เธอเป็นคู่หมั้นของเขา เมื่อหลายปีก่อนเคยแกล้งเขาเอาไว้อย่างหนัก กลับบ้านมาทีไรเขาก็เอาแต่หนีหน้า ครั้งนี้ได้เจอกันอีกครั้ง เธอต้องหาทางง้อเขาให้สำเร็จ เพื่อให้เขาให้อภัยเรื่องในอดีต เพราะหัวใจทั้งดวงของเธอมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
1
พยัคฆ์นั่งหน้านิ้วคิ้วขมวดอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ในบ้านพักกลางไร่จนลูกน้องที่เดินเข้ามาถึงกับชะงัก
“นายน้อยเป็นอะไรครับถึงได้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดขนาดนั้น” เวทนเอ่ยถามเจ้านายหนุ่ม
“แกได้ยินข่าวที่ว่ายายตัวแสบจะกลับมาแล้วใช่ไหม” พยัคฆ์เอ่ยถามถึงคู่หมั้นวัยเยาว์ของตนเอง
เขากับบัวระรินโดนจับหมั้นกันแบบไม่เต็มใจ เขาอายุห่างจากเธอหลายปีในขณะที่เธอยังแบเบาะ เพราะบิดาของเขากับเธอแพ้พนันเพื่อนในวงเหล้า เธอกับเขาเลยมีสถานะคู่หมั้นคู่หมายกันมาตั้งแต่บัดนั้น
ศักดิ์ศรีค้ำคอ ค้ำคอใครล่ะ พ่อเขาไง
เกี่ยวอะไรกับลูกอย่างเขาด้วยเล่า
บัวระรินไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โดยย้ายไปอยู่กับผู้เป็นยาย เธอเรียนเก่งและเรียนจบในวัยยี่สิบเอ็ด เพิ่งผ่านพ้นการบรรลุนิติภาวะมาเอง ในขณะที่เขาน่ะเหรอ อายุสามสิบห้าเข้าไปแล้ว
เรื่องอายุก็ดูไม่ค่อยเหมาะกันนัก ไหนจะนิสัยที่เข้ากันไม่ได้อีก
ตอนเด็กบัวระรินมักมาเที่ยวเล่นที่ไร่ และนำความเดือดร้อนมาให้เขาเสมอ เขาคิดจะจีบผู้หญิงหรือมีแฟนกี่คน โดนเธอแกล้งจนกระเจิง กลับมารอบนี้เขาคงได้ปวดหัวอีกเป็นแน่
ตอนนั้นเขาดีใจมากที่เธอย้ายไปอยู่กับยายที่กรุงเทพฯ ชีวิตของเขาเลยสงบสุขมานานหลายปี
เธอย้ายไปเรียนที่โน่นก็กลับมาเยี่ยมบิดามารดาปีละไม่กี่ครั้ง เขารู้ข่าวว่าเธอจะกลับมาทีไร เขาก็หนีตายนั่งเครื่องบินไปทำธุระต่างจังหวัดในทันที นั่นทำให้เขากับเธอไม่ได้เจอกัน
“รู้แล้วครับ รอบนี้นายน้อยจะหนีไปไหนครับ”
“หนี! หนีอย่างนั้นเหรอ” พยัคฆ์เอ่ยถามลูกน้องเสียงดุ ทำเอาเวทนหน้าเหวอ
เขาพูดอะไรผิดอีกแล้วนี่!
“คนอย่างฉันเหรอจะหนี ไม่หนีโว้ย! เป็นไงเป็นกัน ฉันไม่กลัวยายตัวแสบหรอก”
“ดีแล้วครับ เพราะรอบนี้ถ้านายน้อยต้องหนีอีก ต้องหนีตลอดชีวิตเลยนะครับ เพราะผมได้ข่าวว่าคุณหนูบัวระรินจะกลับมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ถาวรเลยนะครับ”
“ฉันนี่นะหนียายเด็กนั่น เคยเสียที่ไหนกันล่ะ”
“แล้วตอนที่นายน้อยรีบบินไปเชียงใหม่ ระนอง ระยอง ยะลา ไม่เรียกหนีเหรอครับ” เจ้านายหนีตายไปทุกภาคของประเทศไทยแค่รู้ข่าวว่าบัวระรินจะกลับมา ข่าวจริงข่าวลวงไม่รู้ ขอหนีตายเอาไว้ก่อน
“แกมันไม่รู้อะไร ฉันไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาต่างหาก แล้วฉันเคยหนีไปยะลาที่ไหน ไอ้บ้า” พยัคฆ์ทำเสียงดุใส่ลูกน้อง
“ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา ก็ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อยครับ”
“เธอกลับมารอบนี้ฉันจะพูดกับเธอตรงๆ ว่าฉันจะถอนหมั้นกับเธอ”
“เจ้านายกล้าเหรอครับ”
“ทำไมจะไม่กล้า”
“ถึงตายเลยนะครับนั่น”
“ฉันหรือจะกลัวยายเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น” เขาเตรียมรับมือกับเจ้าหล่อนเอาไว้แล้ว แกล้งมาแกล้งกลับไม่โกง ที่สำคัญเขาซีเรียสมาก บอกบิดามารดายืนยันกระต่ายขาเดียวไปแล้วว่าเขาจะไม่แต่งงานกับยายตัวแสบเด็ดขาด
“คุณหนูบัวระรินก็โตแล้ว คงไม่คิดแกล้งเจ้านายเหมือนตอนเด็กๆ หรอกกระมังครับ”
“ก็ไม่แน่ ยายตัวแสบน่ะสารพัดพิษจะตายไป” เขาไม่ค่อยเชื่อว่าคนเราจะเปลี่ยนนิสัยกันได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูบ้านพักดังขึ้น ก่อนที่คนงานจะเดินเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่ม
“มีอะไร” พยัคฆ์เอ่ยถาม
“นายใหญ่ให้มาตามนายน้อยไปที่บ้านน่ะครับ”
“ไปทำไม”
“วันนี้บ้านคุณภาคจะมารับประทานอาหารที่ไร่ของเราครับ”
“มากินข้าวอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ครับ” คนงานรายงานเสร็จก็เอ่ยขอตัว
“ทำเป็นมาพูดว่าบ้านลุงภาคจะมากินข้าวที่บ้านเรา จริง ๆ จะพายายตัวแสบมาทวงสัญญาหมั้นหมายน่ะสิ ไม่มีทางเสียหรอก ฉันจะหาโอกาสคุยกับหล่อนว่าฉันไม่อยากแต่งงานกับหล่อน”
“ผมขออวยพรให้นายน้อยโชคดีนะครับ”
“สมพรปากแกก็แล้วกัน” พยัคฆ์หยิบหมวกปีกกว้างมาสวม ก่อนที่จะเดินออกไปจากบ้านพักเพื่อขี่ม้ากลับไปยังบ้านหลังใหญ่ของบิดามารดา
“อ้าวเสือกลับมาแล้วเหรอลูก ไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อนสิ เดี๋ยวจะได้ลงมากินข้าวด้วยกัน” พิมพ์ดาราเอ่ยกับลูกชายด้วยรอยยิ้ม พยัคฆ์เหลือบมองอาหารมากมายที่มารดาเร่งให้สาวใช้จัดเรียงให้สวยงามก่อนจะเอ่ยถาม
“จัดอาหารเสียเยอะแยะเลยนะครับคุณแม่”
“ก็บ้านลุงภาคเขาจะมากินข้าวกับเราเย็นนี้ แม่ก็ต้องเตรียมอาหารต้อนรับเขาสิจ๊ะ”
“ครับ” พยัคฆ์รับคำ เขารู้ข่าวพักใหญ่แล้วว่าบัวระรินจะกลับมา บิดามารดาคงจัดอาหารต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้
แต่เสียใจด้วย เขาจะหาทางถอนหมั้นกับเธอให้จงได้!
พยัคฆ์อาบน้ำเปลี่ยนชุดลงมารับประทานอาหารกับบิดามารดา ทุกคนนั่งรอแขกคนสำคัญอยู่ตรงห้องรับแขก เขาเดินลงไปนั่งตรงโซฟาตรงข้ามกับบิดามารดา ทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอะไร
“คุณพ่อกับคุณแม่ดูตื่นเต้นจังเลยนะครับ ทำยังกับลุงภาคไม่เคยมากินข้าวบ้านเราอย่างนั้นแหละ” พยัคฆ์เหน็บบิดามารดา
“ก็นานๆ ได้กินข้าวกันสักที” พงศ์พูดขึ้น
“ไม่ใช่เพราะวันนี้บัวระรินว่าที่ลูกสะใภ้จะมาด้วยเหรอครับ” พยัคฆ์เอ่ยถามตรงๆ ทำให้คนเป็นพ่อแม่หน้าเหวอ
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่