนรับในวงแขนแกร่งอย่างหิวกระหาย
ยิ่งซ้ำ ยิ่งเร่าร้อน ร่างหญิงสาวยิ่งตอบสนองด้วยเสียงหวานพร่าอย่างยินยอม จนคนงานทั้งเรือนต่างหัวเราะพอใจเหมือนได้ครอบครองสมบัติร่วมกัน
ด้านนอก แม่เลี้ยงยืนฟังเสียงสะท้อนออกมาจากเรือนเก่า ใบหน้ายกยิ้มสะใจ
“ดี… ปล่อยให้แกชุ่มฉ่ำอยู่ในนั้นทุกคืนเถอะ สักวันแกจะไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี แล้วสมบัติทั้งหมดก็จะเป็นของฉัน มีความสุขเสียจริง”
คฤหาสน์หลังใหญ่ซ่อนความลับเร่าร้อนเอาไว้ในทุกมุม แม่เลี้ยงผู้ชั่วร้ายไม่เพียงแต่พอใจกับค่ำคืนในเรือนคนงาน เธอจัดฉากใหม่ทุกวัน จนคุณหนูผู้แสนบอบบางกลายเป็นดั่งของเล่นที่ต้องบำเรอความหิวกระหายของชายล้วนทั้งคฤหาสน์
ยามสาย... พิณลดาถูกพาออกไปยังสวนกว้าง เขียวชอุ่มแต่กลับกลายเป็นเวทีอันดิบเถื่อน ร่างของเธอถูกกดลงบนม้านั่งหินท่ามกลางแสงแดด มือหยาบกร้านของชายหนุ่ม ผลัดกันลูบไล้และบีบเค้น ด้านหลังยังมีเสียงหัวเราะต่ำ ๆ ของอีกหลายคนที่รอคิว ขณะที่เสียงหวานของเธอสะท้านก้องไปทั่วพุ่มไม้
เขาตั้งใจหลอกเธอตั้งแต่แรก เพื่อให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำแล้วก็สลัดทิ้งอย่างไม่แยแส แต่พอเธอหายไปจากชีวิตของเขา เขากลับทุรนทุรายแทบขาดใจ!
"มะนาว" นักศึกษาสาวปีสามผู้ฉลาดแกมโกง คิดว่าตัวเองเอาตัวรอดเก่ง แต่เมื่อหัวใจดันตกหลุมรัก "พี่ธันวา" รุ่นพี่ปีสี่สุดหล่อ สุขุม และเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า เธอจึงต้องวาง "แผน" เพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่ทุกครั้งที่คิดจะเหนือกว่า กลับกลายเป็นว่าเธอตกหลุมพรางหัวใจของเขาซะเอง เกมนี้ไม่มีใครแพ้ เพราะสุดท้ายความรักที่มีแผนซ่อนอยู่ก็คือความรักที่ทำให้ทั้งคู่ยิ้มได้ จะหลอกล่อหรือจะวางแผนยังไงก็ไม่พ้น…เพราะพี่เขาวาง "แผนรัก" รออยู่แล้ว
"มะนาว" ครูสอนโยคะสายสุขภาพที่รักความสงบ ย้ายมาอยู่บ้านใหม่หวังจะมีชีวิตเรียบง่าย…แต่ดันต้องเจอเพื่อนบ้านข้างรั้วอย่าง "ภูผา" วิศวกรหนุ่มเสียงดังที่ชอบทำอะไรปั่น ๆ จนเธอหงุดหงิดไม่เว้นแต่ละวัน เสียงเพลง เสียงเลื่อย เสียงหัวเราะของเขา คือสิ่งที่เธออยากปิดประตูหนี แต่แปลก…เมื่อไรที่มันหายไป หัวใจกลับโหวงเหวงราวกับขาดอะไรบางอย่าง รั้วที่กั้นอาณาเขต อาจกั้นบ้านได้…แต่กั้นหัวใจไม่ได้เลย
เมื่อ "ลมหนาว" สถาปนิกหนุ่มกลับบ้านต่างจังหวัดด้วยหัวใจที่อยากพักเหนื่อย เขาได้พบ "ฟ้าใส" ครูสาวประจำโรงเรียนเล็ก ๆ ที่สดใสเหมือนชื่อ และทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงทุกครั้ง จากแรงลมที่คิดว่าจะพัดผ่านไปชั่วคราว กลับกลายเป็นสายลมที่หอบความรักมาเติมเต็ม… และคราวนี้ เขาไม่ยอมให้มันพัดหายไปอีกแล้ว
เขา เจ้านายผู้เย็นชา แต่เก็บซ่อนความรักเอาไว้ในใจมาเนิ่นนาน เธอ เลขาสาวที่ไม่มีทางเลือก ต้องกลับมาทำงานกับคนที่เคยเป็นศัตรู จากการหยอกล้อในวัยเรียน สู่อีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริง ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่อาจหนีหัวใจตัวเองได้
จาก "เพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ" ที่ไม่เคยกินเส้นกัน กลับกลายเป็น "คนบนเตียงเดียวกัน" เพียงเพราะค่ำคืนที่เมามาย เขา จิตรกรอิสระสายหน้ามึน ที่ชอบทำอาหาร วาดรูป และกวนหัวใจเธอทุกวัน เธอ นักเขียนสาวปากแข็ง ที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่สนใจเขา ทั้งที่หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่โดนกอด จากการงอแงเรียกร้องความรับผิดชอบ กลายเป็นการตามตื้อจนได้อยู่ห้องเดียวกัน จากคำว่า "คู่กัด" กลายเป็น "คู่ชีวิต" ที่หวานจนทะเลยังต้องอาย "ข้าวเช้าวันนี้ ฉันทำให้เธอเอง" "อย่ามาทำเป็นแฟนฉันนะ!" "ไม่ต้องทำเป็นหรอกฉันเป็นจริง ๆ" เรื่องราวรักวุ่น ๆ ปนร้อนแรงของคนสองคน ที่เริ่มจากความกวน แต่จบลงด้วยความรักสุดหัวใจ
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
ไม่คิดว่าการพบกันครั้งแรกกับสามีที่แต่งงานกันสามปีจะเกิดขึ้นบนเตียง และหลังจากเกิดเรื่องฮั่วฮานยูไม่เพียงจำเธอไม่ได้ แต่กลับมองเธอว่าเป็นผู้หญิงที่ขายตัวเพื่อเงิน เกลียดเธออย่างรุนแรง ข้อตกลงการหย่าฉบับหนึ่ง เดิมทีซวี่อี้คิดว่าจากนี้เป็นต้นไปสองคนจะไม่มีทางมีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก แต่กลับไม่คิดว่าโชคชะตานำพาให้เธอได้กลายเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัทฮั่วซื่อ ทำให้เธอกลับมาเกี่ยวพันกับอดีตสามีอีกครั้ง รอจนฮั่วฮานยูจำซวี่อี้ได้ และอ้อนวอนให้เธออยู่ต่อ ซวี่อี้ก็ปัดมือของเขา และยิ้มอ่อน ๆ “คุณฮั่ว ตอนหย่าคุณไม่สนใจ ตอนนี้ฉันแค่ลาออก คุณร้องไห้อะไรกันคะ? ”
เรือนนี้ผีไม่หลอก : นามปากกา บ.บี อู่หลิงเยว่หญิงสาววัย 17 ปี ตายเพราะแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 21 แต่ยังไม่ทันได้ผุดได้เกิด กลับตื่นขึ้นในร่างหญิงโบราณที่ชื่อแซ่เดียวกันท่ามกลางภาวะสงคราม โลกใหม่ที่นางมาเยือนคือแคว้นเหยียน ดินแดนที่เพิ่งถูกตีแตกและกำลังจะล่มสลาย นางไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีครอบครัวหลงเหลือ มีเพียง “ห้างสรรพสินค้าส่วนตัว” พร้อมระบบแลกแต้มที่ยังไม่เสถียร และกฎเหล็กข้อเดียว: จะใช้ของในห้างสรรพสินค้าได้ ต้องทำความดีเพื่อสะสมแต้ม! แต่ในยุคที่ผู้คนกำลังอดอยากและถูกไล่ล่าจากศัตรู หากนางเผลอหยิบเอาอาหารออกมาจากอากาศแล้วมีคนพบเห็นเข้า นางคงถูกตีตราว่าเป็นแม่มดนอกรีตเป็นแน่ เพื่อเอาตัวรอด อู่หลิงเยว่หนีเข้าเรือนร้างเก่าแก่ของตระกูลเกา เรือนที่คนทั้งหมู่บ้านร่ำลือว่ามีผีเฮี้ยน เพราะเจ้าของเรือนกับบ่าวไพร่สิบสองชีวิต เคยถูกฆ่าตายยกหลังในคืนเดียว นางจึง "แกล้งเป็นผี" แจกจ่ายข้าวของกลับไปเป็นข้าว ยา และของใช้ ชาวบ้านได้ของกินนางได้แต้ม ระบบได้ทำงาน วิน วิน!!! แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด... แม่ทัพเซี่ยโม่เหวิน นำทหารสามร้อยนายเข้ามาตั้งค่ายในหมู่บ้านหานเฉิง เพื่อดูแลชาวบ้านและทหารหนีตายจากทั่วสารทิศ เมื่อเขาค้นพบว่าองค์ชายแห่งแคว้นยังมีชีวิตอยู่พร้อมกองกำลังขนาดใหญ่ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการกอบกู้บ้านเมือง เขาจึงวางแผนพาชาวบ้านและทหารที่เหลือทั้งหมดไปรวมกำลังกับองค์ชาย ทว่า..ชาวบ้านกลับปฏิเสธ พวกเขาไม่เชื่อในกองทัพ แต่กลับเชื่อมั่นใน "ผีเรือนร้าง" ผีที่ไม่เคยหลอกใคร แต่แจกข้าว แจกยา และความหวัง เมื่อทางเลือกหมดลง..เซี่ยโม่เหวินจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีแม่ทัพคนใดเคยคิดจะทำมาก่อน เขาจะไปเชิญ “ผี” ร่วมเดินทางไปด้วย และสิ่งที่เขาได้พบในเรือนร้าง จะเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อไปตลอดกาล
สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY