อีตาบอสบ้า ฉันเป็นเลขานะ ไม่ใช่บาริต้าคอยชงกาแฟให้คุณ!!
อีตาบอสบ้า ฉันเป็นเลขานะ ไม่ใช่บาริต้าคอยชงกาแฟให้คุณ!!
ณ สนามบินแห่งหนึ่งในประเทศไทย หนุ่มหล่อ ร่างสูง เดินลากกระเป๋าใบใหญ่เพื่อมารอคนขับรถที่มารอรับ
“คิมหันต์” ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ที่เรียนจบและเพิ่งเดินทางกลับจากอังกฤษ เพื่อมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว เขาเดินอย่างรีบร้อนพร้อมกับสายตามากมายจับจ้องมาที่เขา ความหล่อ และบุคคลิกที่โดดเด่นนั้นดึงดูดทุกสายตาให้หันมามอง
“สวัสดีครับ นายน้อย ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ คุณท่านและคุณผู้หญิงให้ผมมารอรับนายน้อยครับ เชิญขึ้นรถครับ”
“อืม ขอบคุณ”
เขากล่าวสั้น ๆ และก้าวขึ้นรถไป
รถวิ่งไปตามท้องถนนด้วยความเร็วคงที่ จนกระทั่งไปจอดลงที่คฤหาสน์เลิศรัตนพาณิชย์ คนขับรถจอดรถหรูคันสีดำอย่างนุ่มนวล พร้อมกับลงมาเปิดประตูรถให้คนที่นั่งอยู่ด้านใน
“เฮีย เฮียกลับมาแล้ว”
เสียงเรียกแสนหวานสดใสร้องเรียกพร้อมโผเข้ามากอดพี่ชาย นั่นคือประกายดาวหรือดาว น้องสาวของเขานั่นเอง
“ว่าไง ยัยตัวเล็ก เรียนใกล้จบยังเรา”
เขากอดตอบพร้อมถามน้องสาว
“โห เจอหน้าก็ถามเรื่องเรียนเลยหรอ เข้าไปในบ้านดีกว่า คุณพ่อคุณแม่รอเฮียอยู่นะ”
ผู้เป็นน้องสาวเอ่ยเสียงหวานพร้อมจูงมือพี่ชายเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่
“คุณพ่อคุณแม่ สวัสดีครับ”
“ตาคิม ลูกแม่ มาให้แม่กอดให้หายคิดถึงทีลูก”
คุณหญิงเพียงเพ็ญเอ่ยเมื่อเจอหน้าลูกชายสุดที่รักของเธอพลางโผเข้ากอดลูกชายด้วยความคิดถึง
“ตาคิม แกกลับมาแล้วก็ดี พ่อดีใจที่แกเรียนจบและมาช่วยบริหารงานต่อจากพ่อ”
ผู้เป็นพ่อของคิมหันต์เอ่ยขึ้นพร้อมตบบ่าลูกชายเบา ๆ
“ขึ้นห้องไปพักก่อนเถอะลูก อาทิตย์หน้า พ่อกับแม่จะพาไปแนะนำที่บริษัท”
“ครับ”
สิ้นเสียงตอบรับ เจ้าของเสียงนั้นก็ขึ้นห้องไปพักผ่อนตามที่ผู้เป็นแม่บอก เพราะเขานั่งเครื่องบินมาตั้งหลายชั่วโมง รู้สึกเมื่อยล้าเต็มที
บ้านเลิศรัตนพาณิชย์ คฤหาสณ์หลังใหญ่ใจกลางเมือง ที่หลายคนต่างก็ทราบดีว่าเป็นบ้านของนักธุรกิจระดับพันล้าน อย่าง คุณสุพจน์ และ คุณหญิงเพียงเพ็ญ เลิศรัตนพาณิชย์ พ่อและแม่ของคิมหันต์และประกายดาว ภายในบ้านมีการ์ดและลูกน้องมากมาย ที่คอยดูแล รักษาความปลอดภัย รวมถึงมีการ์ดคอยเฝ้ายามตลอดทั้งวันทั้งคืน ทุกคนในบ้านเวลาออกไปไหนมาไหนก็จะมีการ์ดคอยติดตามอารักขา แม้กระทั่งประกายดาวเอง เวลาที่เธอไปมหาวิทยาลัยหรือไปเที่ยวกับเพื่อน ก็จะมีการ์ดและคนขับรถติดตามไปด้วยเพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
1 สัปดาห์ ผ่านไป ทั้งคุณสุพจน์และคุณหญิงเพียงเพ็ญได้พาคิมหันต์ไปแนะนำให้เหล่าพนักงานในบริษัทได้รู้จักในฐานะประธานบริษัทคนใหม่ของบริษัท ABZ กรุ๊ป จำกัด และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในเครือทั้งหมด
“ทุกคน วันนี้ผมขอแนะนำผู้บริหารคนใหม่ของ บริษัท ABZ กรุ๊ป จำกัด ของเรา นั่นคือ คุณคิมหันต์ หรือคุณคิม ลูกชายของท่านประธาน ต่อจากนี้ไปคุณคิมจะเข้ามาบริหารงานทั้งหมดที่บริษัทของเราแทนท่านประธานและคุณผู้หญิงนะครับ”
ผู้จัดการแผนก HR กล่าวแนะนำคิมหันต์กับพนักงานทุกคน
“สวัสดีครับ ต่อจากนี้ไปผมจะเข้ามาบริหารงานที่นี่แทนคุณพ่อ หวังว่าทุกคนจะต้อนรับผมเป็นอย่างดีนะครับ”
พนักงานต่างปรบมือต้อนรับพร้อมมอบช่อดอกไม้ช่อโตต้อนรับประธานคนใหม่ของพวกเขาอย่างยินดีปรีดาจากนั้นคิมหันต์ก็เข้าไปยังห้องทำงานของผู้บริหาร โดยที่มีคุณสุพจน์ผู้เป็นพ่อ และคุณหญิงเพียงเพ็ญผู้เป็นแม่ คอยแนะนำและสอนงานในบริษัททั้งหมดให้ คิมหันต์เป็นคนที่เก่ง และฉลาดมาก เขาจึงเรียนรู้และเข้าใจงานได้อย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวพ่อจะให้ คุณส้ม HR หาเลขาคนใหม่ให้แกนะ”
“แล้วเลขาคนเก่าพ่อล่ะครับ ?”
“เขามาลาออกกะทันหัน เห็นว่าจะย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด”
“งั้นพ่อช่วยย้ำคุณส้มให้ผมทีว่า ผมขอคนที่ ทำงานคล่อง ทำงานไว พูดจารู้เรื่อง สั่งอะไรก็ต้องทำได้ ที่สำคัญขอคนที่รู้จักเอาใจเจ้านายหน่อย อย่าขัดเวลาผมสั่งอะไร”
“ได้”
คุณสุพจน์ตอบพลางคิดในใจว่าไอ้ลูกชายคนนี้ ทำไมมันถึงเรื่องมากจังวะพร้อมกับส่ายหัวไปมา และได้สั่งให้ฝ่ายบุคคลประกาศรับเลขาคนใหม่ให้ลูกชายโดยกำหนดคุณสมบัติตามที่ลูกชายได้ร้องขอมา
“คุณส้ม ท่านประธานสั่งมาว่าให้คุณประกาศรับสมัครเลขาคนใหม่ให้บอสด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะผู้จัดการ เดี๋ยวส้มจัดการให้นะคะ มีรีเควสคุณสมบัติอะไรไหมคะ”
“มีครับ บอสสั่งมาว่าขอคนที่ ทำงานคล่อง ทำงานไว พูดจารู้เรื่อง สั่งอะไรก็ต้องทำได้ ที่สำคัญขอคนที่รู้จักเอาใจเจ้านายหน่อย อย่าขัดเวลาเจ้านายสั่งอะไร ฝากคุณส้มจัดการด้วยครับ”
“เอ่อ ผู้จัดการคะ บอสนี่ก็เลือกเยอะเหมือนกันนะคะเนี่ย”
ส้มแอบกระซิบ
"เอาน่าคุณส้ม ผมรบกวนคุณลงประกาศด้วยนะ”
ประกาศรับสมัครงาน ด่วน !!!
บริษัท ABZ กรุ๊ป จำกัด รับสมัคร ด่วน!!!!!
ตำแหน่ง : เลขานุการผู้บริหาร
วุฒิ : ป.ตรี ขึ้นไป ไม่จำกัดสาขา
คุณสมบัติ : ขอคนมีประสบการณ์ ทำงานคล่อง ทำงานไว พูดจารู้เรื่อง สั่งอะไรก็ต้องทำได้
ข้อสำคัญ!! เป็นคนที่รู้จักเอาใจไม่ขัดใจเจ้านาย
เงินเดือน : 40,000++ ต่อรองได้
การประกาศรับสมัครพนักงานของบริษัท ABZ กรุ๊ปจำกัด เป็นที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลายคนล้วนแต่อยากเข้ามาทำงานที่บริษัทนี้ เพราะขึ้นชื่อในเรื่องของค่าจ้างและสวัสดิการที่ทางบริษัทให้กับพนักงานอย่างคุ้มค่า
จากประกาศที่ทางบริษัทได้ลงประกาศไปก็มีคนให้ความสนใจและเข้ามาสมัครมากมาย ทางฝ่ายบุคคลเองได้ทำการคัดเลือกโดยให้ทดสอบความสามารถด้านต่างๆ จนได้คนที่ทุกคนลงความเห็นว่าเหมาะสมที่สุด แต่แล้ว 2 สัปดาห์ ผ่านไป คิมหันต์ไล่เลขาออกไปแล้วถึง 11 คน
“หึ! ทำงานไม่ได้ดั่งใจผมสักคน คุณส้ม!! เข้ามาหาผมที คุณรับคนยังไงของคุณ”
เขาตบโต๊ะเสียงดังด้วยความหงุดหงิด
“ส้มขอโทษค่ะบอส แต่ที่คัดมาส้มก็เลือกคนที่เฟอร์เฟ็คมาก ๆ แล้วนะคะ”
“ผมต้องการเลขามาช่วยงาน ไม่ใช่มาให้ท่าผม!! คำว่าเอาใจเจ้านายคือไม่ขัดคำสั่งทำงานตามที่ผมสั่ง ผมจ้างมาทำงาน ไม่ใช่มานั่งให้ท่าผม ถ้าคุณยังหาคนที่ถูกใจผมไม่ได้ผมจะหักเงินเดือนคุณ”
“บอสคะ ส้มขอโทษจริงๆค่ะ ส้มจะพยายามสุดความสามารถ บอสอย่าหักเงินเดือนส้มเลยนะคะ”
“คุณออกไปเถอะ และก่อนจะรับใครมา กรุณาคัดให้ดีกว่านี้ด้วย”
“ค่ะบอส ทราบแล้วค่ะ” ส้มรีบวิ่งออกไปทันที
จะไม่ให้เขาหัวเสียได้ยังไงล่ะ 2 สัปดาห์มานี้เขาไล่เลขาออกเป็นว่าเล่น แต่ละคนทำงานไม่ได้ดั่งใจเอาซะเลย บอกว่าขอคนที่รู้จักเอาใจเจ้านายหน่อย ก็เอาใจมากเกินไปจนน่ารำคาญ เรียกว่าให้ท่าเลยดีกว่า บางคนเข้ามาทำงาน เหมือนหวังมาจับเขา อ่อยเขาบ้างล่ะ ยั่วยวนเขาบ้างล่ะ อ่อยจนไม่เป็นอันต้องทำการทำงาน ผู้หญิงเหล่านี้น่ารำคาญเสียจริง
“ผู้จัดการคะ ฮึก ส้มโดนบอสดุอ่ะ บอสขู่จะหักเงินส้มด้วยถ้ายังหาเลขาที่ถูกใจบอสไม่ได้ ส้มจะทำไงดี ฮือ ฮือ”
“อีกแล้วหรอ เอางี้ส้ม แกไปลงประกาศใหม่อีกรอบ แต่เปลี่ยนอัตราเงินเดือนใหม่”
ประกาศรับสมัครงาน ด่วน !!!
บริษัท ABZ กรุ๊ป จำกัด รับสมัคร ด่วน!!!!!
ตำแหน่ง : เลขานุการผู้บริหาร วุฒิ : ป.ตรี ขึ้นไป ไม่จำกัดสาขา
คุณสมบัติ : ขอคนมีประสบการณ์ ทำงานคล่อง ทำงานไว พูดจารู้เรื่อง สั่งอะไรก็ต้องทำได้
ข้อสำคัญ!! เป็นคนที่รู้จักเอาใจ ไม่ขัดใจเจ้านาย
เงินเดือน : สามารถเรียกได้ตามใจ หากสามารถทำงานตามคุณสมบัติข้างต้นได้ทางบริษัทจ่ายให้ไม่เกี่ยง
ณ บ้านเลิศรัตนพาณิชย์
“กลับมาแล้วหรอ 2 อาทิตย์มานี้แกสร้างเรื่องอะไรที่บริษัทล่ะ”
ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามทันทีที่คิมหันต์นั่งลงบนโซฟาตัวหรู
“ผมแค่ยังหาเลขาที่ถูกใจไม่ได้”
คิมหันต์ตอบหน้าตาเฉยพลางลุกเดินขึ้นไปที่ห้องนอนทำเอาผู้เป็นพ่อและแม่ถึงกับส่ายหัวอย่างจนปัญญาเลยทีเดียว
“เอาแล้วไง คุณเพียงเพ็ญ ลูกชายตัวดีของคุณมันแผลงฤทธิ์แล้ว”
“นั่นสิคะคุณ 2 อาทิตย์ ตาคิมไล่เลขาออกไป 11 คน ฉันล่ะท้อใจ”
ผู้เป็นแม่เอ่ยพลางส่ายหน้าด้วยความท้อใจกับลูกชายของตัวเอง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะได้เลขาที่ถูกใจสักที
กลิ่นเลือดที่หอมหวานเย้ายวนนั่น เธอต้องตกเป็นผู้รับใช้โลหิตของฉัน “ ตลอดไป ”
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
โปรยปราย... เมื่ออยากให้มหาเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง ‘ปวีร์’ ช่วยให้ ‘พิมพ์พิศา’ หลุดพ้นจากสภาพของสาวค้าบริการอย่างไม่สมยอม ไหนจะ ‘พ่อเลี้ยง’ บ้ากามที่จ้องคุกคามพรหมจรรย์ หญิงสาวบริสุทธิ์จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ‘จับ’ เขาไว้ให้อยู่หมัด ด้วยรู้ว่าอิทธิพลของเขาจะช่วยคุ้มภัยให้เธอไปตลอดกาล แต่นักธุรกิจทุกกระเบียดอย่างเขา จะช่วยใครย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง... ข้อนั้นพิมพ์พิศารู้ดี แต่ไม่รู้เลยว่า... เพียงเพื่อแลกกับอิสรภาพ เธอจะต้องมีทายาทให้เขา +++++++++++++++
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด