รสาต้องการความช่วยเหลือจากไตรจักร เธอจึงต้องยอมตกเป็นของเขา เธอโดนแฟนเก่าที่เคยช่วยเหลือกลั่นแกล้งสารพัด บีบให้เธอไปเป็นเมียน้อยของเขา ในขณะที่เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น คนที่จะช่วยเธอได้ก็คือไตรจักร แต่เขาดันเป็นพี่ชายของคู่หมั้นแฟนเก่านี่สิ!
1
ร่างของหญิงสาวที่เมามายไม่ได้สติกำลังถูกชายหนุ่มคนหนี่งลากออกไปจากผับ ทำให้ไตรจักรต้องยื่นมือเข้าไปช่วย
เขานั่งมองเธออยู่นานแล้ว ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงได้สนใจผู้หญิงตรงหน้านัก
เขาสนใจเธอตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน พยายามตัดเธอออกจากใจ แต่ทำไม่ได้
“ผู้หญิงคนนี้ของฉัน”
ภพพันแปลกใจค่อนข้างมากที่เจ้านายยื่นมือเข้าไปช่วยผู้หญิงแสนสวยคนนั้น อาจเพราะว่าปกติแล้วเจ้านายของเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน
เขาเองก็จำเธอได้เหมือนกัน เป็นการรู้จักฝ่ายเดียวเพราะหญิงสาวแสนสวยคนนี้ไม่ได้รู้จักเขากับเจ้านายเป็นการส่วนตัว
“นายนี่มันเลวจริง ๆ หลอกฉัน ทิ้งฉันไป” คนในอ้อมแขนกำลังต่อว่าต่อขานใครสักคน
ได้ยินประโยคนี้ของเจ้าหล่อน ก็ทำให้ไตรจักรรู้ในทันทีว่าเธอกำลังอกหัก
ประโยคของเธอมันทำให้เขานึกอยากรู้ว่าผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงแสนสวยคนนี้อกหักคือใครกันนะ
“เจ้านายจะหิ้วหล่อนกลับห้องเหรอครับ” ภพพันเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ใช่” เขาอุ้มร่างคนเมาที่ประคองตัวเองไม่อยู่ไปที่รถ จริง ๆ แล้วเขาเคยเจอเธอมาก่อน
เธอร้องเพลงอยู่ที่ผับที่เขาชอบไปเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่มันจะปิดตัวลง
“นายมันคนหลายใจตะวัน นายเคยรักฉันบ้างไหม” เธอกอดคอหนาของคนที่อุ้มเธอเอาไว้ ก่อนจะตัดพ้อออกมา แล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น
ชื่อผู้ชายที่หล่อนเรียกทำให้เขาสะดุดหูพอสมควร แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
คนเราอาจมีชื่อคล้ายกันได้...
ไตรจักรวางร่างหญิงสาวลงบนเบาะรถ ก่อนจะให้เธอนอนไปบนตักของเขา แต่หล่อนก็อ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุง
“เอาไงดีครับเจ้านาย” ภพพันเอ่ยถามเจ้านายด้วยใบหน้าเหยเก เมื่อเห็นสภาพไม่น่ามองนั้น
อยากช่วยเขาก็อยากช่วย แต่สภาพเลอะอ้วกขนาดนี้คงไม่ไหว
“ทิ้งเธอไว้ตรงนี้ดีไหมครับ”
“พาเข้าโรงแรมด้านหน้าก็แล้วกัน” คนตัวสูงเอ่ยขึ้น พลางมองด้วยสายตาดุวับ ภพพันรีบรับคำ อยากจะตบปากตัวเองนัก ที่พูดไม่คิดแบบนี้ เจ้านายของเขาเป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีทางทิ้งผู้หญิงไว้ข้างทางแน่ ๆ
เขาพาเธอเลี้ยวเข้าโรงแรม เพื่อเปิดห้อง จะได้จัดการทำความสะอาดเสื้อผ้าเนื้อตัวที่เลอะอ้วก
“นายไปพักผ่อนเถอะ มีอะไรจะเรียก” ไตรจักรเอ่ยกับเลขาหนุ่มก่อนจะงับประตูปิด
ไตรจักนั่งมองเธออยู่แบบนั้น เขาไม่ได้แตะต้องเธอแม้แต่ปลายก้อย ใบหน้านี้ทำให้เขานึกถึงมาตลอดหลายเดือน แม้จะพยายามตัดเธอออกไปจากใจแค่ไหน
รสาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง เธอกะพริบตาถี่ ๆ มองสภาพห้องแปลกตาอย่างตกใจ แถมยังตกใจที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม
เธอกวาดสายตามองไปรอบห้อง จึงไปสะดุดเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ปลายเตียง นั่นทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว นึกสงสัยว่าเขาคือใครกัน
เธอทำท่าจะขยับลงจากเตียง แต่เสียงเข้มดุของคนตรงหน้าทำให้เธอสะดุ้งอีกรอบ
“จะไปไหนครับ”
“คะ” เธอทำหน้าเหวอ มองสบตากับเขาอย่างตกใจ เธอไม่รู้จักเขา แต่มาอยู่ในห้องกับเขาสองต่อสองแบบนี้ได้อย่างไรกัน
แต่พอเธอกะพริบตาไปมา ก็พอจะนึกออก เขาเป็นลูกค้าที่ผับที่เธอเคยทำงานเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นเขากับเธอก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นส่วนตัว เพราะไม่เคยคุยกันเลยสักครั้ง
“ผมช่วยคุณเอาไว้”
“คะ” คราวนี้เป็นเธอที่ชะงัก มองเขาตาปริบ ๆ
“เมื่อคืนคุณเกือบโดนลากไปทำมิดีมิร้าย ผมเลยพาคุณออกมาจากผับ แล้วคุณก็อ้วกใส่ผม” ไตรจักอธิบายด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ก่อนจะบิดตัวไปมาเพราะเมื่อยขบเพราะเผลอนั่งมองเธอจนหลับไป
“ฉันขอบคุณคุณมากๆ นะคะ แล้วคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเหรอคะ”
“แม่บ้านที่โรงแรมเป็นคนเปลี่ยนให้ ผมไม่ชอบฉวยโอกาสกับผู้หญิงที่ไร้สติครับ” ความเป็นสุภาพบุรุษของเขาทำให้เธอนึกทึ่ง ยากยิ่งที่จะหาผู้ชายแบบเขาในสังคม แต่อย่างน้อยผู้ชายดี ๆ ก็ยังมีอยู่ให้ชื่นใจ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น เธอคงโดนทำมิดีมิ
ร้ายไปแล้ว
“ฉันชื่อรสาค่ะ”
“ครับ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ”
“คะ คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“กินมื้อเช้าด้วยกันไหม”
“คุณชวนฉันกินข้าวด้วยกันเหรอคะ”
“คุณมีชื่อเล่นไหม”
“ชื่อรักษ์คะ”
“ผมอยากให้คุณแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นน่ะครับ”
“ทำไมคะ”
“ผมสนใจคุณ อยากทำความรู้จักคุณให้มากขึ้นครับ”
“ฉันเอ่อ... ฉันจำคุณได้ คุณเป็นลูกค้าของผับที่ฉันทำงานร้องเพลงอยู่ใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยถามออกไปตรง ๆ
เขาคือแขกของผับที่เธอเคยไปร้องเพลงเมื่อหลายเดือนก่อน ก่อนที่ผับนั้นจะปิดตัวลง ตอนนี้เธอมีงานเหลืออยู่แค่งานเดียวคือครูสอนร้องเพลง ยังไม่มีงานร้องเพลงตอนกลางคืนที่ไหน เพราะยังไม่มีที่ไหนรับนักร้องเพิ่ม
“ผมน่าจดจำขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เขามองเธออย่างแปลกใจ
“จำได้สิคะ” เขาหล่อลากเสียขนาดนี้ ถ้าจำไม่ได้นี่สิเรียกว่าแปลก
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"