ผมจะทำจนกว่าคุณจะท้อง!
ผมจะทำจนกว่าคุณจะท้อง!
“คุณวิเวียนครับ ถึงเวลายาแล้วครับ” เสียงเข้มของบอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยขึ้น หลังจากเสียงเคาะประตูบานใหญ่ที่ดังกึกก้องไปทั่วโถงทางเดินของคฤหาสน์หลังโออ่าเงียบลง
มือข้างหนึ่งของธาวินถือถาดคริสตัลใบเล็กซึ่งมีแก้วสมุนไพรสีอำพันส่งกลิ่นฉุนจมูกวางอยู่บนนั้น ขณะยืนรอเจ้าของห้องเปิดประตูให้อย่างใจเย็น
ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ชายหนุ่มกลับรีบดึงพวงกุญแจออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อสูทสีดำแล้วไขลูกบิดผลักประตูเข้าไปทันที
ความเงียบสงัดภายในห้องบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างตามลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
บอดี้การ์ดหนุ่มวางถาดยาลงบนโต๊ะพร้อมกับเรียกชื่อเจ้าของห้องอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปตรวจดูตามห้องต่างๆ ทว่ากลับพบเพียงความว่างเปล่า
กระทั่งมาหยุดยืนที่ประตูกระจกตรงระเบียงซึ่งถูกเปิดแง้มไว้และมีผ้าปูที่นอนสีขาวผูกยึดกับราวเหล็กเพื่อใช้โรยตัวจากชั้นสองลงสู่สวนดอกไม้นานาพันธุ์ ครั้นเห็นแบบนั้นเขาจึงต่อสายหาลูกน้องของตัวเองผ่านหูฟังไร้สายทันที
“คุณวิเวียนไม่ได้อยู่ที่ห้อง คาดว่าเธอน่าจะกำลังแอบหนีไปข้างนอก เพราะฉะนั้นรีบตรวจสอบกล้องวงจรทุกจุดแล้วปิดทุกช่องทางออกให้เร็วที่สุด”
“พวกมึงรู้ใช่มั้ย? ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอแม้แต่ปลายนิ้ว คุณอาร์คไม่เอาพวกเราไว้แน่”
สิ้นประโยคออกคำสั่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ชายหนุ่มหันขวับไปมองบานประตูห้องตามสัญชาตญาณเพราะมีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้น
"คุณวิเวียนเหรอครับ" ถามพลางค่อยๆ ย่างกรายเข้าไปใกล้ แต่แล้วประตูบานนั้นกลับถูกกระแทกปิดอย่างแรงตามมาด้วยเสียงล็อกของแม่กุญแจ
ปัง กริ๊ก!
“โถ่เว้ย” สบถออกมาอย่างหัวเสีย หลังจากพลาดท่าเสียทีเป็นฝ่ายถูกกักขังไว้ในห้องราวกับว่าอีกฝ่ายจงเกลียดจงชังเขาเป็นพิเศษก่อนจะต่อสายหาลูกน้องอีกครั้ง
“คุณวิเวียนยังอยู่ในพื้นที่ของคฤหาสน์ รีบหาเธอให้เจอเดี๋ยวนี้!” บอดี้การ์ดหนุ่มพ่นลมออกทางปากอย่างแรงด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ
ภรรยาเด็กของเจ้านายหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว...
เรือนร่างบอบบางที่อยู่ในชุดเดรสสั้นสีดำหอบหิ้วกระเป๋ากับรองเท้าแบรนด์เนมไว้มั่นขณะวิ่งไปยังอีกฟากหนึ่งของคฤหาสน์อย่างไม่คิดชีวิตจนก้อนเนื้อภายในอกเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความตื่นเต้น
ครั้นพอมาถึงจุดที่ต้องการก็หันซ้ายแลขวาเพื่อความมั่นใจก่อนจะระบายลมหายใจเหนื่อยหอบออกมาอย่างแรง
ตอนนี้เหล่าบอดี้การ์ดคงกำลังกระจายกันตามหาตัวเธออย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเหลือเวลาไม่มากแล้ว
ถึงยังไงคืนนี้ก็ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้!
เมื่อหลายวันก่อนเธอลองเดินสำรวจรอบคฤหาสน์อย่างละเอียดและบังเอิญเห็นว่ามีประตูลับที่สามารถออกไปยังตรอกถนนด้านหลังได้ซึ่งเหมาะแก่การใช้เป็นทางหลบหนีอย่างที่สุด
ไม่รอให้เสียเวลาหญิงสาวรีบเลื่อนประตูไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยวัชพืชออกแล้วก้าวข้ามเขตอย่างง่ายดายจนเธอเองยังนึกประหลาดใจกับหนทางอันราบรื่นนี้ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังแท็กซี่ที่ได้จองไว้ล่วงหน้า
“รีบออกรถเลยค่ะ”
หลังจากพาตัวเองเข้ามานั่งบนเบาะหลังคนขับได้สำเร็จก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกโดยไม่ลืมกดส่งข้อความให้บุคคลที่เธอกำลังไปหาก่อนจะปิดเครื่องมือสื่อสารทันที
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหม่อมองภาพบรรยากาศยามค่ำคืนที่ไหลเลื่อนผ่านกระจกรถด้วยความรู้สึกหนักอึ้งพลางคิดทบทวนชีวิตของตัวเองอีกครั้ง
หลังจากวิเวียนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เธอก็เข้าพิธีแต่งงานกับทายาทเศรษฐีตามความต้องการของผู้ใหญ่ที่ได้ให้คำมั่นสัญญากันไว้ตั้งแต่อดีต
ถึงแม้เธอจะค้านหัวชนฝาเพราะไม่เห็นด้วยกับความคิดโบราณอย่างการคลุมถุงชนอะไรเทือกๆ นั้น ทว่าจุดเปลี่ยนในชีวิตก็เกิดขึ้นหลังจากมารดาซึ่งเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวตรวจพบว่าเป็นโรคร้าย
หญิงสาวจึงตัดสินใจทำตามคำขอสุดท้ายของคนที่เธอรักมากที่สุดโดยการแต่งงานซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน มารดาก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบราวกับหมดห่วง
และตั้งแต่วันนั้นจวบจนวันนี้ระยะเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบสามปีแล้ว…
เมื่อพี่ชายตัวดีของเธอ...พาน้องสาวของมาเฟียหนุ่มหนีไป อลิสจึงต้องตกเป็นผู้รับกรรมและรอจนกว่าน้องสาวของเขาจะกลับมา แต่ดูเหมือนว่า..การได้มาอยู่กับเขากลับทำให้เธอล่วงรู้ความลับอะไรบางอย่าง ความลับ...ที่พวกเขาพยายามปกปิดเธอมาตลอด “ในเมื่อไม่ยอมบอกว่าพี่ชายของคุณมันพาน้องสาวของผมไปซ่อนไว้ที่ไหน ผมก็จะกักขังคุณไว้ที่นี่” “ก็บอกว่าฉันไม่รู้ไง” “มันก็ช่วยไม่ได้ และผมจะเอาคุณจนกว่าพี่ชายตัวดีของคุณจะโผล่หัวมา แต่ก็ไม่รับรองนะว่ากว่าจะถึงตอนนั้น อะไร อะไร ของคุณมันจะไม่หลวมไปซะก่อน” “ไอ้...” จุ๊ป อืมส์ “ฉันจะฆะ..อาส์” “หึ คุณก็เคลิ้มไปกับผมทุกครั้งอยู่ดี”
ความพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว กลับเปลี่ยนชีวิตของเขาและเธอไปตลอดกาล... เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ธีระหลงคิดว่า เธอคือใครอีกคนที่เขารักหมดหัวใจ ค่ำคืนแห่งความมืดมนผ่านพ้นไปพร้อมความบริสุทธิ์ที่ถูกพราก แต่ถึงอย่างนั้นลลิลกลับไม่แม้แต่จะเรียกร้องสิ่งใดและทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่ได้ยุติแค่ตรงนั้น เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขา...
วันวิวาห์ ตกหลุมรักผู้อุปการะของเธอตั้งแต่แรกพบ หญิงสาวพยายามทำทุกอย่างให้เขาภาคภูมิใจ แต่ดูเหมือนว่าสายตาคู่นั้นจะมองเห็นแค่เพียงเด็กที่ก่อปัญหาวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน... เธอ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อก้าวข้ามเส้นบางๆ ระหว่างความสัมพันธ์ รามิล นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมหรูอย่าง A.W.HOTEL ถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับวันละหลายรอบ เมื่อเด็กที่เขาอุปการะไว้เจ็ดปีก่อนกลับมาเยือนแผ่นดินเกิดอีกครั้ง... เขา พยายามรักษาระยะห่าง แต่เธอดันชอบเข้ามาในระยะประชิด กระทั่งวันที่ทั้งสอง ตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า... สิ่งเดียวที่เธอต้องการจากเขาคือ ความรัก แต่สิ่งเดียวที่เขาต้องการจากเธอคือ ความลับ สุดท้ายแล้วความรักที่มาพร้อมความลับมันจะลงเอยแบบไหนกัน?
เพราะ One night stand ครั้งนั้น... ทำให้นักธุรกิจหนุ่มหล่อวัยสามสิบห้า ต้องมาหลงเสน่ห์เด็กสาววัยยี่สิบเอ็ดอย่างเธอ!! "ไหนคุณบอกว่าเรื่องระหว่างเราเป็นแค่ one night stand ไงคะ" "แล้วถ้าผมไม่ได้อยากให้มันจบลงแค่นั้นล่ะ" "คะ?" "มาอยู่กับผม รับรองว่า คุณจะได้ทุกอย่างที่อยากได้" "ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย" "เพราะไม่ว่ายังไง คุณก็ไม่มีทางหนีผมพ้นหรอก..." "นี่คุณ!" "บอกว่าให้เรียกพี่ภามไง หรือถ้าไม่ถนัดเรียกที่รัก ก็ได้ แต่ถ้ายาวไปเรียกผัว เฉยๆก็ได้เหมือนกัน"
แอร์โฮสเตสสาวสวยที่คบกับแฟนมาห้าปีถูกบอกเลิกอย่างไร้เยื่อใย โดนบอกเลิกว่าเจ็บแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บยิ่งกว่าคือ.. เขาพาผู้หญิงคนนั้นมาหยามถึงที่และบอกข่าวดีที่ว่าเขาทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน! ความเจ็บปวดจากการถูกนอกใจทำให้เธอขาดสติและต้องการประชดชีวิต... จึงไปนอนกับผู้ชายที่เธอจำไม่ได้แม้กระทั่งใบหน้าของเขา!!
สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี เขียน บ.บี ภาพปก AhriMu ผลท้อสวรรค์สูญหาย นางเซียนน้อยจึงถูกลงโทษให้ลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ แต่นางดันพกเมล็ดพันธ์ผลท้อติดมือมาด้วยนี่สิ!! เหล่าเซียนว่างงานที่หมายปองผลท้อรีบขันอาสาลงมาแดนมนุษย์เพื่อตามหาผลท้อที่ตนต้องการอีกเป็นขโยง และหนึ่งในนั้นก็มีเซียนหนุ่มผู้ฝึกฝนเคล็ดวิชาสายเทพมังกรซึ่งควรเป็นผู้ครอบครองผลท้อสวรรค์ตั้งแต่เริ่มรวมอยู่ด้วย แต่เป้าหมายหลักของเขากลับเป็นความท้าทายในการมีชีวิตในฐานะมนุษย์มากกว่าและยังตั้งใจจะยับยั้งการปลูกท้อสวรรค์ในแดนมนุษย์อีกด้วย สุดท้ายแล้วเซียนน้อยของเราจะปลูกท้อสวรรค์ในแดนมนุษย์สำเร็จหรือไม่? เจ้าของผลท้อที่แท้จริงจะยับยั้งนางไว้ทันเวลาหรือไม่? เหล่าเซียนผู้แอบแฝงจะยึดครองอำนาจในแดนมนุษย์สำเร็จหรือไม่? ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยสาวน้อยผู้มีดีในการปลูกต้นท้อเพียงอย่างเดียวของเราไปด้วยกันนะคะ แนะนำตัวละคร มู่เหยาจี เซียนน้อยเหยาจีผู้มีพลังวิญญาณแห่งเทพพฤกษา นางมีความสามารถในการเพาะปลูกและได้เป็นผู้ดูแลสวนท้อสวรรค์เพียงหนึ่งเดียว มู่สี่เสิน ผีเสื้อเกล็ดแก้วหนุ่มน้อยทูตสวรรค์ผู้ซื่อสัตย์ เขายอมรับโทษพร้อมกับเหยาจี ติดตามเหยาจีลงมาแดนมนุษย์ในฐานะพี่ชายแท้ๆ หลวนหลง เซียนหนุ่มผู้บ่มเพาะพลังเทพมังกร ผู้โชคดีที่จะได้รับผลท้อสวรรค์คนสุดท้ายในรอบ 3,000 ปี แต่เขาต้องพลาดโอกาสงาม เพราะท้อสวรรค์ของเขาถูกช่วงชิงไปโดยเซียนน้อยเหยาจี มหาเทพฮ่าวเทียน หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครองสูงสุดบนแดนสวรรค์ ดูแลสรรพสิ่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ สุริยัน จันทรา มหาเทพมู่ซี หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครอง ดูแลเหล่ามวลพฤกษานานาพรรณ มหาเทพสิงเทียน หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครอง ดูแลสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด