/0/21841/coverbig.jpg?v=0a3a0ab4ea6b82dd400aa5167c9c6d19)
เหอหลันฮวา คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ ชาติที่แล้วตกตายเพราะความริษยาของน้องสาวต่างมารดา แต่ที่นางกลับมา ไม่ได้อยากล้างแค้นใคร ขอให้ข้าได้ใช้ชีวิตกับสามีอย่างสงบสุขได้หรือไม่
เหอหลันฮวา คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ ชาติที่แล้วตกตายเพราะความริษยาของน้องสาวต่างมารดา แต่ที่นางกลับมา ไม่ได้อยากล้างแค้นใคร ขอให้ข้าได้ใช้ชีวิตกับสามีอย่างสงบสุขได้หรือไม่
บทที่ 1 เหอหลันฮวา
เหอหลันฮวา เป็นบุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีเหอแห่งแคว้นหลาน นางเป็นหญิงสาวที่สง่างามจะบอกว่าเป็นยอดบุปผาแห่งเมืองหลวงก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายหรือคุณชายในเมืองหลวงต่างก็หมายปองนาง
แต่ใจของเหอหลันฮวายึดติดเพียงแค่องค์ชายรองแคว้นหลาน มีนามว่าหลานหมิงฮ่าวซึ่งมีฐานะเป็นคู่หมั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งสองมีการหมั้นหมายตั้งแต่วัยเยาว์โดยความเห็นชอบจากบิดาของนางและฝ่าบาท
แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าองค์ชายรองผู้แสนอ่อนโยนจะหักหลังนางด้วยการแอบไปผูกสมัครรักใคร่ และมีความสัมพันธ์ทางกายกับเหอชิงลี่น้องสาวต่างมารดาที่เป็นเพียงลูกอนุที่ขยับฐานะมาเป็นฮูหยินรองในจวน
ต่อให้เหอชิงลี่และองค์ชายรองหลานหมิงฮ่าวจะรักมั่นเพียงใด แต่อุปสรรคที่กั้นกลางทั้งสองคนไว้ คือคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวาที่มีฐานะเป็นถึงคู่หมั้นเพียงหนึ่งเดียว
องค์ชายรองหลานหมิงฮ่าวไม่ได้สนใจว่าตัวเขาจะต้องหมั้นหมายหรือว่าต้องแต่งงานกับผู้ใด ต่อให้มีใจรักมอบให้กับเหอชิงลี่แค่ไหน แต่ด้วยฐานะของนางไม่สามารถสนับสนุนเขาได้ หากแต่งเข้ามาคงเป็นเพียงอนุภรรยาเท่านั้น
ซึ่งต่างกับคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวา นางเป็นถึงบุตรสาวภรรยาเอกของท่านเสนาบดีเหอที่มาจากตระกูลฟ่าน
วันงานปักปิ่นของเหอชิงลี่เหตุการณ์ไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น เมื่อมีคนมาแจ้งท่านเสนาบดีเหอว่าคุณหนูใหญ่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายตัดฟืนบ่าวไพร่ทำงานอยู่ในจวน ทำให้ท่านเสนาบดีโกรธและเสียหน้ามาก จึงรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนนอนที่ใช้รับรองแขกทันที
แต่สิ่งที่เสนาบดีเหอเห็นนั้นทำให้เขาขาดสติกระชากตัวบุตรสาวลงมาและตบหน้านางอย่างแรง
“แพศยา! เจ้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลกลับชั่วช้าลักลอบมีความสัมพันธ์กับคนตัดฟืน ต่ำ! ต่ำจริง ๆ”
“คุณหนูไม่ผิดขอรับนายท่าน ข้าผิดเองขอรับ นายท่านอย่าทำร้ายคุณหนูเลยขอรับ”
อาเฟยชายตัดฟืนบ่าวรับใช้ในจวน เขารีบเอาผ้ามาคลุมร่างของคุณหนูใหญ่ไว้อย่างหวงแหน เขารู้ดีว่าคุณหนูนั้นหยิ่งยโสแค่ไหน การที่นางจะมีความสัมพันธ์กับชายตัดฟืนเช่นเขานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลัง
แต่ที่รู้คือเขาและคุณหนูนั้นโดนวางยาอย่างไม่ต้องสงสัย และเขารู้ดีว่าเรื่องครั้งนี้เป็นแผนการของผู้ใด
“ใครก็ได้มาลากนังลูกชั่วคนนี้ไปให้พ้น ๆ หน้าข้า พรุ่งนี้ย้ายข้าวของทุกอย่างของลูกชั่วไปอยู่ที่กระท่อมท้ายจวนกับสามีตัดฟืนของมัน”
เสนาบดีเหอพูดจบจึงสะบัดแขนเสื้อเดินออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้นบุตรสาว แทนที่จะได้แต่งงานเป็นชายาขององค์ชายอย่างมีหน้ามีตา กลับใฝ่ต่ำมาลักลอบได้เสียกับคนตัดฟืนในจวน
หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จวนตระกูลเหอแห่งนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
เมื่อทุกคนจากไปแล้ว อาเฟยจึงยื่นมือไปหาคุณหนูใหญ่ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ “คุณหนูขอรับ”
“ไปให้พ้นหน้าข้า เพราะเจ้า เจ้าทำให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”
เหอหลันฮวาตวาดเสียงดัง ก่อนจะก้มหน้ากับฝ่ามือร้องไห้แทบขาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนาง ทั้ง ๆ ที่เดือนหน้านางจะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับองค์ชายรองแล้วแท้ ๆ ทำไมกัน ทำไม!
หลังจากที่ถูกบิดาขับไล่ออกมาอยู่ที่กระท่อมท้ายจวนพร้อมกับอาเฟยชายตัดฟืน เหอหลันฮวาจึงมีนิสัยร้ายกาจขึ้นมาก ทั้งด่าทอและทุบตีอาเฟยบ่อย ๆ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ตัวอาเฟยนั้นแม้ว่าจะถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจยังไง เขาไม่เคยปริปากบ่นก้มหน้ารับคำดุด่าแต่โดยดี
ส่วนลึก ๆ ในจิตใจของชายหนุ่ม เขานั้นหลงรักคุณหนูใหญ่มานานแล้วตั้งแต่วันที่คุณหนูซื้อชายความจำเสื่อมเช่นเขามาจากโรงค้าทาส
แต่เพราะฐานะต่ำต้อยจึงไม่เคยคิดอาจเอื้อม การที่คุณหนูใหญ่ตกต่ำเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาด้วย คงมีผู้ใดเกิดล่วงรู้ความในใจของเขาขึ้นมา ชายหนุ่มจึงได้แต่ก้มหน้ายอมถูกทำร้ายและคอยฟังเสียงด่าทอของภรรยาอย่างไม่คิดห้ามปราม คนที่นางไม่เคยยอมรับเขาว่าเป็นสามี
ภายในจวนของเสนาบดีเหอ เมื่อเรื่องของบุตรสาวภรรยาเอกเลื่องลือออกไปด้านนอกจวน ทำให้มีแต่คนซุบซิบนินทา จนทำให้คนภายในจวนแทบจะไม่กล้าออกมาพบปะผู้คน รวมถึงการตัดสัมพันธ์ขององค์ชายรองที่มีต่อตระกูลเหอด้วยเช่นกัน
“เพราะมัน องค์ชายรองจึงตัดสัมพันธ์กับข้า ท่านแม่ ท่านต้องช่วยข้ากำจัดนางแพศยานั่น”
เหอชิงลี่ขว้างปาข้าวของในห้องพร้อมกับด่าทอพี่สาวต่างมารดาด้วยความเกลียดชัง วางแผนไว้ดีแล้วและทุกอย่างสำเร็จดั่งใจ แต่องค์ชายรองกลับขอตัดความสัมพันธ์กับนางทั้ง ๆ ที่นางตกเป็นของเขาแล้วเช่นกัน
“นี่ลี่เอ๋อร์ เจ้าอย่าเพิ่งโวยวายได้ไหมเล่า แม่เองจะบ้าตายอยู่แล้ว ช่วยกันหาวิธีคิดก่อนว่าจะทำยังไงต่อไป ตอนนี้ท่านพ่อของเจ้าแทบจะเข้าหน้าไม่ติดกับคนในราชสำนัก แม่เตือนเจ้าแล้วว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามจนกลายมาเป็นผลเสียต่อฝ่ายของเราเอง เจ้าเองไม่เคยเชื่อแม่สักครา”
ฮูหยินรองเตือนสติบุตรสาว
“ก่อนที่ท่านแม่จะกล่าวตักเตือนข้า ท่านทำให้ท่านพ่อยกท่านมาเป็นภรรยาเอกเสียก่อนดีไหมเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่ตายไปตั้งนานแล้ว ท่านยังเป็นเพียงภรรยารองเท่านั้น หากท่านได้เป็นฮูหยินใหญ่ ข้าคงไม่ต้องถูกผู้ใดดูหมิ่นหรือถูกเหยียดหยามเช่นนี้”
นางคิดว่าหากว่านางได้เป็นบุตรสาวภรรยาเอก นางคงจะได้เป็นพระชายาไปแล้ว ไม่ต้องถูกตัดสัมพันธ์จนช้ำใจ
“แม่มีวิธีที่จะให้นังนั้นตายไปอย่างง่ายดาย เจ้าช่วยอยู่อย่างสงบปากสงบคำก่อนเถอะ ในเมื่อข้ากำจัดแม่ของนางได้ ทำไมข้าจะกำจัดนางไม่ได้”
ฮูหยินรองหรือตู้เหนียงเอ่ยเสียงเย็น ในเมื่อตนสามารถจัดการฮูหยินเอกของท่านเหอได้ ทำไมนางจะจัดการคนเป็นลูกไม่ได้ อีกทั้งตอนนี้พี่ชายของเหอหลันฮวาอยู่ที่กองทัพ ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมา นี่คือโอกาสดีที่นายท่านกำลังโกรธ หากเหอหลันฮวาตายไป นายท่านคงไม่คิดสืบสาวราวเรื่องเป็นแน่
“ท่านแม่ ท่านสัญญากับข้าแล้วนะว่าจะกำจัดมันให้กับข้า”
“แม่สัญญา”
จากนั้นไม่นานฮูหยินรองจึงให้บ่าวรับใช้วางยาในอาหารให้กับคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวา คนที่เป็นหนามยอกอกของตนและบุตรสาว จวบจนวันหนึ่ง สิ่งที่หวังและกระทำไปสำเร็จลุล่วงเมื่อเหอหลันฮวาสิ้นชีพ
“ไม่นะขอรับ คุณหนูอย่าทิ้งข้าไป คุณหนูลุกขึ้นมาสิขอรับ อย่าทิ้งข้าไป ข้ารักคุณหนูนะขอรับ”
อาเฟยกอดร่างภรรยาร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจ ดวงวิญญาณของเหอหลันฮวากลั้นน้ำตาออกมาแทบจะเป็นสายเลือด
สุดท้ายแล้วคนที่รักนางที่สุดก็คือสามีที่เป็นเพียงชายตัดฟืนคนนี้สินะ
จากนั้นภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านเข้ามาให้หญิงสาวได้เห็น ว่าผู้ใดคือคนที่คอยทำร้ายตนเองมาตลอด แม้จะรู้อยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าจะลงมือกันถึงขั้นทำร้ายกันจนตาย
แม้แต่ชีวิตของอาเฟยก็โดนบีบคั้นจนตายเช่นกัน กว่าพี่ชายร่วมอุทรจะกลับมา นางและสามีก็สิ้นชีพไปแล้ว
“เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่ สุดท้ายคนที่รักเจ้าจริงนั้นเป็นผู้ใด มารดาเจ้าตายเพราะผู้ใด”
อยู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา เหอหลันฮวามองซ้ายมองขวาเจอเข้ากับเงาสีดำที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
“ท่านเป็นผู้ใด หรือว่าท่านมาเพื่อพาข้าไป”
เหอหลันฮวาถามกลับ นางยังไม่อยากไป เพราะหากนางไปแล้วอาเฟยชายผู้น่าสงสารคนนี้จะต้องตายเช่นกัน
“ข้าเป็นผู้ใดเจ้าไม่ต้องรู้ หากข้าให้โอกาสเจ้ากลับไปหาสามีของเจ้า เจ้ายินดีหรือไม่” เงาสีดำนั้นยังคงถาม
“กลับสิ ข้าอยากกลับไป”
“แต่เจ้าต้องละทิ้งความแค้นทั้งหมด อยู่กับปัจจุบันก่อร่างสร้างตัวกับสามีของเจ้าเพียงสองคน ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เจ้าทำได้หรือไม่เล่า เหอหลันฮวา”
“ข้าสัญญา ขอเพียงได้กลับไปอยู่กับอาเฟยก็พอแล้ว”
เหอหลันฮวารับปากเงาดำตนนั้นโดยไม่ต้องคิดให้มากความ แค่ได้กลับไปนางก็พอใจแล้ว
“ดีมาก กลับไปครั้งนี้ ข้าจะมอบความรู้ต่าง ๆ ให้กับเจ้า เผื่อว่าเจ้าและสามีจะได้เอาไปสร้างตัว”
เงาดำตนนั้นพูดและจับหัวของเหอหลันฮวาก่อนจะมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรกระชากดวงวิญญาณนางอย่างแรง
“ข้าช่วยท่านได้เท่านี้ อยู่ที่ตัวท่านจะกลับไปอยู่เหนือคนทั้งปวงได้หรือไม่ มีเพียงนางเท่านั้นที่จะทำให้ท่านพ้นภัยก่อนที่ความทรงจำจะกลับมา”
เงาดำพึมพำเพียงตนเดียว แค่นี้เขาก็ฝืนมิติของสวรรค์มากพอแล้ว
สตรีอย่างจ้าวเยว่ก็เสมือนคมในฝัก ภายนอกแม้จะดูเกียจคร้านจนผู้คนเบือนหน้าหนี ทว่าความสามารถที่มีนั้นไม่อาจดูแคลนได้ แต่เมื่อต้องปกป้องชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีจึงไม่อาจปิดบังความสามารถได้อีกต่อไป
เมื่อนางร้ายตัวแม่เกิดใหม่เข้ามาในสถานที่คล้ายๆ กับนิยายที่เคยอ่าน พระเอกเหรอไปไกลๆ จะให้เธอคอยตามพระเอกในเรื่องไม่มีทางเสียหรอก นางร้ายคนนี้ขอใช้ชีวิตแบบเริดๆ เชิดๆ ดีกว่าเป็นไหนๆ เอาสิร้ายมาร้ายกลับไม่โกง หลิงชิงเย่ว หญิงสาวที่น่าสงสาร สามีแต่งงานด้วยเพราะคำสัญญาและตอบแทนบุญคุณพ่อของเธอ แต่สำหรับหญิงสาวการแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากความรัก หลังจากแต่งงานไม่นานแม่สามีกลับแต่งภรรยาให้อีกคนซึ่งเป็นหลานสาวของนาง แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของสามีเธอด้วยนี่สิ ยิ่งคิดลี่น่ายิ่งเครียดแทน ยังไงซะเธอไม่มีทางหนีชะตาพ้น ก็วิ่งชนสิคะจะกลัวอะไร ในเมื่อท่านยมจอมผิดพลาดส่งนางร้ายตัวแม่เช่นเธอเข้ามาแทน ก็อย่าฝันว่าเธอจะตามง้อผัวโง่ๆ นี่อีก พระเอกเหรอ หลบไป นางเอกเหรอ ไปไกลๆ นางร้ายตัวแม้คนนี้จะใช้ชีวิตเริดๆ เชิดๆ หลังจากหย่าให้อิจฉาตายไปเลย ที่สำคัญเธอมาพร้อมกับพรที่ขอกับท่านยมอีกสามข้อแบบจุกๆ อีกด้วย
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด