เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์โดนปลุกปล้ำของสาวๆที่มีเค้าเรื่องจริงมาจากแต่ละบุคคลแต่ละเหตุการณ์ มีการปรับเติมเสริมแต่งให้เป็นนิยายแต่ยังคงเค้าความจริงไว้เช่นกัน
เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์โดนปลุกปล้ำของสาวๆที่มีเค้าเรื่องจริงมาจากแต่ละบุคคลแต่ละเหตุการณ์ มีการปรับเติมเสริมแต่งให้เป็นนิยายแต่ยังคงเค้าความจริงไว้เช่นกัน
รวมประสบการณ์ที่ไม่อาจลืม
ตอนที่ 1
โดนแฟนเพื่อนเปิดซิง
เมย์เรียนอยู่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด หลังสอบเสร็จเธอก็ออกไปดื่มฉลองกับเพื่อนที่พักอยู่หอห้องเดียวกันอีกสองคน ชื่อต่ายและอ้อย เมื่อถึงร้านเหล้าแนวนั่งชิลก็ตกลงกันว่าจะสั่งเหล้าปั่นมากินเพราะแต่ละคนก็คออ่อนจนไม่กล้าดื่มเบียร์
แรกๆสาวๆทั้งสามคนก็นั่งดื่มและคุยกันสนุกสนาน ในกลุ่มสามสาวเมย์ดูสวยกว่าใคร ถึงจะไม่สูงแต่เธอขาวแบบสาวเหนือและอวบซ่อนรูป หน้ารูปไข่และมีลักยิ้มด้วย
หลังจากนั่งดื่มพลางฟังดนตรีสดได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มีหนุ่มวัยทำงานโต๊ะข้างๆเข้ามาขอเบอร์กับเธอ แต่เมย์ไม่กล้าให้เพราะคุณพ่อไม่อยากให้มีแฟน แถมท่านยังเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างดุ ตั้งแต่เรียนมาจนถึงปีสองเมย์จึงไม่เคยมีแฟนเลย
ดื่มกันไปถึงสองทุ่มต่ายก็โทรเรียกแฟนที่เป็นเด็กช่างปวส.รุ่นเดียวกันมานั่งด้วย เขาชื่อว่าโต้ง เป็นหนุ่มใต้ผิวเข้มร่างผอมสูงชะลูดและเป็นนักกีฬาบาสสมัยมัธยม ก่อนที่โต้งจะเป็นแฟนกับต่ายเขาเคยมาจีบเมย์ก่อนเพราะกลุ่มเมย์มักจะไปออกกำลังกายที่สนามกีฬาเดียวกัน
แรกๆเมย์เองก็ชอบโต้ง แต่ก็ได้แค่คุยกันเป็นเพื่อนเพราะกลัวพ่อจะรู้ว่ามีแฟน พอโต้งจีบเมย์นานเข้าก็จีบไม่ติดเขาจึงเบนเข็มไปจีบต่ายจนได้เป็นแฟนกันตั้งแต่เดือนแรก ต่ายเองก็ไม่รู้ว่าโต้งเคยจีบเมย์และนึกว่าแชทคุยกันธรรมดาตามประสาคนมาออกกำลังกายด้วยกัน แต่พอต่ายมีแฟนก็เริ่มผลการเรียนแย่ลงมาก
ทางด้านอ้อยเองก็เรียกแฟนรุ่นพี่ที่มหาลัยมารับตอนสามทุ่มแล้วไปนอนหอรุ่นพี่กันสองต่อสอง ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงเมย์ โต้ง และต่าย
โต้งสั่งเหล้าปั่นมาเพิ่มและอาสาจะเลี้ยงเอง เมย์รู้สึกว่าเขาดื่มเก่งมาก แถมระหว่างที่นั่งชิดแฟนตัวเองก็แอบมองมาหาเธอบ่อยๆ ซึ่งนั่งตรงกันข้าม พอโต้งเมาก็เริ่มหลอกถามเมย์ว่ามีแฟนรึยัง สวยแบบนี้คงมีคนมาจีบเยอะ
"โอ๊ย! ยัยนี่ใครจะเอา พ่อดุจะตาย คบๆกันไปมีหวังโดนพ่อยิงตายก่อนมั้ง" ต่ายตอบแทนเมย์
ยิ่งดึกขึ้นเมย์ก็รู้สึกว่าเพลงเพราะ เธอดื่มเหล้าปั่นกับเพื่อนๆจนหน้าแดงก่ำ แถมอากาศหนาวยิ่งทำให้แก้มสองข้างเป็นสีชมพู
พอถึงสี่ทุ่มเมย์จะขอตัวกลับก่อนแต่ต่ายกลับรั้งให้ดื่มต่อเพราะมารถมอเตอร์ไซค์คันเดียวกัน และโต้งต้องไปนอนบ้านเพราะกลัวแม่ด่า พอเหล้าปั่นหมดโต้งกลับสั่งเบียร์มาดื่มต่ออีกเหยือกนึง
พอเมาแล้วโต้งก็เริ่มพูดมาก เขาโอ้อวดเรื่องแข่งกีฬาชนะและอวดเรื่องรถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งอยู่นานสองนาน พอคุยไปมากเข้าก็ไม่ค่อยจะยกเบียร์ดื่ม เมย์กับต่ายก็ช่วยโต้งดื่มเบียร์สดจนหมดเหยือกแล้วเช็คบิลตอนห้าทุ่ม พอถึงเวลากลับโต้งเดินเซจนต่ายดูแล้วว่าน่าจะขี่รถกลับบ้านไม่ได้
ต่ายจึงเอาโต้งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แต่งกลับหอโดยเมย์ขี่รถของต่ายตามกันมาติดๆ สองสาวช่วยกันประคองโต้งขึ้นหอพักชั้นสี่ที่ไม่มีลิฟท์อย่างทุลักทุเลเอาการ
เมื่อถึงห้องโต้งก็ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงหกฟุต ต่ายยืนท้าวสะเอวบ่นเขาก็ไม่หือไม่อือและกรนเสียงดัง เมย์เข้ามาอาบน้ำก่อน เธอแต่งชุดนอนแบบกางเกงวอร์มขายาวและสวมเสื้อกันหนาวเพราะอากาศหนาวมาก เธอดึงผ้าห่มมาปูข้างล่างเตียงต่ายก็บอกว่าให้นอนข้างบนเพราะมันหนาว แถมผ้าห่มบนเตียงก็มีผืนเดียว ขืนเมย์เอาลงมาปูนอนคนบนเตียงก็ไม่มีอะไรห่มกันพอดี
เมย์เห็นว่าโต้งหลับแล้วจึงลงมานอนด้านขวามือของเขา เธอนอนตะแคงหันหลังให้แฟนเพื่อนอย่างจำใจ ต่ายปิดไฟแล้วขึ้นเตียงมานอนโดยไม่อาบน้ำ เธอนอนตะแคงด้านซ้ายของโต้งก่อนดึงผ้าห่มมาห่มให้คนสามคน
เมย์หลับไปด้วยความมึนจากฤทธิ์เหล้าปั่นผสมเบียร์ เธอรู้สึกตัวกลางดึกเพราะอาการหนาวจนตัวสั่น พอลืมตาขึ้นในห้องมืดสลัวก็พบว่าผ้าห่มหนาที่คลุมตัวเธอหายไป เหลียวหลังจะไปดึงผ้าบนตัวแฟนเพื่อนมาห่มก็เจอกับหน้าของโต้งที่กำลังซุกไซร้ลำคอด้านหลังของเธออยู่
จุ๊บ! ๆ ริมฝีปากร้อนและนุ่มของโต้งทำเอาเมย์ตัวสั่นและขนลุกซู่ เธอส่งเสียงห้ามโต้งเบาๆเพราะกลัวต่ายจะตื่น แต่พอก้มมองช่วงล่างตัวเองกลับเห็นว่ากางเกงโดนดึงลงไปถึงหัวเข่า แถมไม่ได้สวมกางเกงใน เช่นนี้คงเป็นสาเหตุที่เธอหนาวจนตัวสั่น
"โต้งขอทำเบาๆนะเมย์จ๋า" แฟนเพื่อนกระซิบใบหูและโอบแขนท่อนใหญ่มากอดรัดเมย์จากข้างหลัง ดึงร่างเธอถลาถอยไปแนบหลังกับอกร้อนผ่าว มือเขาลดลงไปสอดลูบใต้ตูดงอนขาวและวนนิ้วใส่ร่องสาวอย่างลุกลี้ลุกลน
อื้อ! ๆ โต้ง! อย่าาาา! เมย์กัดริมฝีปากตัวเองและร้องปราม แต่ต้นกลับมือไวและสอดนิ้วแยงยัดเข้าร่องสาวของเธอจากด้านหลัง พอเขางอนิ้วเกี่ยวเป็นตะขอเบ็ดอยู่ในรูเมย์ก็ดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว
เเจ๊ะ! ๆ ๆ โต้งแยงนิ้วกลางเข้าออกรูสาวบริสุทธิ์ที่ตอดรัดนิ้วหนุบหนับ เขาดูดซอกคอเมย์จนเธอเสียวสะท้านและเผลอครางออกมา
หมับ! ๆ มืออีกข้างของโต้งรูดซิบเสื้อกันหนาวแล้วล้วงยัดเข้าคอเสื้อยืดลงมาบีบฟัดเต้านมเพื่อนแฟนอย่างย่ามอกย่ามใจ
ฮือ! ๆ ๆ เมย์นอนตัวงอและร้องไห้กระซิกๆ เธอรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิด แต่คนที่กำลังจะข่มขืนเธอก็ดันเป็นคนที่เธอชอบแต่แรก สมองกับร่างกายของเธอสับสนไปหมด ใจนึงก็อยากจะกรี๊ดดังๆให้ต่ายตื่น แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง มีเพียงร่องสาวที่หลั่งน้ำเสียวออกมาจนเลอะเต็มอุ้งมือของโต้ง
แคว่ก! ๆ โต้งรูดซิบกางเกงยีนส์แปบเดียวเขาก็เอาปลายแท่งร้อนๆมากดอัดเข้าปากรูของเมย์โดนใช้นิ้วควานนำทาง พอเขากดส่วนหัวบานโตเข้ามาเมย์ถึงกับสะดุ้งโหยง น้ำตาไหลพรากอาบแก้มเลอะเต็มหมอน เธอรู้สึกเจ็บมากจึงจิกมือกับแขนโต้งจนมีเลือดไหลซึมออกมา
ส่วบ! ๆ ๆ โต้งโยกเอวกระแทกส่วนที่เหลือยัดเข้ามาและครางซี๊ดซ๊าดขณะที่เมย์เจ็บจนดิ้นพล่านในอ้อมกอดของเขา เธอรู้สึกคับติ้วเหมือนร่างจะฉีกออกจากตรงนั้น
พอโต้งเอาเข้ามาสุดก็กระแทกเข้าออกและจับหน้าเลอะน้ำตาของเมย์เหลียวหลังมาจูบปากอย่างหื่นสุดๆ เขาแทงเข้าออกไม่ถึงห้านาทีก็มีน้ำร้อนผ่าวพุ่งเข้ามาในท้องของเมย์ ตอนนั้นเธอยอมรับว่าเสร็จไปพร้อมๆกับต้นแถมเขายังเอากดแช่คาไว้ในรูจนเธอหยุดร้องไห้
นับแต่นั้นมาโต้งกับเมย์ก็แอบนัดเจอและมีอะไรกันแทบทุกสัปดาห์ จนขึ้นปีสามต่ายเลิกกับต้นเมย์จึงไม่ได้เจอเขาอีกเลย ล่าสุดเธอได้ข่าวว่าต้นเรียนไม่จบและไปทำงานที่อู่ซ่อมรถของญาติที่ภาคใต้
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
แนวโคแก่กินหญ้าอ่อน สาวใหญ่กับหนุ่มๆมหาลัย nc pwp 3p 18+ เรื่องราวของป้าแม่บ้านวัยสี่สิบ หล่อนเป็นแม่บ้านในมหาลัยที่ต้องวนไปทำความสะอาดในตึกต่างๆแต่ละคณะทุกสัปดาห์ ไม่รู้เพราะความเส่นห์แรงหรือเคยเป็นนักแสดงนางร้ายจอมมารยามาก่อน ป้าแม่บ้านสามารถตกนักศึกษาชายที่หล่อๆมากินตับเกือบครบทุกคณะ
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด