ความรักของสองหนุ่มที่ขับเคี่ยวในเกมรัก เมื่อรักนั้นไม่ใช่รักธรรมดา พระเอก ไอยวุธ มองความรักด้วยสติ ความรอบคอบ ไม่เผลอไผลให้กับหญิงร้ายที่พยายามยั่วยวนเขา ผิดไปจากเพื่อนของเขา ที่คลำไม่เป็นหางก็ฟาดดะ ไอยวุธพบรักกับนางเอก ชฏาเดือน เป็นทนายความสาว เขาต้องทนุถนอมเธอ แต่ก็ต้องฝ่าฟันผู้หญิงร้ายที่ต้องการตัวเขา
เมื่อสามเดือนก่อนนั้น ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่หล่อนปรารถนาอย่างมาก ผิวนั้นแม้จะดูไม่ขาวจัดมาก แต่ก็เกลี้ยง ถึงแม้จะเป็นสีแทนอย่างที่ว่า แต่ก็เนียนละเอียด ไม่ดำ
สรีระของเขาที่เด่น เป็นคนที่สูงโปร่งใบหน้าของเขาก็คมคาย หล่อเหลือเร้าใจยิ่งนัก กับความต้องการที่ ผกายรุจี อยากจะครอบครอง
หล่อนรู้มาว่า เขาเป็นพนักงานของบริษัท และบริษัทนี้เป็นของพ่อหล่อน เป็นลูกน้องของพ่อ
เขาก็ต้องเป็นลูกน้องของพ่อหล่อนด้วยสิ ผกายรุจีคิดอย่างนั้น เมื่อเขาเป็นลูกน้องของพ่อหล่อน เขาก็ต้องเป็นของหล่อนด้วย
หล่อนเพิ่งเดินทางกลับแบบบินด่วนมาที่เมืองไทย หลังจากไปอยู่เกือบยี่สิบปี อิ่มเอมใจเหลือเกิน
หล่อนถามพนักงานแล้ว พวกนั้นตอบหล่อนว่า
“เขาชื่อ คุณไอย ค่ะ คุณรุจี”
“ฉันอยากจะรู้ชื่อจริงเขา”
หล่อนถามพนักงานคนเดิม อย่างไม่พอใจ ที่ไม่ได้ตอบตรงคำถามของหล่อน และแม่พนักงานสาวคนนั้นก็ก้มหน้างุด
พยายามระวังปากระวังคำของตัวเองมากที่สุด เพราะถ้าไม่ถูกเส้นของลูกสาวเจ้านายเข้า เจ้าหล่อนคงจะวีนเหวี่ยง และด่าเข้าให้หลายเรื่อง จึงไม่มีใครกล้าเสี่ยง
“เอ้อ คุณไอยวุธค่ะ”
คำตอบของพนักงานคนเดิม ทำให้ผกายรุจียิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วจากนั้น หล่อนก็กระแทกเท้าเดินจากไป
ต้นฤดูหนาว ย่างกรายมาแล้ว เหน็บหนาวสายลมทำให้เขาหนาวยะเยือก ไอยวุธในชุดเสื้อเชิ้ตสีอิฐ กางเกงสแลคส์ ก้าวตามทางยาวที่ทอดวกวนโค้ง
คฤหาสน์หลังงามตระหง่าน เจ้าของบ้านผุดไอเดียเด่น ปรับปรุงตกแต่งส่วนหนึ่งของบ้าน เป็นออฟฟิศ ได้อย่างลงตัว
“คุณไอย เพิ่งมาถึงหรือคะ”
ชายหนุ่มหิ้วข้าวของที่ดูพะรุงพะรัง
“ครับ เห็นว่าเช้าอยู่มาก”
คำตอบนั้นเรียบ เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาเป็นความเฉยเมยไปหมด
เอมศรีเอ่ยทักเขา รูปคิ้วเรียวของชายหนุ่มหล่อหันสายตามาทักหญิงสาวใหญ่ผู้ทำหน้าที่ต้อนรับคือเป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัท
" ให้พี่เอม ช่วยไหมค่ะ คนละไม้คนละมือ แหม ไปติดต่อธุระออกตั้งไกล แล้วนี่คุณปลายศกก็ยังไม่กลับมาด้วย พี่เอมจะทำยังไงนี่ "
หล่อนเอ่ยถึงเพื่อนร่วมงานอีกคน ที่มีสถานะพิเศษมากกว่าพนักงานธรรมดา อาจจะเป็นเพราะว่าผกายรุจี บุตรสาวของท่านประธานของบริษัทนั้นคบหาสนิทสัมพันธ์กับชายหนุ่มขนาดเรียกได้ว่าแฟน
เขาขมวดคิ้วอีกครั้ง เกือบเที่ยงแล้ว
ปลายศก ยังไม่กลับ เขาไม่รู้ว่าปลายศกจะมีที่เที่ยวที่ไหนอีก ถมไป สำหรับคนอย่างปลายศก
ที่กำลังจะขยับเป็นบุตรเขยของท่านประธานอยู่รอมร่อ ฮึ ก็เพราะความร่ำรวยที่มองกองอยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่หรือ
ที่ทำให้ปลายศก ตะเกียกตะกายหวังไกลไปกว่านั้นด้วยการอยากรวยทางลัด
รักกับหญิงสาวธรรมดามันจะมีดีอะไร นอกจากลูกสาวของผู้บริหาร แค่ที่ปลายศกสามารถทำให้ลูกสาวคนสวยของท่านประธานลุ่มหลงรักใคร่ได้
ไอยวุธเองถึงกับยกหัวแม่โป้งให้
เสน่ห์เพื่อนของเขาฉกาจบาดใจไม่เบาฮึ
รู้ดีทั้งที่ปลายศกใช้ชีวิตเขรอะสิ้นเปลืองกับความรักและเกมใคร่มาไม่น้อย
ผกายรุจียังยกย่องบูชาเทิดทูน ติดเสน่ห์ความเป็นชายของมันอย่างมาก หมอนี่มีดีที่ทำให้ผู้หญิงต้องยอมตลอดจริง
ไอยวุธแค่นยิ้มเยาะ จะทิ้งเมียอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ตอนนี้อาจจะเบื่อ พิไลลา เลยคิดอยากจะกก เทียนม่วง
เพราะหลากหลายเมียเหลือเกินเพื่อนคนนี้
เขาเองรู้ตื้นลึกบางหนาของปลายศกมากที่สุด
แต่ไม่อยากจะสอนจระเข้อย่างคุณผกายรุจีว่ายน้ำ หล่อนฉลาดพอสมควรนี่ ถ้าคิดจะเลือกปลายศก ก็ต้องรับรู้ความระยำตำบอนของผู้ชายคนนี้ด้วย ว่าเขาเคยผ่านคาวกามมามากแค่ไหน
เมื่อรู้ก็สามารถรับได้ เขาอยากจะประชดนัก ผู้หญิงยุคใหม่ ชื่นชมชอบประเภทหล่อลากเขี้ยว ร้ายด้วยเหลี่ยม
เอ หรือว่าจะต้องเป็นประเภทผู้ชายเลวทรามเถื่อนๆ ผู้หญิงถึงจะชอบ มันคงจะดุดันเร้าใจดี
สมหวังสมหวัง อยากได้อะไรเป็นไปตามความต้องการหมด
เหมือนกับมีใครหยิบนำข้าวของมาประเคนถึงที่เขายังมีบัญชีค้างใจอยู่กับปลายศก
มันถูกซ่อนลึก อย่างลึกล้ำ ในสถานที่มืดมนของหัวใจซึ่งยากที่ผู้ใดจะคาดเดาได้
และนอกจากว่า ไอยวุธจะยอมเปิดปากเผยสารภาพออกมา
แต่เมื่อมันเป็นความลับ ฮึ มันก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ ไว้รอลุ้น ความสนุกสนานที่จะเกิดขึ้นเบื้องหน้าดีกว่า
เวลานี้มีคนอยากปีนต้นงิ้วหลายต้น ต้นแต่ละต้นเหมือนมีแต่นายพรานล่ารัก ล่าสวาท
ล่าทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ไม่รู้ว่าความดีงามงอกเงยบนจิตใจส่วนไหน
ก็เล่นรับรู้แต่ความต่ำทราม มั่วตัณหากามารมณ์อย่างนี้นี่เอง สวรรค์ถึงได้ขยับเข้ามาใกล้นรกทุกที
มีบ้างไหม ที่ต่อไป ปลายศกจะรู้ว่าเพื่อนรักอย่างเขาร้ายกาจมากแค่ไหน มันช่วยไม่ได้หรอก ทีใครทีมัน
แผลเมื่อมันบาดเหวอะหวะลุกลามทั่วไขสันหลังก็กลายเป็นแผลเน่าและนับวันมันเริ่มจะช้ำหนอง จนอักเสบเรื้อรังอย่างรุนแรงในกาย
ลองคิดดูบ้างสิว่า ชีวิตเขาผ่านความทุกข์ทรมานตรงนั้นมาแล้ว เขาทรมานมากกว่ามันด้วย
มันทำอะไรลงไป มันเคยคิดถึงคำว่า มนุษยธรรม หรือคำว่าเพื่อนบ้างไหม
อักเสบทุรนทุรายเจียนตาย เขาก็ดิ้นรนที่จะเอาตัวรอด
ทางด้านหนึ่งของใจกลางกรุงเทพ ..ทั้งที่ฤดูหนาวด้วยซ้ำ นี่ฝนคงหลงฤดูที่พัดพาเอามรสุม คลื่นลมรุนแรงจนดูน่ากลัว
หากแต่แสงอาทิตย์ไม่ปรากฏบนท้องฟ้ามันถูกกลืนหายลับไปในพงเมฆหนา
ข่าวจากกกรมอุตินิยมวิทยารายงานอย่างนั้นด้วย ช่วงนี้ประเทศไทยจะพบเจอกับมรสุมพายุดีเปรสชั่น ที่พาดผ่านประเทศเวียดนาม
ประเทศไทยพลอยโดนอิทธิพลและหางเลขตามไปด้วย ชายหนุ่มที่นั่งทำงานสงบกับพนักเบาะประจำของตนเองเองนั้น เขาเงยหน้าออกไปทางหน้าต่างลุกขึ้นยืนรูดเปิดม่านมู่ลี่
ก็พบว่าท้องฟ้ามืดครื้มรวดเร็วอย่างมาก กลุ่มเมฆที่เคยขาวพร่างสดใสเช่นยามเช้าตรู่ กลับรวมกลุ่มเป็นสีดำสนิทมหึมาไหลเหมือนทะเลเมฆมุ่งไปทางทิศเหนือ
คำโปรย เพราะคืนนั้นคืนเดียวที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาและเธอไปเสียทุกอย่าง จากความรัก กลายสู่ความใคร่ และเป็นความแค้นในที่สุด เมื่อเธอไม่อยากพบเจอเขา แต่พรหมลิขิตก็เหวี่ยงให้ทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ภาพของพิษแค้นเสน่หาในวันวาเลนไทน์จึงหลอกหลอนใจทั้งคู่อีกครั้ง ด้วยรัก ธันยวีร์
คำโปรย ครูหนุ่มที่ฐานะต่างกันกับอาสาวของลูกศิษย์ ที่หัวใจผูกรักใคร่ วาดฝันถึงทางรักที่สวยงาม แต่ทางรักมีอุปสรรค เมื่อเขาโบยบินไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาด้วยใจที่บอบช้ำ ดั่งพรหมลิขิตกลั่นแกล้ง รอคอยเพียงเธอ จะตามมาสมทบหัวใจ เหมือนไปให้สุดทางสุดเสน่หา ธันยวีร์
คำว่าเมีย” อย่างเธอ เด็กสาวอ่อนต่อโลก “ช่อดมิสา” มีที่มาแบบไม่ขาวสะอาด เพราะถูกอุปถัมภ์โดยหนุ่มใหญ่ อภิวานต์หรือว่าน ที่มีความแค้นแต่อดีตหนหลังระหว่างพ่อแม่ของเธอ คำว่าเมียเลี้ยง” ไม่ต่างจากที่ใครๆกล่าวหา เธอถูกนำมาไว้ที่บ้านสวนเพื่อปรนนิบัติดูแลคุณย่า ผลตอบแทนของเธอที่ได้รับ คือ สติปัญญา คุณค่า และการเอาตัวรอด ท่ามกลางอุปสรรคจากคนรอบข้าง ศัตรูร้าย และเพื่อนที่แสนดี คอยประคับประคองทะนุถนอมให้กำลังใจ ผิดไปจากเขาที่มอบแต่ความเถื่อน เหมือนซาตานร้าย แต่จะทำอย่างไรได้ และไม่อาจปฏิเสธตำแหน่ง ที่เขายัดเยียดให้ ด้วยรัก ช่อดมิสา
เจ้าสาวที่กลัวฝนอย่าง ฝ้ายนิิล นางเอก มีปมความหลังที่เพื่อนถูกคนรักทำร้าย และพี่สาวถูกสามีหลอกลวงปอกลอก ทำให้ตั้งป้อม อคติกับเพศตรงกันข้าม จนเมื่อ พระเอก กริญจน์ เพลบอยหนุ่มเข้ามาในชีวิต ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยเป็นขมิ้นกับปูน เริ่มเปิดรับความรักที่แสนอบอุ่น
“เมียขายฝาก” เรื่องราวความรักชุลมุล ที่มาจากความเข้าใจผิด ของนักเขียนหนุ่ม พระเอก “ ปางภู” ร่ำรวย เย่อหยิ่ง งานอดิเรก เล่นการพนันเป็นบางครั้งแก้เครียด ส่วน นางเอก “ ใบฟาง” ประชาสัมพันธ์สาว ที่แฟนหนุ่มนำตัวเธอมาขายให้พระเอก เพราะติดพนัน ความเลวร้าย และเจ็บปวดจึงเกิดขึ้นกับเธอ จึงโทษเขาที่มีส่วนร่วมกับแฟนหนุ่ม เพราะว่าเธอได้กลายเป็นเกมของเขา ที่ขุดบ่อล่อปลาให้เธอเป็นเมียขายฝาก หลังจากความสัมพันธ์คืนนั้น ที่ต้องพัวพันกับเขาทั้งดีและร้าย
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้