/0/21841/coverbig.jpg?v=0a3a0ab4ea6b82dd400aa5167c9c6d19)
เหอหลันฮวา คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ ชาติที่แล้วตกตายเพราะความริษยาของน้องสาวต่างมารดา แต่ที่นางกลับมา ไม่ได้อยากล้างแค้นใคร ขอให้ข้าได้ใช้ชีวิตกับสามีอย่างสงบสุขได้หรือไม่
บทที่ 1 เหอหลันฮวา
เหอหลันฮวา เป็นบุตรสาวภรรยาเอกของเสนาบดีเหอแห่งแคว้นหลาน นางเป็นหญิงสาวที่สง่างามจะบอกว่าเป็นยอดบุปผาแห่งเมืองหลวงก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายหรือคุณชายในเมืองหลวงต่างก็หมายปองนาง
แต่ใจของเหอหลันฮวายึดติดเพียงแค่องค์ชายรองแคว้นหลาน มีนามว่าหลานหมิงฮ่าวซึ่งมีฐานะเป็นคู่หมั้นเพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งสองมีการหมั้นหมายตั้งแต่วัยเยาว์โดยความเห็นชอบจากบิดาของนางและฝ่าบาท
แต่ผู้ใดจะไปคิดว่าองค์ชายรองผู้แสนอ่อนโยนจะหักหลังนางด้วยการแอบไปผูกสมัครรักใคร่ และมีความสัมพันธ์ทางกายกับเหอชิงลี่น้องสาวต่างมารดาที่เป็นเพียงลูกอนุที่ขยับฐานะมาเป็นฮูหยินรองในจวน
ต่อให้เหอชิงลี่และองค์ชายรองหลานหมิงฮ่าวจะรักมั่นเพียงใด แต่อุปสรรคที่กั้นกลางทั้งสองคนไว้ คือคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวาที่มีฐานะเป็นถึงคู่หมั้นเพียงหนึ่งเดียว
องค์ชายรองหลานหมิงฮ่าวไม่ได้สนใจว่าตัวเขาจะต้องหมั้นหมายหรือว่าต้องแต่งงานกับผู้ใด ต่อให้มีใจรักมอบให้กับเหอชิงลี่แค่ไหน แต่ด้วยฐานะของนางไม่สามารถสนับสนุนเขาได้ หากแต่งเข้ามาคงเป็นเพียงอนุภรรยาเท่านั้น
ซึ่งต่างกับคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวา นางเป็นถึงบุตรสาวภรรยาเอกของท่านเสนาบดีเหอที่มาจากตระกูลฟ่าน
วันงานปักปิ่นของเหอชิงลี่เหตุการณ์ไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้น เมื่อมีคนมาแจ้งท่านเสนาบดีเหอว่าคุณหนูใหญ่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับชายตัดฟืนบ่าวไพร่ทำงานอยู่ในจวน ทำให้ท่านเสนาบดีโกรธและเสียหน้ามาก จึงรีบมุ่งหน้าไปยังเรือนนอนที่ใช้รับรองแขกทันที
แต่สิ่งที่เสนาบดีเหอเห็นนั้นทำให้เขาขาดสติกระชากตัวบุตรสาวลงมาและตบหน้านางอย่างแรง
“แพศยา! เจ้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลกลับชั่วช้าลักลอบมีความสัมพันธ์กับคนตัดฟืน ต่ำ! ต่ำจริง ๆ”
“คุณหนูไม่ผิดขอรับนายท่าน ข้าผิดเองขอรับ นายท่านอย่าทำร้ายคุณหนูเลยขอรับ”
อาเฟยชายตัดฟืนบ่าวรับใช้ในจวน เขารีบเอาผ้ามาคลุมร่างของคุณหนูใหญ่ไว้อย่างหวงแหน เขารู้ดีว่าคุณหนูนั้นหยิ่งยโสแค่ไหน การที่นางจะมีความสัมพันธ์กับชายตัดฟืนเช่นเขานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลัง
แต่ที่รู้คือเขาและคุณหนูนั้นโดนวางยาอย่างไม่ต้องสงสัย และเขารู้ดีว่าเรื่องครั้งนี้เป็นแผนการของผู้ใด
“ใครก็ได้มาลากนังลูกชั่วคนนี้ไปให้พ้น ๆ หน้าข้า พรุ่งนี้ย้ายข้าวของทุกอย่างของลูกชั่วไปอยู่ที่กระท่อมท้ายจวนกับสามีตัดฟืนของมัน”
เสนาบดีเหอพูดจบจึงสะบัดแขนเสื้อเดินออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้นบุตรสาว แทนที่จะได้แต่งงานเป็นชายาขององค์ชายอย่างมีหน้ามีตา กลับใฝ่ต่ำมาลักลอบได้เสียกับคนตัดฟืนในจวน
หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จวนตระกูลเหอแห่งนี้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
เมื่อทุกคนจากไปแล้ว อาเฟยจึงยื่นมือไปหาคุณหนูใหญ่ท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ “คุณหนูขอรับ”
“ไปให้พ้นหน้าข้า เพราะเจ้า เจ้าทำให้ข้าต้องอับอายขายขี้หน้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก”
เหอหลันฮวาตวาดเสียงดัง ก่อนจะก้มหน้ากับฝ่ามือร้องไห้แทบขาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนาง ทั้ง ๆ ที่เดือนหน้านางจะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับองค์ชายรองแล้วแท้ ๆ ทำไมกัน ทำไม!
หลังจากที่ถูกบิดาขับไล่ออกมาอยู่ที่กระท่อมท้ายจวนพร้อมกับอาเฟยชายตัดฟืน เหอหลันฮวาจึงมีนิสัยร้ายกาจขึ้นมาก ทั้งด่าทอและทุบตีอาเฟยบ่อย ๆ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ตัวอาเฟยนั้นแม้ว่าจะถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจยังไง เขาไม่เคยปริปากบ่นก้มหน้ารับคำดุด่าแต่โดยดี
ส่วนลึก ๆ ในจิตใจของชายหนุ่ม เขานั้นหลงรักคุณหนูใหญ่มานานแล้วตั้งแต่วันที่คุณหนูซื้อชายความจำเสื่อมเช่นเขามาจากโรงค้าทาส
แต่เพราะฐานะต่ำต้อยจึงไม่เคยคิดอาจเอื้อม การที่คุณหนูใหญ่ตกต่ำเช่นนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาด้วย คงมีผู้ใดเกิดล่วงรู้ความในใจของเขาขึ้นมา ชายหนุ่มจึงได้แต่ก้มหน้ายอมถูกทำร้ายและคอยฟังเสียงด่าทอของภรรยาอย่างไม่คิดห้ามปราม คนที่นางไม่เคยยอมรับเขาว่าเป็นสามี
ภายในจวนของเสนาบดีเหอ เมื่อเรื่องของบุตรสาวภรรยาเอกเลื่องลือออกไปด้านนอกจวน ทำให้มีแต่คนซุบซิบนินทา จนทำให้คนภายในจวนแทบจะไม่กล้าออกมาพบปะผู้คน รวมถึงการตัดสัมพันธ์ขององค์ชายรองที่มีต่อตระกูลเหอด้วยเช่นกัน
“เพราะมัน องค์ชายรองจึงตัดสัมพันธ์กับข้า ท่านแม่ ท่านต้องช่วยข้ากำจัดนางแพศยานั่น”
เหอชิงลี่ขว้างปาข้าวของในห้องพร้อมกับด่าทอพี่สาวต่างมารดาด้วยความเกลียดชัง วางแผนไว้ดีแล้วและทุกอย่างสำเร็จดั่งใจ แต่องค์ชายรองกลับขอตัดความสัมพันธ์กับนางทั้ง ๆ ที่นางตกเป็นของเขาแล้วเช่นกัน
“นี่ลี่เอ๋อร์ เจ้าอย่าเพิ่งโวยวายได้ไหมเล่า แม่เองจะบ้าตายอยู่แล้ว ช่วยกันหาวิธีคิดก่อนว่าจะทำยังไงต่อไป ตอนนี้ท่านพ่อของเจ้าแทบจะเข้าหน้าไม่ติดกับคนในราชสำนัก แม่เตือนเจ้าแล้วว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามจนกลายมาเป็นผลเสียต่อฝ่ายของเราเอง เจ้าเองไม่เคยเชื่อแม่สักครา”
ฮูหยินรองเตือนสติบุตรสาว
“ก่อนที่ท่านแม่จะกล่าวตักเตือนข้า ท่านทำให้ท่านพ่อยกท่านมาเป็นภรรยาเอกเสียก่อนดีไหมเจ้าคะ ฮูหยินใหญ่ตายไปตั้งนานแล้ว ท่านยังเป็นเพียงภรรยารองเท่านั้น หากท่านได้เป็นฮูหยินใหญ่ ข้าคงไม่ต้องถูกผู้ใดดูหมิ่นหรือถูกเหยียดหยามเช่นนี้”
นางคิดว่าหากว่านางได้เป็นบุตรสาวภรรยาเอก นางคงจะได้เป็นพระชายาไปแล้ว ไม่ต้องถูกตัดสัมพันธ์จนช้ำใจ
“แม่มีวิธีที่จะให้นังนั้นตายไปอย่างง่ายดาย เจ้าช่วยอยู่อย่างสงบปากสงบคำก่อนเถอะ ในเมื่อข้ากำจัดแม่ของนางได้ ทำไมข้าจะกำจัดนางไม่ได้”
ฮูหยินรองหรือตู้เหนียงเอ่ยเสียงเย็น ในเมื่อตนสามารถจัดการฮูหยินเอกของท่านเหอได้ ทำไมนางจะจัดการคนเป็นลูกไม่ได้ อีกทั้งตอนนี้พี่ชายของเหอหลันฮวาอยู่ที่กองทัพ ไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมา นี่คือโอกาสดีที่นายท่านกำลังโกรธ หากเหอหลันฮวาตายไป นายท่านคงไม่คิดสืบสาวราวเรื่องเป็นแน่
“ท่านแม่ ท่านสัญญากับข้าแล้วนะว่าจะกำจัดมันให้กับข้า”
“แม่สัญญา”
จากนั้นไม่นานฮูหยินรองจึงให้บ่าวรับใช้วางยาในอาหารให้กับคุณหนูใหญ่เหอหลันฮวา คนที่เป็นหนามยอกอกของตนและบุตรสาว จวบจนวันหนึ่ง สิ่งที่หวังและกระทำไปสำเร็จลุล่วงเมื่อเหอหลันฮวาสิ้นชีพ
“ไม่นะขอรับ คุณหนูอย่าทิ้งข้าไป คุณหนูลุกขึ้นมาสิขอรับ อย่าทิ้งข้าไป ข้ารักคุณหนูนะขอรับ”
อาเฟยกอดร่างภรรยาร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจ ดวงวิญญาณของเหอหลันฮวากลั้นน้ำตาออกมาแทบจะเป็นสายเลือด
สุดท้ายแล้วคนที่รักนางที่สุดก็คือสามีที่เป็นเพียงชายตัดฟืนคนนี้สินะ
จากนั้นภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านเข้ามาให้หญิงสาวได้เห็น ว่าผู้ใดคือคนที่คอยทำร้ายตนเองมาตลอด แม้จะรู้อยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าจะลงมือกันถึงขั้นทำร้ายกันจนตาย
แม้แต่ชีวิตของอาเฟยก็โดนบีบคั้นจนตายเช่นกัน กว่าพี่ชายร่วมอุทรจะกลับมา นางและสามีก็สิ้นชีพไปแล้ว
“เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่ สุดท้ายคนที่รักเจ้าจริงนั้นเป็นผู้ใด มารดาเจ้าตายเพราะผู้ใด”
อยู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมา เหอหลันฮวามองซ้ายมองขวาเจอเข้ากับเงาสีดำที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
“ท่านเป็นผู้ใด หรือว่าท่านมาเพื่อพาข้าไป”
เหอหลันฮวาถามกลับ นางยังไม่อยากไป เพราะหากนางไปแล้วอาเฟยชายผู้น่าสงสารคนนี้จะต้องตายเช่นกัน
“ข้าเป็นผู้ใดเจ้าไม่ต้องรู้ หากข้าให้โอกาสเจ้ากลับไปหาสามีของเจ้า เจ้ายินดีหรือไม่” เงาสีดำนั้นยังคงถาม
“กลับสิ ข้าอยากกลับไป”
“แต่เจ้าต้องละทิ้งความแค้นทั้งหมด อยู่กับปัจจุบันก่อร่างสร้างตัวกับสามีของเจ้าเพียงสองคน ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุข เจ้าทำได้หรือไม่เล่า เหอหลันฮวา”
“ข้าสัญญา ขอเพียงได้กลับไปอยู่กับอาเฟยก็พอแล้ว”
เหอหลันฮวารับปากเงาดำตนนั้นโดยไม่ต้องคิดให้มากความ แค่ได้กลับไปนางก็พอใจแล้ว
“ดีมาก กลับไปครั้งนี้ ข้าจะมอบความรู้ต่าง ๆ ให้กับเจ้า เผื่อว่าเจ้าและสามีจะได้เอาไปสร้างตัว”
เงาดำตนนั้นพูดและจับหัวของเหอหลันฮวาก่อนจะมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรกระชากดวงวิญญาณนางอย่างแรง
“ข้าช่วยท่านได้เท่านี้ อยู่ที่ตัวท่านจะกลับไปอยู่เหนือคนทั้งปวงได้หรือไม่ มีเพียงนางเท่านั้นที่จะทำให้ท่านพ้นภัยก่อนที่ความทรงจำจะกลับมา”
เงาดำพึมพำเพียงตนเดียว แค่นี้เขาก็ฝืนมิติของสวรรค์มากพอแล้ว
สตรีอย่างจ้าวเยว่ก็เสมือนคมในฝัก ภายนอกแม้จะดูเกียจคร้านจนผู้คนเบือนหน้าหนี ทว่าความสามารถที่มีนั้นไม่อาจดูแคลนได้ แต่เมื่อต้องปกป้องชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีจึงไม่อาจปิดบังความสามารถได้อีกต่อไป
เมื่อนางร้ายตัวแม่เกิดใหม่เข้ามาในสถานที่คล้ายๆ กับนิยายที่เคยอ่าน พระเอกเหรอไปไกลๆ จะให้เธอคอยตามพระเอกในเรื่องไม่มีทางเสียหรอก นางร้ายคนนี้ขอใช้ชีวิตแบบเริดๆ เชิดๆ ดีกว่าเป็นไหนๆ เอาสิร้ายมาร้ายกลับไม่โกง หลิงชิงเย่ว หญิงสาวที่น่าสงสาร สามีแต่งงานด้วยเพราะคำสัญญาและตอบแทนบุญคุณพ่อของเธอ แต่สำหรับหญิงสาวการแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นจากความรัก หลังจากแต่งงานไม่นานแม่สามีกลับแต่งภรรยาให้อีกคนซึ่งเป็นหลานสาวของนาง แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของสามีเธอด้วยนี่สิ ยิ่งคิดลี่น่ายิ่งเครียดแทน ยังไงซะเธอไม่มีทางหนีชะตาพ้น ก็วิ่งชนสิคะจะกลัวอะไร ในเมื่อท่านยมจอมผิดพลาดส่งนางร้ายตัวแม่เช่นเธอเข้ามาแทน ก็อย่าฝันว่าเธอจะตามง้อผัวโง่ๆ นี่อีก พระเอกเหรอ หลบไป นางเอกเหรอ ไปไกลๆ นางร้ายตัวแม้คนนี้จะใช้ชีวิตเริดๆ เชิดๆ หลังจากหย่าให้อิจฉาตายไปเลย ที่สำคัญเธอมาพร้อมกับพรที่ขอกับท่านยมอีกสามข้อแบบจุกๆ อีกด้วย
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด